ใครที่ติดตามข่าวสารวงการเกมมาบ้าง น่าจะเคยเห็นและผ่านตากันมาบ้างกับคำว่า ‘Gold’ ‘Gone Gold’ ‘Going Gold’ และอื่น ๆ อีกมาก สำหรับคนที่พอจะรู้ข้อมูลอยู่บ้าง Gone Gold เปรียบเสมือนกับการกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า เกมนี้จะไม่มีการเลื่อนวางจำหน่ายแล้ว และจะได้เล่นในวันที่ระบุมาอย่างแน่นอน แต่วันนี้เราจะพาเหล่าเกมเมอร์ทุกท่านมารู้จักกับคำว่า Gone Gold ให้มากขึ้นกว่านี้หน่อย ว่าจริง ๆ แล้ว มันมีความหมายว่าอะไรกันแน่
ที่มาของคำว่า Gone Gold
จริง ๆ แล้วคำนี้ไม่ได้เริ่มที่คำว่า Gone Gold แต่แรก ในสมัยก่อนนั้น อุตสาหกรรมแผ่นเสียงมักจะเรียกแผ่นที่เป็นสำเนาหลักที่ใช้ในการก๊อปปี้ข้อมูลส่งต่อสู่แผ่นอื่นว่า Gold Master แผ่น Gold Master นี้เป็นแหล่งบันทึกข้อมูลทั้งหมด แน่นอนว่าในยุคถัดมาที่เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ได้เข้ามาทดแทน จึงได้มีการใช้คำนี้เหมือนกัน และมีความหมายแบบเดียวกันเลย คือการนำเอาซอฟต์แวร์ โปรแกรม ข้อมูล ไปใส่ไว้ในแผ่นซีดี และกลายเป็นแผ่นมาสเตอร์ที่จะใช้ก๊อปปี้ส่งต่อข้อมูลทั้งหมด เพื่อเผยแพร่สู่สาธารณชนหรือออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ส่วนที่ว่าทำไมต้องเป็นสีทอง ก็เพราะในช่วงแรก การทำสำเนาข้อมูลลงแผ่นซีดีนั้น ปกซีดีที่ใช้กันเป็นสีทองซะส่วนมาก เลยกลายเป็นที่มาของคำว่าแผ่นทองไปโดยปริยาย
ในแวดวงเทคโนโลยีนั้น Apple ได้ใช้คำว่า Golden Master ก่อนที่บริษัทซอฟต์แวร์อื่น ๆ รวมไปถึงเกมได้นำเอาคำและกระบวนการทำงานนี้ไปใช้ด้วย และถูกเรียกอีกแบบว่า Gone Gold หรือ Going Gold ในปัจจุบัน และด้วยการที่เทคโนโลยีที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น การที่ทีมงานหรือผู้พัฒนาพูดว่า Gone Gold นั้น ไม่ได้หมายถึงการปั๊มแผ่นเพื่อเตรียมส่งขายอย่างเดียว แต่ยังหมายถึงการที่ตัวเกมถูกส่งเข้าสู่ขั้นตอนการขอรับรองจากเจ้าของสิทธิเครื่องเกมอย่าง PlayStation ของ Sony และ XBOX ของ Microsoft เป็นต้น
Gone Gold ในอุตสาหกรรมวงการเกม
ตามปกติแล้ว เกมไหนที่มีการออกมาประกาศว่าตัวเกมเข้าสู่สถานะ Gone Gold แล้ว หมายความว่าเสร็จสิ้นการพัฒนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะไม่มีการเลื่อนวันวางจำหน่ายอย่างแน่นอน เกมได้มีการพัฒนาอย่างเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ไม่มีส่วนไหนที่ยังถูกปิดกั้น หรือเป็นปัญหาจนเล่นไม่ได้ และคุณภาพเกมโดยรวมก็ดีพอที่จะสามารถนำไปทำสำเนาแผ่นออกขาย กล่าวง่าย ๆ คือ ตัวเกมเข้าสู่กระบวนการผลิตแผ่นเพื่อเตรียมส่งไปยังร้านค้าปลีก พร้อมขายแล้วนั่นเอง การประกาศ Gone Gold ของแต่ละเกมจึงถือเป็นสัญญาณที่ดี
