ชาว GamingDose พาลุย Battlefield 4 Beta ชมทุกความคิดเห็นของพวกเรา เจาะทุกความประทับใจแรกที่ทีมงานได้รับจาก อภิมหาเกมเดินยิงแห่งยุคที่เกมเมอร์ทั่วโลกเฝ้าคอย!
XTER-VENDETTA
สำหรับใครที่เคยตั้งคำถามว่า Battlefield 4 นี่ เหมือนจะเป็น Battlefield 3.5 รึเปล่า ? ผมก็คงจะตอบว่าใช่.. แต่ก็ไม่เชิง แม้ระบบเกมการเล่นทั้งการใช้อาวุธ, การขับขี่ยานพาหนะ จะไม่ต่างจาก Battlefield 3 เท่าใดนัก แต่ด้วยความหลากหลาย ของสิ่งต่างๆ ที่มากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ทำให้มันยังเป็นสมรภูมิที่ดุเดือด และดึงดูดต่อการกลับเข้าไปเล่นยู่เช่นเดิม นอกจากจะมีความหลากหลาย ของยานพาหนะ และการใช้สิ่งของประกอบฉากมาเสริมกับเกมการเล่น ( ระบบ Levolution )
Battlefield 4 ยังเน้นทีมเวิร์ค เสียยิ่งกว่าภาคไหนๆ ด้วยการใช้ระบบ Field Upgrades ที่จะได้มาจากการทำแต้มร่วมกันในหมู่รบเท่านั้น และจะต้องทำแต้มเริ่มใหม่อีกครั้ง หากทุกคนในหมู่รบ ตายหมด ยิ่งถ้ามี ผู้บัญชาการ เข้ามาร่วมสนามรบด้วยในเกมเวอร์ชั่นเต็ม ก็คงทำให้การเล่นประสานกันในทีม มีความสำคัญขึ้นไปอีก แม้ว่าส่วนตัวผมเอง จะไม่ค่อยชอบ ระบบการเคลื่อนที่ และระบบการยิงปืน ใน Battlefield 4 เท่าไหร่ เพราะมันไม่ค่อยให้ความรู้สึกที่ ทรงพลังฉับไว แบบใน Battlefield 3 แต่เกมการเล่นที่ถูกยกระดับขึ้นมาขนาดนี้ ‘ เหล้าใหม่ ในขวดเก่า ‘ ก็น่าจะเป็นการเปรียบเปรยที่ลงตัวที่สุดแล้ว สำหรับ Battlefield 4
แต่ Battlefield 4 Beta กลับทำให้ผมผิดหวัง ด้วยปัญหาของเกมที่มีเยอะจนคาดไม่ถึง เช่นปัญหาประสิทธิภาพเกม ที่น่าจะโดนกันไปหลายคน, บัคเยอะเสียจนนึกว่าเป็นเกมจากทีมงานตำนาน มังกรบินถอยหลัง และอุปกรณ์เครื่องใช้บางตัว ที่ออกแบบมาไม่มีประโยชน์เอาเสียเลย ( Ammo Pack ของ Support กับการโยนเติมกระสุน ทีละแม็ก… คิดได้ไงเนี่ย ? ) ซึ่งต่างจากช่วง Battlefield 3 Beta เมื่อ 2 ปีก่อน ที่มีความเสถียรมากกว่าในตอนนี้เยอะ ( ถ้าไม่พูดถึง ทหารคอยาวสุดสยอง น่ะนะ )
SETT
“กระตุก animal แต่สนุกดีนะ” นั่นคือสิ่งที่ผมตั้งใจจะพูด แต่ทว่ากลับโดน Jokeboy ด่าจนต้องตั้งสติสัมปชัญญะกันใหม่แล้วเขียนร่ายยาวในแบบที่ควรจะเป็น เอาเป็นว่าลืมๆมันไปแล้วเริ่มกันใหม่ในบรรทัดด้านล่างนี้ดีกว่าครับ
สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เข้าใจเกมเมอร์ไทยบนโลกโซเชี่ยลสักเท่าไหร่กับประเด็น Battlefield 4 เลยก็คือ
“ไม่หวือหวาเหมือนตอน BF2 มา BF3” …ให้ตายเถอะเกมเมอร์ไทยพ่อคุณไหปลาร้าเปียก !!! ไม่ต้องไปหาข้อมูลที่ไหนผมหามาให้แล้ว บ้าเอ๊ยย BF2 มา BF3 มันใช้เวลาตั้ง 6 ปีนะเว้ยเฮ้ยยย BF3 มา BF4 นี่มันแค่ปีกว่าจะให้เปลี่ยนเกมใหม่หมดทั้งยวงเลยงั้นเรอะ!?
