เป็นวิธีที่ทำตามได้ง่าย หรือจะปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองก็ได้เช่นกัน
Bayle the Dread (เบย์ล มังกรคลั่ง)
สถานที่ – Shadow of the Erdtree :
- Jagged Peak (ภูผาหินคม)
ความยาก : 9/10 (สู้ปกติ), 3/10 (ลอบเร้น)
- ให้คิดว่านี่คือบอสที่แกร่งสุดรองจาก Final Boss ได้เลย ด้วย HP ที่เยอะมาก และท่าโจมตีที่แรงมาก จึงแนะนำว่าควรมีบัฟ Scadutree Blessing (ความคุ้มครองแห่งพฤกษาเงา) ที่เลเวล 10 ขึ้นไปจะกำลังดี
- (สำคัญ) ในระหว่างทางขึ้นมายอดเขา เราจะได้พบ NPC ชื่อ Igon (อีกอน) ซึ่งแม้ว่าจะพลาดได้ยาก แต่หากใครพลาดและยังไม่ได้พูดคุยกับเขา ให้กลับไปคุยด้วย เพื่อให้เขามาช่วยสู้บอสตัวนี้
- Summon Sign ของ Igon จะไม่ได้อยู่หน้าห้องบอส แต่จะอยู่ข้างในห้อง โดยหากเข้าประตูห้องมาแล้ว จะอยู่ข้างหน้าเราเลย ห่างไป 3-4 ก้าว (เยื้องซ้ายเล็กน้อย)
- ในการสู้บอสครั้งที่ 2 ขึ้นไป เราจะเรียก Igon มาสู้ได้ค่อนข้างยาก เพราะแค่เข้าห้องมา บอสก็แทบจะซัดเราทันทีแล้ว จึงแนะนำให้ติดตั้ง Opaline Bubbletear (หยาดฟองสีไข่มุก) ไว้ในขวดน้ำอมฤต แล้วกดใช้ตั้งแต่ก่อนเข้าห้องเลย เพื่อลดดาเมจในการโจมตีครั้งแรก (ดูรายละเอียดไอเท็มด้านล่าง)
- เมื่อเรามีบัฟของ Opaline Bubbletear จะทำให้เราเดินเข้าไปกด Summon Sign ของ Igon ได้แบบสบายใจ ต่อให้โดนบอสโจมตีในจังหวะแรกก็จะไม่เจ็บตัวเยอะแล้ว และเมื่อกดเรียก Igon ก็สามารถเดินออกมาได้เลย ไม่ต้องรอให้หน้าต่างแจ้งเตือนขึ้นมาก่อน
- จากนั้นรอสักพักจนกว่าบอสจะหันหน้าไปสู้กับ Igon เราค่อยกดเรียก Spirit Ash ขึ้นมาช่วยรุมบอสด้วยอีกหนึ่งตัว
- บอสจะมี 2 เฟส, แต่ไม่ว่าจะเฟสใด กลยุทธ์ก็คือการกลิ้งหลบเข้าหาตัวบอส และพยายามเข้าไปประชิดอยู่ที่ขาข้างขวาเสมอ
- เมื่อบอสโจมตี หรือขยับตัวเปลี่ยนตำแหน่ง ให้เรากลิ้ง / วิ่งหลบไป ในทิศที่อ้อมเข้าหาขาขวา (ด้านหลัง) ของบอส
- ตำแหน่งนี้ค่อนข้างปลอดภัยจากหลายท่า โดยบางท่าที่โจมตีเป็นวงกว้าง เราก็จะมีเวลาเตรียมตัวและกลิ้ง / วิ่งหนีออกมาให้ไกล ๆ ด้วย
- บอสจะเริ่มเข้าเฟส 2 ตอน HP เหลือประมาณ 60% และจะเริ่มบินขึ้นฟ้าแล้วยิงลูกไฟลงมารัว ๆ
- ให้กดล็อคเป้าบอสไว้ แล้ววิ่งหนีมาทางขวาเรื่อย ๆ อย่าหยุด หากท่านี้เล็งเป้าที่เรา เราจะวิ่งหลบลูกไฟได้ทั้งหมดพอดี
