Call of Duty แฟรนไชส์เกมยิงระดับโลกที่มีภาคใหม่ออกมาให้เราได้เล่นกันทุกปี และสำหรับแฟนตัวยงจริง ๆ จะรู้ว่า มีอยู่สองไตเติลหลัก ที่กลายเป็นที่นิยม และมีการทำภาคต่อออกมาเป็นซีรีส์ นั่นคือไตเติล Black Ops รวมไปถึงอีกไตเติลระดับตำนานอย่าง Modern Warfare ที่ตอนนี้เวอร์ชั่น Reboot กำลังจะออกมาครบทั้งสามภาคให้เราได้เล่นกันอีกครั้ง วันนี้เรามาย้อนดูกันว่า ทำไม Modern Warfare ไตรภาคดั้งเดิม ถึงกลายเป็นตำนานที่หยิบมาเล่นทุกวันนี้ก็ยังสนุกอยู่
เปิดม่าน Modern Warfare เขย่าวงการปี 2007
ปี 2007 ซีรีส์ Call of Duty เข้าสู่ภาคที่ 4 อย่างเป็นทางการ และภาคที่เปิดตัวในปีนั้นก็คือ Modern Warfare ของทีมพัฒนาชุด Infinity Ward ที่กลายเป็นตำนานในเวลาต่อมา ในตอนนั้นโปรเจกต์ Modern Warfare นี้ มีทีมพัฒนาเริ่มต้นราว ๆ 100 กว่าคน และใช้เวลากว่า 2 ปีในการพัฒนา และทีม Infinity Ward ได้ตัดสินใจละทิ้งธีมสงครามโลก แต่ก็พยายามจะหลีกเลี่ยงการกล่าวอ้างเหตุการณ์จริงด้วย โดยพล็อตหลักคือมีกองกำลังสองฝ่ายที่มีความแข็งแกร่งในระดับเท่า ๆ กัน มาต่อสู้กันเอง
ในภาค Modern Warfare (2007) นี้ ทีมพัฒนาต้องการสร้างความสมจริงในการต่อสู้ จึงได้เข้าร่วมการงึกยิงจริงที่ศูนย์ต่อสู้ภาคพื้นดินและทางอากาศกับนาวิกโยธิน Twentynine Palms ที่เป็นศูนย์ฝึกในทะเลทรายแคลิฟอร์เนียด้วย การฝึกนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถจำลองผลกระทบของการอยู่ใกล้กับสถานการณ์หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี และนอกจากแคมเปญเนื้อเรื่องอันดุเดือดแล้ว โหมดมัลติเพลเยอร์ก็ยังได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความสมดุลมากยิ่งขึ้นด้วย
สำหรับ Modern Warfare ต้นฉบับปี 2007 แทบจะเป็ฯการเปิดม่านยุคใหม่ให้กับซีรีส์ Call of Duty โดยมีการเปิดเผยว่าตัวเกมทำรายได้มากกว่า Halo 3 ที่ออกปีเดียวกันในตอนนั้น มันได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งบน PlayStation 3 และ Xbox 360 ทำยอดขายรวมไปเกือบ 2 ล้านชุดทันทีที่วางจำหน่าย โดยจุดเด่นของเกมภาคนี้คือระบบการเล่นที่ยกระดับ สนุก มีโหมดมัลติเพลเยอร์ที่ยอดเยี่ยม และภาคนี้นี่แหละที่เป็นการปูทางไปสู่ภาคในตำนานอย่าง Modern Warfare 2
เนื้อเรื่องเข้มข้น เกมเพลย์สนุก Modern Warfare 2 (2009)
ต่อมาในปี 2009 เว้นช่วงไป 2 ปี ภาคต่อก็ตามออกมาใน Modern Warfare 2 ซึ่งภาคนี้นี่แหละที่ถือว่าเป็นตำนานของจริง และทุกวันนี้ ภาคนี้ก็ยังคงได้รับการยกย่องว่าเป็นมาสเตอร์พีซของวงการเกม และเป็นมาสเตอร์พีซของ Call of Duty อีกด้วย
การพัฒนาเกมภาคนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2008 โดยมีชื่อชั่วคราวในตอนนั้นว่า Call of Duty 6 และใช้เอนจิ้นอย่าง IW 4.0 ที่เป็นเวอร์ชั่นปรับปรุงของภาค Modern Warfare ด้านโหมดเนื้อเรื่องนั้น ตัวเกมได้แรงบันดาลใจมาจากความขัดแย้งในชีวิตจริง โดยเนื้อเรื่องภาคนี้จะโฟกัสไปที่หน่วย Task Force 141 ในการตามล่า Vladimir Makarov หัวหน้าพรรค Russian Ultranationalist และเล่าเรื่องอีกฝั่งนึงจากมุมมองของ United States Army Rangers ที่ต้องปกป้องกรุงวอชิงตัน ดี.ซี จากการรุกรานของพวกรัสเซีย
