ในช่วงเดือนสิงหาคม ในขณะที่โลกเพิ่งผ่านพ้นกับสถานการณ์หนัก ๆ อย่าง COVID-19 มา (และแน่นอนว่ายังไม่หายขาด) แต่ทั่วโลกได้รู้จักกับเกมสุดสนุกและสร้างโดยทีมผู้พัฒนาอารมณ์ดีอย่าง Mediatonic ที่พาเกม Fall Guys: Ultimate Knockout มาให้ทั่วโลกได้รู้จัก และมันก็กลายเป็นที่นิยมแทบจะในทันที วันนี้เรามาย้อนดูความสำเร็จของเกมนี้ และสตูดิโอผู้สร้างพวกเขากัน
ย้อนไปที่จุดเริ่มต้น
Fall Guys คือเกมที่ทาง Mediatonic มีแนวคิดมาตั้งแต่ปี 2018 หัวหน้าทีมออกแบบอย่าง Joe Walsh ได้เผยไอเดียที่เขานึกถึงเกมโชว์อย่าง Takeshi’s Castle หรือโหด มัน ฮา ของประเทศญี่ปุ่น และเริ่มพัฒนากันมาแต่นั้น โดยเกมนี้มีชื่อดั้งเดิมว่า Fool’s Gauntlet ที่มีรูปแบบการเล่นแบบผู้เล่น 100 คนแข่งขันกันเอาตัวรอดจากอุปสรรคต่าง ๆ
ในตอนแรก Jeff Tanton หนึ่งในครีเอทีฟไดเรคเตอร์มองว่าการสร้างเกมแนวนี้ไม่น่าประสบความสำเร็จแล้ว เพราะในช่วงที่พวกเขามีไอเดีย คือช่วงปี 2018 ซึ่งเป็นปีที่กระแส Battle Royale เริ่มซาลงไปแล้ว แต่เพราะเขายังเชื่อมั่นในตัว Joe Walsh โปรเจกต์นี้จึงเริ่มต้นขึ้น
และเมื่อออกแบบตัวละครเรียบร้อยแล้ว ทาง Joe Walsh จึงเริ่มนำเกมนี้ไปเสนอกับเหล่าผู้จัดจำหน่ายทั้งหลาย แต่ปรากฎว่าไม่มีใครสนใจเกมของพวกเขาเลย และมีเพียงค่ายเดียวที่ตกลงจะเป็นตัวแทนจำหน่ายให้พวกเขา ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Devolver Digital ค่ายตัวแทนจำหน่ายที่มักจะจำหน่ายเกมอินดี้คุณภาพมากมาย
Fall Guys เปิดตัวครั้งแรกในงาน E3 2019 และกว่ามันจะได้วางจำหน่ายจริง ก็ต้องใช้เวลาอีกนานนับปี นั่นคือ 4 สิงหาคม 2020 และทันทีที่มันวางจำหน่าย เกมก็ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล ด้วยยอดผู้เล่นถล่มทลายจนเซิร์ฟเวอร์รับไม่ไหว จนต้องแก้ปัญหากันแบบรายชั่วโมงเลยทีเดียว
การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระหว่างการพัฒนา
เบื้องต้นนั้น Fall Guys มีแผนจะรองรับผู้เล่น 100 คน แต่อย่างที่ทราบกัว่าตอนนี้ปัจจุบัน เกมลดลงมาเหลือ 60 ผู้เล่นต่อรอบ เพราะเป็นขนาดที่เหมาะสมกว่า และทำให้เกมสนุกแบบพอดี ๆ ผู้เล่นไม่เยอะจนเกินไป ทาง Mediatonic มองว่าเขาไม่ได้ต้องการผู้เล่นมากขนาดนั้น แต่ต้องการจำนวนที่พอดี ที่จะทำให้เกมสนุกพอ
และฟิสิกส์ Ragdoll ได้ถูกนำมาใช้กับการออกแบบตัวละครที่ดูน่ารัก เพราะมันทำให้เกมกลายเป็นเกมที่เข้าถึงง่าย ไร้ความรุนแรง แถมยังดูตลกขบขัน เวลาที่ตัวละครเราโดนสกัด หรือเจออุปสรรคจนล้มกลิ้งระหว่างมุ่งหน้าสู่เส้นชัย และมันยังได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบตัวละครมาจากของเล่นประเภทไวนิล
การประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลในช่วงเปิดตัว
