ในขณะที่ตอนนี้เกมเมอร์บนคอนโซลหลายคนน่าจะกำลังสนุกสนานกับ Red Dead Rdemption 2 กันอย่างสุดใจ แต่เกมเมอร์ชาว PC หลายคนก็กำลังรอเกมนี้อย่างมีความหวังกันอยู่ แม้ว่าเวลานั้นจะยังมาไม่ถึง แต่เราก็ยังมีเกมสไตล์คาวบอยให้เราเล่นแก้ขัดอยู่จำนวนหนึ่ง และเกมที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้คือ Call of Juarez: Gunslinger เกมนี้ครับ
ก่อนเราจะไปพูดถึงตัวเกม เรามาพูดถึงภาคก่อนหน้านี้ของซีรีส์กันก่อน Call of Juarez เป็นเกมคาวบอยแบบ FPS ที่ดังพอสมควรมาก่อน โดยเฉพาะในภาค Bond in Blood ที่ทำออกมาได้ดีเยี่ยมทั้งเนื้อเรื่องและระบบการเล่นในแบบกึ่ง Open World แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อภาค The Cartel วางจำหน่าย มันได้กลายเป็นเกมเดินหน้ายิงดาด ๆ ที่พยายามใส่ความเป็นหนังคาวบอยในยุคปัจจุบันที่เป็นสงครามระหว่างพ่อค้ายาเสพติดกับเจ้าหน้าที่รัฐ ผลก็คือความไม่เข้ากัน ความมั่วเละเทะ จนทำให้ซีรีส์นี้แทบจะล่มสลายกันเลยทีเดียว จนกระทั่งทีมงาน Techland กลับมากู้ชื่อได้จากซีรีส์ Dying Light ที่ทำยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำในเวลาต่อมา 
แต่ทางทีม Techland ก็ยังคงสานต่อเรื่องราวของเกมเดินยิงสไตล์คาวบอยเกมนี้มาอีกหนึ่งภาค โดยได้ทาง Ubisoft ช่วยจัดจำหน่ายให้ โดยใช้ชื่อภาคว่า Gunslinger ออกมาเป็นเกมฟอร์มเล็ก และก็ทำออกมาได้ไม่ผิดหวังเลย
Call of Juarez: Gunslinger จะมีเนื้อเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องในภาคที่แล้วแม้แต่น้อย โดยเป็นเรื่องราวในปี 1910 ของนักล่าค่าหัวนามว่า Silas Greaves ที่เข้ามาหาเหล้ากินในบาร์แห่งหนึ่ง แล้วอาศัยเล่าเรื่องราวการผจญภัยของเขาแลกกับค่าเหล้า โดยในการผจญภัยที่เขาเล่านั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหล่าคาวบอยในประวัติศาสตร์จริง ๆ อย่าง Billy The Kid หรือ Butch Cassidy ก่อนที่จะนำไปสู่บทสรุปของเกมที่เราคาดไม่ถึงอีกด้วย 
ซึ่งถ้าจะพูดกันอย่างตรงไปตรงมา ระบบการเล่นของ Gunslinger นั้นไม่ถือว่าแปลกใหม่จากเกมแนว FPS ทั่วไปในท้องตลาดนัก แต่ที่โดดเด่นและน่าสนใจคือการนำเสนอของเนื้อเรื่อง เพราะตัวเกมอิงจากคำบอกเล่าของ Silas เอง ทำให้บางทีเวลาที่เราเล่น ๆ อยู่แล้วบทพูดในเกมที่การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเหตุการณ์ในตอนนั้น เกมก็จะย้อนเปลี่ยนสถานการณ์ให้ผู้เล่นดื้อ ๆ เลยก็มี หรืออย่างบางทีเล่า ๆ อยู่ตัวคนเล่าหลับไป เกมก็จะหน่วงเวลาให้เนิบช้าพร้อมกับเสียงก่นบ่นแบบเซ็ง ๆ ของผู้ฟังที่อุตส่าห์รอช่วงเวลาไคลแม็กซ์ของเรื่อง จัดเป็นการนำเสนอที่ค่อนข้างจะกล้าหาญอย่างมากสำหรับเกมในยุคปี 2013 ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนด้วย
นอกจากนั้นระบบการเล่นแบบ FPS ของมันที่แม้จะไม่ได้แปลกใหม่แต่มันก็ทำออกมาได้สนุกมาก ผู้เล่นจะยังมีอาวุธหลากหลายแบบไว้ต่อกรกับศัตรูในเกมทั้งปืนพกลูกโม่ ไรเฟิล ลูกซอง หรือไดนาไมท์ ลุยยิงกันแบบวินาศแบบสุด ๆ และการสู้กับบอสที่ถ้าช่วงไหนมีการเล่าเรื่องของ Silas เข้ามาผสมเพื่อเพิ่มสีสันด้วย ก็จะยิ่งสนุกขึ้นไปอีก แถมด้วยฉากดวลปืนแบบลูกผู้ชายที่ทำระบบออกมาได้ดีและเข้าใจได้ไม่ยาก จัดเป็นอีกหนึ่งเกมที่สามารถโหลดมาเล่นฆ่าเวลาได้อย่างเพลิดเพลินทีเดียว
น่าเสียดายที่ตัวเกมออกจะสั้นไปเสียหน่อย เพราะแค่ 4 – 5 ชั่วโมงคุณก็สามารถเล่นจบได้ หรือถ้าเล่นแบบเก็บทุกอย่างที่ซ่อนอยู่ เต็มที่ก็อยู่ไม่เกิน 10 ชั่วโมงแน่นอน นับว่าสั้นมาก ๆ แต่ก็เป็นเกมฆ่าเวลาที่ทำออกมาได้ดีและสนุกคุ้มค่าอยู่ไม่น้อย
ปัจจุบันนี้ค่าย Techland ก็กำลังง่วนอยู่กับ Dying Light 2 ที่จะวางจำหน่ายในปีหน้า และดูท่าจะไม่กลับไปสร้างเกมซีรีส์นี้อีกนาน แต่ก็ไม่แน่ว่าถ้าหากกระแสของ Red Dead Redemption 2 มาแรงกว่าที่คิด ทาง Techland ก็อาจจะพิจารณากลับมาสนร้างเกมซีรีส์นี้อีกครั้งก็เป็นได้ ก็ต้องมาดูกันครับว่าเราจะมีโอกาสได้เห็นภาคต่อในสไตล์คาวบอยดิบเถื่อน ไม่ใช่คาวบอยปลอม ๆ แบบในภาค The Cartel หรือไม่ครับ
