“Shadow of the Erdtree” คือ DLC ภาคเสริมที่สานต่อความยิ่งใหญ่ให้ Elden Ring เพิ่มความเต็มอิ่มยิ่งขึ้นทั้งด้านเนื้อเรื่องและเกมเพลย์ จนเรียกได้ว่าสมแก่การรอคอยสุด ๆ กับระยะเวลา 2 ปีนับจากที่เกมหลักวางขาย
และด้วยความเป็นภาคเสริม ซึ่งกว่าจะปลดล็อคได้ก็ปาไปช่วงท้าย ๆ เกมแล้ว, ดังนั้นทุกสิ่งในนี้จะไม่ปรานีผู้เล่นอีกต่อไป รวมถึงบรรดาบอสทั้งหลายด้วย ที่โหดขึ้นจนชวนให้เลือดสูบฉีดกันทุกไฟต์
ด้วยเหตุนี้ เราจึงกลับมาอีกครั้ง กับแนวทางการปราบบอสทั้ง 33 ตัวใน Shadow of the Erdtree ซึ่งเป็นหนึ่งในหลาย ๆ วิธีที่ทำได้ ใครที่ยังไม่ผ่านบอสตัวไหน หรือกำลังสงสัยว่ามีบอสอะไรที่ยังไม่ได้เจอบ้างหรือไม่ ก็มาชมไปพร้อม ๆ กันได้เลย
- ระวัง ! ไกด์นี้เป็นการเปิดเผยรายชื่อบอสทั้งหมด สปอยล์ครบทุกตัวแน่นอน แต่จัดเรียงไว้แล้วตามลำดับสถานที่ที่น่าจะได้ไปก่อน-หลัง
- วิธีสู้บอส Elden Ring ในเกมหลัก (111 ตัว) ดูได้ที่นี่
- ใช้วิธีค้นหาชื่อบอส เพื่อเจาะจงดูวิธีปราบบอสเป็นรายตัว
- รวมไว้เฉพาะบอสที่มีชื่อ / หลอดพลังชีวิตขึ้นมาบนหน้าจอ ถ้าชื่อต่างกัน ส่วนใหญ่จะนับแยกเป็นคนละตัว
- ระดับความยาก ประเมินตามโอกาสที่ควรจะได้เจอบอสนั้น ๆ ครั้งแรก ทั้งนี้ผู้เล่นแต่ละคนอาจได้ประสบการณ์ความยากที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลำดับการเล่น และความแข็งแกร่งของตัวละครในขณะนั้น
Gravesite Plain (ทุ่งสุสาน)
1. Blackgaol Knight (อัศวินคุกวิเวก)
2. Ghostflame Dragon (มังกรเพลิงภูต)
3. Demi-Human Swordmaster Onze (อนซ์ ยอดนักดาบอมนุษย์)
4. Chief Bloodfiend (หัวหน้าเผ่าอสูรโลหิต)
5. Death Knight (อัศวินมรณะ)
6. Red Bear (หมีแดง)
7. Divine Beast Dancing Lion (ระบำราชสีห์อสูรเทพ)
8. Rellana Twin Moon Knight (เรลาน่า อัศวินจันทร์คู่)
Scadu Altus (อัลตัสเงา)
9. Dryleaf Dane (เดนผู้โรยรา)
10. Black Knight Edredd (อัศวินดำเอเดรด)
11. Black Knight Garrew (อัศวินดำการ์รูว์)
12. Ralva the Great Red Bear (หมีแดงใหญ่รัลวา)
13. Curseblade Labirith (ลาบิริธ นักดาบต้องสาป)
14. Rakshasa (รากษส)
15. Metyr, Mother of Fingers (เมเทร์ มาตาองคุลี)
16. Count Ymir, Mother of Fingers (เคานต์อิเมียร์ มาตาองคุลี)
17. Golden Hippopotamus (ฮิปโปทอง)
18. Messmer the Impaler / Base Serpent Messmer (เมสเมอร์จอมเสียบ / เมสเมอร์ อสรพิษชั่วช้า)
(ซ้ำ) Ghostflame Dragon (มังกรเพลิงภูต)
