วันที่ 21 มีนาคม พุทธศักราช 2562 น่าจะเป็นหนึ่งวันที่เหล่าเกมเมอร์ชาวต่างต้องจดบันทึกเรื่องราวสำคัญของวงการเกม ที่ทาง Epic Games Store ได้งัดไม้เด็ดในการทำเกม Exclusive อย่างการดึงเอาเกมจากค่ายขวัญใจชาว PS4 อย่าง Quantic Dream พ่วงกับเกมอื่น ๆ อย่าง Outer World ที่เดิมประกาศลง Steam ก็หันไปลงให้กับทาง Epic Games แทนนำไปสู่ความเดือดดาลอย่างรุนแรงของบรรดาเหล่าเกมเมอร์ชาว PC
ประกอบกับที่ก่อนหน้านี้ทาง Epic Games ค่อนข้างจะทำให้เหล่าเกมเมอร์ตัวปวดหัวกับการที่ Launcher ของพวกเขาขโมยข้อมูลในเครื่อง , การหักเอา Metro Exodus มาไว้ใน Epic Game Store แบบไม่ไว้หน้า Steam ยังไม่ร่วมกับปัญหาการที่โปรแกรมของพวกเขายังไม่พร้อมสำหรับการตอบสนองฟังก์ชั่นของเหล่าเกมเมอร์ทำให้ในตอนนี้ เกมเมอร์บางคนกล่าวว่าสิ่งที่ Epic Games Store ทำนั้นไม่ต่างจากตัวร้ายในวงการเกมที่นับวันความเหี้ยมของพวกเขาก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเราต้องตั้งคำถามว่า Epic Games เป็นวายร้ายตัวใหม่ของวงการเกมหรือไม่ ?
ก่อนจะเจอวายร้ายอย่าง Epic Games เราเจออะไรกันมาบ้าง
ย้อนกลับไปสองปีที่แล้วเกมเมอร์ทั่วโลก สื่อกระแสหลัก รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ได้ร่วมมือกันล้มบอสใหญ่ EA กับพลัง Lootbox ที่ทำให้บริษัทเข้าสู่วิกฤตนานหลายเดือน แต่ก็ไม่ตายเพราะสุดท้ายว่าเราหนี EA ไม่ได้อยู่ดี พร้อมกับการมาถึงของ Premium Access ที่มอบประสบการณ์ในการเล่นเกมแบบบุฟเฟ่ต์ที่อยากจะหาใครเปรียบเทียบ
ปีที่แล้วยังจำกันได้หรือไม่ว่าวายร้ายของวงการเกมมีมากมายตั้งแต่ Tencent , EA , Activision Blizzard , Bethesda เรียกได้ว่าสู้กันอย่างมันมือตั้งแต่ต้นไปยันท้ายปี ซึ่งก็ได้รับชัยชนะบ้างพ่ายแพ้บ้างเป็นธรรมดาของชีวิตที่ต้องเจอ
สาเหตุที่ผู้เขียนเกริ่นยาวมา 2 ปีก็จะแสดงให้เห็นว่าในแต่ละปีเกมเมอร์เจอวายร้ายไม่ซ้ำกันเลย แม้ตัวร้ายจะเป็นคนเดิม ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเจอสถานการณ์เดิมเสมอไป เฉกเช่นกับตัวร้ายอย่าง Epic Games Store เช่นกันที่เป็นเหมือนกับวายร้ายที่ผ่าน ๆ มา เพียงแต่ว่าเขาคือ Epic Games Store มีความพร้อมมากกว่าค่ายเกมอื่น ๆ มากนัก เปรียบดัง Thanos ที่สวมถุงมือ Infinite Gauntlet เพื่อพร้อมที่จะสู้กับทุกคน ทุกฝ่าย
- Space Gem : สร้างพื้นที่สำหรับการวางขายพร้อมส่วนแบ่ง 88 : 12
- Soul Gem : ชักนำค่ายเกมขนาดเล็ก, Kick Starter ให้มาเป็นส่วนหนึ่งของ Epic Store
- Reality Gem : เปลี่ยนแปลงความจริงว่าเกมของคุณต่อให้เตรียมวางขายแพลตฟอร์ม Steam ก็ย้ายฝั่งได้
- Time Gem : ทำให้เกมต่าง ๆ กลายเป็นเกม Exclusive แพลตฟอร์ม 1 ปีเต็ม
