Dutch van der Linde เป็นตัวละครที่มีวิวัฒนาการค่อนข้างแปลก นิสัยของเขาพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างชัดเจน ด้วยเหตุนี้หลายคนที่ชื่นชอบเขาในตอนแรก กลายเป็นรู้สึกเกลียดชังในช่วงหลัง และนี่คือบทความที่จะเป็นการเล่าถึงพื้นหลังตัวละครที่มีความซับซ้อนที่สุดในเกม Red Dead Redemption
Dutch van der Linde เกิดในช่วงกลางปี 1850 โดยสมาชิกครอบครัวของเขามีบิดาไม่ทราบชื่อ, ลุงไม่ทราบชื่อ และมารดาเชื้อสายอังกฤษนามว่า Greta van der Linde
แม้ว่าทางทีมงาน Rockstar Games ไม่ได้บอกประวัติการใช้ชีวิตของ Dutch ในช่วงวัยเยาว์มากเท่าไหร่นัก แต่ Dutch เคยเล่าว่าบิดาของเขาได้เสียชีวิตในหน้าที่ท่ามกลางสงครามกลางเมืองสหรัฐฯ (คาดว่ารบในช่วงเหตุการณ์ Battle of Gettysburg) เป็นเหตุให้เขาเกลียดรัฐบาลสมาพันธรัฐอเมริกาฝ่ายใต้ (Confederate States) ที่สนับสนุนการค้าทาส และทำให้พ่อของ Dutch ต้องจบชีวิตลง
จนกระทั่งวันหนึ่ง Dutch ได้หนีออกจากบ้านในช่วงอายุ 15 ปี เพราะเขา ‘ไม่สามารถ’ อยู่ร่วมกับแม่ ซึ่งคาดว่าถูกเลี้ยงดูแบบโหดร้ายร้ายทารุณ (Greta เสียชีวิตในช่วงปี 1899)
หลังจาก Dutch หนีออกจากบ้านสำเร็จ ทำให้เขารู้สึกเห็นคุณค่าของพลังเสรีภาพและใฝ่ฝันที่จะมีชีวิตอยู่อย่างอิสระโดยไม่ขึ้นตรงต่อใคร Dutch จึงเริ่มทำอาชีพเป็นอาชญากรรมเพื่อบรรลุเป้าหมายที่เขาตั้งเป้าไว้ และได้เข้าร่วมแก๊งอาชญากรรมนอกกฎหมายที่น่าเกรงขามที่สุดอย่าง Colm O’Driscoll gang ในเวลาต่อมา
Colm O’Driscoll
แต่ทว่าความสัมพันธ์ระหว่าง Dutch กับ Colm ไม่ลงรอยกัน เพราะทั้งคู่วิสัยทัศน์ที่แตกต่างราวฟ้ากับเหว Dutch ต้องการเป็นโจรเพื่อเป็นไท แต่ Colm มีวิสัยทัศน์เป็นโจรแท้ที่ไม่มีสัจธรรม พวกเขาทำเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มตัวเองเท่านั้น
จนกระทั่งวันหนึ่ง Dutch ได้พบกับ Hosea Matthews จอมโจรสิปแปดมงกุฎที่พยายามจะปล้น Dutch แต่ทว่า Hosea ก็ไม่รู้ว่า Dutch พยายามจะปล้นเขาเช่นกัน ด้วยการพบโดยบังเอิญที่ใจตรงกัน และการพูดคุยสนทนาที่ถูกปากถูกใจอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้พวกเขาทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนซี้ในระยะเวลาอันสั้นแล้วตัดสินใจตั้งกลุ่มอาชญากรรมทีมใหม่ชื่อว่า Dutch van der Linde gang โดยมี Hosea เป็นมันสมองของกลุ่ม
Dutch เริ่มหาสมาชิกแก๊งเพิ่มเติ่มด้วยการลาดตระเวนตามสถานที่ต่าง ๆ โดยมีสมาชิกคนที่สามคือ Arthur Morgan ซึ่ง Dutch ได้รับเลี้ยงดูแลเขาราวกับลูกชายนับแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็นการสอนหนังสือ, ล่าสัตว์, การใช้อาวุธปืน
ความสัมพันธ์ระหว่าง Arthur, Dutch และ Hosea เปรียบเสมือนเป็นครอบครัวที่พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะ Arthur ที่มอง Dutch เปรียบเสมือนเป็นคุณพ่อคนที่สอง
ภาพถ่าย Hosea, Dutch และ Arthur สมัยยังหนุ่มแน่น
ด้วยทักษะการพูดปราศรัยของ Dutch ที่เต็มไปด้วยศิลปะและความทรงพลัง ทำให้ Dutch Van der Linde gang เริ่มใหญ่โตมากขึ้น ซึ่งทำให้วิสัยทัศน์ของ Dutch จึงเริ่มขยายกว้างตามมา
