BY Nuttawut Apiratwarakul
3 Oct 23 11:37 am

Castlevania: Nocturne หนึ่งในซีรีส์ดัดแปลงจากเกมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในตอนนี้

1,000 Views

Nocturne แบกรับความคาดหวังอันยิ่งใหญ่ของแฟน Castlevania เอาไว้ เพราะซีรีส์บน Netflix ในภาคแรก 4 Season นั้นทำเนื้อหาออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ๆ แม้ในภาคที่แล้วคุณภาพของซีรีส์จะมีช่วงที่ขึ้น ๆ ลง ๆ แต่โดยรวมทั้งหมด Castlevania ของ Netflix ก็พิสูจน์ให้โลกได้เห็นว่า Castlevania มีแก่นหลักที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจ รอคอยวันจะถูกนำมาขัดเกลาให้ออกมาเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม

ด้วยการนำเสนอเรื่องราวอันตื่นเต้น งานภาพที่งดงาม ฉากการต่อสู้ที่ดุเดือด มุกตลกดิบ ๆ และความลุ่มลึกของเนื้อหา ก็ไม่น่าแปลกใจที่ Castlevania ของ Netflix ในภาคแรกจะได้รับการชื่นชมว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดซีรีส์ และเป็นการดัดแปลงวิดีโอเกมที่ยอดเยี่ยมที่สุดชิ้นหนึ่ง แน่นอนว่าเมื่อ Netflix ประกาศสร้างภาคใหม่ ทุกสายตาก็จับจ้องและคาดหวังว่า Nocturne จะมีคุณภาพยอดเยี่ยมไม่แพ้รุ่นพี่ที่มาก่อน

ข่าวดีก็คือ Castlevania: Nocturne ไม่เพียงรักษามาตรฐานดั้งเดิมเอาไว้ได้ แต่ยังเป็นการเติบโตก้าวใหม่ที่พาซีรีส์นี้ให้สูงขึ้นไปอีกระดับ ด้วยงานภาพสไตล์ใหม่ กลุ่มตัวละครใหม่ การนำเสนอแบบใหม่ โดยไม่ทิ้งส่วนดีของภาคที่แล้วไป

เนื้อหาใน Castlevania: Nocturne  จะเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ในภาคก่อนหลายร้อยปี ตัวเอกของเราคือ Richter Belmont (มีต้นแบบมาจากตัวเอกในเกมภาค Rondo of Blood และภาคที่หลายคนจดจำที่สุดอย่าง Symphony of the Night) ผู้สืบทอดสายเลือด Belmont เชื้อสายของ Trevor Belmont และ Sypha Belnades

สำหรับธีมหลักของเนื้อหาในภาคนี้จะใช้เรื่องราวการปฎิวัติฝรั่งเศสเป็นฉากหลัง ตัว Richter เป็นผู้ดูแล Maria Renard ผู้คอยสนับสนุนฝ่ายนักปฏิวัติ ต่อต้านการกดขี่ของเหล่าขุนนางที่กลายเป็นแวมไพร์ เรื่องราวก็จะพาเราไปสำรวจตัวละครที่น่าสนใจอีกมากมายหลายคน และตามสไตล์ของซีรีส์ Castlevania ที่ทุก ๆ คนต่างมีเป้าหมาย มีแนวคิด  และความลับของตัวเอง

จุดแข็งของ Castlevania: Nocturne คือการรักษาธีมหลักของเรื่องราวไว้ได้อย่างเข้มข้น ผสมกับตัวละครที่มีเสน่ห์มาก ๆ แม้เรื่องราวโดยรวมก็จะเป็นการต่อสู้กับแวมไพร์เพื่อกอบกู้โลก แต่ระหว่างทางเราจะได้พบกับฉากการต่อสู้ที่ถูกออกแบบรังสรรค์มาอย่างดี บทสนทนาที่น่าสนใจ และเคมีความเข้ากันได้ของตัวละครที่ยอดเยี่ยมกว่าภาคแรกเสียอีก

อย่างไรก็ตามตัวซีรีส์ใช้เวลาค่อนข้างนานมากในการค่อย ๆ สร้างรากฐานของเรื่องราว การปูปมของเหล่าตัวละครหลัก การคลายปมต่าง ๆ แม้กลุ่มตัวเอกจะมีเวลาฉายแสงของตัวเองแบบเต็มที่ แต่ก็ทำให้ช่วงเวลาที่ทั้งหมดได้อยู่ร่วมกันหรือได้แสดงเคมีดี ๆ ลดน้อยลงไป ซึ่งตรงนี้ก็เป็นข้อเสียที่เราต้องยอมรับเพื่อแลกกับการกระจายปมของเหล่าตัวเอกและมองในฐานะที่นี่เป็น Season ที่ 1 ของตัวซีรีส์

