เชื่อว่าคุณผู้อ่านหลายคนที่ชื่นชอบการเล่นเกมกับเพื่อนบ่อย ๆ เกมแนวที่ชอบเลือกมาเล่นกันจะเป็นแนว PvE หรือ Player Versus Enemy ที่ไม่ต้องมาซีเรียสหัวร้อนกับการโดนผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามยำจนงอมพระราม แค่มีความสามัคคีและมิตรภาพระหว่างเพื่อนฝูงก็เล่นได้สนุกแล้ว มีหลายเกมที่เรานิยมนำมาเล่นแม้เวลาจะผ่านมานาน ซึ่งหนึ่งในเกมที่หลายคนชื่นชอบมาจนถึงทุกวันนี่ต้องมีชื่อของ Killing Floor ติดมาด้วยแน่นอน
ก่อนหน้านี้ Turtlerock Studios เคยพาเราไปรู้จักกับ Left 4 Dead เกมเดินหน้ายิงผ่านด่านที่เน้นการร่วมแรงร่วมใจกันระหว่างผู้เล่นในการฝ่าฝูงซอมบี้ พร้อมกับต้องรับมือกับซอมบี้แบบพิเศษ เป็นเกมที่เล่นได้สนุกและเรียบง่าย เรียกว่าไม่มีเกมอะไรที่อัดฉีดดีกรีความมันระหว่างเพื่อนฝูงได้ดีเท่านี้แล้ว
แต่อันที่จริงแล้ว มี Mod ของเกม Unreal Tournament 2004 ตัวหนึ่งที่เคยออกมาให้โหลดเล่นกันตั้งแต่ปี 2005 มีรูปแบบการเล่นที่คล้ายกัน เพียงแต่ไม่ได้เป็นการวิ่งผ่านด่าน ผู้เล่นทั้งกลุ่มจะต้องป้องกันและปราบเหล่าผีดิบที่ออกมาเป็น Wave ยิงให้หมดก่อนจะมีช่วงพักให้ไปเติมอาวุธและเครื่องกระสุนในร้านค้าเพื่อเอามายิงพวกมันใหม่ แถมใน Wave หลังๆ จะมีศัตรูพิเศษโผล่มาทำให้เราวงแตกได้ง่ายขึ้นด้วย
ซึ่ง Mod ตัวนั้นก็คือ Killing Floor พัฒนาโดย Alex Quick และด้วยการที่ตัว Mod ถูกดัดแปลงออกมาได้ดี ทำให้ไปเตะตาบริษัทพัฒนาเกมอย่าง Tripwire Interactive ขอติดต่อไปทำเป็น Mod ลงเกม Red Orchestra แต่ Quick ไม่เอาด้วย แต่พอเวลาผ่านไป Quick ก็ได้ติดต่อไปยัง Tripwire อีกครั้ง เพื่อ Port Mod ตัวนี้ลงเกม Red Orchestra และเปิดให้เล่นบน Steam
ทว่าทาง Tripwire นั้นมีโปรเจกต์ Mod อื่นที่จะทำลงในเกมนั้นอยู่แล้ว แผนก็เลยเปลี่ยนมาเป็นทำเกมแยกขายแทน โดยก่อนเปลี่ยนไปทำเกมแยก Quick ก็ทิ้งทวนอัปเดต Mod ในเกม Unreal Tournament ในปี 2008 ก่อนที่จะหันมาช่วยพัฒนาเกมเวอร์ชั่นแยกขายเต็มตัว
Killing Floor ภาคแรกเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2009 มีการโปรโมทว่าตัวเกมได้ตัวผู้สร้าง Mod เวอร์ชั่นแรกมาร่วมงานด้วย และก็ได้รับความสนใจไม่น้อย ก่อนจะออกวางขายจริงในเดือนพฤษภาคม และมันก็ได้รับความนิยมอย่างพุ่งพรวดทันที
