BY Zreast
27 Sep 23 6:00 pm

10 เทคนิคและวิธีสู้บอสใน Lies of P เพื่อเอาตัวรอดจากนรกแห่งจักรกล

1,679 Views

“Lies of P” คืออีกหนึ่งเกม Soulslike ของปี 2023 ที่ควรค่าแก่การได้ลอง เพราะนอกจากจะมีธีมน่าสนใจ เป็นพินอคคิโอท่ามกลางโลกอันมืดหม่น ในด้านเกมเพลย์เองก็ถือว่าหนักแน่น เร้าใจ และชวนให้ติดพันได้จนวางจอยไม่ลงเลยทีเดียว

แต่เกม Soulslike ก็คือเกม Soulslike, มันยังคงมีความยากอยู่หลายจุด ดังนั้นวันนี้เราจะพาไปแนะนำ 10 วิธีที่จะช่วยคุณปรับตัวเข้ากับเกมง่ายขึ้น เพื่อเอาตัวรอดจากนรกแห่งจักรกลในเมือง Krat และตามหาความจริงที่ซ่อนอยู่ได้ในเร็ววัน

1. Perfect Guard คือเพื่อนแท้

  • เกมนี้ไม่มี Build ระยะไกลแบบจริงจัง หรือ Build ที่โกงจนเปลี่ยนเป็นเกมง่าย ทางรอดทางเดียวของคุณจึงต้องกดป้องกันให้แม่น ทำ Perfect Guard (Parry) ให้ได้บ่อย ๆ ยิ่งดี เพราะนอกจากจะลดความเสียหายแล้ว ยังทำให้ศัตรูติด Stagger ได้ไวขึ้นด้วย แต่สำหรับเกมนี้จะไม่มีเกจบอกว่าเมื่อไหร่ที่บอสจะติด Stagger ได้ (หลอดเลือดเป็นกรอบสีขาว)
  • แทบไม่มีท่าไหนที่รับมือด้วย Perfect Guard ไม่ได้ (ยกเว้นพวกท่าพ่นพิษ, ไฟจากปืนไฟ) ดังนั้นฝึกไว้ย่อมเป็นการดีแน่นอน
  • ในช่วงแรก ๆ ที่ยัง Perfect Guard ไม่แม่น และกลายเป็นป้องกันธรรมดาแทน เลือดของเราจะลดไปเล็กน้อย แต่ในช่วงนี้สามารถโจมตีศัตรูเพื่อชิงเลือดกลับมาได้ (คล้าย Bloodborne) ดังนั้นในหลาย ๆ สถานการณ์ การกดป้องกันจึงดีกว่ากลิ้งหลบเพื่อวัดดวงว่าจะไม่โดน หรือโดนเต็ม ๆ 100%

2. อย่าเก็บ Ergo ไว้กับตัวเยอะเกินไป

  • เช่นเดียวกับเกม Souls-like เกมอื่น ๆ , กฎเหล็กของ Lies of P คืออย่าพยายามพกสิ่งสำคัญอย่าง Ergo ติดตัวไปในปริมาณเยอะ ๆ เพราะเราไม่รู้เลยว่าเมื่อใดที่จะพลาดท่าตายขึ้นมา จนเสียโอกาสอัปเลเวลไป
  • ดังนั้นเมื่อเราเห็นว่าตัวเลขของ Ergo ตรงมุมขวาบนของจอกลายเป็นสีฟ้า นั่นแปลว่าเราสามารถใช้มันอัปเลเวลได้แล้ว ให้มองหาจุดปลอดภัย แล้วกดใช้ไอเท็ม “Moonphase Pocket Watch” เพื่อวาร์ปกลับไปอัปเลเวลใน Hotel Krat
  • กรณีที่เราเห็นว่าขาด Ergo อยู่อีกแค่นิดเดียวก็จะถึงเกณฑ์อัปเลเวลได้แล้ว ให้กดใช้ไอเท็มประเภท Ergo Fragment ได้เลย เพื่อเพิ่ม Ergo จนกว่าจะเพียงพอต่อการอัปเลเวล

