เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทางเว็บ GamingDose ของเรา ได้เป็นหนึ่งในสื่อไทยที่ได้รับเกียรติจากทาง Sony Interactive Entertainment โดยเราได้รับเชิญให้มาร่วมในงาน Days Gone and Sekiro: Shadows Die Twice เพื่อให้เราได้สัมผัสกับทั้ง 2 เกมก่อนวางจำหน่าย ซึ่งในบทความนี้เราจะรวบรวมทุกอย่างที่เราสัมผัสในวันนั้นมาให้ท่านผู้ชมได้ทราบกันอย่างเต็มอิ่ม
Sekiro: Shadows Die Twice
ผลงานชิ้นล่าสุดจากสตูดิโอ From Software เจ้าของผลงานสุดโหดอย่าง Dark Souls และ Bloodborne มาคราวนี้พวกเขาก็ได้ค้นเอาความโหดเถื่อนระดับที่ผู้ช่ำชองจากเกมที่ผ่านมายังเหงื่อตก
เวอร์ชั่นที่ทาง Sony จัดมาให้พวกเราเล่นจะเป็นแบบพิเศษที่เราได้เห็นตั้งแต่ช่วง New Game กันเลยทีเดียว โดยรูปแบบการบังคับกับเกมการเล่นก็ยังค่อนข้างคล้ายกับเกมแนว Soulsborne (เป็นการเรียกแนวเกมรวม ๆ กัน ทั้ง Dark Souls และ Bloodborne) แต่ผู้เล่นจะมีความสามารถมากกว่า อย่างเช่นการกระโดด กระโดดยันตัวจากกำแพง ห้อยโหนปีนป่ายจากขอบผา แถมเราสามารถวิ่งสไลด์และหมอบย่อตัวได้ด้วย
ในเกมนี้เราจะรับบทเป็นนินจาองครักษ์ของเจ้าชายหนุ่มน้อยคนนึง โดยนายเหนือหัวของเราได้ถูกฝ่ายตรงข้ามลักพาตัวไป และในเหตุการณ์นั้นเราก็ได้เสียแขนข้างซ้ายไปด้วย เมื่อเราตื่นขึ้นมาอีกครั้งเราก็พบว่าแขนซ้ายของเราได้ถูกแทนที่ด้วยแขนกลนินจา ซึ่งถูกมอบให้โดยช่างแกะสลักปริศนาที่ช่วยชีวิตเราเอาไว้ จากนั้นเราจึงเริ่มออกผจญภัยเพื่อแย่งชิงนายเหนือหัวของเรากลับคืนมา
ในช่วงแรกของเกมจะเป็นการสอนผู้เล่นแบบ Tutorial ซึ่งค่อนข้างต่างจากเกม Soulsborne เป็นอย่างมาก เพราะในเกมที่ผ่านมาเราจะแทบไม่มีการจูงมือใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ใน Sekiro คุณจะได้รับการสอนอย่างครบถ้วน การเคลื่อนไหว การต่อสู้ การตั้งรับ การลอบเร้น หรือแม้แต่การสำรวจ เรียกได้ว่าถึงคุณไม่เคยเล่นเกม Soulsborne มาก่อน คุณก็เล่นเกมนี้ได้เหมือนกัน แต่ถ้าหากว่าคุณเคยผ่านเกม Soulsborne มาซักเกมแล้ว คุณจะสามารถเล่น Sekiro ได้ทันทีที่จับ เพราะการควบคุมค่อนข้างคล้ายกันมาก ๆ
ถ้าคุณคิดว่า Sekiro จะสามารถเล่นได้เหมือนเกมที่ผ่าน ๆ มา คุณคิดผิดอย่างมหันต์ ในเกมนี้คุณจะต้องใช้ประโยชน์จากการลอบเร้นให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะคุณไม่สามารถสู้กับศัตรูเป็นกลุ่มได้เหมือนในเกมที่ผ่านมา ระบบ Stamina ที่เคยมีในเกมก่อน ๆ จะถูกแทนที่ด้วยระบบความแข็งแกร่งหรือ Posture คุณจะวิ่ง กระโดด โจมตีเท่าไหร่ก็ได้ แต่ในจังหวะที่คุณถูกโจมตีหรือตั้งดาบป้องกัน เกจพลังที่อยู่ใต้จอจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากว่ามันเต็มเมื่อไหร่คุณก็จะตกเป็นเป้านิ่ง ซึ่งระบบนี้ก็ใช้กับศัตรูเหมือนกัน ศัตรูทุกตัวจะมีระดับความแข็งแกร่งที่คุณสามารถบั่นทอนจากการโจมตี หรือการสะท้อนกลับ การสะท้อนกลับคุณจะต้องกดปุ่มกันในจังหวะที่ศัตรูลงดาบมาพอดี ซึ่งมันจะเป็นการป้องกันที่ลดความแข็งแกร่งของศัตรูไปในตัว แต่ว่ามันก็ไม่ได้กดง่าย ๆ เพราะมันใช้จังหวะแบบเดียวกับการ Parry ใน Dark Souls เลยทีเดียว และถ้าคุณจะทำอย่างนั้นกับศัตรูเป็นกลุ่มมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แถมการหลบหลีกใน Sekiro ก็มีมากกว่าที่ Soulsborne ทุกเกมเคยทำ คุณสามารถพุ่งตัวหลบได้เหมือนใน Bloodborne แต่มันไม่สามารถได้ทุกอย่าง บางครั้งคุณก็ต้องหลบด้วยการกระโดดหรือใช้ทางเลือกอื่น ๆ อย่างเช่นสกิลเคาน์เตอร์ ‘มิคิริ’ หรือใช้ตะขอเกี่ยวศัตรูให้ถูกจังหวะ นั่นคือคุณจะมีทางเลือกในการหลบหลีกประมาณ 3-4 รูปแบบ และทุกแบบก็ไม่มีอะไรที่ได้ผลเสมอไป คุณเลยต้องใช้ทักษะทุกอย่างที่เราทำได้และปรับเปลี่ยนมันไปตามสถานการณ์ ถ้าหากว่าเราเล่นด้วยวิธีเดียว บุกอย่างเดียว หลบแบบเดียว คุณจะได้ ‘Die more than twice’ อย่างแน่นอน
ในเกมนี้เราอาจจะไม่ได้ใช้อาวุธอย่างอื่นนอกจากดาบคาตานะของพระเอก แต่อาวุธใหม่ ๆ จะมาในรูปแบบของ ‘แขนกลนินจา’ แขนซ้ายของเราในช่วงแรกจะมีความสามารถในการยิงตะข้อเพื่อดึงตัวเราขึ้นไปยังพื้นที่ต่างระดับ และเมื่อเราเล่นไปได้ซักระยะหนึ่ง เราจะเริ่มพบอุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาใส่ให้กับแขนกลเพื่อกลายเป็นอาวุธ ระบบแขนกลจะค่อนข้างคล้ายกับปืนในเกม Bloodborne โดยทุกครั้งที่เราใช้มันจะกิน‘ยันต์’เป็นทรัพยากร คล้ายกับว่ามันเป็นกระสุนของแขนกลเรานี่เอง อุปกรณ์แต่ละอย่างก็จะใช้ยันต์ไม่เท่ากันและมันจะสำคัญยิ่งกว่าปืนในเกม Bloodborne เพราะมันคืออาวุธต่อกรจุดอ่อนของศัตรูแต่ละชนิด อย่างเช่นศัตรูที่ถือโล่ใหญ่คุณจะไม่สามารถสร้างความเสียหายกับมันได้ด้วยดาบธรรมดา แต่คุณจะต้องใช้ขวานสับของแขนกลเพื่อทำลายโล่ของมันก่อน หรือศัตรูที่แพ้ไฟคุณก็ต้องหาปืนไฟมาใส่ให้กับแขนกล
