Ubisoft พาเราบินมาไกลถึง Los Angeles เพื่อทดสอบเกมใหม่ของค่าย กับผลงานเกม Star Wars แบบ Open World เกมแรกของโลกอย่าง Star Wars Outlaws
หลังได้ลองเล่นกับมือแบบเต็ม ๆ กว่า 1 ชั่วโมงเรามีอะไรมาเล่าให้ฟังบ้างนั้น ไปดูกันเลย
เกริ่นนำ
เปิดตัวกันในปี 2023 และก็ทำให้แฟน ๆ Star Wars รอคอยกันมาโดยตลอด Star Wars Outlaws เป็นเกมแนว Action-Adventure แบบ Open World ที่เนื้อเรื่องเกิดขึ้นในช่วงของภาพยนตร์ภาค 5 และภาค 6 อย่าง The Empire Strikes Back และ Return of the Jedi
ภายในเกมผู้เล่นรับบทเป็น Kay Vess หญิงสาวที่มีอาชีพเป็นพวกนอกกฎหมาย โดยเนื้อเรื่องของเกมจะเป็นการผจญภัยของ Kay เพื่อรวบรวมสมาชิกทีมปล้น ที่มีเป้าหมายเป็นการโจรกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในกาแลกซีเท่าที่เคยมีมา
ก็เรียกได้ว่าเป็นส่วมผสมที่แฟน ๆ อยากเห็นกันมาตลอดในเกม Open World ทั้ง ฉากหลังในไตรภาคต้นฉบับ เรื่องราวที่ไม่ได้มีเจไดเป็นแกนกลางหลัก และตัวเอกผู้อยู่ในวังวนโลกอาชญากรรม
ลองเล่นของจริง
เราได้มีโอกาสทดสอบตัวเกมจาก 3 ภารกิจหลัก ซึ่งโดยรวมแล้วมุ่งเน้นการนำเสนอระบบการเล่นโดยรวม 4 ด้านของเกมนั่นก็คือระบบการต่อสู้ ระบบลอบเร้น การเคลื่อนที่ และการขับยาน
ภารกิจแรกที่เราเลือกสัมผัส Kay มีเป้าหมายในการบุกเข้าไปขโมย Artifact ล้ำค่าในรังของแก๊งค์โจรกลุ่มนึง ตัวเกมค่อนข้างเน้นหนักให้เรารู้ว่าเราสามารถแอบย่องเข้าไปโขมยของออกมาได้อย่างเงียบ ๆ และกลับกันถ้าเราทำให้เจ้าของรังรู้ตัว ค่าความสัมพันธ์ของเรากับโจรกลุ่มดังกล่าวอาจจะแย่ลงได้
การลอบเร้นหรือระบบ Stealth ก็เป็นแบบง่าย ๆ Kay มีความสามารถพิเศษที่ช่วยในการ Stealth อย่างการ Mark ศัตรูและจุดสำคัญรอบตัว (ด้วยการใช้พลังพิเศษของเจ้า Nix เอเลี่ยนคู่ใจที่ไปผจญภัยด้วยทุกที่) การผิวปากส่งเสียงล่อให้ศัตรูเดินมาหา การย่องเข้าไปด้านหลังศัตรูได้ก็จะเป็นการ Take Down แบบเงียบ ๆ
นอกจากนั้นก็มีกระสุน Stun ที่เป็นความสามารถพิเศษแบบ Cool Down พอยิงไปนัดหนึ่งแล้วต้องรอชาร์จพลังงานกันใหม่ ซึ่งศัตรูแบบธรรมดาทั่วไปจะถูกกระสุน Stun แล้วนัดเดียวจอดทันที
โดยรวม ๆ แล้วระบบการเล่นในส่วน Stealth ของเกมก็เรียบง่าย แต่น่าจะมีส่วนสำคัญอย่างมากในแง่ของผลกระทบต่อเนื้อเรื่องและค่าความสัมพันธ์กับกลุ่มองค์กรต่าง ๆ
อีกจุดที่เป็นหัวใจหลักของเกมก็คือระบบการต่อสู้ Kay มีอาวุธคู่กายเป็นปืนพก Blaster ที่ใช้ระบบระบายความร้อน อธิบายง่าย ๆ ก็คือปืนของ Kay ไม่มีการ Reload เติมกระสุน เราสามารถสาดกระสุนใสเป้าหมายไปได้เรื่อย ๆ แต่หากยิงติดกันมากเกินไปตัวปืนจะติดสถานที Overheat ซึ่งนอกจากเราจะต้องรอให้ค่าความร้อนลดลง หากเรากะระยะเวลาการกดปุ่มได้ถูกจังหวะเราจะสามารถระบายความร้อนทั้งหมดได้ทันที พูดง่าย ๆ ก็คือระบบ Tactical Reload หรือการกะจังหวะกดปุ่ม Reload กระสุนจากเกมยิงอื่น ๆ นั่นเอง
Kay ยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีของกระสุนได้หลากหลาย เช่นกระสุนพลังงานไฟฟ้าซึ่งใช้จัดการโล่และหุ่นยนต์ได้ดี หรือหากจวนตัวหรือเข้าประชิดศัตรูได้ Kay ก็มีลีลาการต่อสู้ระยะประชิดออกหมัดมวยป้องกันตัวได้เช่นกัน