สำหรับภาคนี้ ในโหมดแคมเปญนั้นต้องบอกว่าเข้าขั้นขึ้นหิ้ง ทั้งความสนุกของเกมเพลย์ มีฉากการไล่ล่าสุดดุเดือด และหลายฉากที่เป็นที่น่าจดจำ เช่นฉาก Remember, No Russian ที่กลายเป็นตำนานมาจนถึงทุกวันนี้ รวมไปถึงทำให้เกมต้องโดนแบนจากหลาย ๆ ประเทศในช่วงแรก แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นตัวเกมก็ได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนเกมทั่วโลก ด้วยโหมด Multiplayer และคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่โดดเด่นไม่แพ้เนื้อเรื่อง มีตัวละครที่น่าจดจำอย่าง Ghost ที่โด่งดังจนไปมีภาคแยกเป็นเกมเดี่ยวและหนังสือการ์ตูนของตัวเอง
Modern Warfare 2 ยังได้รับการรีมาสเตอร์ส่วนของเนื้อเรื่อง และออกวางจำหน่ายในช่วงปี 2020 อีกด้วย และเหล่าบุคลากรที่พัฒนาเกมนี้ในช่วงนั้นก็เป็นที่จดจำของแฟนเกม เช่น Mark Rubin ในฐานะผู้อำนวยการสร้าง หรือ Jason West ที่ไปก่อตั้ง Respawn Entertainment ร่วมกับ Vince Zampella ในเวลาต่อมา
ปิดม่านไตรภาค Modern Warfare 3 (2011)
ถึงหลายคนจะมองว่าภาคนี้ดรอปลง เพราะภาค 2 ทำไว้ดีเกินไป แต่ Modern Warfare 3 ก็เป็นการปิดไตรภาคที่สมบูรณ์แบบ ตัวเกมวางจำหน่ายในปี 2011 โดยภาคนี้สองค่ายอย่าง Infinity Ward และ Sledgehammer ได้ร่วมมือกันพัฒนา สำหรับภาคนี้ก็ดำเนินเนื้อเรื่องต่อจาก Modern Warfare 2
ในภาคนี้ การเล่าเรื่อง ได้เพิ่มเติมในส่วนของ Acts ต่าง ๆ เข้ามา เป็นตัวช่วยในการเล่าเรื่อง และมีจุดระบุ Objective ในแผนที่ด้วย และเพื่อป้องกันเหตุดราม่าและฉากไม่เหมาะสมจากภาคก่อน ในภาคนี้เราสามารถเลือกที่จะข้ามบางภารกิจได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นฉากภาพความรุนแรงที่มีต่อเด็กและอื่น ๆ (ภายหลัง Modern Warfare 2 ก็มีระบบนี้ด้วย) โดยจุดเด่นในภาคนี้ คือการปิดฉากเรื่องราวของ Modern Warfare ไตรภาคลงอย่างสมบูรณ์ มีฉากที่น่าจดจำเช่นความตายของตัวละครหลัก และฉากการล้างแค้น ฉากไคลแมกซ์สุดดุเดือดที่แฟน ๆ จดจำจนทุกวันนี้ และเกมยังโดดเด่นด้วยคอนเทนต์ปริมาณมหาศาล ทั้งโหมด Multiplayer ที่มีหลายโหมดให้เล่น และโหมดพิเศษอีกจำนวนมาก
ภาคนี้มีวิบากกรรมตอนวางจำหน่ายเกิดขึ้น เมื่อครึ่งหนึ่งของตัวเกมเวอร์ชั่น PC ถูกอัปโหลดทางออนไลน์ เพราะถูกขโมยจากโกดังเก็บของในเมืองเฟรสโน แคลิฟอร์เนีย รวมไปถึงมีการปล้นแผ่นเกมจำนวนมากไป โดยมีแผ่นเกม Modern Warfare 3 อยู่กว่า 6,000 แผ่นในนั้น ที่อาจจะเป็นต้นเหตุให้เกิดการรั่วไหลทางด้านข้อมูล
แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเกมก็ยังคงประสบความสำเร็จ แม้หลายอย่างจะไม่อาจเทียบเคียงภาค 2 แต่หลายสื่อก็ชื่นชมว่านี่เป็นเกมที่มีการออกแบบและองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ครบถ้วน และปิดฉากไตรภาค Modern Warfare ไปอย่างสวยงาม
กลับมาในช่วงปัจจุบัน ปี 2019 – 2022 เราได้เห็นภาค Modern Warfare ฉบับรีบูทไปแล้วสองภาค และในปี 2023 นี้ เราจะได้เห็น Modern Warfare 3 ฉบับรีบูทเพิ่มเติมอีกด้วย งานนี้ต้องรอดูกันว่า มันจะดีได้เทียบเท่าเวอร์ชั่นเดิมหรือไม่
