เชื่อว่าในช่วงที่ผ่านมานี้ คอเกมวางแผนแบบ RTS ยุคเก่าหลายคนน่าจะยินดีปรีดากันเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือการกลับมาของเกม Battle Realms ภาคดั้งเดิมที่ถูกนำมาขายใหม่อีกครั้งบน Steam ซึ่งมันเป็นหนึ่งในเกมวางแผนที่เกมเมอร์ชาวไทยยุค 2000 ต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยความแหวกแนวและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
และในโอกาสนี้ GamingDose จะมาขอแนะนำและพาทุกคนย้อนอดีตไปดูกันว่า เพราะอะไรเกม ๆ นี้จึงกลายเป็นตำนานค้างฟ้าที่หลายคนอยากกลับไปสัมผัสกันอีกครั้งครับ
ย้อนไปในช่วงปี 2001 ที่ในสมัยนั้นเกมแนว MOBA ยังไม่กำเนิดขึ้นบนโลก เกมวางแผนในสมัยนั้นหลัก ๆ ก็มีเพียงแค่แบบ Real time Strategy และ Turn base Strategy เท่านั้น และผู้เล่นส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างชื่นชอบเกมแนว RTS อย่าง Starcraft, Red Alert 2 หรือ KKND 2 ที่เป็นอีกหนึ่งตำนานเกมที่มีการพากย์เสียงภาษาไทยด้วย เรียกว่าเป็นยุคทองของเกม RTS เลยก็ว่าได้
และในช่วงปลายปี 2001 ก็มีเกมแนววางแผนที่มีดีไซน์การออกแบบที่โดนใจเหล่าผู้เล่นจากฝั่งเอเชียไม่น้อย ผสมผสานงานศิลป์ของญี่ปุ่นและจีน และมีฝ่ายให้เลือกเล่นมากถึง 4 เผ่า เทียบเท่าได้กับเกมวางแผนระดับตำนานอีกเกมอย่าง Warcraft III และยังเล่นได้สนุกสนานมากอีกด้วย ซึ่งก็คือเกม Battle Realms เกมนี้นั่นเอง
Battle Realms เป็นผลงานของค่าย Liquid Entertainment และจัดจำหน่ายโดย Ubisoft ในภูมิภาคยุโรป ส่วนอเมริกาก็ได้ Crave Entertainment เป็นผู้จัดจำหน่าย ซึ่งเป็นเรื่องราวของชนเผ่าทั้งสี่ที่ต้องต่อสู้กันในสงคราม โดยมีตัวละครฝ่าย Serpent ที่ชื่อว่า Kenji เป็นศูนย์กลางของเรื่องราว ซึ่งตัวของเขานั้นเป็นรัชทายาทผู้สืบทอดบัลลังก์ของฝ่าย Serpent ที่ถูกเนรเทศออกมา โดยในระหว่างการดำเนินเนื้อเรื่องนั้น ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะมุ่งสู่เส้นทางไหน ถ้าเป็นคนดีช่วยเหลือชาวบ้าน ก็จะเป็นเส้นเรื่องของเผ่า Dragon นักรบผู้ทรงเกียรติ แต่ถ้าเลือกทางโฉดชั่ว ก็จะเข้าสู่เส้นทางของ Serpent ที่เต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด
นอกจากเนื้อเรื่องที่เน้นไปที่สองเผ่าหลักอย่าง Dragon และ Serpent แล้ว ก็ยังมีอีกสองเผ่าก็คือ Wolf เผ่าชนชั้นแรงงานที่ถูกกดขี่ กับ Lotus เผ่าผู้ใช้เวทที่ลึกลับและชั่วร้าย และแต่ละฝ่ายนั้นก็มีเอกลักษณ์กับการออกแบบที่ดูปุ๊บก็รู้ได้เลยว่าอยู่ฝ่ายไหน เช่น Lotus ที่ยูนิตแต่ละตัวจะดูมีรัศมีของความเป็นจอมขมังเวทอันน่ากลัว ส่วน Dragon ก็จะดูมีความเป็นนักรบแบบญี่ปุ่นและดูน่าเกรงขาม แบบนี้เป็นต้น แถมแต่ละฝ่ายก็มียูนิตเฉพาะตัวและวิธีเล่นที่แตกต่างกันพอสมควรอีกด้วย
เรียกว่าแม้จะเป็นเกมแนว RTS ที่อาจจะดูธรรมดา แต่ทีมสร้างก็เสริมความน่าสนใจเข้าไปในตัวเกมจนทำให้ Battle Realms มีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครไปในที่สุด
