หากจะยกชื่อเกมยากในยุคคลาสสิคขึ้นมาสักเกม ที่ทำเอาผู้เล่นอยากปาจอยทิ้งกันมานักต่อนัก ก็เห็นจะหนีไม่พ้น Ghosts ‘n Goblins หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า “มาไคมูระ” เป็นแน่
และปี 2021 นี้ “อาเธอร์” จะต้องกลับมาสวมชุดเกราะอัศวิน ออกวิ่งตะลุยดงปิศาจนับร้อยนับพัน ในเกมล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า Ghosts ‘n Goblins Resurrection ปลุกชีพเจ้าพ่อผู้บุกเบิกความหัวร้อน ให้เหล่าเกมเมอร์รุ่นใหม่ได้ลองของ และให้รุ่นเก่าได้หายคิดถึงกันอีกครั้ง บน Nintendo Switch
มาไคมูระโฉมใหม่นี้ มีดีอะไรให้น่าพูดถึง และมีอะไรแตกต่างไปจากภาคเดิมบ้าง เราขอเชิญมาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กันได้เลย
อีกครั้งแล้ว ที่อาเธอร์ต้องโยกย้าย
ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นอาเธอร์ อัศวินหน้าเข้ม ที่อยู่ดี ๆ ก็มีปิศาจลึกลับโฉบมาลักพาตัวเจ้าหญิงไปต่อหน้าดื้อ ๆ (อีกแล้ว) เป็นเหตุให้เขาต้องออกผจญภัยบุกป่าฝ่าดงปิศาจ อสูร พญามาร สารพัดร้อยแปดจะจินตนาการ เพื่อชิงตัวเจ้าหญิงที่รักกลับคืนมา ซึ่งฟังดูแล้วก็คลับคล้ายกับเกมดังอย่าง Mario แต่ผิดกันตรงที่มาไคมูระนั้นมืดมน และให้ภาพลักษณ์ที่โหดกว่า
ตัวเกมมาแบบ 2D Side-Scrolling ยึดตามต้นฉบับเช่นเคย อาเธอร์จะต้องต่อสู้กับปิศาจตามทางที่กรูเข้ามาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ด้วยอาวุธที่มีให้เลือกเก็บได้หลากหลาย และแน่นอนว่ายังคงมีระบบพลังชีวิตอันเป็นเอกลักษณ์ คือถ้าผู้เล่นแตะโดนการโจมตีอะไรเข้านิดเดียว ชุดเกราะจะหลุดกระจาย เหลือเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ลายสตรอเบอรี่หวานแหวว และถ้าโดนอะไรสะกิดอีกครั้ง อาเธอร์ก็จะกลายเป็นเศษกระดูกร่วงลงไปกองกับพื้นทันที
Ghosts ‘n Goblins Resurrection นับเป็นภาคใหม่ในรอบสิบปี ที่คราวนี้ใช้ขุมพลัง RE Engine ของ Capcom รังสรรค์ให้ระบบเกมมีความเป็นปัจจุบันมากขึ้น ยึดเอาทั้งแนวทาง และเนื้อหาจากเกม 2 ภาคแรก คือ Ghosts ‘n Goblins (Makaimura) ในปี 1985 และ Ghouls ‘n Ghosts (Daimakaimura) ในปี 1988 มาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
การผจญภัยที่พลาดได้เพียงไม่กี่ครั้ง
