BY KKMTC
6 Jul 22 5:48 pm

Chex Quest เกม DOOM Clone จากกล่องขนมซีเรียล กลายเป็นเกม Cult Classic ที่แฟนชื่นชอบ

39 Views

หากพูดถึงอาหารเช้าที่เด็ก ๆ หลายคนชื่นชอบ ก็ไม่มีทางหนีพ้นขนมซีเรียลที่ทั้งกินง่าย หวานอร่อย อิ่มพอดีท้อง และมีประโยชน์ต่อร่างกายสำหรับเด็กที่กำลังโต

เนื่องจากซีเรียลเป็นอาหารจานโปรดของเหล่าเด็ก ๆ ทำให้ช่วงปี 1980 ถึง 1990 ทางผู้ผลิตซีเรียล จึงจับมือร่วมกับทีมพัฒนาเกม เพื่อจัดแคมเปญนำแฟรนไชส์เกมดังมาทำเป็นซีเรียล หรือขอให้พัฒนาเกม แล้วนำเกมของพวกไปใช้เป็นของแถมจำนวนจำกัดในกล่องซีเรียล เพื่อหวังเพิ่มยอดขายอย่างก้าวกระโดด

เกมในกล่องซีเรียลส่วนใหญ่เป็นเกมสำหรับเด็ก แนวเน้นการเรียนรู้ หรือไม่ก็เกมโคลนลอกเลียนแบบมาจากเกมอื่น แต่มีเกม ๆ หนึ่งที่แตกต่างจากเกมอื่นที่แถมมาในกล่องอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนั่นคือ Chex Quest เกมโคลน DOOM จากกล่องขนมซีเรียล กลายเป็นเกม Cult Classic ที่แฟนชื่นชอบ

ต้นกำเนิดของ Chex Quest เกมที่ใช้ต้นทุนเพียง 500,000 เหรียญฯ

Chex Quest (5)

ภาพกล่องซีเรียล Chex โดย u/xmrvile (จาก Reddit)

Chex Quest เป็นเกม FPS ที่แถมมาในกล่องซีเรียล Chex เมื่อปี 1996 แต่ถึงแม้มันเป็นเกมที่โคลนจาก DOOM แต่ทว่าเกมดังกล่าวกลับได้รับเสียงชื่นชมว่าเป็นเกมที่เล่นสนุกสนาน ทำให้ Chex Quest เป็นหนึ่งในเกม Cult Classic ที่บางคนหลงรักจนถึงทุกวันนี้

Chex Quest พัฒนาโดย Digital Café ซึ่งเป็นทีมงานขนาดเล็กที่มีจำนวนพนักงานแค่ไม่กี่คน โดยพวกเขาถูกมอบหมายให้สร้างเกม ที่ต้องแสดงภาพลักษณ์ของแบรนด์ Chex ที่ให้อารมณ์ “น่าตื่นเต้น กับสนุกสนาน” อย่างชัดเจน พร้อมได้รับงบประมาณการสร้างเกมที่ 500,000 เหรียญฯ

เนื่องจากการทำเกมมีงบประมาณ และเวลาสร้างที่จำกัด ทีมงานจึงตัดสินใจติดต่อกับ id Software โดยตรง เพื่อขอซื้อลิขสิทธิ์ เอนจินเกม DOOM ซึ่งตอนนั้น id Software มีความรู้สึกกังวลว่าเกม Quake จะได้รับความนิยมมากเกินไปจนกลบกระแสของพวกเขา ทีมงานจึงตกลงขายเอนจินเกม DOOM ให้แก่ Digital Café ด้วยราคาที่ไม่แพง พร้อมยินดีให้ Digital Café สามารถดัดแปลงเกมอย่างไรก็ได้

Doom 1993

เพราะเหตุผลเกี่ยวกับงบประมาณการสร้างเกมที่มีจำกัดเหมือนเดิม และ Charles Jacobi หัวหน้าแผนกศิลปิน กับโปรแกรมเมอร์ Scott Holman เคยมีประสบการณ์สร้างม็อดเกม DOOM มาก่อน ทีมงาน Digital Café จึงตัดสินใจนำเกม DOOM มาดัดแปลง Reskin ใหม่ โดยเพลงประกอบกับเนื้อเรื่องมีการแต่งขึ้นมาใหม่ ส่งผลลัพธ์ทำให้ถือกำเนิดเกม Chex Quest อย่างรวดเร็ว และได้ทำการแจกฟรีในกล่องซีเรียล Chex โดยไม่มีการคิดราคาของสินค้าเพิ่ม (มีการวิเคราะห์ว่าหากไม่ใช่เกมฟรี ตัวเกมอาจจะวางจำหน่ายในราคา 30-35 เหรียญฯ)

DOOM เวอร์ชันเป็นมิตร เป็นคำอธิบายที่เหมาะที่สุดสำหรับเกมนี้

Chex Quest (3)

แม้ Chex Quest เป็นเกมโคลนที่มีระบบเกมเพลย์ กับหน้าต่าง UI เหมือน DOOM ต้นฉบับ กระทั่ง Jacobi เอง ยังยอมรับโดยตรงว่าเกมดังกล่าวประสบความสำเร็จได้เพราะมันคือ DOOM ที่ปลอมตัวเป็น Chex Quest แต่เหมือนที่กล่าวไว้เมื่อกี้นี้ สาเหตุที่เกมนี้กลายเป็นเกม Cult Classic ได้ ก็เพราะมันคือ “DOOM เวอร์ชันเป็นมิตร”