กติกาของ Killing Floor นั้นก็ไม่มีอะไรมาก ผู้เล่นจะได้เลือกคลาสตั้งต้นที่มาพร้อมความสามารถแตกต่างกันไป เช่น Field Medic, Commando, Berserker หรือ Support ที่แต่ละคลาสนั้นจะมีความถนัดในอาวุธต่างชนิดกันออกไป รับมือกับฝูงมนุษย์กลายพันธุ์หรือ Zed (ที่ตอนแรกเราเรียกติดปากว่าซอมบี้นั่นแหละ) พอหมดรอบแล้วเราจะได้เข้าไปที่ร้านค้า เอาเงินที่ได้จากการฆ่าพวก Zed มาซื้ออาวุธซื้อเกราะเพื่อเอาไว้รับมือกับศัตรูสุดโหดในรอบต่อไป และรอบสุดท้ายเราก็จะได้เจอกับบอสที่โหดยิ่งกว่าโหด การปราบบอสได้ถือเป็นการพิสูจน์ฝีมือของกลุ่มเพื่อนอย่างมากแม่จะเป็นแค่ระดับ Normal ก็ตาม
ด้วยความสนุกอันเรียบง่ายนี้ ทำให้ Killing Floor กลายเป็นเกมขวัญใจของใครหลายคน แม้คะแนนเฉลี่ยตามเว็บไซต์สื่อเกมจะไม่ได้สูงมาก เพราะเฉลี่ยอยู่ที่ 7 คะแนน แต่ฐานคนเล่นก็มีมากมายจนไม่น่าเชื่อว่าจะได้รับความนิยมมากขนาดนี้ รวมไปถึงฐานผู้เล่นคนไทยที่มีก็มีมากไม่น้อยเหมือนกัน เพราะมันกินสเปกเครื่องไม่สูง ระบบอินเทอร์เนตในตอนนั้นก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง หาเซิฟเวอร์เล่นเกรียนกับเพื่อนได้ไม่ลำบาก และยังเข้าใจได้ไม่ยาก ทำให้เป็นเกมขวัญใจของเด็กไทยในทันที
อีกสิ่งหนึ่งเราต้องชมก็คือเหล่าศัตรูที่ถูกออกแบบมาค่อนข้างดี มีศัตรูพื้นฐานเช่น Clot หรือ Crawler มีตัวที่เริ่มเป็นปัญหาอย่าง Bloater และเจ้าตัวใหญ่เบิ้มอย่าง Scrake และ Fleshpound หากไม่ร่วมมือกันจริง ๆ หรือเลือกคลาสมาไม่ครบรับรองว่าวงแตกแน่นอน ทำให้ Killing Floor ที่ดูเป็นเหมือนเป็นเกมง่าย ๆ กลายเป็นเกมที่มีความลึกขึ้นมาหลายเท่าเลยทีเดียว
ความสำเร็จของ Killing Floor ภาคแรกนั้นถือเป็นของจริง จากเกมที่ภาพไม่ค่อยสวยหรือมีระบบการเล่นดีเด่น แต่มันก็ทำยอดขายเป็นเกมติด Top Selling ของ Steam อยู่หลายปี ด้วยราคาแสนถูก หาเพื่อนเล่นได้ง่าย และกินเสปกน้อยมาก ยิ่งช่วงลดราคานี่เรียกว่าเป็นนาทีทองของผู้พัฒนาและผู้เล่นเลยก็ว่าได้ เป็นเกมที่หยิบมาเล่นกี่ครั้งก็สนุกไม่เปลี่ยน
ปัจจุบันนี้ Killing Floor ได้ออกวางจำหน่ายภาคสองออกมาแล้ว ระบบการเล่นและกราฟฟิกก็พัฒนาขึ้นมาตามยุคสมัย มีคลาสใหม่ให้เล่น ศัตรูที่กวนโอ๊ยกว่าเดิม มีโหมดการเล่นใหม่ที่แหวกแนวมากกว่าเดิม แม้การอัปเดตจะเริ่มตันเพราะเนื้อหาของเกมไม่ได้หลากหลายมากขนาดนั้น แต่ก็เป็นเกมที่หลายคนเลือกมาเล่นกับเพื่อนอยู่เสมอไม่เปลี่ยนแปลง
สำหรับใครที่อยากเล่น ตอนนี้ Killing Floor 2 ก็ยังหาเซิฟเวอร์ใกล้บ้านเราเล่นได้ไม่ยาก คอมมูนิตี้ของผู้เล่นในไทยก็ยังมีอยู่และเหนียวแน่นมาก หากคุณสนใจ ก็รอสอยช่วงลดราคาหรือซื้อไปเลย แล้วเล่นอย่างมีความสุขได้เลยครับ
