BY Nuttawut Apiratwarakul
16 Mar 23 8:35 pm

รายละเอียด Class ทั้งหมดใน Diablo 4

2,061 Views

รายละเอียดโดยรวมของเหล่า Class หรือ อาชีพทั้งหมดจากเกม Diablo 4 จะได้พร้อมรับมือกับเหล่าอสูรจากนรกในตัวเกมไม่ว่าจะเล่นบน Platform เครื่องไหนก็ตาม

ใกล้วางจำหน่ายกันเต็มที่แล้วสำหรับ Diablo 4 ยอดเกม Action RPG แห่งยุคที่เกมเมอร์ทั่วโลกต่างรอคอย สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าอยากจะเล่นอาชีพไหน หรือใครที่กำลังมองหาข้อมูลเบื้องต้นของอาชีพทั้งหมดภายในเกมไกด์นี้เรารวม รายละเอียด Class ทั้งหมดใน Diablo 4 มาไว้ให้แล้ว

ซึ่งตัวไกด์จะมีการอัพเดทเพิ่มเติมเรื่อย ๆ เมื่อมีข้อมูลใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามา ดังนั้นก็แวะเวียนกลับมาเยี่ยมกันได้ในตอนเกมออก

สำหรับข้อมูลทั้งหมดที่เรารู้เกี่ยวกับอาชีพทั้งหมดใน Diablo 4 ก็ประกอบไปด้วยอาชีพทั้งหมด 5 อาชีพ

อาชีพใน Diablo 4

Diablo 4 จะมีอาชีพทั้งหมด 5 อาชีพในตอนแรกเมื่อเกมวางจำหน่าย. ประกอบไปด้วย:

  • Barbarian
  • Druid
  • Sorceress
  • Rogue
  • Necromancer

และด่านล่างคือรายละเอียดเชิงลึกของทุกอาชีพ

Barbarian

อาวุธและรูปแบบการโจมตี : ดาบ ขวาน ค้อน อาวุธคู่ อาวุธใหญ่สองมือ

รูปแบบการเล่น : เน้นการต่อสู้ระยะประชิดด้วยท่าโจมตีที่รุนแรงและการเสริมพลัง

ระบบพิเศษ : Arsenal System ทำให้ Barbarian ใส่อาวุธได้ 4 ช่องและสลับอาวุธสองชุดไปมาได้ตลอดเวลา สามารถเลือกใช้งานอาวุธได้ตรงทุกสถานการณ์ ผู้เล่นสามารถเลือกติดตั้งอาวุธลงในช่อง Skill เพื่อทำให้ผลของ Skill มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นอาวุธอย่างค้อนยักษ์หรือดาบจะทำให้ลักษณะและโบนัสพิเศษของ Skill มีความแตกต่างกันไป 

Barbarian คือนักรบสายต่อสู้ระยะประชิดที่เน้นการโจมตีทางกายภาพด้วยการใช้อาวุธมากมายหลายแบบ ในภาคนี้ผู้เล่นสามารถเลือกสลับอาวุธไปมาและการใช้อาวุธก็มีผลกับ Skill ต่าง ๆ โดยตรง ในด้านของสาย Skill นั้นความสามารถหลักของ Barbarian แบ่งออกเป็นสามสายคือ

Weapon Skill ความสามารถในการใช้อาวุธเข้าโจมตีศัตรู เป็น Skill หลักในการสร้างความเสียหาย

Combat Skill ความสามารถในการต่อสู้ เป็นท่าการโจมตีหรือเคลื่อนไหวที่ไม่ได้ใช้อาวุธเช่นท่ากระโดด ท่าถีบ หรือท่าพุ่งชน

Warcries Skill ท่าตะโกนที่เป็นท่าลายเซ็นประจำตัวอีกสายของ Barbarian ในทุกภาคที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในการเพิ่ม Buff และ Debuff

