The Finals เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเกม Free to Play / Live Services นั้น ไม่มีวันตาย หากคุณมี “ของ” จริง ๆ ที่จะงัดออกมามัดใจผู้เล่นทั่วโลก
ในยุค 4-5 ปีมานี้ เกมแนวมัลติเพลเยอร์ เล่นฟรี เน้น Live Services อัปเดตเป็นซีซั่นไปเรื่อย ๆ ได้กลายเป็นสิ่งที่หลายค่ายเกมหันมาทำ แต่พูดกันแบบตรง ๆ เลยคือ หาที่รอดในระยะยาวนั้นมีน้อยมาก ยักษ์ใหญ่แถวหน้า ทั้ง Apex Legends, Fortnite, PUBG ล้วนมีฐานผู้เล่นที่เหนียวแน่น ยากเกินกว่าที่ใครจะมาโค่นลงได้ แต่ในช่วงท้ายปี 2023 The Finals ก็ได้ทำเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนเกมทั่วโลก
มันคือการเซ็ตมาตรฐานในด้านระบบเกมเพลย์การเล่นแบบใหม่ให้กับวงการเกม Free to Play หลายคนอาจจะไม่ชอบ Battle Royale เพราะยิงไม่เก่ง สู้กับใครก็ลำบาก อยากจะเล่นเกมที่มี Team Deathmatch หรือทำ Objective มัน ๆ ก็อาจจะต้องเก็บเงินซื้อเกมอย่าง Call of Duty มาเล่นกันเลย แน่นอนว่ามันไม่สะดวกกับใครหลายคนแน่ ๆ
แต่ The Finals มาในแนวทางใหม่ เปลี่ยนให้มันกลายเป็น Arena Shooter ตายแล้วสามารถเกิดใหม่ได้เรื่อย ๆ ตราบใดที่การแข่งขันยังไม่จบ แถมเป้าหมายก็ไม่ใช่การสังหารทีมศัตรู แต่เป็นทำภารกิจส่งเงิน ทำให้มันมีอะไรให้ทำมากกว่าแค่การไล่ยิงกัน เกิดการประสานงานระหว่างตัวละครทั้ง 3 Build การวางแผนการเล่นต่าง ๆ การใช้ Gadgets และอุปกรณ์ต่าง ๆ แถมยังใช้เวลาในการเล่นต่อรอบไม่นานมาก ไม่เกิน 15 นาทีก็จบแล้ว และที่ยอดเยี่ยมยิ่งไปกว่านั้น คือแพ้หรือชนะ แต้มที่ได้ก็ไม่ต่างกันมาก กลายเป็นว่าต่อให้แพ้ เราก็ไม่ได้เสียดายอะไร ยั่วยุให้เรากดเล่นต่อ เพื่อทำเกมใหม่ให้ดีขึ้น สนองความสนุกของตัวเองมากกว่าที่จะไปคิดถึงของตอบแทนภายในเกม
ระบบทำลายล้างหรือ Destruction Environment เอง ก็ไม่ได้ทำมาเอามัน เพื่อให้เรามองเห็นตึกทั้งหลัง พังถล่มลงมาอย่างอลังการเฉย ๆ แต่มันเป็นการเปลี่ยนรูปแบบเกมการเล่นไปเลย สร้างมิติใหม่ ๆ สร้างแนวทางใหม่ ๆ ในการทำ Objective หรือพลิกแพลงสถานการณ์ฝ่ายเราให้ดีขึ้น หรือทำให้มันหายนะหนักกว่าเดิมก็ทำได้ มันคือเกมมัลติเพลเยอร์ที่สถานการณ์มีความเป็นไปได้หลากหลายแบบมากกว่าเกมยิงทั่วไป
มันอาจจะหนีระบบหลาย ๆ อย่างที่เกมฟรีจำเป็นต้องมีอย่างสกิน หรือ Battle Pass ไปไม่ได้ แต่สิ่งที่ The Finals ได้มอบให้เหล่าเกมเมอร์ คือความสนุก ความตื่นเต้นในรูปแบบใหม่ที่ยังไม่มีเกมไหนทำ และมันน่าจะเป็นมาตรฐานใหม่ ๆ ให้กับเกมในอนาคตอย่างแน่นอน