มาไคมูระภาคกำเนิดใหม่ ยังคงจุดขายที่ความยากระดับนรกแตกไว้อย่างดี ด้วยจำนวนศัตรูที่กรูมาอย่างต่อเนื่อง เกิดมาเรื่อย ๆ ไม่มีสิ้นสุด ซึ่งสวนทางกับความบอบบางของผู้เล่น ที่ใส่ชุดเกราะหล่อเท่แค่ไหน โดนเข้าไป Hit เดียวก็แตกกระจายทันที
เพราะฉะนั้น ภาพในวันวานที่ผู้เล่นได้วนเวียนอยู่แต่ด่านแรกไม่ไปไหน ก็ยังพบได้ในภาคล่าสุดนี้เช่นเดียวกัน
อีกหนึ่งสิ่งที่คงไว้เหนียวแน่น คือเพลง BGM อันโดดเด่นที่ถูกนำมาเรียบเรียงใหม่ ให้ความรู้สึกลึกลับและแฝงความกวนโอ๊ย แถมทีมงานยังเอาเพลงด่านแรกมาขายใน Trailer ให้จำกันได้ ซึ่งเป็นทำนองที่ผู้เล่นต้องคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่ก็ใช้เวลาติดพันอยู่แต่กับด่านนี้
ถึงจะยังคงยากตามต้นฉบับ แต่เกมก็มีตัวเลือกปรับระดับความยากมาช่วยให้เข้าถึงได้กับผู้เล่นทุกกลุ่ม โดยมีดังนี้
- Legend – ความยากสูงสุด, ระดับคลาสสิคของเกม โดนโจมตีแล้วเกราะแตกออกหมดทันที มีโอกาสแก้ตัวเพียง 1 ครั้ง
- Knight – ยากนะ แต่ก็ฝืนไหว, ระดับชาเลนจ์ ชุดเกราะจะแตกเพิ่มได้อีก 1 ครั้ง และมี Checkpoint ให้ระหว่างด่าน ตายแล้วไม่ต้องเริ่มด่านใหม่แต่ต้น
- Squire – เล่นแบบกรุบกริบ, ระดับที่ใช้สมาธิน้อยลงมาหน่อย ศัตรูจะเกิดมาใหม่ช้าลง และชุดเกราะแตกได้เต็มที่ 4 ครั้ง
- Page – สำหรับคนที่อยากท่องโลก, เห็นทิวทัศน์ใหม่ ๆ และเล่นไปให้จบ โดยยกเอาความยาก Squire มาไว้ แต่คราวนี้ตายแล้วสามารถเกิดใหม่ ณ จุดที่ตายได้เรื่อย ๆ ทำให้ผ่านด่านได้แบบไม่ลำบากอะไร
ในหนึ่งเซฟ ถ้าเลือกระดับไหนไปแล้วจะปรับไปปรับมาไม่ได้ ดังนั้นควรเลือกให้เหมาะกับตัวเองดี ๆ ก่อน ทั้งนี้เกมก็จะให้โอกาสผู้เล่นได้ปรับความยาก “ลงมา” เมื่อตายซ้ำตายซากมากเกินไป แต่ไม่มีปรับให้ยากขึ้นในภายหลังอีก
คงไว้ซึ่งความ Old School ที่หลายจุดก็ชวนหงุดหงิด
Resurrection ยังคงภาพลักษณ์ความทีเล่นทีจริง ใส่โมเมนต์งี่เง่ากวนประสาทชวนให้พลาดท่า ทำให้พอตายแล้วก็หัวร้อน แต่ไม่ตึงเครียดจนเกินไป
จนต้องบอกว่า “แค่ด่านแรกก็ไม่รอดแล้ว” นี่แหละจึงสมเป็นมาไคมูระ
ท่าวิ่ง ท่ากระโดดของตัวละครยังดูเก้งก้างเป็นเอกลักษณ์ พอ ๆ กับการก้าวเท้าของ Sprite ที่ไม่สัมพันธ์กับความเร็วในการวิ่งของตัวผู้เล่น
