Marvel ชื่อนี้ถูกนำไปพัฒนาเกมมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ยุคเครื่อง NES ผ่านร้อนผ่านหนาวหลายสมัยไม่ต่างจากสื่ออื่น แต่ในวันที่ทุกอย่างสำเร็จเป็นดาวค้างฟ้า วิดีโอเกมกับ Marvel ไม่ได้เป็นเช่นนั้น มันยังถูกมองว่าเป็น “เรื่องรอง” อยู่เหมือนเคย
เมื่อก่อนหากใครจำได้ ช่วงต้น 2000 Marvel เคยเซ็นสัญญากับ Activision ค่ายใหญ่ระดับโลก เพื่อพัฒนาเกมโดยเฉพาะ แต่เกมที่พวกเขาพัฒนานั้น เป็นเกมที่พัฒนาเนื่องในโอกาสพิเศษเสียส่วนใหญ่ เช่น หนังเรื่องนี้เรื่องนั้นกำลังจะฉาย ไม่ค่อยมีเกมที่พัฒนามาเดี่ยว ๆ มากเท่าไหร่นัก
อย่างซีรีส์ที่เราคุ้นเคยกันดี ไม่ว่าจะเป็น Blade, Spider-Man, Daredevil, Hulk, Fantastic Four ทั้งหมดเคยเป็นเกม ที่มีเนื้อหาเดียวกับภาพยนตร์ แทบจะไม่มีการดัดแปลงใด ๆ เลย นำไปลงให้กับทุก ๆ แพลตฟอร์มเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อ “ขาย” แฟนหนังเพียงเท่านั้น
ทำให้คุณภาพตัวเกมส่วนใหญ่ ไม่ค่อยจะได้มาตรฐานเท่าไหร่นัก อย่าง Blade ทั้งสองภาค ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักในเรื่องของการพยายามนำเกมเพลย์สไตล์ Devil May Cry ไปใช้ แถมยังออกแบบกราฟิกได้ห่วยบรม
ตรงนี้โทษใครไม่ได้ เพราะกว่าทีมสร้างเกมจะทราบพล็อตเรื่อง กว่าจะได้ทรัพยากรต่าง ๆ มันใช้เวลานานมาก และเกมเป็นสื่อที่จำเป็นต้องใช้เวลามากกว่าสื่ออื่น ๆ เมื่อถูกเร่งให้ขายทันภาพยนตร์ฉาย คุณภาพของมันจึงต่ำเตี้ยเรี่ยดินอย่างเห็นได้ชัด
กรณี Blade ไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งเดียว เพราะต่อ ๆ มาเมื่อมีหนังซุปเปอร์ฮีโร วิดีโอเกมก็จะถูกปล่อยออกมาพร้อมกันเสมอ ๆ อย่างในเคสของ Ghost Rider ตัวเกมแม้จะไม่ได้มีเนื้อหาเดียวกับภาพยนตร์ แต่เนื่องด้วยเวลาที่จำกัด ตัวเกมจึงออกมาเป็น God of War โคลนแบบง่อย ๆ กราฟิกตกยุค กลายเป็นตราบาปให้คนก่นด่า
และด้วยสาเหตุทั้งหมดนี้ ทำให้ผู้คนมองว่า เกมซุปเปอร์ฮีโร มีไว้เพื่อขายแฟนเดนตายเท่านั้น แต่ไม่ได้ขายคนเล่นเกม เพราะนอกจากเนื้อหาที่แฟน ๆ ต้องการแล้ว เกมซุปเปอร์ฮีโรก็ไม่ได้ทำอะไรให้กับวงการอีกเลย แถมยังคอยจะฉุดลงไปด้วยซ้ำ
จริง ๆ เทรนด์นี้มันน่าจะถูกยกเลิกไปในช่วงที่ Marvel หมดสัญญากับ Activision ด้วยซ้ำ แต่เพราะเหตุใดไม่ทราบ หลังจากนั้นก็ยังมีเกมจากหนังผุดขึ้นมาเพิ่มอีกเรื่อย ๆ ทั้ง Iron Man, Thor หรือ Captain America เอง ก็ทันมีเกมกับเขาเหมือนกัน
หลายคนอาจจะคิดว่ายุคสมัยนี้มันคงไม่มีเกมประเภทที่ เอาเนื้อหาจากหนังมาสร้างตรง ๆ อีกแล้ว แต่เกมที่เรายกตัวอย่างไปสามเกมข้างต้น เป็นเกมที่มีเนื้อหาตามเกมแทบจะเหมือนกันเป๊ะ แถมยังใช้ Cast จากเกมอีกด้วย แต่เนื่องจากอะไรก็ไม่ทราบ มันไม่ประสบความสำเร็จไปตามหนัง แถมบางเกมยังถูกสาปส่งจากนักเล่นเกมอย่างหนัก
แม้ช่วงหลังมานี้ เกมที่ออกมาไทล์อินหนังจะไม่มีแล้ว แต่เกมหลัง ๆ ยังแฝงกลิ่นอายของเวอร์ชันหนังเอาไว้เสมอ อย่างเช่น Marvel’s Avenger หรือ Marvel’s Guardians of the Galaxy ที่เน้นบุคลิกของตัวละครตามฉบับภาพยนตร์เป็นหลัก (แม้จะไม่ใช่คนเดียวกันก็ตาม) ทำให้แฟนคอมิกส์ และนักเล่นเกมที่ไม่ได้พิศวาสกับเวอร์ชันหนังมาก ยังรู้สึกเอียนอยู่นิด ๆ
ยกเว้นแต่เพียง Marvel’s Spider-Man จริง ๆ ที่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าเราดูหนัง เพราะบุคลิกของปีเตอร์ พาร์คเกอร์ในเกมเวอร์ชันนี้ ไม่ใช่บุคลิกของทอม ฮอลแลนด์ที่เคยแสดงไว้ ทำให้เรารู้สึกว่านี่แหละ คือหนทางที่แท้จริงของเกมจากมาร์เวล หากอยากจะประสบความสำเร็จ
และ Marvel’s Midnight Suns ก็มาตอกย้ำมันอีกครั้ง เพราะเกมนี้ไม่ใช่เกมจากภาพยนตร์ ใช้เนื้อหาจากคอมิกส์ที่คนไม่รู้จัก ทั้งยังถอดแบบบุคลิกตัวละครออกมาจากคอมิกส์อีก ทำให้เราไม่รู้สึกติดภาพใด ๆ จากภาพยนตร์แม้แต่น้อย
Marvel กับวงการเกมนั้น หนทางยังคงอีกยาวไกล แต่ความสำเร็จของ Midnight Suns น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี ว่าถ้าจะทำเกมสักเกม เราไม่ต้องอาศัยพาวเวอร์ของอะไรเลย เพราะเกมก็คือเกม คนเล่นเกมอยากเล่นเพราะมันคือเกม ไม่ได้อยากเล่นเพราะเพิ่งดูหนังจบ ก็เลยมาเล่น