ในแง่งานภาพนั้นสไตล์ของภาคใหม่เน้นการโชว์ภาพสเก็ตช์เยอะกว่าภาคเก่าแบบชัดเจน ทำให้ฉากแสดงการเคลื่อนไหวนั้นมีความลื่นไหลมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ต้องยอมรับว่าสไตล์ภาพแบบใหม่อาจจะไม่ได้โดนใจแฟน ๆ ทุกคน ขณะเดียวกันสไตล์ภาพแบบใหม่ทำให้ฉากที่แสดงมุมกล้องกว้าง ๆ หรือฉากที่มีตัวละครในเฟรมหลายตัวก็ทำให้บางตัวดูแตกต่างโดดเด่นดึงสายตาอยู่เหมือนกัน

อีกจุดที่ต้องพูดถึงก็คือฉากการต่อสู้และความ “โหด” ของภาคนี้  แม้โทนของซีรีส์จะยังรุนแรงดิบหนักหน่วงเช่นเดิมแต่เรื่องของงานภาพที่ฉายความโหดก็ดูจะลดน้อยถอยลงไปแบบเห็นได้ชัด ส่วนฉากต่อสู้ก็ยังรักษาคุณภาพเดิมเอาไว้ได้ แม้จะไม่ได้มีฉากสู้แบบมัน ๆ จำนวนมาก แต่บอกได้เลยว่ามีฉากที่แฟน Castlevania ต้องกรี๊ดกันอย่างแน่นอน

เพลงประกอบ การพากย์ งานด้านเสียง ทุกอย่างยอดเยี่ยมลงตัว ใครชอบ Divine Bloodline เพลงประจำตัวของ Richter Belmont เตรียมฟัง Version ที่น่าจะเพราะที่สุดแล้วกันได้ในซีรีส์นี้

ถ้าจะมีจุดให้ติก็คงจะมีอยู่สองจุดใหญ่ อย่างแรกก็คือตัวร้ายหลักของภาคนี้อย่าง Erzsebet ไม่ใช่ว่า Erzsebet ไม่ใช่ตัวร้ายที่ยอดเยี่ยม แต่ช่วงเวลาที่เราได้รู้จักเธอผ่านเรื่องราวในซีรีส์นั้นแสดงให้เห็นถึงแค่ความแข็งแกร่ง อำนาจที่ยิ่งใหญ่ของเธอเท่านั้น (เรียกได้ว่า Erzsebet ดูแกร่งและน่ากลัวกว่า Dracula เสียอีก) ซึ่งใครที่ชอบตัวร้ายที่มีมิติมาก ๆ หน่อยก็อาจจะผิดหวังในจุดนี้ อีกข้อก็คือการที่เรื่องราวใน Castlevania: Nocturne นั้นเป็นเหมือน “จุดเริ่มต้น” ของมหากาพย์ แน่นอนว่าเราก็จะได้เจอกับฉากจบแบบ Cliffhanger ที่ทำให้เราเรียกร้องอยากจะเห็น Season ต่อไปกันไว ๆ  ถึงแม้การปูเรื่องราวแบบนี้จะทำให้เนื้อหามีความยิ่งใหญ่ และ Season ที่สองก็มีศักยภาพสูงมากกว่าจะเล่าเรื่องราวได้ยอดเยี่ยม แต่การที่เนื้อหาไม่ได้ถูกขมวดปมให้ผู้ชมได้จบลงแบบอิ่มใจก็เป็นจุดติติงที่มองข้ามไม่ได้อยู่เช่นกัน

แม้เนื้อหาของ Castlevania: Nocturne จะไม่ได้จบลงอย่างสมบูรณ์แบบหรือเปิด Season 1 ได้ยอดเยี่ยมเท่ากับรุ่นพี่ แต่คุณภาพที่อัดแน่นในทุกภาคส่วนของซีรีส์อนิเมชั่นเรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจปฎิเสธได้ นี่เป็นหนึ่งในสุดยอดผลงานอนิเมชั่นจากวิดีโอเกมที่ดีที่สุด เป็นงานที่ผู้สร้างเคารพต้นฉบับและรู้ว่าควรหยิบจับเนื้อหาส่วนไหนมาเล่า

แฟน ๆ Castlevania ไม่ควรพลาดที่จะรับชม Castlevania: Nocturne ด้วยประการทั้งปวง

 

Castlevania: Nocturne

8.5 / 10 คะแนน

8.5

SHARE

Nuttawut Apiratwarakul

โน้ต - Co-Founder / Editor-in-chief

Back to top