ในความเป็น Old School ตรงนี้ก็เอาใจผู้เล่นที่ชื่นชอบเกมคลาสสิคได้ดี แต่กับใครที่มีมาตรฐานเกม Platformer สมัยใหม่อยู่ในใจแล้ว กลายเป็นจะพบว่าเกมมีข้อจำกัดอะไรอยู่หลายอย่าง ที่เกมอื่น ๆ มี แต่มาไคมูระไม่มี
ยกตัวอย่างเช่นตอนกระโดด จะเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศไม่ได้ ระยะเท่าเดิมตลอด ไปทางไหนคือทางนั้น แถมถ้าตกจากอะไรสักอย่างจะลงมาเป็นแนวดิ่งเลย ไม่มีร่วงมาแบบ Projectile, กระโดดขึ้นแพลตฟอร์มได้ แต่กระโดดลงมาไม่ได้ และฟิสิกส์ถ่วงน้ำหนักแปลก ๆ ที่ไม่สัมพันธ์กับน้ำหนักตัวละคร
ความไม่สมเหตุสมผล อยู่ผิดที่ผิดทางเหล่านี้ ทำให้บางทีก็เล่นไปแล้วเอียงคอไปว่าอันไหนทำได้ทำไม่ได้ ซึ่งไม่รู้ว่าเกี่ยวกับการนำ RE Engine มาใช้ทำเกมลักษณะนี้ด้วยหรือไม่ ที่ทำให้การควบคุมดูแปลก ๆ มากกว่าจะมองว่าเป็นการเคารพต้นฉบับ
ลูกเล่นใหม่ ใส่เพิ่มเติมมาจากภาคเดิม
ไม่ต้องเอาหน้าไถจนกว่าจะผ่านด่านกันไปข้าง เพราะนอกจากคุณจะต้องแม่นกับด่านด้วยตัวเองแล้ว เกมก็มีตัวช่วยให้สามารถ “Git Gud” ได้เช่นกัน
ผู้เล่นสามารถเก็บผึ้ง “Umbral Bee” ที่บินอยู่ตามด่าน เพื่อเป็นแต้มปลดล็อคสกิลใหม่ ๆ มาใช้ได้ ซึ่งสกิลเหล่านี้ ถ้าเลือกใช้ให้ถูกโอกาสก็จะเพิ่มโอกาสรอดและเอาชนะศัตรูได้เยอะทีเดียว
นอกจากนั้นเกมยังเอื้อต่อการกลับมาเล่นซ้ำ สามารถเล่นด่านข้ามไปมา หรือย้อนไปเล่นด่านเก่าเพื่อเก็บ Umbral Bee ที่พลาดไปได้ เลยสามารถจะ “ฟาร์ม” ได้นิดหน่อย ให้อาเธอร์เก่งกาจขึ้นกว่าเดิม เช่นเดียวกันกับที่เกมได้ใส่ความลับซุกซ่อนไว้ตามแผนที่ ชวนให้ย้อนกลับมาค้นหากันด้วย
อีกลูกเล่นที่ใส่เข้ามา สำหรับคนที่คิดว่าเกมยังท้าทายไม่พอ ก็มี “Magic Metronome” ที่จะเร่งเวลาให้ทุกอย่างเร็วขึ้นไปอีก อันนี้เหมาะมากกับคนที่ชำนาญด่านอยากสปีดรันไปเก็บไอเท็ม แต่ใครที่ขยาดกับความยากของเกมอยู่แล้ว ก็อย่าได้ไปแตะมันเลยจะดีกว่า
เกราะทองสุดเทพ
ยังเท่เหมือนเคย
เกราะทองคือร่างสุดยอดของอาเธอร์ มีผลพาวเวอร์อัปให้กับอาวุธที่ใช้ แต่แน่นอนว่าโดนสะกิดทีเดียวก็บอกลาความเท่ไปได้อยู่ดี (กลับไปเป็นเกราะสีเงินเหมือนเดิม)
เกราะทองจะดรอปให้เก็บได้ตามฉาก และเป็น Extra Life ที่ห้ามพลาด แต่ระวังอย่าหน้ามืด รีบวิ่งไปเก็บจนโดนอะไรเข้าแล้วตายเสียก่อนก็เพียงพอ