เขาเริ่มมีไอเดียใหม่ชื่อว่า “Savage Utopia” ที่เชื่อว่าแก๊งของเขาจะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ทั้งใบ เขาจึงสถาปนาตัวเองว่าเป็น Robin Hood จากการปล้นเงินคนรวยเพื่อไปให้คนที่มีทรัพย์สินน้อยนิดหรือมีความจำเป็นเพื่อโลกที่ดีขึ้น แม้ว่าจะต้องก่ออาชญากรรมหรือฆาตกรรมก็ตาม
นอกเหนือจากนี้ เขามองว่าตัวเองว่าเป็นสัญลักษณ์ของ Wild West โดยมีนโยบายว่าจะต่อต้านอำนาจรัฐบาล, สนับสนุนความเป็นอิสระ, เป็นศาลเตี้ยลงโทษผู้กระทำความผิดที่เกินกว่ามนุษย์จะรับได้ เพื่อครองใจชาวบ้านทุกคนในฐานะเป็น ‘นักบุญ’ แห่งโลกตะวันตกเก่าที่ปกครองกันด้วยกระสุนปืนและความรุนแรง
แต่มีช่วงเวลาหนึ่ง Colm O’Driscoll ได้สังหารคนรักของ Dutch นามว่า Annabelle ทำให้ Dutch รู้สึกโกรธแค้น Colm เป็นอย่างมาก เขาจึงเริ่มออกตามล่าสังหารจนพี่น้องอีกคนหนึ่งของ Colm ต้องจบชีวิตลง เป็นเหตุให้แก๊ง Colm O’Discoll กับ Dutch van der Linde กลายเป็นศัตรูคู่อริตลอดกาล
ปี 1899 แก๊ง Dutch van der Linde วางแผนก่ออาชญากรรมปล้นเรือเฟอร์รี่โดยสารที่มีตู้เซฟเก็บเงินประมาณ 150,000 เหรียญฯ ณ เมือง Blackwater แต่ทว่าแผนกลับผิดพลาด เพราะมีแก๊งอาชญากรรมกลุ่มอื่นเข้ามาผสมโรงด้วย ทำให้ผลลัพธ์ลงเอยด้วยการปะทะระหว่างโจรและตำรวจจนผู้มีเสียชีวิตถึง 37 ศพ ผู้คนเรียกเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในครั้งนี้ว่า Blackwater Massacre
แต่เรื่องราวชื่อเสียง Dutch van der Linde ได้กระฉ่อนไปทั่วเมืองเช่นกัน มีคนแปลกหน้าคนหนึ่งกล่าวว่าในเหตุการณ์ Blackwater Massacre ตัว Dutch ลงมือฆาตกรรมหญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่า Heidi McCourt อย่างโหดเหี้ยม โดยกล่าวว่า “เธอเป็นคนหน้าตาดี จนกระทั่งตาของเธอหลุดออกจากเบ้าและเศษสมองของเธอกระจายเต็มกำแพง” โดยเรื่องราวสังหารโหดครั้งนี้เริ่มแพร่กระจายไปถึงแก๊งของตน จนเป็นเหตุให้สมาชิกแก๊งบางคนเริ่มตั้งคำถามถึงตัวตนที่แท้จริงของ Dutch
ในตอนแรกของเกม Red Dead Redemption 2 ตัว Dutch เป็นคนที่รักพวกพ้อง รักสมาชิกแก๊งราวกับครอบครัว, มีเหตุผล, มีความเป็นผู้นำ แต่นับจากเหตุการณ์ Blackwater Massacre และประสบความล้มเหลวจากการปล้นหลายครั้ง Dutch เริ่มเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงโดยไม่รู้ตัว เขากลายเป็นคนโลภจัด, รักความรุนแรงโดยไม่มีเหตุผล, เห็นผลประโยชน์แก่ตัวเองเป็นหลัก จนเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้แก๊ง Dutch van der Linde ต้องล่มสลาย
ซึ่งเกม Red Dead Redemption ในภาคแรก ถือว่าเป็นการแสดงตัวตนของ Dutch อย่างแท้จริง เขาเกลียดรัฐบาล, เขารับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลง และเขาสามารถสังหารทุกคนแม้กระทั่งผู้หญิงได้อย่างไร้ปราณี รวมไปถึงปลุกระดมชนเผ่าอินเดียแดงเพื่อก่ออาชญากรรมโฉดด้วย การฆ่าล้างบางหรือขโมยทุกสิ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องพวกรัฐบาลทั้งหมด
ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต Dutch ได้สารภาพกับ John Marston หรือหนึ่งในอดีตสมาชิกแก๊งที่ เคย เปรียบเสมือนลูกชายคนที่สอง เขากล่าวว่า Dutch รู้ตัวดีว่าสิ่งตนเองทำเป็นการกระทำไม่ต่างจากปีศาจร้าย แต่เขาไม่สามารถต่อกรกับตัวตนที่แท้จริงได้เช่นกัน เขาจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยปล่อยตัวออกจากหน้าผา พร้อมกับบอกว่า “ยุคสมัยของพวกเราจบลงแล้ว”
