BY Settasilp Poonbumphen
21 Jun 18 2:18 pm

Living The Game สู้สู่ฝัน สารคดีที่คนไม่เล่นเกม(ต่อสู้)ก็สนุกได้

16 Views

Living The Game ภาพยนตร์สารคดีที่คนไม่เล่นเกมก็ดูได้

Disclaimer:

  • บทความนี้ไม่ได้ว่าจ้างโฆษณาจากทาง Documentary Club
  • ผู้เขียนไม่ได้เป็นแฟนเกมต่อสู้หรือผู้ติดตามของตัวละครนำในสารคดีชิ้นนี้แต่อย่างใด

Living The Game สารคดีที่คนไม่เล่นเกม(ต่อสู้)ก็สนุกได้

ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นหนึ่งในคนดูที่เรียกได้ว่าไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับตัวสารคดีนี้ ไม่ชอบเล่นเกมแนวไฟท์ติ้ง ไม่ได้ติดตามวงการเกมต่อสู้ ไม่เคยรับรู้จักผู้เล่นชื่อดังคนใด และไม่รู้แม้แต่การออกเฟรมในเกมต่อสู้คืออะไร
ดังนั้นการที่ผมไม่ได้รับรู้อะไรมาก่อน ย่อมไม่เกิดความคาดหวัง การเดินเข้าไปในโรงภาพยนตร์ด้วยหัวสมองอันว่างเปล่าจึงไม่ได้มีอคติที่เอนเอียงไปทางฝั่งใดเลยแม้แต่น้อย ซึ่งนั่นนำมาซึ่งความเพลิดเพลินอย่างไม่น่าเชื่อ
Living The Game ภาพยนตร์สารคดีที่นำเสนออีกด้านหนึ่งในชีวิตและความคิดของผู้แข่งขันเกม Street Fighter ระดับแถวหน้าของโลกจำนวน 5 คนได้แก่

  1. Daigo “The Beast” Umehara ผู้เล่นชาวญี่ปุ่นที่ถูกยกให้เป็นตำนานอันดับหนึ่งของตระกูลเกม Street Fighter
  2. Yusuke “Momochi” Momochi ผู้เล่นชาวญี่ปุ่นคู่ปรับตลอดกาลของ The Beast
  3. Olivier “Luffy” Hay ผู้เล่นสัญชาติฝรั่งเศสที่มีเชื้อสายมาจากเฉาโจว
  4. Justin “Jwong” Wong ผู้เล่นสัญชาติจีน-อเมริกัน ผู้ให้ความสนใจในเกมต่อสู้ที่ไม่ใช่แค่ Street Fighter
  5. Bruce Yu-lin “GamerBee” Hsiang ผู้เล่นสัญชาติไต้หวันที่สามารถพาตัวเองมาอยู่แถวหน้าของวงการเกม Street Fighter ได้อย่างต่อเนื่อง

สารคดีชิ้นนี้ไม่ได้พาผู้ชมไปติดตามกับความยากลำบากในการฝึกซ้อม ไม่ได้พาเราไปเห็นหยดน้ำตาแห่งความลำเค็ญ ไม่ได้ซาบซึ้งไปกับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ แต่ Living The Game พาเราไปพบกับอีกแง่มุมในชีวิตของผู้เล่นทั้ง 5 ที่มีชีวิต ความคิด และเส้นทางที่แตกต่างกันไป โดยทั้ง 5 ชีวิตต้องมุ่งสู่เส้นชัยเดียวกันนั่นคือการเป็นที่หนึ่งในการแข่งขันครั้งสำคัญ

สำหรับผู้ที่ไม่ได้เล่นเกมต่อสู้เป็นชีวิตจิตใจ ชาตินี้ฉันเคยแค่เอาเสื้อคลุมจอยแล้วรูดปุ่มจนเกิดปาฏิหาริย์เมื่อครั้งยังเยาว์ สบายใจหายห่วงกันได้ Living The Game ไม่ได้เจาะลึกในประเด็นใดประเด็นหนึ่งจนเลี่ยนเกินไป ไม่มีฉากน้ำหูน้ำตาไหลซ่านกระเซ็น ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ต้นจนจบคุณจะได้รับรู้เรื่องราวของทั้ง 5 ผู้เล่นปูทางมาพอสังเขปว่าพวกเขาเหล่านี้เป็นใคร วงการเกมต่อสู้หรือโลกทั้งใบที่พวกเขาอาศัยอยู่นั้นเป็นอย่างไร เสน่ห์และความยิ่งใหญ่ของสิ่งที่เหนือกว่าแค่เล่นเกมต่อสู้นี้เป็นยังไง