อาร์ตสไตล์ที่ยกเครื่องใหม่
Ghosts ‘n Goblins Resurrection ให้กราฟิกแบบภาพวาด ที่ออกมาดูดีขึ้นแบบก้าวกระโดดสุด ๆ
เรียกว่าหรูหราหมาเห่า สวยงามในแบบของเกมบนแพลตฟอร์ม Nintendo Switch
ออกแบบตัวละครและศัตรูมาลงตัวกับการนำเสนอแบบ “นิทาน / เรื่องเล่า” ของเกม ทำให้ปิศาจออกมาไม่น่าขยะแขยงจนเกินไป มิหนำซ้ำบางตัวก็ดูเท่ระเบิดขึ้นกว่าเดิมด้วย โดยเฉพาะบรรดาบอสทั้งหลาย ที่อลังการขึ้นมาก แบบที่ลืมหน้าตาของภาคเก่าไปได้เลย
มัดรวมเกม 2 ภาคดั้งเดิมมาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
Resurrection มัดรวมแผนที่ไว้ให้เรียบร้อยแล้วจากทั้ง 2 ภาคแรกสุด
โดยในหน้าเมนูที่ให้เลือกด่าน แถวบนจะเป็นแผนที่ของ Makaimura ส่วนแถวล่างเป็นของ Daimakaimura
ถึงไม่ได้ยกแผนที่มาวางตรง ๆ แต่ Level Design ก็เดินรอยตามเกมเดิมไว้ประมาณ 70% ส่วนอันที่ต่างจากของเดิม ก็เป็นฉากใหม่ ๆ ที่ดีขึ้น ตัดส่วนที่น่าเบื่อออกไป
สิ่งกีดขวาง และศัตรูที่ปรากฏ ถูก Remake ใหม่ยกเซ็ต ดีขึ้นชนิดไม่เห็นฝุ่น เปลี่ยนสัตว์ประหลาดหน้าตาดูงี่เง่า ให้งี่เง่าขึ้นในแบบ HD, หรืออย่างฉากที่ตัวเอกต้องขี่ลิ้นอะไรไม่รู้กระโดดข้ามไปข้ามมา ก็เปลี่ยนเป็นมังกรหิน บินวนไปวนมาสวย ๆ แทน
เป็นการปรับปรุง-เปลี่ยนแปลงเนื้อหาเฉพาะในสิ่งที่ควร และ “คืนชีพ” ขึ้นมาได้อย่างสมศักดิ์ศรี กับต้นตำรับความโหดหินที่มีมาตั้งแต่ยุคฟามิคอม
และนี่คือมาไคมูระ, เกมยากที่คุณจะเต็มใจเล่นมัน
ตำนานที่กลับมาอีกครั้ง ด้วยเนื้อหาอัดแน่น และ Gameplay ที่สนุกท้าทายกว่าเดิม
ทำให้เราแทบไม่ลังเลจะแนะนำเกมนี้ให้คุณเล่น
เสพติดความเจ็บปวด ดังที่คำโปรยของเกมเขียนไว้ว่า
“หาทางบุกฝ่าตะลุย ไปกับโลกอันสวยงามของ Ghosts ‘n Goblins”
ซึ่งไม่แน่ใจว่าทีมงานหมายถึงครึ่งแรกของด่านแรกหรือเปล่า
ยิ่งตายยิ่งซู่ซ่า แค่ดู VTuber เล่นแล้วโวยวายยังสนุก ถ้าได้ลองเองจะบันเทิงขนาดไหน..
สัมผัสด้วยตัวเองได้วันนี้ กับ Ghosts ‘n Goblins Resurrection
มีให้เล่นบน Nintendo Switch รูปแบบดิจิทัลเท่านั้น (ยังไม่มีแผ่นขาย) ในราคาไม่แพง และรับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน เพราะแค่ด่านแรก ก็อาจจะต้องฟัดเหวี่ยงอยู่กับมันเป็นชั่วโมงแล้ว