ช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แฟนเกม Final Fantasy หลายคนคงได้ปลื้มปริ่มไปกับ Final Fantasy VII Remake ไปอย่างท่วมท้น เพราะเป็นหนึ่งในเกมแบบ Remake ที่หลายคนรอคอย แต่สำหรับแฟนเกมแนว RPG น่าจะยังมีอีกหนึ่งเกมที่อยากให้ Square Enix นำกลับมาสานต่อหรือ Remake ใหม่อีกรอบเช่นกัน มันเป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้นประทับใจ มีทางเลือกมากมายให้ผู้เล่นเลือกทำ และตัวร้ายที่ทรงเสน่ห์ มันคือหนึ่งในตำนานที่หลายคนอยากให้คืนชีพกลับมาอีกครั้ง ซึ่งเกมที่ว่านั้นก็คือ Chrono Trigger นั่นเอง
ย้อนกลับไป ในยุคที่ Square Enix เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้นจากเกมซีรีส์ Final Fantasy การกล้าเสี่ยงและติดสินใจพัฒนาเกมที่เหมือนเป็นเกมสุดท้ายของพวกเขาประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม เกมทั้งห้าภาคที่ออกวางจำหน่ายในช่วงนั้นล้วนได้รับความนิยมสูงลิ่วในประเทศญี่ปุ่นก่อนที่จะขยายมาสู่ตลาดตะวันตกในภายหลัง
ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับเหล่าทีมงานและคุณ Hironobu Sakaguchi ผู้เป็นทั้งผู้สร้างและโปรดิวเซอร์ของเกม Yoshitaka Amano ผู้วาดงานศิลป์ระดับตำนานในเกมจนเป็นที่จดจำของหลายคน นำพา Square Soft ให้ผ่านพ้นวิกฤติและทำให้ชื่อ Final Fantasy เป็นที่จดจำมาจนทุกวันนี้
ปี 1992 คุณ Sakaguchi ได้มีโอกาสเดินทางไปยังประเทศอเมริกาเพื่อศึกษาค้นกว้าเรื่อง Computer Graphics โดยเขาได้เดินทางไปกับคุณ Yuji Horii โปรดิวเซอร์และผู้สร้างเกม Dragon Quest จาก Enix และคุณ Toriyama Akira ผู้ออกแบบตัวและนักเขียนมังงะ Dragonball ที่โด่งดังอย่างมาก ซึ่งพวกเขาก็ได้พบปะพูดคุยกันหลายเรื่องอย่างถูกคอ จนตัดสินใจที่จะเริ่มทำอะไรบางอย่างร่วมกัน “ในแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน”
ซึ่งพวกเขาทั้งสามคนได้พูดคุยปรึกษาในเรื่องนี้ร่วมกันมานานนับปี ระดมสมองและไอเดียพร้อมทีมงานระดับหัวกะทิเพิ่มเติม เช่นคุณ Masato Kato มือเขียนบทและผู้วางโครงเนื้อเรื่องจาก Square Kazuhiko Aoki ที่ขันอาสามาเป็นโปรดิวเซอร์ของเกม รวมถึงทีมงานอีกกว่า 50 ชีวิตมาร่วมแรงใจกัน จนการพัฒนาเกมได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นปี 1993 และหลังจากผ่านไปประมาณสองปี โปรเจกต์ที่มีชื่อว่า Chrono Trigger ก็ได้วางจำหน่ายให้แฟนเกมได้เล่นกันบนเครื่อง Super Famicom และ SNES ในที่สุด
Chrono Trigger เป็นเรื่องราวแฟนตาซีที่อิงยุคกลางของยุโรปบนดวงดาวที่คล้ายกับโลก เด็กหนุ่มนามว่า Chrono ได้ออกเดินทางไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนสมัย Luccaและได้พบกับ Marle เจ้าหญิงตัวน้อยที่แอบหนีมาจากในวังเพื่อสัมผัสกับอิสรภาพนอกรั้ว ทั้งสามได้เจอกันและเที่ยวเล่นอย่างสนุกสนานในงานเทศกาล
จนเหล่าเด็ก ๆได้มาเจอกับการแสดงใช้สิ่งประดิษฐ์เครื่องย้ายมวลสาร ทว่า Marle ที่ทดลองขึ้นไปแสดงบนเวทีกลับโดนวาร์ปหายไปไม่กลับมา ทำให้ Chrono และ Lucca ต้องออกตามหาเธอ และหลุดเข้าไปในห่วงเวลาของยุคต่าง ๆ มากมายทั้งอดีต ปัจจุบันที่ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลง และอนาคตอันมืดมิด ซึ่งจุดจบของเรื่องจะเป็นอย่างไรนั้นก็เป็นหน้าที่ของผู้เล่นที่ต้องไปค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง
สิ่งที่ทำให้ Chrono Trigger แตกต่างจากเกม RPG เกมอื่นในยุคนั้นไม่ได้มีแค่เรื่องของพลอตเรื่องที่เกี่ยวกับการบิดเบี้ยวและเปลี่ยนแปลงของเวลาเท่านั้น