แต่ไม่ได้แปลว่าเกมจะเสร็จสิ้น 100% แล้ว
ไม่มีสิ่งใดในโลกสมบูรณ์แบบ 100% เกมที่ประกาศ Gone Gold แล้วก็เช่นกัน ในวงการเกมนั้น เกมที่ประกาศ Gone Gold ส่วนมากจะเสร็จสิ้นการพัฒนาแล้วก็จริง แต่อย่าลืมว่าเกมก็ต้องมีปัญหาในส่วนของบัค และการอัปเดตเนื้อหาต่าง ๆ เป็นคอนเทนต์เสริมในอนาคต
รวมไปถึงสิทธิในการออกคำสั่ง Gone Gold เองก็ยังอยู่ที่ Publisher หรือตัวแทนจำหน่าย ถ้าหากว่าเกมอยู่ในการพัฒนามานานจนเกินไป พวกเขาอาจะต้องออกคำสั่งให้ทีมผู้พัฒนาตัดฟีเจอร์บางส่วนออก เพื่อทำให้เกมเสร็จสมบูรณ์ ส่วนเนื้อหาที่ตัดออก อาจจะมาในรูปแบบของ DLC หรือเนื้อหาเสริมแทน
แต่เกมที่ประสบปัญหานี้โดยตรงเลยคือ No Man’s Sky เมื่อปี 2016 โดยเจ้าตัวอย่าง Sean Murray ได้ออกมาประกาศว่าเกมนี้เข้าสู่สถานะ Gone Gold หรือเสร็จสิ้นการพัฒนาแล้ว แต่เกมเต็มออกมายังไง ใครที่ซื้อเล่นตอนนั้นก็น่าจะรู้กันดี ว่าทั้งฟีเจอร์ของเกมที่ตัดออกไปเยอะมาก โลกของเกมที่แห้งแล้ง ถึงขั้นที่ว่าเกือบโดนฟ้องร้องข้อหาหลอกลวงผู้บริโภค และทีมงานต้องใช้เวลากว่า 3-4 ปี ในการพลิกฟื้นตัวเกมให้กลับมามีชีวิตชีวา และยิ่งใหญ่อย่างที่มันควรจะเป็นแต่แรก แบบนี้ก็ถือว่าเป็น Gone Gold หลอก ๆ ก็ว่าได้
ส่วนมากการที่เกมทั้งหลายยังทยอยอัปเดตอยู่อย่างต่อเนื่องก็เป็นข้อที่รับได้ เพราะยังไงเกมที่ออกมาก็ถือว่าพร้อมเล่นอย่างเต็มตัวแล้ว
แต่ในช่วงเมื่อวานที่ผ่านมา การประกาศเลื่อนของเกม Cyberpunk 2077 ก็ถือว่าเป็นการสั่นคลอนคำว่า Gone Gold กันไปทั่วโลกนั่นคือการออกมาประกาศเลื่อนทั้งที่ยัง Gone Gold ไปแล้ว โดยสาเหตุที่เลื่อนนั้นก็เพราะว่าต้องทดสอบเกมมากถึง 9 เวอร์ชั่นในวันวางจำหน่าย ซึ่งไม่ใช่งานง่ายเลย
ดังนั้นอาจทำให้แฟน ๆ เกม เคลือบแคลงใจแม้ว่าตัวเกมจะประกาศ Gone Gold ไปแล้ว ว่าตัวเกมอาจจะเลื่อนวางจำหน่ายอีกครั้ง ซึ่ง Cyberpunk 2077 ถือเป็นเกมแรกเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม CD Projekt RED เคยประสบปัญหาเดียวกันนี้มาแล้วกับเกม The Witcher 3: Wild Hunt เพียงแต่ในตอนนั้นมันเป็นเพียงแค่การตัดฟีเจอร์บางส่วนออกไป ไม่ใช่การเลื่อนวางจำหน่ายทั้งที่ประกาศ Gone Gold แล้วอย่างที่เป็นในรอบนี้
อย่างไรก็ตาม ต่อจากนี้คำว่า Gone Gold อาจไม่ขลังเท่าที่ผ่านมา เพราะการประกาศเลื่อนของเกม Cyberpunk 2077 ที่เป็นเกมที่มีชื่อเสียง และผู้คนต่างเฝ้ารอ แต่กลับเลื่อนวางจำหน่ายทั้งที่มีการประกาศ Gone Gold แล้ว ก็กลายเป็นอีกหนึ่งหน้าของวงการเกมที่น่าจดจำจริง ๆ