DICE ใช้เวลาประมาณ 2 ปีในการที่จะหยิบจับ Battlefield 3 มาปั้นแต่งแปลงโฉมให้เกมมันออกมาแล้วรู้สึกว่า”ใหม่” สมกับเป็นภาคใหม่อย่างที่มันควรเป็น ( คือถ้าจะเทียบกับเกมคู่แข่งก็คงไม่ได้ เพราะเจ้านั้นเขาเล่นทำกันปีต่อปี )
DICE ยังคงเก็บรักษาสิ่งที่ดี สิ่งที่น่าประทับใจไว้จากภาคที่แล้วได้อย่างครบถ้วนพร้อมทั้งปรับแต่งรายละเอียดเล็กน้อยหลายๆอย่างให้ดียิ่งขึ้น เก็บงานได้เนี้ยบสมกับเป็นทีมงานคุณภาพที่ทั่วโลกจับตามอง
ปล. ถึงจะสนุกขนาดไหนแต่ถ้าตัวเต็มออกมาแล้วยังกระตุกจนน้ำตาตกในก็ไม่ไหวนะ T_T
KirosZ
สำหรับผมแล้วหลังจากที่ได้สัมผัส Battlefield 4 หนึ่งในเกมสุดยิ่งใหญ่ที่รอคอยมานาน ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าค่อนข้างประทับใจกับความสวยงามของภาพ หากได้มีโอกาสปรับ High – Ultra ขอให้ปรับและเล่นมันไปเถอะครับ เสพมันให้สุด แค่นี้ก็ได้อารมณ์ของความเป็นสงครามแล้ว ในช่วง beta นี้ยังมีให้เล่นเพียง Conquest และ Domination โดยเฉพาะโหมดหลังนี้วิ่งกันหูดับตับไหม้เลยทีเดียว แต่โหมดที่ผมรอคอยอย่าง Rush คงต้องรอเล่นในตัวเต็มเท่านั้นสินะ ฮา….
ในส่วนของความรู้สึกโดยทั่วไปกับตัวเกมแล้วผมก็ยังรู้สึกธรรมดากับรูปแบบที่ยังไม่ค่อยได้เปลี่ยนไปจากเดิม หมายความว่า เวลาเล่นแล้วมันไม่ได้รู้สึกต่างจาก BF3 ซักเท่าไรนั่นเองครับ สิ่งที่รู้สึกต่างซักเล็กน้อยคือเรื่องของจังหวะการเคลื่อนที่และอารมณ์ของความ Impact ของกระสุนต่างๆ แค่นั้นเอง แต่ข้อเสียหลักๆ สำหรับตอนนี้คือเรื่องของการ Optimize ตัวเกมที่ยังไม่ลงตัวเสียเท่าไร ยังมีการกระตุกที่ไร้สาเหตุ เกมล่ม(Crash) ต่างๆ นาน ที่ตัวผมและทีมงานเองก็ยังต้องเจอปัญหาต่างๆ เหล่านี้ที่ไม่สามารถแก้ไขได้
ท้ายสุดนี้ผมก็ค่อนข้าประทับใจกับตัวเกม และไม่ลังเลที่จะกด Pre-Order มาเพื่อรอวันที่ตัวเต็มออกมาให้ได้เล่นกัน แล้วเจอกันครับ พี่น้องชาว GamingDose.com
Jokeboy
ในหมู่มวลทีมงานทั้งหมดที่เล่นกัน ผมน่าจะเป็นคนเดียวที่เจอปัญหาตัวเกม “กระตุก” สรัส จนแทบเล่นไม่ได้ หลังต่อสู้หาทางแก้ไขอยู่กว่า 2 วัน ก็ผลักเข็นจนตัวเกม กระตุก น้อยลง จนอยู่ในระดับที่เล่นไหวได้สำเร็จ แต่ระหว่าง 2 วันที่ว่าทนกระตุกก็เล่นกับทีมงานด้านบนตลอดรัวๆ ความพยายามดังกล่าวก็น่าจะบ่งบอกได้ว่าตัวเกม BETA นั้นสนุกพอสมควรจนผมอดทนอดกลั้นขนาดนี้