แต่การกระทำและตัดสินใจของผู้เล่นนั้นจะมีผลต่อฉากจบและเนื้อเรื่องที่ดำเนินไปด้วย โดยเราจะสามารถเดินทางข้ามเวลาไปมาในยุสมัยต่าง ๆ ได้เกือบจะอิสระ มี Side Quest ให้ทำเพื่อรับรางวัลเป็นท่าไม้ตายหรืออาวุธพิเศษมาครอบครองได้ ยิ่งในเวอร์ชั่นใหม่ที่ออกมาก็มีการขยายความเนื้อเรื่องจนดีขึ้นไปอีก ชวนให้เคลิ้มกับเนื้อเรื่องไปได้ไม่ยากเย็น
และยังมีโหมด New Game+ เริ่มเล่นรอบใหม่ได้โดยที่สามารถนำตัวละครที่เล่นไว้ในรอบที่แล้วมาทำเนื้อเรื่องใหม่ได้ ไม่ต้องเสียเวลาเล่นใหม่อีกรอบ(ยกเว้นเงินที่ต้องหาเก็บใหม่อีกรอบหนึ่ง หรืออาวุธบางชิ้นที่ต้องเองใหม่อีกครั้ง) และก็นำระบบนี้ไปต่อยอดกับเกมอื่น ๆ เครือเพิ่มเติมอีกภายหลังในเวลาต่อมา
ส่วนระบบการเล่นของเกมก็ได้รับการยกเครื่องขึ้นมาจากเกมของ Square Soft อย่างน่าสนใจ โดยมีชื่อเรียกว่าว่า Active Time Battle 2.0 ที่ยังอ้างอิงระบบโดยรวมจากเกม Final Fantasy มาปรับปรุงใหม่ ซึ่งเราต้องรอให้เกจ Active Time เต็มเสียก่อนจึงจะสามารถใช้คำสั่งโจมตี ท่าไม้ตาย หรือพลังเวทได้ และตัวละครแต่ละตัวจะมีความเร็วในการชาร์จเกจ ATB ไม่เท่ากัน ทำให้การจัดทีมยังคงเป็นสิ่งที่ท้าทายเหมือนเดิม
แถมในเวลาต่อมาเมื่อตัวเกมถูกสร้างใหม่อีกครั้งในเครื่อง PlayStation และ Nintendo DS ทางทีมงานก็เพิ่มเนื้อหาใหม่ของเกมเข้าไปอีก ทั้งภาพยนตร์ Cutscene แบบอนิเมชั่นที่ลงทุนสร้างและทำโดย Bird Studios ของ Toei Animation ผู้เคยฝากผลงานอนิเมชั่นยอดเยี่ยมอย่าง Dragonball เอาไว้ และเพิ่มเนื้อเรื่องใหม่เข้าไป ส่วนบน Nintendo DS ก็ปรับปรุงการแปลภาษาของเกม ปรับกราฟฟิกให้ดูดีขึ้นและเพลงประกอบใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม เรียกว่าออกมาใหม่กี่ครั้งก็ยังมีคุณภาพสูงเสมอมา
Chrono Trigger กลายเป็นเกมที่ติดอันดับขายดีบนเครื่อง Super Famicom ในประเทศญี่ป่นแทบจะในทันที โดยขายได้ถึงสองล้านชุดหลังจากวางขายไปเพียงสองสัปดาห์เท่านั้น สื่อเกมทั่วโลกต่างให้คะแนนในระดับสูงแทบทั้งสิ้น ด้วยเนื้อเรื่องที่กินใจและน่าติดตาม มีความแหวกแนวและพัฒนามากกว่าเกม RPG อื่น ๆ ในยุคเดียวกัน บวกรวมกับการออกแบบตัวละครจากอาจารย์ Toriyama ที่ทุกคนคุ้นเคยจากเรื่อง Dragonball ก็ยิ่งทำให้เกมนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้นไปอีก พร้อมกวาดรางวัลไปอีกเพียบ และยังถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดแห่งยุคเฮย์เซย์ของญี่ปุ่นอีกด้วย
ด้วยความสำเร็จที่เคยเกิดขึ้นมาทำให้แฟนเกมหลายคนต่างถวิลหาภาคต่อไปไม่ก็ภาค Remake นำเรื่องราวกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง เพราะเชื่อว่ามันจะต้องออกมายิ่งใหญ่ไม่แพ้ Final Fantasy VII Remake ที่ทีมงานเคยพิสูจน์ฝีมือมาแล้วนั่นเอง และภาคต่ออย่าง Chrono Cross ก็ทำได้ดี แม้จะไม่ได้ยิ่งใหญ่ถึงขนาดภาคต้นตำรับ แต่ก็สร้างความประทับใจให้ผู้เล่นได้ไม่น้อย จนถึงปัจจุบันนี้ Chrono Trigger ก็ถือเป็นอีกเกมที่หลายคนต้องการให้ทาง Square Enix นำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้งอย่างมากมายไม่แพ้เกมอื่นในค่ายเลย
แม้ปัจจุบันนี้ชื่อของ Chrono Trigger จะจางหายไป แต่สำหรับแฟนเกมแล้ว นี่คือเกม JRPG ที่อยู่ในระดับสุดยอดมากอีกหนึ่งเกมและควรได้รับการคืนชีพกลับมา และแม้ความหวังจะเลือนราง แต่ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นซีรีส์นี้กลับมาโลดแล่นในอนาคตก็เป็นได้ครับ