Cerulean Coast (ชายฝั่งทะเลคราม)
19. Demi-Human Queen Marigga (ราชินีอมนุษย์มาริกกะ)
20. Dancer of Ranah (นักเต้นระบำแห่งรานาห์)
21. Putrescent Knight (อัศวินโคลน)
(ซ้ำ) Ghostflame Dragon (มังกรเพลิงภูต)
Charo’s Hidden Grave (สุสานลับคาโร)
22. Lamenter (คนโศก)
(ซ้ำ) Death Rite Bird (ปักษาพิธีมรณะ)
Jagged Peak (ภูผาหินคม)
23. Ancient Dragon-Man (มนุษย์มังกรโบราณ)
24. Jagged Peak Drake (มังกรฟ้าแห่งภูผาหินคม)
25. Ancient Dragon Senessax (มังกรโบราณเซเนซัคส์)
26. Bayle the Dread (เบย์ล มังกรคลั่ง)
Abyssal Woods (ป่าอเวจี)
27. Jori, Elder Inquisitor (อิโอริ เฒ่าจอมทรมาน)
28. Midra Lord of Frenzied Flame (มิดรา ราชาเพลิงคลั่ง)
Scadutree Base (เชิงพฤกษาเงา)
29. Scadutree Avatar (ร่างแยกพฤกษาเงา)
Scaduview (ชานระเบียงแหงนสู่เงา)
30. Commander Gaius (แม่ทัพไกอุส)
(ซ้ำ) Tree Sentinel (ผู้พิทักษ์พฤกษา)
(ซ้ำ) Fallingstar Beast (อสูรดาวตก)
Rauh Base (เชิงเราห์)
31. Rugalea the Great Red Bear (หมีแดงใหญ่รูกาเลีย)
(ซ้ำ) Death Knight (อัศวินมรณะ)
Ancient Ruins of Rauh (ซากโบราณสถานเราห์)
32. Romina, Saint of the Bud (โรมินา สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งดอกตูม)
(ซ้ำ) Divine Beast Dancing Lion (ระบำราชสีห์อสูรเทพ)
Enir-Ilim (อีเนียร์ อิลลิม)
Extra – ตำแหน่งไอเท็มต่าง ๆ ที่มักใช้ในไกด์นี้
Shard Spiral (สะเก็ดขมวดมวน)
คาถาหินจรัสสุดโกง ด้วยแอนิเมชันที่เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ทำให้สามารถโจมตีใส่บอสตัวใหญ่ ๆ ได้หลาย Hit จนสร้างความเสียหายได้เยอะมาก ที่สำคัญก็คือกินค่า FP ไม่เยอะ จึงสแปมยิงใส่บอสได้แบบแทบไม่ต้องคิดอะไร
ทั้งนี้ตัวคาถาก็ต้องการค่า INT (ความฉลาด) สูงถึง 27 จึงเหมาะกับผู้ที่เล่นสายเวทอยู่แล้ว หรือมีค่าสเตตัสนี้เกิน 27 (อาจจะอัปเพิ่มให้ถึง หรือรีเซ็ตมาใหม่ก็ได้)
Shard Spiral ซื้อได้หลังจากทำเควสต์ของ Sorceress Sellen (จอมเวทเซลเลน) ไปจนถึงช่วงท้าย และเลือกอยู่ข้างเดียวกันกับเธอ
Pest-Thread Spears (หอกใยแมลง)
มนตราเวอร์ชันอัปเกรดของ Pest Threads (ใยแมลง) ที่ของเดิมก็ว่าโกงแล้ว พอมาอันนี้ก็ยิ่งโกงขึ้น โดยวิธีเล่นจะคล้ายกันกับ Shard Spiral (สะเก็ดขมวดมวน) คือถ้าใช้ยิงใส่บอสตัวใหญ่ ๆ จะทำให้โดนได้หลาย Hit จนสร้างความเสียหายได้เยอะมาก
