มาถึงจุดจุดนี้ ณ ปัจจุบัน เชื่อว่าแม้จะยังมีแฟนเกมบางส่วนไม่พอใจ Epic Games Store แต่หลายคนก็เปิดใจลองรับเกมฟรี หรือซื้อเกมบนแพลตฟอร์มนั้นมาใช้กันบ้างแล้ว สำหรับแพลตฟอร์มที่มาแรงแซงทุกโค้ง แม้วิธีการโด่งดังจะล่อดราม่าไปซะส่วนใหญ่ แต่ก็ฬช่ว่ามันจะไม่ได้ผล เพราะตอนนี้ไม่อาจเถียงได้ว่า Epic Games Store คืออีกหนึ่งแลพตฟอร์มที่หลายคนมีติดเครื่องไว้ แม้จะไม่ใช้งานก็ตาม
อย่างไรก็ตามทุกอย่างมีข้อดีและข้อเสีย ฝั่ง Steam เองแม้จะเป็ฯแพลตฟอร์มที่ยิ่งใหญ่ มีอัปเดตแก้ไข เพิ่มประสิทธิภาพอยู่เรื่อย ๆ แต่มันก็ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังไม่อาจสู้ทาง Epic ได้ วันนี้เราจะมาดูกันว่า แต่ละแพลตฟอร์มมีข้อดีข้อเสียตรงไหนบ้าง
เกมอินดี้ / Early Access “คุณภาพ” – Epic ชนะขาด
แม้ว่า Epic Games Store จะเคยประกาศช่วงแรก ๆ ว่าแพลตฟอร์มของพวกเขา ไม่รับเกมอินดี้ แต่รู้หรือไม่ว่ากว่า 70% ของเกมที่ขายในร้านค้า Epic Games Store นั้น เป็นเกมอินดี้ซะส่วนมาก ส่วนเกม AAA นั้น คาดว่าแล้วแต่การเซ็นสัญญาระหว่างผู้พัฒนากับทางค่ายเกม (ยกตัวอย่างเช่น Borderlands 3 , Control , Metro) แถมเกมแรกที่เปิดตัวมาแบบ Exclusive ก็คือ Hades ที่จะว่าไปแล้วมันก็คือเกมอินดี้อยู่ดี
และต้องบอกก่อนว่าเกมแนวอินดี้หรือ Early Access ที่ทาง Epic นำมาวางจำหน่ายนั้น ส่วนมากเป็นเกมที่พร้อมเล่นแบบเต็มที่แม้จะอยู่ในช่วง Early Access ไม่ได้หมายความว่าบัคไม่มี แต่คุณภาพเกมจะมีมาตรฐานพอสมควร นั่นคืออย่างน้อยก็เล่นได้ และ Optimize มาดีพอด้วย จากประสบการณ์ของผู้เขียนเองนั้น ยอมรับว่าการซื้อเกม Early Access บน Steam นั้นมีความเสี่ยงสูงกว่ามากจริง ๆ
ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะมีผู้เล่นหลายคนบอกว่า เพราะทาง Epic Games Store ได้พิจารณามาดีพอแล้ว ว่าเกมนั้นเกมนี้สมควรแก่การออกเงินทุนให้ และนำมาวางขายแบบ Exclusive บนร้านค้าของตัวเอง ทำให้เราไว้ใจได้ว่าเกมอินดี้ / Early Access ของ Epic นั้นไม่ผิดหวังแน่นอน เว้นแต่ว่ามันไม่ใช่แนวเกมของคุณ
ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของแพลตฟอร์ม – Steam ชนะขาด
ข้อนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครชนะ แม้หลายคนจะออกมาบอกว่า ก็แหม Epic มันเพิ่งเปิดตัว ก็ให้เวลากันหน่อย แต่ส่วนตัวคิดว่ามันฟังไม่ค่อยขึ้นนัก เพราะยุคนี้ สมัยนี้แล้ว การพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับบริษัทที่ทุนหนามาก ๆ อย่าง Epic ไม่น่าจะใช่เรื่องยากสักเท่าไร
อย่างแรกเลยคือใครที่ชื่นชอบการสะสม Achievement นั้น ทาง Epic ไม่มีให้คุณเก็บสักเกม ย้ำว่าไม่มีเลยสักเกมเดียวที่มีฟีเจอร์นี้ ใครที่ชื่นชอบการเก็บสะสมความสำเร็จในการเล่นเกม อาจจะไม่ชอบไปเลยก็ได้
ถัดมาที่การตกแต่งโปรไฟล์ของคุณ สำหรับ Steam นั้น เรียกได้ว่ายิ่งเล่นไปจนเลเวลโปรไฟล์สูง ๆ เราสามารถตกแต่งได้เยอะมาก ราวกับเป็น Social Media อีกช่องทางหนึ่งเลย ใครเคยเห็นโปรไฟล์ Steam ของคนเลเวลสูง ๆ และมีไอเดียสร้างสรรค์ จะเห็นได้ว่าเขาแต่งกันได้สวยงามอลังการมาก แน่นอนว่าฟีเจอร์นี้ Epic Games Store ทำไม่ได้เช่นกัน ยังไม่รวมระบบตลาดที่ทำให้ผู้เล่นบางคน รวยเป็นกอบเป็นกำจากการขายไอเทมในเกมได้อีกนะ