เนื่องจาก Chex Quest เป็นเกมแถมฟรีที่แจกในกล่องซีเรียล และตัวเกมมุ่งเน้นเจาะตลาดกลุ่มเด็กเป็นหลัก ทีมงานจึงดัดแปลงคอนเทนต์ภายในเกม DOOM ต้นฉบับ ให้กลายเป็นเกมไม่มีเนื้อหารุนแรง และใช้ภาพกราฟิกที่มีสีสันสดใสมากยิ่งขึ้น

จากที่ Doom Guy ถือปืนไล่ยิงมอนสเตอร์จนลำตัวอาบไปด้วยเลือด ในเกม Chex Quest ได้ทำการ Reskin อาวุธใหม่กลายเป็นอาวุธ “Zorcher” ที่ยิงออกมาแล้วจะกลายเป็นเลเซอร์ และเปลี่ยนการต่อย ให้กลายเป็นใช้อาวุธ Melee อย่าง “ช้อน” ที่เรียกว่า “Bootspoon” แทน

Chex Quest (4)

ส่วนศัตรูได้เปลี่ยนจากมอนสเตอร์ที่มีหน้าดุร้าย ตาสีแดงสุดอำมหิต กลายเป็นเจ้ามนุษย์ Slime สีเขียว ที่แม้มันมีหน้าตาขยะแขยง แต่หากเทียบกับมอนสเตอร์ของเกม DOOM แน่นอนว่าหน้าตาของมันไม่ได้ดุร้ายเลยแม้แต่นิดเดียว

นอกจากนี้ Chex Quest มาพร้อมกับการนำเสนอเนื้อหาตลกขำขันในสไตล์คอมิกส์ รวมถึงภาพกราฟิกของเกมนี้ จัดว่ามีความสวยงาม ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนไม่ได้คาดหวังจากเกมโคลน DOOM และเกมที่แถมมาจากกล่องซีเรียล

แน่นอน ระบบเกมเพลย์โดยรวมยังคล้ายกับ DOOM คือผู้เล่นต้องกำจัด Slime ให้หมด เพื่อเข้าสู่ด่านถัดไป โดยระหว่างทางจะมีอาวุธ กระสุน เกราะ ผลไม้กับซีเรียล Chex สำหรับเพิ่มหลอดเลือดให้เก็บ รวมถึงมีด่าน Secret ให้ปลดล็อกด้วยการสำรวจ ก็ต้องบอกเลยว่า DOOM เวอร์ชันเป็นมิตร เป็นคำอธิบายที่เหมาะที่สุดสำหรับเกมนี้แล้ว

Chex Quest เกมโคลน DOOM ที่กลายเป็นเกม Cult

เนื่องจาก Chex Quest เข้าถึงกลุ่มเด็กได้ง่ายมาก ๆ เพราะมันคือเกมสนุกที่แจกฟรีผ่านกล่องซีเรียล เกมดังกล่าวจึงได้รับความนิยมในหมู่เด็กโต แล้วมีการบอกต่อ ๆ กันมาจนแฟนเกม DOOM ก็ได้รู้จักเกมนี้ตามมา ส่งผลลัพธ์ทำให้ Chex Quest กลายเป็นเกม Cult Classic ไปโดยปริยาย

นอกจากนี้ Chex Quest ใช้เอนจินเดียวกับ DOOM ฉะนั้นตามเทคนิคแล้ว ม็อดของ DOOM จึงสามารถใช้ร่วมกับเกม Chex Quest ได้ หรือหมายความว่าม็อดยอดนิยมอย่าง การสนับสนุนภาพความละเอียด 4K หรือม็อดเพิ่มความรุนแรง ก็สามารถใช้กับเกมนี้ได้เช่นกัน

ด้วยความนิยมของ Chex Quest ทำให้ทีมงาน Digital Café ได้สร้างเกมภาคสองในปี 1997 แล้วปล่อยให้ดาวน์โหลดฟรีผ่านเว็บไซต์ทางการของ Chex (ปัจจุบัน เกมดังกล่าวไม่สามารถดาวน์โหลดได้อีกต่อไป เนื่องจากเว็บไซต์ทางการได้หมดอายุแล้ว) และสุดท้าย เกมภาคสามได้เปิดให้เล่นฟรีในปี 2008 ซึ่งเกมดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้น เพราะแฟน ๆ ได้เรียกร้องขอกันเป็นจำนวนมาก

Chex Quest HD

Chex Quest ถือเป็นผลงานความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของ Digital Café ที่สามารถพัฒนาเกมฟรีที่แถมจากกล่องซีเรียลให้กลายเป็นเกม Cult เฉพาะกลุ่มได้

ล่าสุด Chex Quest HD ได้รับการ Remaster ใหม่ให้มีภาพกราฟิกคมชัดมากขึ้น และปล่อยให้ดาวน์โหลดเล่นฟรีผ่านแพลตฟอร์ม Steam ถ้าหากเกมเมอร์สนใจเกมดังกล่าว ก็สามารถเข้าไปที่หน้าร้านค้าได้เลย ที่นี่

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top