แต่นอกเหนือจากแขนกลที่เราปรับแต่งได้ ในเกมนี้ก็มีระบบการไต่ระดับตัวละครที่ต่างไปจากเกม Soulsborne ใน Sekiro คุณจะไม่ได้เก็บ Souls หรือ Blood Echoes มาใช้อัพเกรดค่า Stats กับ Level แต่คุณจะได้ค่าประสบกาณ์จากการฆ่าศัตรูและเงินที่ใช้ในการซื้อ-ขาย ถ้าเราสามารถเก็บค่าประสบการณ์หรือ XP ได้ถึงระดับที่มันเต็มหลอดตัวละครของเราก็จะ Level up ในแต่ละ Level ก็จะมีสกิลใหม่ ๆ ที่เราปลดล็อคออกมาใช้ได้ แต่ว่าการตายก็จะเป็นการบั่นทอนในส่วนนี้ ทุกครั้งที่เราตาย ค่า XP ที่เราเก็บมาได้จะสูญหายไประดับนึง ยิ่งตายมากขึ้นค่า XP ก็ยิ่งลดลงเรื่อย ๆ จนสุดที่ประมาณ 30% ของทั้งหมด ส่วนเงินจะคล้ายกับ Souls ในเกมที่ผ่านมาคือตายเมื่อไหร่หล่นหายทันที
แต่ก็อย่าลืมว่าในเกมนี้เราตายได้ 2 ครั้ง ตามชื่อเกมเลย ทุกครั้งที่เราตายเราเลือกได้ว่าจะฟื้นคืนชีพหรือยอมตายไปเลย ซึ่งเราสามารถใช้มันเป็นแทคติคได้ด้วย อย่างเช่นเมื่อเราตาย ศัตรูที่ฆ่าเราก็จะเดินจากไปทำให้เราฉวยโอกาสในการคืนชีพขึ้นมาแล้วแอบเข้าไปแทงจากข้างหลัง ซึ่งจริง ๆ เราสามารถฟื้นคืนชีพได้มากกว่านั้น ถ้าในตอนที่เราฟื้นขึ้นมาเราสามารถสังหารศัตรูไปมากพอจนเกจวงกลมที่อยู่เหนือหลอดพลังชีวิตกลับมาเต็มอีกครั้ง นั่นก็แปลว่าเราได้สิทธ์ในการคืนชีพหากเราพลาดตายอีกรอบ
โดยรวมแล้วนี่คือประสบการณ์ที่ท้าทายและทารุณยิ่งกว่าทุกเกม Soulsborne ที่ผ่านมาเลยทีเดียว ใครจะจอยแตก จอพัง คีย์บอร์ดปลิว ก็ไว้มาดูกันในวันที่ 22 มีนาคม ที่จะถึงในอีกไม่นาน
Days Gone
เกม Open-World น้องใหม่ (ที่สร้างมาร่วม 6 ปี) มาพร้อมกับโลกของเกมที่อันตราย โหดร้าย และดิบเถื่อน ในเกมนี้คุณจะรับบทเป็น Deacon St. John (ดีคอน เซนท์ จอห์น) หนึ่งในแก๊งค์นักบิดที่ต้องเอาตัวรอดในโลกที่เต็มไปด้วยผู้ติดเชื้อ
สำหรับผู้ติดเชื้อในเกมนี้มันจะไม่ใช่ ‘ซอมบี้’ อย่างที่เรารู้จักกันดี แม้ว่ามันจะออกล่าผู้เล่นไม่ต่างกัน แต่พวกมันจะมีชื่อเรียกว่า Freaker (ฟรีกเกอร์) ที่มันไม่ใช่ซอมบี้เพราะฟรีกเกอร์ยังไม่ตาย พวกมันยังต้องดื่มกินและนอนหลับไม่ต่างกับสิ่งมีชีวิตทั่วไป แล้วเชื้อร้ายนี้ก็ยังติดไปถึงสัตว์ป่าได้ด้วย ทำให้เราต้องเผชิญกับสัตว์กลายพันธุ์ที่ดุร้ายยิ่งกว่าเดิม
ด้วยความที่ ดีคอน เป็นสิงห์นักบิดทำให้เกมนี้จะมีรูปแบบการเล่นที่อยู่คู่กับมอเตอร์ไซค์ มันเป็นทั้งยานพาหนะ เป็นทั้งตัวช่วยหลบหนี เป็นทั้งเครื่องทุ่นแรงในการต่อสู้ และช่วยให้เราขนของติดตัวได้มากขึ้น มอเตอร์ไซค์จะเป็นเหมือนของคู่ชีวิตของเราเลยทีเดียว เพราะการเดินเท้าในเกมนี้คุณแทบจะไม่มีทางรอดชีวิต เพราะคุณมีระดับ Stamina ที่ค่อนข้างจำกัดทำให้คุณวิ่งได้ไม่ค่อยไกล หากจะให้หนีฝูง Freaker ด้วยการวิ่งอย่างเดียวคงจะเป็นไปไม่ได้ แถม Stamina ของเรายังต้องใช้ในการต่อสู้ระยะประชิดและการหลบหลีกอีกด้วย มอเตอร์ไซค์จึงเป็นสิ่งที่เราต้องคอยดูแลให้มันพร้อมใช้งานอยู่เสมอ มีอยู่ 2 อย่างหลัก ๆ เท่านั้นที่คุณจะต้องระวัง นั่นคือความเสียหาย กับ น้ำมัน คุณจะต้องคอยหาอะไหล่ติดตัวเอาไว้เพื่อซ่อมแซมในยามจำเป็น (อะไหล่จะเหมือนเป็นกล่องพยาบาลของมอเตอร์ไซค์) และคุณจะต้องคอยเติมน้ำมันให้พร้อม โดยทั้ง 2 อย่างนี้คุณสามารถหาได้จากการสำรวจฉาก หรือจะไปขโมยมาจากรถของศัตรูก็ได้