แน่นอนว่าใครที่ติดตามข่าวสารวงการเกมมาประจำ เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนการมาของ Among Us – Fall Guys ได้กลายเป็นเกมฮิตระดับไวรัลไปทั่วโลก ส่วนหนึ่งเพราะความเล่นง่าย เล่นสนุก ผ่อนคลายของมัน (ถึงจะหัวร้อนเวลาโดนปาดหน้า หรือไม่เข้ารอบบ้าง) ที่สำคัญคือบน PlayStation นั้นเป็นเกมเล่นฟรีสำหรับผู้เป็นสมาชิก PS Plus แน่นอนว่าแฟน ๆ เกม PlayStation ในไทยนั้น จ่ายค่าพลัสไว้อยู่แล้ว จึงมีคนจำนวนมากเข้าถึงเกมนี้ได้สบาย ๆ และบน Steam เองถือว่าเกมมีราคาไม่แพงมาก อยู่ที่ 289 บาทเท่านั้น จึงเป็นราคาที่เหมาะสมที่ทุกคนจะหยิบมาเล่นเป็นเจ้าของกันได้
ภายในเวลาเพียง 1 วันหลังวางจำหน่าย Fall Guys ทำยอดผู้เล่นได้กว่า 1.5 ล้านคน และ 10 สิงหาคม หลังการเปิดตัว 1 สัปดาห์ ทีมงาน Mediatonic เผยว่าเกมทำยอดขายไปได้ 2 ล้านชุด แน่นอนว่ามันประสบความสำเร็จแบบสุด ๆ เลยทีเดียว และแม้ว่ามันจะประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ แต่อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า อีกเกมหนึ่งอย่าง Among Us นั้น ก็ทะลุกลางปล้องขึ้นมากวาดยับทุกกระแสจน Fall Guys ยังต้องหลีกทางให้ บวกกับโรดแมปการพัฒนาคอนเทนต์ที่อาจจะยังไม่ทันใจเหล่าผู้เล่น และเหล่าโปรแกรมช่วยเล่นบุกเกม จึงไม่แปลกที่ยอดตัวเลขผู้เล่นของ Fall Guys จะลดลงมาเรื่อย ๆ
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม Fall Guys ไม่ใช่เกมตายเสียทีเดียว เกมมีการอัปเดตคอนเทนต์ของ Season 2 เข้ามาในช่วงเดือนตุลาคม และคราวนี้ใน Season 3 พวกเขาก็ร่นระยะเวลาให้มันเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยใน Season 3 นี้ใกล้จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว พร้อมกับธีมและระบบใหม่ ๆ ที่อาจจะเพิ่มเข้ามา โดยต้องการประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
แม้ว่าตัวเกมจะมียอดผู้เล่นลดน้อยลงอย่างมาก แต่โดยเฉลี่ยแล้วยังมียอดผู้เล่นอยู่ที่ 10,000 คนขึ้นไปต่อวัน ซึ่งไม่ได้นับว่าน้อยเลย หากเทียบกับเกมออนไลน์เกมอื่น ๆ
ความอารมณ์ดีของเหล่าผู้พัฒนา
ใครที่ติดตาม Social ของทีมผู้พัฒนา Mediatonic จะรู้ว่าทีมผู้พัฒนาเขาอารมณ์ดีกันขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็นตอนเปิดตัวสกินของ Goose และ Sonic ที่ล่อใส่ชุดห่านกับโซนิคมานั่งไลฟ์สตรีม หรือแม้แต่การแซวของ Official Twitter กับเกมอื่น ๆ ในช่วงเปิดตัวอีกด้วย โดยเฉพาะช่วงระดมทุนให้มีสกินของตัวเองเข้ามาในเกม และนำเงินไปบริจาคการกุศล ต้องบอกว่าฮากันแทบจะทุกคอมเมนท์จริง ๆ บ่งบอกว่าทีมผู้พัฒนาของเกมนี้เขาอารมณ์ดีกันขนาดไหน ถึงแม้ว่าช่วงหลังจะซา ๆ ลงไปบ้างแล้ว ตามกระแสของตัวเกม
แม้จะโดนปาดกระแสไปเยอะพอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม Fall Guys ก็ยังได้เข้าชิง Game of the Year ในปีนี้มากถึง 4 สาขา ซึ่งต้องดูกันว่า Fall Guys จะกวาดมาได้สักรางวัลหรือไม่ และหวังว่าเกมนี้จะยังคงครองใจแฟน ๆ ต่อไป และอัปเดตจะกลับมาดึงคนให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น