BY KKMTC
15 Jan 19 6:21 pm

Gran Turismo เกมสร้างคนให้ผู้เขียนกลายเป็นผู้เล่นสาย Racing เต็มตัว

122 Views

จุดเริ่มต้นเกมเมอร์แต่ละคนมีเส้นทางที่ไม่เหมือนกัน คนบางคนเริ่มเล่นเกมประเภท FPS มาจาก Battlefield หรือ Call of Duty คนบางคนเริ่มสนใจวิดีโอเกมเพราะได้ลองสัมผัสเองกับมือแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่สำหรับผู้เขียน จุดเริ่มต้นสำหรับผู้เขียน คือเกม Gran Turismo ที่สร้างผู้เขียนให้กลายเป็นผู้เล่นสาย Racing เต็มตัวจนถึงทุกวันนี้

Gran Turismo คืออะไร

Gran Turismo

เกม Gran Turismo เป็นเกมแข่งรถประเภท Racing Simulator พัฒนาโดย Polyphony Digital Entertainment และจัดจำหน่ายโดย Sony Computer Entertainment ซึ่งเป็นเกม Exclusive เฉพาะ PlayStation มาตลอดนับตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาค Sport ในปัจจุบัน

ประวัติความเป็นมาของเกม Gran Turismo ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะหลังจากวางจำหน่ายเกม Motor Toon Grand Prix 2 เกมแข่งรถที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Mario Kart คุณ Kazunori Yamauchi ผู้กำกับเกมและ CEO แห่ง Polyphony Digital Entertainment เขาเริ่มใฝ่ฝันว่าอยากจะสร้างเกมแข่งรถที่มีระบบฟิสิกส์การขับที่สมจริง พร้อมกับขนรถยนต์ลิขสิทธิ์แท้เข้ามาโลดแล่นในวิดีโอเกม

เขาจึงรวบรวมพนักงานทำเกมทั้งหมดเพียง 7 คน แล้วสร้างเกมชื่อ Gran Turismo ขึ้นมาโดยใช้เวลาพัฒนานาน 5 ปี ตั้งแต่ปี 1992 จนถึงวันวางจำหน่ายเกมในปี 1997 ลงให้เฉพาะเครื่อง PlayStation เท่านั้น

ความเหนื่อยล้าและความตั้งใจของทีมงานก็มีผลลัพธ์ไม่สูญเปล่า เกม Gran Turismo ได้รับคะแนนวิจารณ์ด้านบวกอย่างท่วมท้น ไม่ว่าจะเป็นด้านฟิสิกส์การขับรถที่รู้สึกสมจริงที่สุดในยุคนั้น, มีรถยนต์สะสม 170 คัน, ภาพกราฟิกสวยงาม, และมีระบบการปรับแต่งรถยนต์ ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวไม่เคยมีที่ไหนมาก่อนในโลกวิดีโอเกม แล้วด้วยระบบทุกอย่างของเกมมาผสมกัน ทำเกมมีความเสมือนจริงสมกับสโลแกนที่เขียนใต้ชื่อเกมไว้ว่า “The Real Driving Simulator”

Gran Turismo สามารถขายได้ 10.8 ล้านชุด และประสบความสำเร็จมากที่สุดทั้งด้านยอดขายกับคำวิจารณ์ในแพลตฟอร์ม PlayStation 1 รวมถึงจัดว่าเป็นเกมแห่งนวัตกรรมแห่งยุคที่เปลี่ยนแปลงเกมแข่งรถไปตลอดกาล

นอกจากช่วย Sony แล้ว ช่วยผู้เขียนให้รู้ตัวเองด้วย

นอกจาก Gran Turismo เป็นเกมสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อน PlayStation แล้ว แต่รวมถึงเป็นเกมที่อยู่ในใจผู้เขียนตลอดไป เพราะเกมนี้เป็นรักแรกที่ทำให้ผู้เขียนเริ่มหลงไหลในเกมแข่งรถจนเติบโตกับมันและกลายเป็นเกมเมอร์สาย Racing จนถึงทุกวันนี้

เรื่องราวเริ่มต้นช่วงที่ผู้เขียนอายุประมาณ 8 หรือ 10 ปี คุณพ่อมักใช้เวลาว่างกับการเล่นเกม Gran Turismo 2 หลังเลิกงานเสมอ คุณพ่อมักเล่นโหมดเนื้อเรื่อง Simulation Mode ที่ต้องนำเงินในเกมไปซื้อรถยนต์แล้วเข้าร่วมแข่งขันเพื่อคว้าถ้วยรางวัลทองคำให้ได้ โดยผู้เขียนมักจะดูคุณพ่อเล่นเกมตามประสาของเด็กเล็กทั่วไป