Druid

อาวุธและรูปแบบการโจมตี : ร่างหมี ร่างหมาป่า อาคมดิน สายฟ้า และลูกสมุน

รูปแบบการเล่น : สายผสมระหว่างการโจมตีระยะประชิดและเวทมนต์เสริมด้วยการเรียกลูกน้อง

ระบบพิเศษ : Spirit Animal หรือวิญญาณสัตว์ป่า Druid มีความสามารถในการจัดการศัตรูเพื่อเก็บแต้มนำไปใช้ปลดพลังขอ “พร” จากวิญญาณสัตว์ที่เลือกใช้ ภายในเกมจะเรียกว่า Boon ซึ่งมีสัตว์ป่าให้ไล่ปลดมาใช้งานกัน 5 รูปแบบ แต่ละรูปแบบจะมีโบนัสให้เลือกติดตั้งแตกต่างกันไป 

Druid หวนคืนกลับมาอีกครั้งหลังห่างหายกันไปในตัวเกมภาคที่ 3 กลับมาครั้งนี้ Druid ยังคงความสามารถหลักไว้เหมือนเดิมนั่นคือการต่อสู้ด้วยการแปลงร่าง การใช้คาถา และการเรียกลูกน้องมาช่วยสนับสนุน ความสามารถหลักของ Druid ถูกแบ่งออกเป็นสี่สายคือ 

Shape Shifting Skill การแปลงร่างเพื่อเพิ่มความสามารถให้กับ Druid ในภาคนี้การแปลงร่างจะถูกใส่เข้าไปใน Skill โจมตี ไม่ใช่ปุ่มกดแปลงร่างแบบใน Diablo 2 อีกต่อไปแล้ว ทำให้ในภาคนี้การแปลงร่างจะมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นแลกกับการที่ Druid จะไม่สามารถร่ายอาคมได้ในระหว่างอยู่ในร่างแปลง

Earth Skill อาคมดินมีโอกาสติด Crushing Blow ลดเลือดศัตรูจากเปอร์เซ็นพลังชีวิตทั้งหมด

Wind Skill อาคมธาตุลมเน้นการโจมตีหมู่และมีขอบเขตขนาดใหญ่

Summon Skill ความสามารถในการเรียกสมุนมาช่วยต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็น อีกา หมาป่า หรือ เถาวัลย์มีชีวิต

Sorceress

อาวุธและรูปแบบการโจมตี : ไม้เท้า เวทมนต์ ไฟ สายฟ้า และน้ำแข็ง

รูปแบบการเล่น : มีเวทมนต์ที่มีพลังทำลายล้างสูงแลกกับความอ่อนแอของพลังป้องกัน

ระบบพิเศษ : Enchantment System ตัวละคร Sorceress มีช่อง Skill พิเศษ 3 ช่องที่เมื่อนำ Skill ไปติดตั้งไว้จะเป็นการใช้งาน Skill Passive ใหม่ (เช่นเรียกดาวตกโดยอัตโนมัติโดยไม่สามารถเล็งได้)

Sorceress หรือผู้ใช้อาคมอีกหนึ่งอาชีพยอดนิยมที่เป็นที่ชื่นชอบของเกมเมอร์สายร่ายเวท ครั้งนี้ความสามารถส่วนใหญ่ของ Sorceress ก็ยังคงเป็นความสามารถในการโจมตีโดยตรงเป็นหลักอยู่เช่นเดิม แต่ครั้งนี้มีลูกเล่นใหม่เพิ่มเติมคือบางอาคมจะทิ้งลูกพลังงาน Crackling Energy เอาไว้ ซึ่งเจ้าบอล Crackling Energy จะสร้างความเสียหายให้ศัตรูและฟื้นมานาให้กับ Sorceress หากเดินเข้าไปเก็บ ความสามารถหลักของ Sorceress ถูกแบ่งออกเป็นสามสายคือ 

Lightning Spell เวทสายฟ้า

Fire Spell เวทไฟ

Cold Spell เวทน้ำแข็ง

Rogue

อาวุธและรูปแบบการโจมตี : มีด ธนู หน้าไม้ และยาพิษ

รูปแบบการเล่น : เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วว่องไวและเข้าจัดการจุดอ่อนของศัตรูด้วยการโจมตีเป็นชุด