ในส่วนของระบบอื่น ๆ อย่างเช่นระบบ Cart ที่คนบ่นกันมาเป็นปีแล้ว แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีระบบนี้ หรือแม้กระทั่ง Community ของแพลตฟอร์มที่ควรจะให้ผู้เล่นมาตั้งคำถาม หรือพูดคุยเกี่ยวกับเกมเกมนั้นได้ Epic Games ก็ไม่มีเช่นกัน ทำให้ผู้เล่นต้องไปตั้งหัวข้อคุยกันบน Reddit แทน จริง ๆ แล้วยังมีอีกเยอะมากที่ Steam ชนะขาด แต่แค่นี้ก็เรียกได้ว่า ไม่เห็นฝุ่นแล้วครับ
มหกรรมลดราคา – นัดนี้เสมอกัน
คิดว่าไม่มีใครเคยลืม การซื้อเกมที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานอย่าง Star Wars : Jedi Fallen Order ได้ในราคาเพียง 300 กว่าบาท บน Epic Games Store เพราะตอนนั้นเกมเพิ่งวางขายได้ไม่ถึงเดือน แต่ลดราคาแหลกลาญแถมให้ใช้คูปองส่วนตัวของแพลตฟอร์มนั้นอีก เรียกได้ว่า หลายคนตบะแตกยอมโหลด Epic มาใช้เพราะเกมนี้เลยทีเดียว
ใครจะยอมปฏิเสธได้กับเกมใหม่ที่เพิ่งออกได้ไม่นาน แต่อยู๋ดี ๆ หั่นราคาแหลกจาก 1800 เหลือ 300.. แต่ในขณะเดียวกัน เทศกาล Sales ของ Steam เองก็ไม่ได้น้อยหน้า เพราะลดราคาแต่ละที เกมสนุก ๆ ที่ยอดนิยมในร้าน ก็ลดระดับ 50% ขึ้นไปทั้งนั้น ยกเว้นเกมใหม่ ๆ เท่านั้น
สำหรับเรื่องของมหกรรมลดราคา ต้องบอกเลยว่าสองแพลตฟอร์มนั้นไม่มีใครยอมใคร ลดแหลกลาญพอ ๆ กัน แต่ด้วยความที่ Epic Games Store เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่เกมอินดี้เยอะมาก ราคาก็ไม่ได้สูงสักเท่าไร ดังนั้นเราอาจจะมองว่าลดไม่ได้เยอะนัก แต่จริง ๆ เพราะราคาเกมมันถูกอยู่แล้วนั่นเอง
แจกเกมฟรี – Epic ชนะขาดไปเลย
เชื่อเหลือเกินว่าใครต่อใครหลายคนตบะแตกไปกับมหากาพย์เกมฟรีที่แจกกันทุกสัปดาห์ต่อเนื่องกันมานับปีแล้ว และเกมที่แจกบน Epic Games Store นั้น บอกเลยว่าไม่ใช่เล่น ๆ เพราะเคยแจกเกมฟอร์มใหญ่มาแล้วมากมายทั้ง Assassin’s Creed Syndicate , Just Cause 4 , Batman Arkham ทั้งซีรีส์ เรียกได้ว่าได้เล่นเกมหลักพันกันแบบฟรี ๆ มานักต่อนัก
ในขณะที่ Steam เองแม้จะมีแจก แต่ส่วนมากกลับเป็นเกมประเภท มีก็ดี ไม่มีก็ได้ มากกว่า ผู้ใช้งานบางคนถึงขั้นเคยบอกไว้ว่าเกมแจกฟรีบน Steam ส่วนมาก รับมาก็รกคลัง ไม่ลงเล่นให้เปลืองฮาร์ดดิสก์แน่ ๆ เพราะเกมเก่าเกินไปมาก หือไม่ก็อินดี้จัดจนผู้คนเข้าไม่ถึงเลยทีเดียว
ดังนั้น ยกนี้ให้ Epic กินขาดไปเลยครับ เชื่อว่าแม้ทุกคนจะรังเกียจแค่ไหน แต่ก็คงเห็นด้วยเรื่องเกมแจกฟรีนี้แหละ
หากเราลองนั่งบวกลบกันดูดี ๆ แล้ว จะเห็นว่าแต่ละฝั่ง แต่ละแพลตฟอร์ม กลับมาดีแตกต่างกันไปในคนละแบบ ก็อยู่ที่ว่าผู้เล่นจะจัดการยังไงกับข้อเสียของแต่ละแพลตฟอร์ม แต่สำหรับตัวผู้เขียนเองนั้น ทางออกที่ดีที่สุดคือมีไว้ทั้งสองแพลตฟอร์ม อยากเล่นเกมไหน ก็จัดเกมนั้น นั่นล่ะครับ ง่ายที่สุดแล้ว
สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเราเลือกค่ายไหน รักค่ายใคร ก็อย่าลืมเล่นเกมกันอย่างมีความสุขจะดีที่สุดนะครับ