3. ติดตั้งไอเท็มใน Belt แค่เท่าที่จำเป็น

  • ให้เหลือไว้เฉพาะไอเท็มที่มักใช้บ่อย ๆ ในระหว่างต่อสู้เท่านั้น เช่น Pulse Cell, Fable Catalyst, Grinder เพื่อป้องกันการกดพลาดในจังหวะคับขัน ขณะกำลังสู้บอสอยู่
  • ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใส่ไอเท็มใน Upper Belt / Lower Belt ไว้จนเต็มสล็อตที่มีอยู่ เพื่อที่จะได้กดเปลี่ยนมาเป็นไอเท็มที่เราต้องการไวขึ้น
  • พวกไอเท็มจิปาถะอื่น ๆ เช่น Moonphase Pocket Watch หรือน้ำยาลบสถานะผิดปกติ สามารถใส่ไว้ใน Extra bag ได้ (กด A / X ค้าง เพื่อโชว์เมนู Extra Bag ขึ้นมา)

4. ทดลอง Build ให้เต็มที่ก่อนได้เลย

  • (มีสปอยล์เล็กน้อย) เมื่อเล่นไปถึงจุดหนึ่ง เราจะสามารถ Reset ค่า Status, P-Organ และ Legion Arm ได้ ดังนั้นในช่วงต้นเกม ไม่ต้องกลัวที่จะลองเล่นใน Build ที่ตัวเองสนใจ เพราะยังมีโอกาสแก้ตัวภายหลัง
  • แต่กว่าจะ Reset ได้ก็ต้องเล่นไปไกลพอสมควร ดังนั้นก็ไม่ควรอัปค่า Status สะเปะสะปะเกินไป โดยค่าที่เราแนะนำให้อัปไว้ก่อนเลยเยอะ ๆ คือ Vitality (เพิ่มเลือด) และ Vigor (เพิ่ม Stamina)
  • จุดที่เราจะเริ่ม Reset ได้แล้ว คือหลังจากชนะบอสตัวหนึ่ง และได้รับกุญแจชื่อ “Saintess of Mercy Statue Gallery Key”
  • ให้หันหลังเดินย้อนกลับมาทางเดิม ขึ้นบันไดแล้วเลี้ยวขวาเพื่อกลับมาในห้องที่มีต้นไม้เยอะ ๆ
  • บริเวณนี้ จะมีประตูหนึ่งที่สามารถใช้กุญแจเปิดออกได้ เพื่อเข้าไปปลดล็อคฟีเจอร์การ Reset

5.  อัปสกิลหลบก่อนเป็นอันดับแรก

  • ถึงแม้ว่า Perfect Guard จะเป็นเพื่อนแท้ของเรา แต่ก็ใช่ว่าเราจะกดแม่นไปเสียทุกรอบ ดังนั้นบางครั้ง การหลบก็ยังจำเป็นอยู่
  • ในตอนแรกเริ่ม ตัวละครของเราจะแค่กระโดดหลบมาเท่านั้นในขณะต่อสู้ แต่เราสามารถอัปเกรด P-Organ ให้กลายเป็นการกลิ้งหลบได้ด้วย (ชื่อ “Link Dodge” ซึ่งเป็นการกด B / O ย้ำสองครั้งเพื่อกลิ้งหลบ)
  • การอัปสกิลนี้จะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นมากกับการสู้บอส โดยเฉพาะการหลบท่าโจมตีสีแดงต่าง ๆ (ท่าที่ป้องกันเฉย ๆ ไม่ได้)

6. ลับอาวุธให้พร้อมเสมอ

  • แม้เป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย แต่หลายคนก็ยังลืมได้ในจังหวะเร่งด่วนขณะสู้บอส ดังนั้นเมื่อมีโอกาส มีเวลาพักหายใจอยู่เยอะ อย่าลืมใช้ไอเท็ม Grinder ให้ติดเป็นนิสัย เพื่อลับอาวุธของคุณให้พร้อมสู้อยู่เสมอ
  • และเมื่อเล่นไปถึงจุด ๆ หนึ่ง เราจะปลดล็อคฟังก์ชัน “Grindstone” มาด้วย นี่คือตัวช่วยที่ทำให้สู้บอสได้ง่ายขึ้นมาก เพราะมันสามารถบัฟอาวุธให้มีคุณสมบัติพิเศษได้ตามต้องการ ดังนั้นอย่าลืมใช้ Grindstone ทุกครั้งก่อนสู้บอส