- จากนั้นบอสจะลงพื้นแล้วพุ่งเข้ามาด้านหน้า ให้รอจังหวะที่บอสเข้ามาใกล้ก่อนค่อยกดกลิ้งหลบ ถ้ารีบเกินไปอาจจะหลบพลาดได้
- อีกท่าหนึ่งที่ต้องระวัง คือบอสจะบินค้างบนฟ้า แล้วพ่นไฟกวาดมาทางซ้าย / พ่นไฟใส่เราตรง ๆ / ระเบิดที่พื้นอีก 1 ครั้ง (รวม 3 จังหวะ) โดย 2 จังหวะแรก ควรรอให้ไฟมันเข้ามาใกล้ตัวก่อน ค่อยกดกลิ้งหลบมาทางซ้าย อย่ารีบกลิ้งตั้งแต่ตอนที่บอสเริ่มพ่นไฟ เพราะจะมีโอกาสพลาด
สำหรับสายประชิด และสายเวท Pest-Thread Spears (หอกใยแมลง)
- ความยากของสายประชิด คือเราจะกดล็อคเป้าได้แค่ส่วนหัวเท่านั้น ดังนั้นถ้ายืนอยู่จุดอื่นจะมีโอกาสตีวืดเยอะมาก จึงควรอ้อมมา และมีขาขวาบอส คั่นกลางระหว่างเรากับส่วนหัว
- สายเวท Pest-Thread Spears ให้กดร่ายเวทนี้จากตรงขาขวาของบอสได้เลย เพื่อโจมตีให้โดนบอสหลาย Hit ที่สุด
- ตัวอย่างการสู้บอสสำหรับสายประชิด
สำหรับสายเวท Shard Spiral (สะเก็ดขมวดมวน)
- ไม่จำเป็นต้องเกาะติดขาขวาของบอสแล้ว แต่ตำแหน่งที่ปลอดภัยก็ยังเป็นบริเวณด้านหลังอยู่ดี โดยให้ลำตัวบอส คั่นกลางระหว่างเรากับส่วนหัวก่อน แล้วค่อยกดสแปมเวทนี้ใส่รัว ๆ จะทำให้โดนได้หลาย Hit
Cheese Method, ชนะด้วยการลอบเร้น
- วิชาลับสำหรับผู้มัวหมองสายอดทน วิธีนี้คือการร่ายเวทล่องหน แล้วย่องเข้าไปรมพิษใส่บอสจากด้านหลังจนสิ้นมลายตายจากกันไป
- สิ่งที่ต้องเตรียมคือ เถ้าสงคราม Assassin’s Gambit (กลลอบสังหาร) ติดตั้งในอาวุธอะไรก็ได้, เวท Unseen Form (ร่างล่องหน) ซึ่งต้องการค่า INT 16 และมนตรา Poison Mist (หมอกพิษ) ซึ่งต้องการค่า FTH 12 (ดูรายละเอียดด้านล่างสุด)
- จัดสรรขวดยาใหม่ ให้ทุกขวดเป็นสีฟ้า (ฟื้นฟู FP)
- ที่หน้าประตูห้องบอส, ร่ายเวท Unseen Form ด้วยคทาอะไรก็ได้ และกดใช้ท่าของ Assassin’s Gambit เพื่อให้เราอยู่ในสถานะล่องหน (ต้องใช้คู่กัน ถึงจะได้ผล) จากนั้นพอเข้าห้องแล้ว ให้กดย่อตัวลงทันที แล้วย่องมาทางขวาเรื่อย ๆ วนรอบตัวบอสอยู่ไกล ๆ
- บอสจะมองไม่เห็นตัวเรา ตอนแรกมันจะขยับตัวหมุนไปมานิดหน่อย แล้วสักพักก็จะกลับไปยืนนิ่ง
- หลังจากที่ร่ายท่าล่องหนทั้ง 2 เสร็จ ให้เริ่มนับในใจมาเรื่อย ๆ ประมาณ 15 วินาที เมื่อครบแล้วให้กดร่ายท่าทั้ง 2 ใหม่อีกรอบ เพื่อเริ่มล่องหนใหม่ ไม่ให้บัฟขาดช่วง, จริง ๆ แล้วบัฟอยู่ได้นานกว่านี้มาก แต่เผื่อเรากะเวลาไม่ตรง / เผื่อขั้นตอนยิบย่อยไว้, 15 วิฯ จะปลอดภัยกว่า