Battlefield 4 หากจะพูดไปแล้ว ในความรู้สึกผมนั้นถือได้ว่าสมควรเรียกมันว่า “Battlefield 3 อย่างที่ควรจะเป็น” พูดง่ายๆคือมันไม่ได้แตกต่างอะไรมากจากภาคก่อน แต่กลับกันมันแก้ไขหลายสิ่งหลายอย่างจนเรียกได้ว่า มันน่าจะเป็น BF3 ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ระบบการเล่นหลายจุดถูกปรับเปลี่ยนใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็ย่อมต้องมีทั้งที่ผู้เล่นหน้าเก่าชอบและไม่ชอบ แต่โดยรวมก็สัมผัสได้ว่า DICE พยายามปรับปรุงให้ตัวเกม เปิดกว้างถึงผู้เล่นมือใหม่มากยิ่งขึ้น โดยตัวของระบบและเกมการเล่นหลักแล้วยังคงต้องยอมรับว่า BF สะนองความมันส์ของผู้ต้องการสัมผัสสงครามได้ดีที่สุดแล้วในยุคนี้
ในส่วนที่ต้องขอชมเลยก็คือ ระบบภาพและเสียง ซึ่งคงความยอดเยี่ยมไว้ได้เช่นเดิม ระบบเสียงภาคนี้ถูกปรับปรุงขึ้นไปอีกขั้น ฉากการสู้รบยังคงนัว ยิงกันหูดับตับไหม้เช่นเคย
หน้าจอ UI และการปรับแต่งอาวุธต่างๆถูกปรับปรุงให้ดีกว่าเดิมมากๆ จุดนี้ถือว่า DICE ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี
ในส่วนที่ตัวผมขัดใจก็เป็นเรื่องของ ด่าน Siege of Shanghai ที่จัดมาให้เล่นใน Beta นั้นส่วนตัวมองว่าเป็นด่านที่น่าเบื่อเอาการ สภาพแวดล้อมดูซ้ำๆ โดยเฉพาะหลังจากตึกตรงกลางถล่มลงมาและทำให้ ถนนและตึกใกล้เคียงโดนฉาบไปด้วยฝุ่นสีเทา ยิ่งทำให้สภาพแวดล้อมยิ่งน่าเบื่อทวีคูณขึ้นไปอีก ทั้งๆที่กราฟฟิกในเกมนั้นดูงดงามคมชัดมากแต่ตัวด่านและสีสันการออกแบบทำให้จุดเด่นตรงนี้ดูด้อยลงไป แต่ลึกๆแล้วก็เชื่อว่าด่านอื่นๆน่าจะมีสีสีนและทำออกมาได้ดีกว่านี้อย่างแน่นอน (แถมเพราะเป็น Beta ก็เล่นกันอยู่ด่านเดียวยิ่งทำให้น่าเบื่อขึ้นไปอีก)
สรุปได้ว่า BF4 ก็น่าจะออกมาและคงมาตรฐานเดิมที่ BF3 ทำไว้ได้เช่นเดิม หากเป็นแฟนๆซีรีส์นี้ก็ไม่ควรพลาด เพราะตัวเกมถือได้ว่าปรับปรุงและมีอะไรใหม่ๆให้เล่นมากอยู่เหมือนกันครับผม
Manman02
หลังจากที่ผมได้ลองทดสอบ BF4 Beta เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าหากมีใครสักคนถามผมว่า”BF4 Beta เป็นไงมั่งเต๊าะ”ผมคงได้แต่ทำหน้าเหมือนหมาเมื่อยๆแล้วก็ตอบไปว่า”ก็ดี”
คือไม่ใช่ว่ามันไม่ดี ตัวเกมเองก็พัฒนาจาก BF3 มามากพอสมควร อย่างเรื่องของฉาก ในตัวทดสอบเบต้านั้นให้เราเล่นอยู่เพียงด่านเดียวคือ Siege of Shanghai โดยโหมดการเล่นจะอนุญาตให้เล่นได้ 2 โหมดคือ Conquest ตามปกติ กับ Domination ซึ่งดึงมาจากโหมด CQ Domination ใน Close Quarters ซึ่งเป็น DLC ตัวที่สองของ BF3 มาใช้ ฉากนั้นถ้ามองรวมๆก็โอเค มันสวยดี แต่ถ้าคุณเข้าไปเล่นแล้วคุณอาจมึนจนหลงได้เพราะตึกแต่ละหลังแม่งคล้ายๆกันไปหมดจนคุณตั้งคำถามว่า”นี่กูอยู่ไหนวะ?”