ทั้งนี้ตัวมนตรา ต้องการค่า FTH (ศรัทธา) สูงถึง 26 จึงเหมาะกับผู้ที่เล่นสายมนตราอยู่แล้ว หรือมีค่าสเตตัสนี้เกิน 26 (อาจจะอัปเพิ่มให้ถึง หรือรีเซ็ตมาใหม่ก็ได้)
Pest-Thread Spears หาได้จากภาคเสริม Shadow of the Erdtree บริเวณพร Church of the Bud, Main Enterance (หน้าประตูใหญ่ โบสถ์ดอกตูม) โดยหันหลังกลับมายังทิศเหนือ, วิ่งลงบันไดมา แล้วเลี้ยวกลับไปตรงโซนด้านหลังบันได จะมีแมลงวงศาเสื่อมสลายเฝ้าอยู่ 2 ตัว เก็บไอเท็มได้จากตรงนั้น
Opaline Bubbletear (หยาดฟองสีไข่มุก)
ไอเท็มสำหรับปรับแต่งน้ำอมฤตให้กินแล้วได้บัฟ “ลดความเสียหายลงเกินครึ่ง” (ประมาณ 90%) ทำให้รับการโจมตีบอสได้เต็ม ๆ 1 ครั้ง
บอสบางตัวในภาคเสริม Shadow of the Erdtree แค่เราเดินเข้าห้องไปก็แทบจะโจมตีใส่เราทันที จนไม่มีจังหวะให้อัญเชิญ Spirit Ash มาช่วย ดังนั้นถ้าเรามีบัฟนี้อยู่ก็จะกดอัญเชิญได้โดยยอมให้บอสตีใส่เราไปด้วยเลย แบบไม่ต้องกลัวเจ็บตัว
Opaline Bubbletear ดรอปจากบอส Erdtree Avatar (ร่างแยกพฤกษาทอง) ตัวที่อยู่ตรง Minor Erdtree (พฤกษาทองน้อย) ในตอนใต้ของ Limgrave (ลิมเกรฟ)
Mimic Tear (หยาดร่างต้นแบบ)
Elden Lord ตัวจริง, Spirit Ash สุดทรงประสิทธิภาพ กับความยืดหยุ่นในการคัดลอกตัวละครของเรามาเป็นร่างวิญญาณช่วยต่อสู้ ดังนั้นจึงสามารถเลือกปรับแต่ง Build และสกิลที่เหมาะสมสำหรับร่างวิญญาณได้ แถม AI ยังเก่งในระดับหนึ่ง สามารถใช้เวทบัฟอาวุธ / กินยาฟื้น HP ได้เองอีกด้วย
Mimic Tear เก็บได้จาก Night’s Sacred Ground (แดนเทพรัตติกาล) ในห้องขนาดใหญ่ที่มีศัตรูเป็นลูกบอลอยู่ชั้นล่าง เป็นไอเท็มอยู่ในหีบสมบัติหลังประตูหมอก, ที่ต้องใช้ Stonesword Key (กุญแจดาบหิน) ในการปลดล็อค
ในภาคเสริม Shadow of the Erdtree แนะนำให้ใส่ไอเท็ม Blessing of Marika (พรแห่งมาริกา) เอาไว้ในช่องไอเท็มลัดด้วย เพราะ Mimic จะใช้ได้เหมือนกัน และช่วยเพิ่มโอกาสรอดได้นานขึ้น แต่ตัวเราต้องอย่าเผลอกดใช้เอง เพราะไอเท็มนี้เป็นแบบที่ใช้แล้วหมดไป มีให้เก็บใหม่ได้ รวมแล้ว 4 ชิ้นเท่านั้นในการเล่น 1 รอบ
Blessing of Marika เก็บได้จาก
- ถ้ำด้านหลังน้ำตก บริเวณทิศเหนือของ Church of Consolation (โบสถ์ปลอมประโลม) ที่อยู่โซนล่างขวาของ Gravesite Plain (ทุ่งสุสาน)
- บริเวณรอบนอกของ Fort of Reprimand (ป้อมลงทัณฑ์) ใน Scadu Altus (อัลตัสเงา), ตรงด้านซ้าย ที่มีศัตรูหุ่นเชิดสตรีลักซ่อน เฝ้าอยู่ 2 ตัว
- 2 ชิ้น ดรอปจากบอส Tree Sentinel (ผู้พิทักษ์พฤกษา) 2 ตัว ใน Scaduview (ชานระเบียงแหงนสู่เงา)