7. เลือกอาวุธที่สกิล / เลือก Handle ที่ Moveset

  • ลองใช้ Handle ทั้งหมดที่มีอยู่ในตัว เพื่อดูว่า Moveset แบบใดที่เหมาะกับเราที่สุด (Moveset ในเกมนี้ ขึ้นอยู่กับ Handle) บางคนอาจชอบท่าแทงโจมตีระยะไกล เพื่อชิงความได้เปรียบศัตรู ส่วนบางคนอาจชอบการโจมตีที่ออกท่าไว จะได้ทันใจเวลาสู้
  • ส่วนการเลือกอาวุธ อาจเลือกที่ค่า Status, ขนาด, สกิล หรือความเท่ล้วน ๆ จากนั้นค่อยนำมาประกบเข้ากับ Handle ที่ถูกใจ
  • Handle ที่เราแนะนำสุด ๆ ใช้ได้ตั้งแต่ต้นเกมยันจบเกม คือ “Greatsword of Fate Handle” สามารถซื้อได้พร้อมกับดาบ Greatsword จากพ่อค้าใกล้ ๆ Cerasani Alley Stargazer (ก่อนสู้กับบอสตัวแรกสุด) ในราคาแสนถูก
  • Handle อันนี้ เมื่อกดใช้สกิลแล้วจะทำให้เราตั้งท่ารอรับการโจมตีถัดไปของศัตรู โดยจะติด Perfect Guard แน่นอน 100% ซึ่งเหมาะมากหากเก็บไว้ใช้ตอนที่บอสกำลังจะปล่อยท่าโจมตีสีแดง

8. พยายามคุมน้ำหนัก

  • ในเกมนี้ น้ำหนักของไอเท็มในตัวเรา ส่งผลต่อการเคลื่อนที่/การกลิ้งหลบ คล้ายต้นแบบอย่างเกมตระกูล Souls ดังนั้นการสวมใส่ของหนัก ๆ ไว้เต็มตัวจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก
  • วิธีลดน้ำหนักมีอยู่หลายทาง ดังนี้
    • สวมใส่อาวุธไว้แค่ 1 ชิ้นเท่านั้น
    • อย่าดูเครื่องป้องกันแค่เฉพาะ Status ที่สูงกว่า หากมันเพิ่มค่าป้องกันมาแค่เล็กน้อย แต่ไม่คุ้มกับน้ำหนัก ก็ควรหันไปใช้ไอเท็มที่ด้อยลงมา แต่เบาสบาย
    • ถ้าไม่ได้ใช้งาน Legion Arm บ่อยอยู่แล้ว แนะนำให้ใส่ Left Arm of Steel ได้เลย (Legion Arm เริ่มต้น) เพราะมีน้ำหนักเบาสุด
    • สวมใส่ Carrier’s Amulet เพื่อเพิ่มความจุสูงสุด
  • เกณฑ์น้ำหนักของเกมนี้ คือ
    • ต่ำกว่า 30% = Light
    • ต่ำกว่า 60% = Standard
    • ต่ำกว่า 80% = Slightly Heavy (เต็มที่สุด ๆ ควรอยู่แค่ตรงนี้)
    • เกิน 80% = Heavy

