การสานต่อภาค 7 Remake ที่หลายคนเฝ้ารอ ในที่สุดก็ได้ออกมาให้เราสัมผัสกันในปี 2024 ด้วยสโคปเกมที่กว้างขึ้น ทำให้ทุก ๆ ส่วนของภาค Rebirth ต้องถูกขยายกว้างขึ้นกว่าในภาค Remake หลายเท่าตัว แต่ไม่เพียงเท่านั้น มันยังอัพเกรดของเดิม ๆ ที่ Remake ทำมาดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปอีก
Final Fantasy 7 Rebirth จะพาให้คุณผจญภัยไปพร้อมกับเหล่าตัวละครที่สุดแสนจะเป็นเอกลักษณ์ของเกม Final Fantasy ทุกตัวละครต่างมีปมเรื่อง มีความน่าสนใจ และยังสร้างรอยยิ้มให้ผู้เล่นได้ตลอดเวลา แต่ถึงอย่างนั้น นี่ก็คือการเดินทางที่ทุกอย่างเป็นเดิมพัน มันคือการเดินทางเพื่อหยุดมหันตภัย โดยมีอุปสรรคมากมายคอยขัดขวาง และถ้าพวกเขาทำไม่สำเร็จ ทุกอย่างก็จบสิ้น นี่เลยเป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยอรรถรสทุกรูปแบบ และด้วยความที่มันคือเกมรีเมคจากเกมในตำนานที่หลายคนก็น่าจะรู้จุดจบของมันอยู่แล้ว ในภาค Rebirth ก็ไม่ได้เป็นการทำใหม่เปล่า ๆ แต่ยังมีการเพิ่มสิ่งใหม่ มีการเขียนเรื่องราวแบบใหม่ ที่แม้แต่ผู้เล่นที่เคยสัมผัสภาคต้นฉบับก็ไม่เคยเจอมาก่อน ทำให้มันเป็นเรื่องราวที่น่าติดตาม ทั้งแฟนหน้าเก่าและผู้เล่นหน้าใหม่
ดีไซน์การนำเสนอของ Final Fantasy 7 Rebirth จะเป็นเหมือนการ ‘สะกดจิต’ ให้ผู้เล่นติดพันกับมัน ด้วยการวางขอบเขตมาอย่างชัดเจนว่าในแต่ละพื้นที่ จะมีเควส, กิจกรรม ในจำนวนเท่าไหร่ที่ผู้เล่นจะต้องตามเก็บเพื่อให้เขตนั้นสำเร็จลุล่วง 100% แม้ว่าการดีไซน์ตัวกิจกรรมจริง ๆ อาจจะไม่หวือหวา แต่มันก็จูงใจให้ผู้เล่นตามไปเก็บ เพราะหากเราไม่ทำ หน้าต่าง Progression ของเราก็จะขึ้นเป็นรูโบ๋อย่างนั้นไม่เต็ม 100% ปลุกความ OCD ในตัวของแต่ละคนให้อยากทำมันให้หมด ซึ่งมันก็คุ้มค่าอีกด้วย เพราะทุกอย่างที่เกมมีให้ทำ ล้วนมีรางวัลที่ทำให้ผู้เล่นเก่งขึ้น
หนึ่งในจุดที่เป็นเรื่องถกเถียงกันอย่างมากเกี่ยวกับเกมนี้ คือมันเป็นอภิมหาแห่งโลก ‘มินิเกม’ แม้จะเล่นเกมนี้ไปร่วม 20 ชั่วโมงแล้ว คุณก็จะยังได้เจอมินิเกมใหม่ และแน่นอนว่า มันถูกนับเป็น Progression ในการจะเล่นให้จบ 100% แม้ว่ามันจะน่าเหนื่อยหน่ายในบางช่วง แต่มันก็มีมินิเกมที่สนุกและน่าเล่นเยอะไม่แพ้กัน อย่างเช่นการแข่งโจโคโบะ นกยักษ์น่ารักที่มีให้เราแข่งได้กว่า 30+ สนาม และ ‘Queen’s Blood’ เกมไพ่สุดสนุก ที่กติการเรียบง่ายแต่ใช้แทคติกพอตัว
ตามด้วยระบบการต่อสู้ที่นับว่าเป็นดาวเด่นของภาคนี้เลย Final Fantasy 7 Rebirth สานต่อระบบจากภาค Remake ที่ให้การฟันแหลกมีความ Tactical ออกท่วงท่า ใช้ไอเทม และเวทย์มนต์ ผ่านแต้ม ATB ที่ต้องชาร์จด้วยการเข้าโจมตี แต่เขาทำให้มันสนุกขึ้นไปอีกขั้นด้วยระบบ ‘Synergy’ ที่มันทั้ง Skills และ Abilities ตัวละครแต่ละตัวจะมีท่วงท่าที่สามารถใช้ร่วมกัน โจมตีพร้อมกัน ตั้งรับพร้อมกัน และถ้าตัวละครนั้น ๆ มีการใช้ท่าพิเศษ นั่นจะทำให้ตัวละครนั้นรับแต้ม Synergy ที่เมื่อถึงระดับที่ต้องการ ตัวละครแต่ละคู่ จะสามารถใช้ท่า Synergy abilities ที่นับเป็นท่าไม้ตายขนาดย่อมเลยทีเดียว แถมในภาคนี้ยังมีระบบ Perfect guard ที่หากผู้เล่นกดกันได้ถูกจังหวะ จะทำให้ตัวละครไม่ได้รับแดมเมจใด ๆ นับเป็นการผสมผสานที่ลงตัวมากระหว่างความเป็น Action และ RPG
ด้วยความน่าติดตามของเรื่องราว ความติดพันของโลกเกม และระบบต่อสู้ที่ลงตัวสุด ๆ หากใครยังไม่ได้สัมผัสโลกของ Final Fantasy 7 Remake-Rebirth เราขอแนะนำให้คุณสัมผัสมันตั้งแต่วันนี้