- ย่องอ้อมมาเรื่อย ๆ จนเมื่อเราอยู่ด้านหลังบอสพอดี ก็ไม่ต้องร่ายท่าล่องหนต่อแล้ว แค่ย่องเข้าไปใกล้ ๆ อย่างเดียวก็พอ จนเข้าไปติดกับขาขวาของบอส
- โดยรวมแล้ว เราจะได้กดบัฟล่องหนแค่ 3 รอบ ก็จะอ้อมมาได้จนถึงด้านหลังบอส
- (สำคัญมาก) ห้ามเผลอลุกขึ้นยืน และห้ามกดกลิ้งเด็ดขาด บอสจะรู้สึกตัวและเริ่มสู้กับเราทันที
- กดกินยาฟ้า ฟื้น FP ให้เต็ม แล้วเริ่มร่าย Poison Mist รมพิษใส่บอสได้เลย โดยกดรอบละ 2 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกันประมาณ 10 วินาที
- สักพัก บอสจะติดพิษจน HP ลดไปเรื่อย ๆ เฉลี่ยแล้วการติดพิษรอบหนึ่ง จะลดได้ประมาณ 3 พันกว่า ๆ
- อาจจะมีบางทีที่ Poison Mist แค่ 2 ครั้งแล้วบอสยังไม่ติดพิษ ก็ให้กดเพิ่มไปอีก 1 ครั้ง
- (สำคัญ) คอยเช็คหลอด FP อยู่เสมอ ถ้าใกล้หมดให้รีบกินยาเติมได้เลย เพราะถ้า FP หมด แล้วเราเผลอกดใช้ Poison Mist, ตัวละครเราจะยืนขึ้น ทำท่าให้ดูว่าขวดยาหมดแล้ว และบอสก็จะเตรียมงาบเราทันที !
- ทำแบบนี้วนไปเรื่อย ๆ จะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ระหว่างนี้ให้เปิดช่อง GamingDose รับชมรายการยืนคุย / นั่งเล่า ที่เราจัดเป็นประจำ เมื่อ HP บอสหมด ก็เป็นอันปิดฉากเบย์ล มังกรคลั่ง โดยไม่ต้องแกว่งอาวุธเราเลยแม้แต่รอบเดียว
- ตัวอย่างการสู้บอสด้วยวิธีนี้ ดูที่วิดีโอด้านล่าง
Opaline Bubbletear (หยาดฟองสีไข่มุก)
ไอเท็มสำหรับปรับแต่งน้ำอมฤตให้กินแล้วได้บัฟ “ลดความเสียหายลงเกินครึ่ง” (ประมาณ 90%) ทำให้รับการโจมตีบอสได้เต็ม ๆ 1 ครั้ง
บอสบางตัวในภาคเสริม Shadow of the Erdtree แค่เราเดินเข้าห้องไปก็แทบจะโจมตีใส่เราทันที จนไม่มีจังหวะให้อัญเชิญ Spirit Ash มาช่วย ดังนั้นถ้าเรามีบัฟนี้อยู่ก็จะกดอัญเชิญได้โดยยอมให้บอสตีใส่เราไปด้วยเลย แบบไม่ต้องกลัวเจ็บตัว
Opaline Bubbletear ดรอปจากบอส Erdtree Avatar (ร่างแยกพฤกษาทอง) ตัวที่อยู่ตรง Minor Erdtree (พฤกษาทองน้อย) ในตอนใต้ของ Limgrave (ลิมเกรฟ)
Shard Spiral (สะเก็ดขมวดมวน)
คาถาหินจรัสสุดโกง ด้วยแอนิเมชันที่เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ทำให้สามารถโจมตีใส่บอสตัวใหญ่ ๆ ได้หลาย Hit จนสร้างความเสียหายได้เยอะมาก ที่สำคัญก็คือกินค่า FP ไม่เยอะ จึงสแปมยิงใส่บอสได้แบบแทบไม่ต้องคิดอะไร