Gran Turismo 2

Simulation Mode ใน Gran Turismo 2

แต่มีวันหนึ่ง คุณพ่อยื่นจอย DualShock ให้ผู้เขียนแล้วบอกว่า “เห็นว่ามองดูมาหลายรอบแล้ว ลองเล่นดูสิ” ตอนแรกผู้เขียนไม่กล้าที่จะเล่นเกมแข่งรถ เพราะกลัวว่าจะทำให้เกมแพ้แล้วคุณพ่อรู้สึกโกรธ (เพราะอะไรไม่รู้) แต่คุณพ่อก็พยายามยัดเยียดให้ผู้เขียนเล่นเกม Gran Turismo ให้ได้ คุณพ่อยื่นจอยเข้ามือโดยทันทีโดยผู้เขียนไม่ทันได้ตั้งตัว ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนได้สัมผัสเกมแข่งรถครั้งแรกในชีวิต

และความกลัวของผู้เขียนก็เป็นจริง ผู้เขียนไม่สามารถควบคุมรถยนต์ในเกม ไม่รู้วิธีการใช้เบรค ไม่รู้การเลี้ยว หรือแม้กระทั่งเทคโอเวอร์คู่แข่ง

ทุกครั้งที่ผู้เขียนเล่นเกมแข่งรถ ผลลัพธ์มักจะลงเอยอยู่อันดับที่โหล่ตลอด แม้ว่าในระหว่างเล่นเกม คุณพ่อจะสอนวิธีการเล่นเกมแข่งรถแบบเบื้องต้น เช่น “ให้เบรคก่อนเข้าเลี้ยว” หรือ “อย่าชนหลังคู่แข่ง เพราะยังไงเราต้องชะลอลดความเร็วอยู่ดี” และแน่นอนว่าคำสอนของคุณพ่อไม่เข้าหัวของผู้เขียนเลยสักนิด เพราะสมาธิจดจ่ออยู่กับหน้าจอโทรทัศน์ตลอดเวลา

เนื่องจากฝีมือการเล่นเกมแข่งรถของผู้เขียนห่วยเกินไปจนหาความสนุกของเกม Racing ไม่ได้ ผมจึงสัญญาว่า “จะไม่แตะเกมแข่งรถอีกต่อไป”

Gran Turismo

แต่ถึงอย่างนั้น กิจกรรมดูคุณพ่อเล่นเกม Gran Turismo 2 ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเห็นคุณพ่อเล่นอีเว้นท์การแข่งขันหนึ่ง (จำชื่ออีเว้นท์ไม่ได้) เป็นสนาม Super Speedway เส้นทางตรงที่เน้นพลังแรงม้าเป็นหลัก โดยมีรางวัลเป็นรถ Mitsubishi Lancer Evolution V Rally Car ’98 และอีเว้นท์ดังกล่าวไม่มีเงื่อนไขพิเศษ ทำให้เพียงแค่เอารถยนต์พลังแรงม้าสุดโอเวอร์พาวเวอร์มาเข้าแข่งขันก็สามารถเอาชนะทุกคนได้ไม่ยาก

ผู้เขียนตัดสินใจ หันมาจับจอยเล่นเกม Gran Turismo 2 อีกครั้ง เท่าที่จำได้ ผู้เขียนมักเลือกรถ Ford GT40 Race Car ’69 แล้วเข้าแข่งขัน Super Speedway โดยใช้เวลาเล่นจบในหนึ่งแมทช์ประมาณ 10 นาที แล้วผู้เขียนมักจะชนะการแข่งขันแล้วได้รางวัลเป็นรถยนต์เกือบทุกรอบ ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ผู้เขียนเริ่มสนุกสนานกับเกมแข่งรถ เพราะสามารถเอาชนะเกมเป็นครั้งแรก

Gran Turismo 2

แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนยังคงยึดติดกับชัยชนะอันดับหนึ่งและกลัวการพ่ายแพ้มากเกินไป ผู้เขียนจึงเล่นแต่อีเว้นท์ซ้ำ ๆ เหมือนเดิม รางวัลก็เหมือนเดิมจนรถ Evolution V Rally Car ประมาณ 10-20 คัน ดองเค็มในโรงเก็บรถ แล้วนำไปขายทิ้งจนกลายเป็นเศรษฐีในเกม Gran Turismo 2 ในพริบตา เพราะเล่นแต่อีเว้นท์เดิม ๆ จนคุณพ่อเห็นสังเกตเห็นแล้วบอกว่า “เล่นสนามอื่นบ้างสิ เล่นแต่ของเดิม ๆ ฝีมือก็เท่าเดิมนะ มันจะไปสนุกได้ไง” แต่ผู้เขียนก็ไม่ฟังคุณพ่อ แล้วเล่นแต่อีเว้นท์เดิมจนเครื่อง PlayStation พังไปตามกาลเวลา แล้วห่างจากเกมแข่งรถไปหลายปี