สำหรับระบบ Levolution ที่ DICE ภูมิใจนำเสนอและโหมโปรโมทมาตั้งแต่ตอน E3 ในตัวเบต้านั้นก็เอามาใส่ให้แบบจัดเต็มไม่มีกั๊กเช่นกัน โดยตัวตึกนั้นเมื่อถล่มลงมาก็จะกลายเป็นซากปรักหักพังและกลายเป็นพื้นที่โซนใหม่ไปในทันที สภาพแวดล้อมก็จะมีฝุ่นควันเคล้าคลุ้งปรุงตลบทำให้วิสัยทัศน์การมองลดลง(อ้อลืมบอกไป ในลิฟท์มีเพลงตามที่โฆษณาไว้เป๊ะเลยนะครับ)แต่ที่ผมรู้สึกตลกคือ ตอนที่ตึกถล่มเนี่ย ถ้าคุณไปยืนอยู่ไม่ว่าจะบนดาดฟ้าตึกหรือชั้นหนึ่งของตึกล่ะก็ คุณจะเลือดลดฮวบฮาบโดยไม่ทราบสาเหตุและตายในที่สุดแม้ว่าตึกจะยังล้มลงมาไม่ถึงพื้นนะครับ ว่าง่ายๆมันก็คือสคริปต์เหมือนเสาในฉาก Caspian Border ใน BF3 นั่นแหละ เพียงแต่คราวนี้มันจะถล่มลงมารึไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราไปปู้ยี่ปู้ยำตึกมันมากน้อยขนาดไหน และตัวของตึกเองก็มีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมโดยรวม แต่นี่ก็อนุโลมได้ว่ามัน”พัฒนาไปเยอะ”แหละนะ
เกมเพลย์และองค์ประกอบหลายๆอย่างของ BF4 ก็ยกระดับจาก BF3 มาพอสมควร แถมด้วยของเล่นที่เพิ่มเข้ามาให้แบบไม่หวาดไม่ไหวก็ทำให้ตัวเกมดูมีการพัฒนาขึ้น แต่ด้านกราฟิกส์นั้นผมสารภาพเลยว่าผมไม่รู้มันแตกต่างจาก BF3 ยังไง ผมว่ามันเหมือนเอาเอนจิ้นตัวเดิมมาทำด้วยซ้ำ ถ้าไม่พะหน้าว่า Frostbite 3 ก็ไม่รู้นะเนี่ยว่าเป็นเอนจิ้นใหม่ แถมการทำลายที่บอกว่าเยอะ ก็ไม่ได้เยอะอะไรขนาดนั้น มันมากกว่า BF3 กระจึ๋งเดียวเอง และผมคงต้องบอกว่าระหว่างที่ทดสอบอยู่นี่แม่ง”กระตุกเรือหาย”เลยครับ บางทีผมอาจจะกระตุกมากกว่าคุณ Jokeboy ด้วยซ้ำไปแม้จะปรับ Resolution จนต่ำเตี้ยเรี่ยดินหรือปรับออพชั่นด้านกราฟิกส์จน Low หมดแผงแล้วก็ตาม หวังว่าตัวเกมเต็มคงจะไม่เป็นแบบนี้ เพราะไม่งั้นผมคงเล่นไม่ได้และคงต้องขอเงินคืน
โดยรวมนั้น BF4 Beta ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกหวือหวาหรือตื่นเต้นเหมือนกับตอนที่ BF3 Beta ออก คือตอนนั้นผมยังรู้สึกว่ามันพัฒนาจาก Bad Company 2 มาแบบหน้ามือเป็นหลังตีน(อันนี้ผมไม่ได้นับแบบ Main Timeline แบบจากภาค 2 ไป 3 นะครับ ผมนับแบบภาคต่อภาคเลย)แต่กับ BF3 ไป BF4 นั้น ผมว่ามันน่าจะมีอะไรที่พัฒนาไปได้เยอะกว่านี้ บางทีผมคิดว่าระยะห่าง 2 ปีเนี่ยน้อยไป ตัวเกมมันน่าจะพัฒนาอะไรได้มากกว่านี้ แต่นี่มันแค่ช่วงทดสอบเบต้า เรามารอดูกันครับว่าพอตัวเกมเต็มมาแล้วจะมีอะไรที่หวือหวาและน่าตื่นเต้นมากไปกว่านี้บ้าง