แน่นอนว่าระบบการเล่นของเกมนั้นก็มีความคล้ายคลึงกับเกมแนว RTS อื่น ๆ ในยุคนั้นที่มีอยู่เกลื่อนกลาด ทว่าจุดที่น่าสนใจคือการใช้ยูนิตชาวบ้านมาอัปเกรดเป็นยูนิตนักรบจากการนำเข้าไปฝึกในโรงฝึกต่าง ๆ อยากได้นักดาบก็จับเข้าโรงฝึกดาบ อยากได้นักธนู ก็จับเข้าโรงฝึกยิงธนู ซึ่งไม่เหมือนเกมอื่นที่ยูนิตจะถูกสร้างออกมาเองมากกว่าที่จะเอามาฝึกในอาคารแบบนี้ ทำให้ผู้เล่นต้องวางแผนการใช้ยูนิตเหล่านี้ให้ดีว่าจะเอาไปใช้สร้างฐานเก็บทรัพยากร หรือเอามาฝึกเป็นทหารเพื่อเอาไปรบกันแน่ ซึ่งเป็นระบบการเล่นที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อนอีกด้วย
และที่สำคัญก็คือยูนิตต่าง ๆ นั้นสามารถเลือกได้ว่าจะอัปเกรดความสามารถเพื่อเสริมความโดดเด่นในด้านต่าง ๆ ได้มากมาย ด้วยระบบอย่าง Battle Gear ที่เป็นความสามารถพิเศษที่ใช้ได้ในสนามรบ ระดับยิ่งสูง ความสามารถก็ยิ่งหลากหลาย และระบบหยินหยางที่เป็นแต้มพิเศษสำหรับใช้ในการเรียกยูนิตฮีโร่ระดับตำนาน ซึ่งแต้มยิ่งเยอะ ยูนิตเหล่านี้ก็จะโจมตีแรงขึ้นไปด้วย ใครที่กะจังหวะเรียกฮีโร่ได้ได้ดีก็เหมือนกับชนะไปแล้วครึ่งเกมได้เลย
ด้วยระบบการเล่นที่น่าสนใจนี้ ทำให้แฟนเกม RTS หลายคนต่างชื่นชอบในความสร้างสรรค์และความสนุกของมัน แถมในช่วงแรกที่เล่นก็พลอยทำให้เราตื่นเต้นกับการผสมยูนิตด้วยการจับเข้าโรงฝึกแบบต่าง ๆ นี่เอง แม้ตรรกะบางอย่างจะดูแปลก ๆ ไปบ้างเช่นจับผู้ชายเข้าโรงอาบน้ำ ออกมาอีกทีกลายเป็นผู้หญิงเฉย(ฮา) แต่ก็เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นตื่นตาอยู่ไม่น้อย รายละเอียดการออกแบบก็ยอดเยี่ยมและภาพการต่อสู้ในสนามรบที่ลื่นไหล ทำให้หลายคนที่เคยสัมผัสเกมนี้ต่างชื่นชอบและประทับใจในความใส่ใจในรายละเอียดของเกมอยู่ไม่น้อย
จากความยอดเยี่ยมนี้เอง ทำให้ Battle Realms ได้รับคำชมทั้งจากนักวิจารณ์และผู้เล่นไปไม่น้อย โดยคะแนนรีวิวเฉลี่ยนั้นอยู่ที่ 8/10 คะแนนขึ้นไป จากเกมการเล่นที่โดดเด่นและอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวที่ไหลลื่น แม้ AI จะไม่ได้เลอเลิศมากก็ตาม แถมยังเป็นเกมที่เล่นกับเพื่อนผ่านวง LAN ได้สนุกมากอีกหนึ่งเกมด้วย
และแน่นอนว่าในบ้านเราเอง Battle Realms ก็ถือเป็นเกมที่ยอดนิยมของร้านเกมในสมัยนั้น แทรกตัวขึ้นมาจากหน้าจอที่เต็มไปด้วยผู้เล่น Counter Strike และเกมอื่น ๆ ซึ่งในช่วงที่ผู้เขียนยังออกตระเวนเล่นเกมตามร้านในย่านมหาวิทยาลัยชื่อดังนั้น ก็มีคนเล่นเกมนี้กันเพียบไม่น้อย(และส่วนใหญ่ก็เล่นกันแต่ Lotus เพราะเป็นฝ่ายที่โกงที่สุดในช่วงท้ายเกมนั่นแหละ) แถมยังมีแผ่นแท้ที่ขายโดย New Era ออกวางจำหน่ายมากมาย เรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเกม RTS ในวงการเกมเลยก็ว่าได้
ปัจจุบันนี้แม้เกมแนว RTS จะจางหายไปจากวงการ เพราะการมาของเกมแนว MOBA ที่เข้าใจได้ง่ายกว่า เล่นง่ายกว่า ทว่าก็ยังมีเกมเมอร์หลายคนที่ยังคงโหยหาเกมแนววางแผนแบบ RTS อยู่ไม่น้อย ซึ่ง Battle Realms ก็กลับมาอีกครั้งและวางขายใน Steam พร้อมกับมีข่าวดีที่ว่าทางทีมพัฒนากำลังพัฒนาภาคต่ออยู่ในตอนนี้ แถมด้วยเกมวางแผนเก่า ๆ ในอดีตอย่าง Command & Conquer และ Warcraft III ก็กำลังจะกลับมาด้วยเช่นกัน เรียกว่ามีแสงสว่างมาให้เราได้เห็นกันอย่างแจ่มชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย
และการกลับมาของ Battle Realms ในปี 2019 นี้ น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีของเกมแนว RTS ที่กำลังจะคืนชีพขึ้นมาในอนาคตอีกด้วย น่าลุ้นว่าอนาคตข้างหน้าต่อไปของเกมแนวนี้จะกลับมาได้แค่ไหนในยุคนี้จริง ๆ ครับ
