Cooking Mama กับตำนานการจุดประกายความเป็นเชฟของเกมเมอร์

ช่วงที่หลายคนต้องห่อเหี่ยวอยู่กับบ้านเพราะไวรัสระบาดแบบนี้ชวนให้เบื่อได้มากมายเหมือนกัน แต่หลายคนที่มีหนทางก็พยายามหาวิธีแก้เบื่อหรือพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ให้ตัวเอง หนึ่งในนั้นคือการทำอาหารที่ได้รับความนิยมมาก มีการหาสูตรที่ทำได้จากที่บ้าน แล้วถ่ายรูปมาอวดกัน ซึ่งสำหรับคนที่ทำอาหารไม่เป็นแต่ไม่อยากเปลืองเงินซื้อวัตถุดิบมาทำเสียก็มีทางออกอยู่บ้าง นั่นคือเล่นเกมทำอาหาร และวันนี้เราจะมาพูดถึงเกมคลาสสิกในตำนานอย่าง Cooking Mama กัน

ย้อนกลับไปในปี 2006 ในสมัยนั้นเครื่องเกมแบบพกพาเริ่มมีวิวัฒนาการที่น่าทึ่งขึ้นมาแบบก้าวกระโดด ทั้ง Nintendo DS ที่ใส่ระบบการควบคุมแบบ Touch Pad ด้วยการใช้ปากกา Stylus จิ้มไปที่หน้าจอด้านล่าง ช่วยเสริมให้รูปแบบการเล่นของเกมต่าง ๆ หลากหลายขึ้นไม่ใช่แค่กดปุ่มอย่างเดียว ทำให้เราได้เห็นเกมสนุก ๆ หลายเกมกกำเนิดขึ้นมา เช่น Brain Age, Wario Ware และ Cooking Mama เกมนี้ด้วยเช่นกัน

Cooking Mama เป็นผลงานของค่าย Office Create (เปลี่ยนชื่อมาเป็น Cooking Mama Ltd. ในภายหลัง) ซึ่งตัวเกมมีกติกาที่ไม่ซ้ำซ้อน นั่นก็คือการทำอาหารตามเมนูที่ได้รับมอบหมายมา เช่นแกงต่าง ๆ เมนูเนื้อ ผัก และอีกมากมาย ซึ่งความสนุกของเกมมาจากการใช้หน้าจอ Touch Pad ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งการหั่น ขูด ตกแต่ง และอีกมากมาย

ซึ่งทางทีมพัฒนาใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยของเกมราวกับว่าตัวผู้เล่นนั้นได้เข้าครัวทำอาหารจริง ๆ เช่นในหน้าจอการขูดขิง ผู้เล่นต้องคอยมาดูว่ามีขิงติดอยู่ตรงตะแกรงขูดหรือไม่ และต้องมาคอยขูดออกเองทีหลัง หรือการหมักเนื้อที่อาจจะดูยุ่งยากกว่าเดิม แต่ก็ช่วยให้ผู้เล่นตั้งสมาธิกับเกมได้ ซึ่งองค์ประกอบเล็ก ๆ เหล่านี้ช่วยให้เราเล่นเกมได้สนุกขึ้นไปด้วย

แม้สื่อต่าง ๆ จะมองว่า Cooking Mama เป็นเกมที่ดูเรียบง่ายและธรรมดาด้วยคะแนนรีวิวที่อยู่ในระดับกลาง ๆ (คะแนนสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 7/10) แต่ความเรียบง่ายนี้กลับถูกใจผู้เล่นสาย Casual ที่ไม่จริงจังเกมมิ่งมากนัก

ไม่ว่าจะด้วยภาพกราฟฟิกของเกมที่ดูน่ารักเข้าถึงทุกเพศทุกวัย ระบบการเล่นที่เข้าใจง่าย และสูตรอาหารต่าง ๆ ในเกมที่ดัดแปลงมาจากของจริง แม้จะไม่ถึงขั้นเอาไปใช้ได้เลยแต่ก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เล่นอยากเข้าครัวกันอยู่ไม่น้อย

หรือผู้เล่นแบบจริงจังเองก็สามารถเพลิดเพลินกับเกมได้เหมือนกัน เพราะสูตรอาหารบางสูตรก็ต้องอาศัยความอดทนและจับจังหวะให้ถูกต้อง ถ้าไม่จริงจังมากพอก็คงทำไม่ผ่าน ความท้าทายนี้จึงช่วยดึงดูดให้หลายคนติดหนึบกับเกม เพราะอยากทำเมนูโปรดให้ออกมาสมบรูณ์นี่แหละ ซึ่งตอนนั้นผู้เขียนและน้องสาวเองต่างก็ยื้อแย่งเจ้าเครื่อง Nintendo DS เพื่อเล่นเกมนี้กัน ไม่ต่างกับสมัยที่แย่งกันเล่น The Sims เลยแม้แต่น้อย

ความสำเร็จของ Cooking Mama นั้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ด้วยยอดขายร่วม 4 ล้านชุดทั่วโลก และมีภาคต่อตามมาอีกมหาศาล และไม่ต้องพูดถึงในประเทศไทย เพราะเกมนี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่สาว ๆ หลายคนอยากได้เครื่อง Nintendo DS มาไว้ในครอบครอง ซึ่งหลังจากนั้นเราก็มีเกมภาคต่อจากคุณแม่ผู้ชื่นชอบการทำอาหารเกมนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพิ่มสูตรใหม่มาท้าทายกึ๋นของผู้เล่นแทบทุกปีจนจบยุคของเครื่อง DS กันเลย

Léa passion cuisine(เกมขวา) หนึ่งในเกมเลียนแบบจำนวนมากที่ออกมาเกาะกระแสของเกม Cooking Mama

และไม่ต้องพูดถึงค่ายเกมอื่น ๆ ที่อยากเกาะกระแสเลย เพราะเราก็ได้เห็นบรรดาเกม Flash กับเกมเลียนแบบบนมือถือและเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ลอกเลียนวิธีการเล่นของ Cooking Mama ออกมาน่าจะไม่ต่ำกว่าพันเกม ดัดแปลงและแก้ไขจนเราแทบแยกไม่ออกว่าของใครเป็นของใคร จนเราแทบจะเรียกได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองของเกมทำอาหารแบบหน้าจอสัมผัสกันเลยก็ว่าได้

ส่วนปัจจุบันนี้ Cooking Mama ก็มีภาคต่อมาจนถึงภาค Cookstar ทว่าก็มีปัญหาดราม่าตามมาหลังจากวางจำหน่ายไปได้ไม่นาน เพราะผู้พัฒนากับผู้จัดจำหน่ายเกมมีปัญหาขัดแย้งกัน เนื่องจากทางผู้จัดจำหน่ายได้ปล่อยตัวเกมวางขายออกมาก่อนโดยไม่ได้รับความยินยอมจากทาง Cooking Mama Limited พวกเขาจึงใช้อำนาจทางกฎหมายในการถอดถอนเกมออกจากหน้าร้านค้า eShop ของทาง Nintendo ซึ่งก็ยังบอกไม่ได้ว่าตัวเกมจะกลับมาวางจำหน่ายได้อีกเมื่อไหร่

แต่แม้ตอนนี้ตัวเกมภาคล่าสุดจะมีปัญหาขัดแย้ง เราก็ยังสบายใจได้ว่าทีมพัฒนาเกม Cooking Mama นี้จะยังคงสร้างสรรค์ผลงานเกมทำอาหารออกมาให้เราได้สนุกกันต่อไปหลังจากนี้แน่นอนครับ