Living The Game

ไดโกะ – แม้ว่าน้ำหนักของสารคดีจะเทเอียงเคียงคู่ไปกับไดโกะ ซึ่งก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเป็นผู้เล่นที่มีเสน่ห์และน่าจดจำมากที่สุดสำหรับวงการเกมต่อสู้ ผู้ชมจะได้รับรู้ไปทีละเปลาะว่าทำไมเขาจึงกลายเป็นที่ชื่นชอบของมวลหมู่เกมเมอร์ ทำไมเขาจึงก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่ แง่มุมความคิดซอกทัศนคติของไดโกะเป็นอย่างไร

โมโมจิ – สำหรับเรื่องราวของโมโมจินั้นจะนำเสนอผ่านสองเส้นเรื่องด้วยกัน นั่นคือด้านของชีวิตคู่ สำหรับผมแล้วโมโมจิเป็นผู้ชายที่โชคดีมากที่ได้ผู้หญิงที่รักเขามากพอจนเธอยอมที่จะสละทุกอย่างขอแค่ได้เดินไปเคียงข้างกัน เราจะได้รับรู้ชีวิตประจำวันและความเป็นอยู่ของคู่รักอีสปอร์ตที่ร่วมกันฟันฝ่ามาจนถึงปัจจุบัน และอีกด้านของความพยายามรวมไปถึงทัศนคติที่มุ่งมั่นของเขาจนทำให้ผู้ชายที่ภายนอกดูธรรมดากลายมาเป็นคนที่เหมือนมีไฟอันคุกรุ่นตลอดเวลาอยู่ภายใน

ลัฟฟี่ – พาร์ทของลัฟฟี่นั้นเป็นการนำเสนอการรักษาสมดุลของชีวิตทั้งสองด้านระหว่างความใฝ่ฝันกับความเป็นจริง ลัฟฟี่เป็นอีกหนึ่งคนที่ผมชื่นชอบในตัวสารคดีนี้ เขาพยายามที่จะรักษาสมดุลของชีวิตทั้งสองด้านระหว่างการเป็นผู้เล่นระดับโลกกับการเป็นผู้ชายที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่มั่นคงไปพร้อมกัน เหมือนเป็นการกระชากวัยรุ่นที่กำลังดูอยู่ให้กลับมาสู่โลกความเป็นจริง เหมือนเป็นน้ำที่ลดความร้อนแรงของสารคดีนี้ไปพร้อมกันทั้งตัวภาพยนตร์และคนดู

จัสติน – จัสตินเป็นผู้เล่นที่น่ายกย่องทั้งในแง่ของความพยายามเอาชนะเสียงดูหมิ่นจากพ่อของเขาและคนรอบข้าง รวมไปถึงการทดแทนบุญคุณให้กับคุณยาย (หรือคุณย่าก็ไม่แน่ใจ หากจำผิดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้) ผู้ซึ่งเคยให้เงินจำนวน 2 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อเป็นเงินสำหรับไปเล่นเกมอันเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางชีวิตที่ทำให้เขามีพร้อมอย่างในปัจจุบัน

เกมเมอร์บี – เกมเมอร์ผู้ไม่ยอมแพ้ เกมเมอร์บีนั้นเข้าแข่งขันรายการต่างๆ ทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่องซึ่งเขาเคยชนะเพียงไม่กี่รายการเท่านั้น แต่ตัวสารคดีก็หยิบมาบอกเล่าได้ถูกจุดถึงมุมของการเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ แม้ไม่ได้ยืนอยู่บนยอดปิรามิดแต่ก็อยู่สูงได้อย่างต่อเนื่องและยาวนานราวกับจะบอกคนดูว่าสู้เถอะ อย่าเพิ่งท้อก็ว่าได้

ตัวสารคดีไม่ได้ดราม่าน้ำตาไหลหรือปลุกใจให้ลุกขึ้นสู้ ดูจบคุณอาจจะไม่ได้เดินออกไปซื้อจอยสติ๊กแล้วสวมบทเป็นตัวละครยอดนักสู้ แต่ก็นำเสนอให้กับทั้งคนที่เป็นสาวกเกมต่อสู้และคนเล่นเกมทั่วไปแบบผม หรือแม้แต่คนที่ไมได้เล่นเกมเป็นชีวิตประจำวันก็ยังคงสนุกสนานในการรับรู้แง่มุมใหม่ๆ ที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อนได้

Living The Game เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์สารคดีที่ควรค่าแก่การรับชมอย่างมากโดยเฉพาะการเชิญชวนให้เพื่อนของคุณที่ไม่ได้เล่นเกมมากนัก ให้เขาเข้ามารู้จักกับโลกของวงการเกมต่อสู้ โลกของนักกีฬาอีสปอร์ตระดับมืออาชีพ และโลกของการเปลี่ยนสิ่งที่เรียกว่าการเล่นเกมมาเป็นสิ่งที่เรียกว่าอาชีพ

Settasilp Poonbumphen

ยีน - Founder / Project Manager

Back to top