เป็นวิธีที่ทำตามได้ง่าย หรือจะปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองก็ได้เช่นกัน
Rellana Twin Moon Knight (เรลาน่า อัศวินจันทร์คู่)
สถานที่ – Shadow of the Erdtree :
- Castle Ensis (ป้อมปราการเอนซิส) ใน Gravesite Plain (ทุ่งสุสาน)
ความยาก : 8/10
- ถ้ามาสู้บอสนี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยที่ Scadutree Blessing (ความคุ้มครองแห่งพฤกษาเงา) ยังมีเลเวลไม่เยอะ อาจจะยากมากเพราะบอสจะตีใส่เราแรง และเราจะตีบอสไม่ค่อยเข้า
- ควรเรียก Needle Knight Leda (เลด้า อัศวินเข็ม) มาช่วยสู้เพื่อดึงความสนใจจากบอส เพราะท่าโจมตีชุดปกติของบอสนั้นจับทางยาก
- Summon Sign ของ Leda เป็นสีทองอยู่ทางด้านซ้ายของประตูห้องบอส
- ยังไม่ควรเรียก Spirit Ash มาช่วยในตอนแรก ปล่อยให้ Leda ดึงความสนใจบอสไปก่อน
- เมื่อเข้าสู่เฟส 2 หรือ Leda ใกล้ตาย ค่อยเรียก Spirit Ash ออกมา เพื่อไม่ให้มีจังหวะใดเลย ที่เราต้องสู้กับบอสตัวต่อตัว
- เมื่อบอสหันหน้ามาเพื่อเตรียมโจมตีใส่เรา, ไม่ต้องเผชิญหน้า แต่ให้วิ่ง / กลิ้งหลบออกมาห่าง ๆ จนเธอหันกลับไปโจมตี NPC, Spirit Ash เหมือนเดิม
- บอสมีท่ารุนแรงอยู่เยอะมาก ควรเติม HP ให้เต็มไว้ตลอด เพราะพลาดไม่กี่ทีก็ลงไปนอนแผ่ได้เลย
- ท่าที่ต้องระวังคือท่าฟันดาบเวท 2 ที (ไกลมากและแรงมาก) โดยจะเริ่มจากฟันแนวดิ่งก่อน แล้วต่อด้วยแนวนอน ท่านี้กะจังหวะหลบค่อนข้างยาก ให้กลิ้งหลบเร็วกว่าที่เคยชินสักประมาณเสี้ยวอึดใจ
- เมื่อบอสเสกดาบเวทเล็ก ๆ ขึ้นมา ดาบจะบินพุ่งใส่เราเรื่อย ๆ ให้ใช้วิธีวิ่งหลบออกด้านข้าง ห้ามหยุดวิ่ง
- ที่อันตรายสุดคือท่าไม้ตาย ‘จันทร์คู่’ ซึ่งบอสจะปาดวงจันทร์ลงพื้น 2 ครั้ง แล้วฟันลงพื้นอีก 1 ครั้ง ท่านี้ใช้วิธีกระโดดหลบเท่านั้นทั้ง 3 ครั้ง โดยสามารถกดรัว ๆ ได้เลย หากครั้งแรกเรากระโดดหลบสำเร็จ ครั้งต่อไปก็จะหลบสำเร็จด้วย เพราะจังหวะจะพอดีกัน
- แต่ถ้าพลาดโดนสักรอบหนึ่ง เราจะโดนต่ออีกจนจบชุด💀
- Spirit Ash ที่น่าเรียกมาช่วยสู้คือ Mimic Tear โดยที่เราใส่ไอเท็ม Blessing of Marika (พรแห่งมาริกา) เอาไว้ในช่องไอเท็มลัดด้วย (ดูรายละเอียดด้านล่าง)
ผู้เล่นสายเวท
- ไม่ควรใช้เวทประเภทหินจรัส (ที่เอฟเฟคต์เป็นสีฟ้า) เพราะบอสต้านทานเวทนี้สูง ให้เน้นสู้ด้วยเวทประเภทแรงโน้มถ่วงแทน (เอฟเฟคต์สีม่วง) ซึ่งคาถาที่เราแนะนำที่สุดคือคาถาหากินอย่าง Rock Sling (กระสุนแรงโน้มถ่วง) เพราะกระสุนสามารถเลี้ยวติดตามได้ มีโอกาสโดนสูงกว่าเวทอื่น
- ให้เผื่อยาฟื้น FP ไว้เยอะ ๆ อย่างน้อย 6-7 ขวด (ถ้ามีบัฟ Blessing เยอะ อาจจะปรับลดจำนวนลงได้)
Mimic Tear (หยาดร่างต้นแบบ)
Elden Lord ตัวจริง, Spirit Ash สุดทรงประสิทธิภาพ กับความยืดหยุ่นในการคัดลอกตัวละครของเรามาเป็นร่างวิญญาณช่วยต่อสู้ ดังนั้นจึงสามารถเลือกปรับแต่ง Build และสกิลที่เหมาะสมสำหรับร่างวิญญาณได้ แถม AI ยังเก่งในระดับหนึ่ง สามารถใช้เวทบัฟอาวุธ / กินยาฟื้น HP ได้เองอีกด้วย
Mimic Tear เก็บได้จาก Night’s Sacred Ground (แดนเทพรัตติกาล) ในห้องขนาดใหญ่ที่มีศัตรูเป็นลูกบอลอยู่ชั้นล่าง เป็นไอเท็มอยู่ในหีบสมบัติหลังประตูหมอก, ที่ต้องใช้ Stonesword Key (กุญแจดาบหิน) ในการปลดล็อค
ในภาคเสริม Shadow of the Erdtree แนะนำให้ใส่ไอเท็ม Blessing of Marika (พรแห่งมาริกา) เอาไว้ในช่องไอเท็มลัดด้วย เพราะ Mimic จะใช้ได้เหมือนกัน และช่วยเพิ่มโอกาสรอดได้นานขึ้น แต่ตัวเราต้องอย่าเผลอกดใช้เอง เพราะไอเท็มนี้เป็นแบบที่ใช้แล้วหมดไป มีให้เก็บใหม่ได้ รวมแล้ว 4 ชิ้นเท่านั้นในการเล่น 1 รอบ
Blessing of Marika เก็บได้จาก
- ถ้ำด้านหลังน้ำตก บริเวณทิศเหนือของ Church of Consolation (โบสถ์ปลอมประโลม) ที่อยู่โซนล่างขวาของ Gravesite Plain (ทุ่งสุสาน)
- บริเวณรอบนอกของ Fort of Reprimand (ป้อมลงทัณฑ์) ใน Scadu Altus (อัลตัสเงา), ตรงด้านซ้าย ที่มีศัตรูหุ่นเชิดสตรีลักซ่อน เฝ้าอยู่ 2 ตัว
- 2 ชิ้น ดรอปจากบอส Tree Sentinel (ผู้พิทักษ์พฤกษา) 2 ตัว ใน Scaduview (ชานระเบียงแหงนสู่เงา)