9.  บางอย่างควรประหยัด แต่บางอย่างก็สิ้นเปลืองได้

  • สิ่งที่ควรประหยัด
    • Star Fragment – เกือบทุกครั้งก่อนสู้บอส เราจะเห็นโถที่สามารถใช้ไอเท็มนี้ได้ แต่ในรอบแรก ๆ ยังไม่ควรใช้งาน แนะนำว่าให้เข้าไปลุยเดี่ยวกับบอสเพื่อเรียนรู้ Moveset (ท่าโจมตีต่าง ๆ) ของมันก่อน แล้วพอมั่นใจแล้ว จึงค่อยเริ่มใช้ Star Fragment เพื่อเรียก NPC มาช่วยสู้
    • Ergo พิเศษที่ดรอปจากบอส – ถึงมันจะมอบค่า Ergo ให้เราเยอะแค่ไหน ก็อย่าได้กดใช้ เพราะมันสามารถนำไปแลกเป็นอาวุธ, ไอเท็มสวมใส่แบบพิเศษได้เมื่อเล่นไปถึงจุด ๆ หนึ่ง
  • สิ่งที่ไม่ต้องประหยัดมากก็ได้
    • Pulse Cell – ถึง HP เราจะยังไม่ถึงขีดอันตราย แต่ถ้ามันลดมาเยอะจนถึงปริมาณที่ฮีลขึ้นมาได้เต็มที่แล้ว ก็ขอให้รีบกดใช้ Pulse Cell เพราะเมื่อใช้หมดแล้ว เกมนี้มีระบบที่สามารถชาร์จ Pulse Cell กลับมาได้ด้วย และตอนที่ Pulse Cell หมด ก็มีบัฟของ P-Organ บางอย่างที่ทำงานในช่วงนี้เช่นกัน (เพิ่มพลังโจมตี, ลดความเสียหาย และอื่น ๆ)
    • Throwing Object ต่าง ๆ – อะไรที่ปาได้ ขอให้หยิบมาปา เพราะมันมีดรอปเยอะมาก โดยอาจจะติดตั้งไว้ใน Belt สัก 1 สล็อต แล้วสับเปลี่ยนกันใช้ไปเรื่อย ๆ เพราะนี่แทบจะเป็นการโจมตีระยะไกลแบบเดียวที่เราสามารถสร้างความได้เปรียบศัตรูได้ภายในเกม

10.  กดพูดคุยกับ NPC ให้หมดจนกว่า NPC จะเริ่มพูดซ้ำ ๆ

  • เช่นเดียวกันกับต้นแบบอย่างเกมตระกูล Souls, NPC ในเกมจะไม่พูดหมดทุกอย่างในระลอกเดียว แต่เราจะต้องกดพูดคุยต่ออีกหลายครั้งเพื่อฟังทุกอย่างให้ครบถ้วน
  • นอกจากจะทำให้ได้รู้ข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องแล้ว ในบางครั้ง ฟังก์ชัน, ไอเท็ม หรือความลับต่าง ๆ ก็อาจปลดล็อคได้จากการพูดคุยกับ NPC จนกว่าจะครบ จบกระบวนความ

Extra. คำแนะนำทั่วไป สำหรับการสู้บอสในเกมนี้

  • ให้ความสำคัญกับการทำให้บอสติด Stagger โดยเมื่อหลอด HP ของบอสกลายเป็นกรอบสีขาว แปลว่าเราสามารถโจมตีให้มันติด Stagger ได้แล้ว
  • จังหวะนี้ ให้กดชาร์จโจมตีหนักใส่ได้เลย (RT / R2 ค้าง) เมื่อบอสล้มเพราะติด Stagger เราจะโจมตีซ้ำได้ฟรีและรุนแรงด้วย Fatal Attack
  • ท่า Fatal Attack จะทำได้เมื่อยืนอยู่ตรงจุดที่พื้นมีไฮไลต์เป็นสีแดง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะอยู่บริเวณด้านหน้าของตัวบอส
  • อย่าลืมกดใช้ Grindstone เพื่อบัฟอาวุธก่อนสู้บอสทุกครั้ง การกดในขณะต่อสู้ไม่ใช่เรื่องดีนัก เพราะเปิดช่องว่างให้เราเจ็บตัวได้ (ยกเว้นว่าบอสมีเฟส 2 และอยากเก็บไว้ใช้กับตรงนั้นมากกว่า)
  • Grindstone ที่ทำให้สู้บอสง่ายสุดคือ “Perfection Grindstone” ซึ่งจะเปลี่ยนการป้องกันธรรมดา ให้กลายเป็น Perfect Guard ได้ชั่วคราว
  • เวลาสู้บอส พยายามเดินวนรอบตัวมันไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งเสมอ (ตามเข็ม / ทวนเข็มนาฬิกา)
  • การยืนอยู่ด้านข้าง / ด้านหลังบอส จะทำให้เรารอดพ้นจากท่าโจมตีต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น และบอสต้องเสียเวลาเล็กน้อยเพื่อหันมาโจมตีเรา
  • เมื่อมี NPC ช่วยสู้ อย่ายืนอยู่ฝั่งเดียวกันกับ NPC, ถ้าบอสกำลังหันหน้าสู้กับ NPC อยู่ เราต้องยืนโจมตีใส่บอสฟรีจากด้านหลัง

SHARE

Satthathan Chanchartree

ฟ่าง - Content Writer

Back to top