ทั้งนี้ตัวคาถาก็ต้องการค่า INT (ความฉลาด) สูงถึง 27 จึงเหมาะกับผู้ที่เล่นสายเวทอยู่แล้ว หรือมีค่าสเตตัสนี้เกิน 27 (อาจจะอัปเพิ่มให้ถึง หรือรีเซ็ตมาใหม่ก็ได้)
Shard Spiral ซื้อได้หลังจากทำเควสต์ของ Sorceress Sellen (จอมเวทเซลเลน) ไปจนถึงช่วงท้าย และเลือกอยู่ข้างเดียวกันกับเธอ
Pest-Thread Spears (หอกใยแมลง)
มนตราเวอร์ชันอัปเกรดของ Pest Threads (ใยแมลง) ที่ของเดิมก็ว่าโกงแล้ว พอมาอันนี้ก็ยิ่งโกงขึ้น โดยวิธีเล่นจะคล้ายกันกับ Shard Spiral (สะเก็ดขมวดมวน) คือถ้าใช้ยิงใส่บอสตัวใหญ่ ๆ จะทำให้โดนได้หลาย Hit จนสร้างความเสียหายได้เยอะมาก
ทั้งนี้ตัวมนตรา ต้องการค่า FTH (ศรัทธา) สูงถึง 26 จึงเหมาะกับผู้ที่เล่นสายมนตราอยู่แล้ว หรือมีค่าสเตตัสนี้เกิน 26 (อาจจะอัปเพิ่มให้ถึง หรือรีเซ็ตมาใหม่ก็ได้)
Pest-Thread Spears หาได้จากภาคเสริม Shadow of the Erdtree บริเวณพร Church of the Bud, Main Enterance (หน้าประตูใหญ่ โบสถ์ดอกตูม) โดยหันหลังกลับมายังทิศเหนือ, วิ่งลงบันไดมา แล้วเลี้ยวกลับไปตรงโซนด้านหลังบันได จะมีแมลงวงศาเสื่อมสลายเฝ้าอยู่ 2 ตัว เก็บไอเท็มได้จากตรงนั้น
Assassin’s Gambit (กลลอบสังหาร)
เถ้าสงครามที่กดใช้สกิลแล้วจะล่องหนได้พักหนึ่ง ใช้คู่กับเวท Unseen Form (ร่างล่องหน) เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
Assassin’s Gambit ซื้อได้จาก Recusant Bernahl (เบอร์นาห์ล ผู้ตระบัดญัญญัติ) เมื่อเดินทางไปถึง Volcano Manor (คฤหาสน์ภูผาเพลิง) และเข้าร่วมกับฝ่ายนี้ด้วยการพูดคุยกับ Tanith (ทานิธ เจ้าของคฤหาสน์ภูผาเพลิง) และบอส Rykard (ไรคาร์ด) ต้องยังไม่ตาย
Unseen Form (ร่างล่องหน)
คาถาที่ร่ายแล้วจะล่องหนได้พักหนึ่ง ใช้คู่กับเถ้าสงคราม Assassin’s Gambit (กลลอบสังหาร) เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
Unseen Form เก็บได้ในหอคอยพร้อมกับ Unseen Blade (คมดาบล่องหน) จากการแก้พัซเซิล “หอคอยจอมเวทลวงตา” ใน Altus Plateau (ที่ราบสูงอัลตัส) ดูวิธีแก้พัซเซิลแบบเต็ม ๆ ได้ที่นี่
Poison Mist (หมอกพิษ)
พ่นหมอกพิษฟู่ ๆ ให้ศัตรูติดพิษซู่ซ่า
Poison Mist ดรอปจาก Teardrop Scarab (แมลงสคารับ) ตัวที่วาร์ปได้ บริเวณป่าในทิศตะวันออกเฉียงใต้ของพร Castle Morne Rampart (หน้ากำแพงปราสาทโมร์น) ใน Limgrave (ลิมเกรฟ)