‘The World Comes For You’ คือนิยามที่ผู้สร้างให้เอาไว้ ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน เวลาใด คุณก็จะเจอปัญหาได้ทุกเมื่อ ระหว่างที่คุณสำรวจไปในโลกอันกว้างใหญ่ คุณอาจจะเจอเหตุการณ์สุ่มที่อันตรายถึงชีวิตได้เสมอ ทั้งจากแก๊งค์โจรที่คอยดักปล้น สัตว์ป่าที่หิวโหย และแน่นอน พวก ฟรีกเกอร์ ที่มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง และทุกช่วงเวลาในเกมก็จะมีความอันตรายต่างกัน อย่างเช่นในตอนกลางวัน พวก ฟรีกเกอร์ อาจจะมีไม่มากเพราะมันออกหากินตอนกลางคืน แต่คุณก็จะเจอศัตรูที่เป็นคนเยอะเป็นพิเศษ หรือถ้าสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ฝนตก, หิมะตก เมื่ออากาศเย็นขึ้น พวก ฟรีกเกอร์ ก็จะแข็งแกร่งขึ้นเป็น 2 เท่า ทำให้พวกมันอันตรายอยู่ดีแม้จะเป็นเวลากลางวัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเวลากลางคืนที่อากาศหนาว ดังนั้นคุณจะต้องพร้อมรับมืออยู่เสมอ ซ่อมมอเตอร์ไซค์ของคุณให้พร้อม หาเสบียง กระสุน, อาวุธ, ยาฟื้นพลังให้พอ และมีแผนทุกครั้งที่ออกผจญภัย เรียกได้ว่าเกมนี้มันไม่ได้วิ่งเล่นกันสบาย ๆ เหมือนกับเกม Open-World ทั่วไปเลย
การออกแบบเกมก็ยังมีระบบคล้าย ๆ กับเกมอื่นที่ท่านผู้อ่านน่าจะเคยผ่านมือกันมาบ้างอย่างเช่น Far Cry หรือ Horizon Zero Dawn ในเกมนี้เราจะมีแคมป์ใหญ่ในแต่ละจุด โดยพวกเขาจะเป็นฝ่ายเดียวกับเรา เราสามารถเข้าไปซื้อ-ขาย ไอเทม, อาวุธ อัพเกรดมอเตอร์ไซค์ และรับมิชชั่นของแต่ละที่ ในการที่เราจะได้ไอเทมและอัพเกรดใหม่ ๆ เราจะต้องทำให้แต่ละแคมป์เชื่อใจเรามากขึ้นด้วยการทำมิชชั่นของแคมป์นั้นหรือเอาของต่าง ๆ มามอบให้ เช่น เสบียงอาหาร, สมุนไพร, หนังสัตว์ของป่า หรือแม้แต่หูของพวกฟรีกเกอร์ (เพื่อแสดงให้รู้ว่าเราเก่งกาจในการฆ่าพวกมัน) เมื่อค่าความเชื่อใจของแคมป์สูงถึงขึ้นหนึ่ง เราก็จะมีสิทธ์ในการซื้อของใหม่ ๆ ที่มีเฉพาะในแคมป์นั้น แล้วจากที่เราได้เห็นในเดโม เพียงแค่ส่วนนึงของแผนที่ ก็มีแล้ว 4 แคมป์ ก็ต้องไปดูกันอีกทีว่าในเกมเต็มจะมีแคมป์ให้เราค้นพบอีกมากแค่ไหน เพราะต้องขอบอกเลยว่าแผนที่ของ Days Gone มันไม่ใช่เล็ก ๆ เลย
สำหรับใครที่รอเกมนี้อยู่ก็คงต้องรอกันอีกซักนิด เพราะมันจะวางจำหน่ายในวันที่ 26 เมษายน เดือนหน้า