แต่วิวัฒนาการด้านฝีมือเกมแข่งรถเริ่มปรับปรุงอย่างเห็นชัด เมื่อผู้เขียนได้สัมผัสเกม Gran Turismo 4 (ตอนนั้นยืมแผ่นเกมและเครื่อง PlayStation 2 จากญาติ ทำให้พลาดเกม Gran Turismo 3: A-Spec ไปโดยปริยาย) เนื่องจากเกมแข่งรถเริ่มมีระบบ Assist ช่วยเหลือสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ ซึ่งเปรียบเป็นการเรียนรู้ขั้นบันไดผู้เล่นสามารถเข้าใจวิธีการเล่นเกมแข่งรถมากขึ้น ผู้เขียนใช้เวลานานมากจากการสอบใบขับขี่ในเกมหรือโหมด License Test ซึ่งทำให้ผู้เขียนเริ่มเข้าใจวิธีการเข้าเลี้ยว, การเบรก, ศึกษาสนามแข่งรถ,เปลี่ยนล้อ, วิธีปรับแต่งรถยนต์เบื้องต้น, ลักษณะการขับเคลื่อนระหว่างล้อหน้ากับล้อหลัง และระบบอื่น ๆ อีกมากมายให้เรียนรู้

gran turismo 4

และตรงจุดนี้ ก็ถือว่าการเปลี่ยนชีวิตของผู้เขียนอย่างแท้จริง ผู้เขียนเริ่มมองหารถยนต์ประจำตัวในเกม Gran Turismo 4 (ผลลัพธ์คือ Mercedes-Benz 190 E 2.5 – 16 Evolution II Touring Car ’92) และพัฒนาฝีมือมากขึ้นจนเริ่มเข้าแข่งขันประเภท Endurance Race ที่ผู้เขียนต้องนั่งทรมานเล่นเกมนานถึง 7 ชั่วโมง เพื่อเอารางวัลเป็นรถยนต์ระดับแรร์ มันเหนื่อยและยากก็จริง แต่ก็ภูมิใจที่ผ่านจุดนั้นมาได้

นอกจากนี้ Gran Turismo 4 ช่วยให้เข้าใจวิธีการเล่นเกมแข่งรถทั่วไปมากขึ้น จาก Need for Speed: Most Wanted ที่มีฝีมือกะโหลกกะลา เล่นแต่ระดับความยากแบบ Easy เริ่มหันมาเล่นระดับที่ยากขึ้นอย่าง Normal, สามารถคว้าอันดับหนึ่งในเกม Flatout 2 จากที่ไม่เคยทำได้ หรือ เล่น Toca Race Driver 3 โดยไม่ต้องพึ่งระบบ Assist และทุกอย่างก็เริ่มลงตัวแล้วเล่นเกมแข่งรถได้สนุกสนานมากขึ้น จนเป็นเกมเมอร์สาย Racing ที่ติดตามเกมประเภทนี้จนถึงปัจจุบัน

Gran Turismo 4

Mercedes-Benz 190 E 2.5 – 16 Evolution II Touring Car ’92

และนี่คือสตอรี่ทั้งหมดที่ทำให้ผู้เขียนกลายเป็นเกมเมอร์สาย Racing สำหรับความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้เขียนชื่นชอบเกมประเภทนี้เพราะสามารถเห็น “วิวัฒนาการของด้านฝีมือที่รู้สึกสัมผัสได้อย่างเห็นชัด” เหมือนกับเกมเมอร์คนอื่นที่เล่นเกม FPS หรือแนว Sport จากฝีมือธรรมดาแล้วใช้เวลาเล่นนานมากจนสามารถเอาดีเอาเด่นกับเกมประเภทดังกล่าวในที่สุด

ถึงแม้ว่าผู้เขียนจะไม่ใช่คนเล่นเกมแข่งรถที่มีฝีมือเก่งกาจราวกับมือโปร ไม่มีอุปกรณ์พวงมาลัย สับเกียร์ Manual ก็ยังไม่เป็น แต่ถ้าพูดถึงความใจรัก ผู้เขียนกล้าให้คะแนนตัวเองเป็น 10/10 อย่างแน่นอนครับ

SHARE

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top