ในด้านการต่อสู้ตัวเกมก็จัดเป็นเกมยิงหลบหลังที่กำบัง ที่สาดกระสุนได้สนุกดี ก็ต้องขอบคุณงานภาพและเสียงที่ทำให้การยิงต่อสู้นั้นดูสนุกเร้าใจใช้ได้ จากที่พอสังเกตุได้ระหว่างการเล่นคิดว่าหลัง ๆ Kay จะมีอุปกรณ์และสกิลใหม่ ๆ ที่ช่วยทำให้การต่อสู้หลากหลายมากยิ่งขึ้นแน่ ๆ
อีกส่วนที่เราได้ทดสอบก็คือภารกิจเนื้อเรื่องที่ Kay ต้องเข้าไปเก็บกู้ชิ้นส่วนระบบนำทางในซากยานของฝ่าย Empire เพื่อนำมาใช้ซ่อมแซนยานตนเอง ก็จัดเป็นภารกิจที่เน้นการนำเสนอ ฉาก สภาพแวดล้อม และ Moment แบบยิ่งใหญ่ นอกจากเราจะได้สำรวจยานและมีการหลบหลีกสิ่งกีดขวางและแก้ปริศนาแบบง่าย ๆ ตัวฉากก็เปิดท้ายด้วยการหลบหนีแบบอลังการระเบิดภูเขาเผากระท่อมแสงสีตระการตา
Part สุดท้ายที่เราได้ทดสอบก็คือภารกิจ “ขับยาน” หนึ่งในไม้เด็ดของเกมนี้ ระบบการเล่นการสำรวจในห้วงอวกาศนั้นแยกเป็นเอกเทศจากการเล่นบนผิวดาวแบบชัดเจน การขับยานจะเป็นการขับแบบอิสระ 3 มิติ หันหัวตีลังกาหมุนไปมาได้ทุกทิศ ซึ่งนอกจากการยิงต่อสู้กับยานอื่น ๆ การขับยานยังถูกใช้เพื่อสำรวจและเดินทางไปยังดาวต่าง ๆ ด้วยตัวเองด้วย การที่ตัวเกมมีฉากแลนดิ้งบนจุดจอดก็ช่วยเสริมบรรยากาศความยิ่งใหญ่ของกาแลกซีได้เป็นอย่างดี
ความประทับใจโดยรวม
ในแง่ของระบบการเล่นต่าง ๆ ก็เป็นไปตามที่เราคาดหวังกันไว้ การควบคุมในเกมนั้นลื่นไหล เข้าถึงได้ง่าย แต่อาจจะดูขาดความลึกไปบ้างตามสไตล์ของเกม Open World
จุดที่ตัวเกมทำได้ดีมาก ๆ ในความรู้สึกของเราก็คือเรื่องของเสียงประกอบและเสียงดนตรี รวมไปถึงการจำลองสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ในจักรวาล Star Wars เรียกได้ว่าระหว่างเล่นนั้นเรารู้สึกจริง ๆ ว่ากำลังผจญภัยอยู่ในโลกของภาพยนตร์
งานภาพในเกมก็ถือได้ว่าสวยงามและมีรายละเอียดที่ “แน่น” กว่าที่เราคิดเอาไว้ โดยเฉพาะในฉากของเมืองต่าง ๆ การเดินทางเข้าไปในเขตชุมชนเราจะได้เห็น NPC จำนวนมากอยู่กันอย่างหนาแน่น มีการพูดคุยทำกิจกรรมต่าง ๆ ของตัวเอง
แต่น่าเสียดายที่ในการทดสอบเราไม่ได้มีโอกาสลองเล่นระบบต่าง ๆ ในฝั่งของ Open World แบบเต็ม ๆ ทำให้ยังมองภาพไม่ออกว่าเมื่อผสมระบบต่าง ๆ ทั้งหมดเข้าด้วยกันรวมไปถึงความเป็น RPG ของเกมแล้วผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาเป็นยังไง
สรุป
Star Wars Outlaws ดูเป็นความสนุกในแบบ Popcorn ที่น่าจะโดนใจแฟน Star Wars ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะใครที่เบื่อเรื่องราวของเหล่าเจได อยากเห็นการผจญภัยในมุมใหม่ ๆ ในจักรวาลนี้
ด้วยการผสมระบบต่าง ๆ จากเกมหลากหลายแนว การเปิดกว้างในการทำภารกิจ NPC ที่ดูมีเสน่ห์ และงานภาพและเสียงอันยอดเยี่ยม มันอาจจะไม่ใช่เกมที่ลุ่มลึกหรือนำเสนออะไรใหม่ ๆ แต่มีคุณภาพในตัวที่ดีมากพอจะทำให้แฟน Star Wars สนุกกับจักรวาลนี้ได้อีกหนึ่งครั้ง
Star Wars Outlaws เตรียมวางจำหน่ายบน PlayStation 5, Xbox Series X/S และ PC ในวันที่ 30 สิงหาคม 2024