ระบบพิเศษ : Rogue เป็นอาชีพที่มีความสามารถพิเศษให้เลือกใช้งาน 3 รูปแบบได้แก่ Combo Points การเก็บแต้มคอมโบจากการโจมตีธรรมดาเพื่อปลดล็อคความสามารถเสริมให้ Skill อื่น, Inner Sight การจับเป้าศัตรูหลักเมื่อโจมตีศัตรูดังกล่าวจะทำให้ Rogue เก็บเพจพิเศษเมื่อเกจเต็มจะใช้ความสามารถได้ไม่จำกัดชั่วระยะหนึ่ง, และ Preparation ซึ่งยังไม่มีข้อมูลในตอนนี้

Rogue มีความสามารถหลากหลายครบเครื่องทั้งการโจมตี การป้องกันและการใช้กับดัก แถมมีการเสริมธาตุอาคมให้กับอาวุธ อาคมที่มีให้ใช้งานประกอบไปด้วย พิษ น้ำแข็ง และเงามืด Rogue ยังสามารถสวมใส่อาวุธระยะประชิดและอาวุธระยะไกลได้พร้อมกัน ความสามารถหลักของ Rogue ถูกแบ่งออกเป็นสามสายคือ 

Melee Skill ท่าโจมตีระยะประชิด

Range Skill ท่าโจมตีระยะไกล

Other Skill การใช้กับดักและท่าเสริมพลังพิเศษให้ความสามารถหลักอื่น ๆ

Necromancer

อาวุธและรูปแบบการโจมตี : อาคมกระดูก เลือด คำสาป และกองทัพลูกสมุน

รูปแบบการเล่น : จัดการศัตรูด้วยลูกสมุนหลายแบบและอาคมคำสาปอันทรงพลัง

ระบบพิเศษ : Book of the Dead System คัมภีร์ผู้วายชนม์ ทำให้ Necromancer สามารถปรับแต่งลักษณะพิเศษของลูกน้องอย่างเหล่าโครงกระดูกและโกเลมได้ตามใจหรือเรียกปิดใช้งานลูกน้องเพื่อรับโบนัสพิเศษให้ตัวเอง

อาชีพยอดนิยมของผู้เล่นเกมตระกูล Diablo ในเกมภาคใหม่นี้ Necromancer ถูกยกเครื่องใหม่ให้มีการเล่นที่ลื่นไหลมากยิ่งขึ้นแต่ยังคงความสามารถหลัก ๆ อย่างการเรียกลูกสมุนและการใช้เวทที่ทรงพลัง Necromancer ยังเป็นอาชีพเดียวที่มีทรัพยากรอีกอย่างสำหรับเรียกใช้ Skill นั่นก็คือศพของเหล่าศัตรู ความสามารถหลักของ Rogue ถูกแบ่งออกเป็นสี่สายคือ 

Bone คาถาโจมตีหลักของ Necromancer เน้นการโจมตีทางกายภาพและการควบคุมศัตรู

Darkness คาถาความมืดโจมตีศัตรูด้วยเวทคำสาปสร้างความเสียหายแบบต่อเนื่อง

Blood อาคมเลือดเน้นการป้องกันตัวการดูดเลือดจากศัตรู

The Army ความสามารถในการควบคุมลูกน้อง เลือกใช้งานสมุนที่ต้องการ

และนั่นก็คือทั้งหมดที่เรารู้เกี่ยวกับอาชีพต่าง ๆ ในเกม Diablo 4 สำหรับใครที่ต้องการรู้ข้อมูลส่วนอื่นหรืออยากหาสรุปเนื้อหาสำคัญก็สามารถตามไปอ่าน เนื้อเรื่องเกม Diablo ได้เช่นกัน

 

 

Nuttawut Apiratwarakul

โน้ต - Co-Founder / Editor-in-chief

Back to top