- Power Gem : ผู้เล่น Fortnite มากกว่าเดือนละ 8 ล้านคน พร้อมทั้งส่วนแบ่ง 5% จาก Unreal Engine เกมราคาสูงแค่ไหนก็ซื้อได้
- Mind Gem : อ่านทุกไฟล์ในคอมพิวเตอร์ของคุณ
วายร้ายที่ชื่อ Epic Games
กลับมาตอบทำถามที่ได้เกริ่นไว้ตอนต้นอีกครั้งว่า Epic Game เป็นตัวร้ายตัวใหม่ของวงการเกมหรือไม่ ? คำตอบก็คือใช่ แต่ก็ไม่ได้เลวถึงขนาดที่เหล่าเกมเมอร์ต้องผนึกกำลังกันเหมือนกับตอน EA เพราะทาง Epic Game มุ่งเน้นไปกับการจัดการกับวายร้ายของทีมผู้พัฒนามากกว่าคือ “เงิน” และ “ความเสี่ยงในการสร้างเกม”
“ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ทั่วไป มองเห็นถึงเกมที่ประสบความสำเร็จและได้รับคำวิจารณ์ที่ดี คุณจะเห็นความยิ่งใหญ่ของทีมพัฒนา แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าของทุน คุณจะเห็นเงิน หยาดเหงื่อและน้ำตาของทีมพัฒนาอยู่ในไฟล์เกมแต่ละเมกะไบต์”
การสร้างเกมก็เหมือนกับการทำธุรกิจที่ต้องใช้เงินทุนและมีความเสี่ยง ที่เราได้มีบทความสนุก ๆ ให้ผู้อ่านได้อ่านกันในยามเช้า “เมื่อรายได้ที่ผู้พัฒนาต้องการ สวนทางกับสิ่งที่ผู้เล่นอยากได้” ทำให้เราได้มองเห็นภาพโดยรวมว่าสถานการณ์ของ Epic Games Store ตอนนี้เป็นอย่างไร ซึ่งอย่างที่ StolenHeart กล่าวไว้
“แม้เราจะมีสิทธิ์ที่จะเลือกหาในสิ่งที่ดีกว่า แต่ทางผู้พัฒนาเองก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกเช่นนั้นได้เหมือนกัน”
สิ่งที่ทำให้ Epic Games ยังสามารถที่จะเดินเกมทางธุรกิจได้อย่างเต็มที่คือแรงเสียดทานจากเหล่าเกมเมอร์และภาพลักษณ์ของ Epic Games Store ที่ยังคงติดลบในสายตาของใครหลาย ๆ คน แต่เชื่อว่า หาก Epic Games ยังคงพัฒนาโปรแกรมของเขาอย่างต่อเนื่องและด้วยพลังของเงินทุนที่มหาศาลที่พวกเขามีอีกไม่นานน่าจะทำได้
นอกจากนี้กลยุทธ์ของ Epic Games เปรียบเสมือนกับ Big Bazooka ที่เน้นการสร้างกระแสให้กับแพลตฟอร์มแบบระเบิดลูกใหญ่ ที่ดังสนั่นไปทั่วทุกวงการ โดยเน้นการนำเอาเกมระดับ AAA มาเป็นเกม Exclusive 1 ปี อีกทั้งยังเน้นการประกาศตัวเลขครั้งละมาก ๆ ทั้งการให้การสนับสนุนงบกับโครงการต่าง ๆ ที่ประกาศหนึ่งครั้งหลักร้อยล้านเหรียญฯ เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับเหล่าเกมเมอร์ที่ถือคติว่า “เล่นก่อน จบก่อน สนุกก่อน” ได้เป็นอย่างดี
สรุป
Epic Games ไม่ใช่พระเอก ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้เป็นวายร้ายมากนัก ดังนั้นเราในฐานะเกมเมอร์อาจจะต้องลองเปลี่ยนมุมมองวิธีคิดเรื่องนี้ใหม่อย่ามองว่า Epic Game เป็นตัวร้ายที่จ้องจะเอาชนะผู้อื่น และครอบครองวงการเกม แต่เป็นเหมือนกับการแข่งขันของวงการเกมในการพัฒนาด้านต่าง ๆ ซึ่งผลประโยชน์ก็ตกอยู่กับเหล่าเกมเมอร์นั่นเอง
