BY TheStarrySky
25 Aug 20 5:21 pm

ส่องการ์ดและ 7 Champion ผู้มาใหม่ใน LoR: Call of the Mountain

25 Views

หลังจากที่รอกันมานานร่วมสองสัปดาห์ ในที่สุด 7 Champion ชุดแรกของ Legends of Runeterra “Call of the Mountain” ก็ได้เผยโฉมครบทั้งหมดแล้ว โดยมีทั้งผู้มาใหม่จากดินแดน Targon และผู้ที่เพิ่มในดินแดนอื่น ๆ รวมแล้ว 7 คนด้วยกัน

สำหรับ Call of The Mountain นี้ ถือเป็นการอัปเดตใหญ่ครั้งที่สองของนับตั้งแต่มีการเปิดตัว แบ่งเป็นการอัปเดตย่อย 3 ครั้ง ซึ่งจะอัปเดตอย่างต่อเนื่องไปจนกระทั่งสิ้นปี 2020 เมื่อคอนเทนต์ทุกอย่างได้เพิ่มเข้ามาอย่างครบถ้วนแล้ว ก็จะมีการ์ดเพิ่มขึ้นมาอีกนับร้อยใบเลยทีเดียว โดยเฉพาะ Champion ที่จะมีเพิ่มถึง 13 คนด้วยกัน

พวกเขาและเธอเหล่านี้ก็มาพร้อมกับ Follwer ใหม่, Keyword ใหม่ และวิธีการเล่นใหม่ ๆ ที่จะทำให้เกมมีความสนุกนุ่มลึกมากขึ้น วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับทั้ง 7 Champion ที่เพิ่มเข้ามาในแพทช์นี้กันมากขึ้น รวมถึงวิเคราะห์แนวทางการเล่น, Deck และ Combo ที่เป็นไปได้ มาดูกันว่าเหล่า Champion ผู้มากับขุนเขาเหล่านี้จะสร้างสีสันแบบใดให้กับ LoR ได้บ้าง เชิญรับชมไปพร้อม ๆ กัน

Mont Targon เป็นภูเขาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Runeterra ยอดแหลมสูงตระหง่านจากหินอาบแสงแดด ท่ามกลางแนวยอดเขาที่ไม่มีแห่งหนไหนเทียบได้ มันตั้งอยู่ห่างจากความเจริญรุ่งเรือง เป็นภูเขาที่อยู่ไกลแสนไกลและเกินจะพิชิต ยกเว้นสำหรับผู้เสาะหาที่มุ่งมั่นกว่าใคร ตำนานมากมายเกาะอยู่กับ Mount Targon ดึงดูดคนช่างฝัน คนเสียสติและนักผจญภัยเหมือนสถานที่ตามเรื่องเล่าขานอื่นๆ บางคนในบรรดาคนกล้าเหล่านี้หมายมั่นจะเอาชนะภูเขาที่ยากเกินเป็นไปได้ อาจเพื่อตามหาสติปัญญาหรือการรู้แจ้ง อาจเพื่อเกียรติยศ หรือเป็นความปรารถนาจากก้นบึ้งจิตวิญญาณ ที่อยากจะเห็นยอดเขา – universe.leagueoflegends

Taric (Targon)

Taric ผู้พิทักษ์แห่ง Runeterrra ตอนนี้เขาได้เข้าสู่ LoR ด้วย Cost 4 และค่าพลัง 2|4 มีความสามารถใน Support (เสริมพลังให้ยูนิตฝั่งขวามือเมื่อโจมตี) เพื่อนให้ได้รับ Keyword Tough (ลดความเสียหายจากทุกแหล่งลง 1 หน่วย) และได้รับ Spell ล่าสุดที่ร่ายใส่เขาแบบ Single Target ถือว่าเป็นความสามารถที่โดดเด่นและน่าสนใจมาก

เนื่องจากตัวเขามี Keyword Support และจำเป็นต้อง Level up จากความสามารถนี้ จึงถือได้ว่า Taric เป็น Champion ที่เหมาะสำหรับช่วงต้นเกมจนถึงกลางเกม เพราะตัวเขาต้องอยู่ในสนามเพื่อให้ได้เงื่อนไขการ Level up ที่ครบถ้วน ดังนั้นเขาจึงสามารถลงสนามได้ในเทิร์นที่ 4 และต้องใช้เวลาอีกราว ๆ 3-4 เทิร์นในการ Level up ขึ้นอยู่กับ Support unit ที่มี ซึ่งพลังที่ได้หลังจากนั้นก็ถือว่าคุ้มค่ากับการรอคอยอยู่ไม่น้อย

อย่างที่ได้กล่าวไป ว่าความสามารถในการเสกการ์ดที่เคยร่ายใส่ตัวเองให้เพื่อนที่ Support ได้อีกครั้งหนึ่ง ถือเป็นความสามารถที่น่าสนใจมาก เพราะจะทำให้เกิดคอมโบสุดอลังการได้หลายแบบ เช่นการใช้ spell ที่มีโลกเล่นแพรวพราวอย่าง Ghost,Rush, Redubled Valor, Battle Fury หรือแม้กระทั่ง Unyielding spirit ก็สามารถทำได้เช่นกัน

และด้วยความสามารถหลัง Level up ที่จะทำให้เขาและเพื่อนที่ Support ไม่ได้รับความเสียหายจนจบเทิร์น จึงเหมาะอย่างมากสำหรับคอมโบกับ Fiora หรือเล่นกับสาย Support ด้วยกันอย่าง Shen และ Lulu (จะกล่าวในส่วนต่อไป) ซึ่งสิ่งที่ Taric ขาดก็เห็นจะเป็นพลังในการโจมตีและความสามารถในการปิดเกม ตามแบบของ Champion สาย Support เพราะลำพังการเสริมแกร่งอย่างเดียว ย่อมจะไม่สามารถเอาชนะเกมได้ จึงจำเป็นต้องมียูนิตสายโจมตีอยู่ใน Deck ด้วยเพื่อทำหน้าที่นั้น

การมาของเขายังได้พา Follower สาย Support เข้ามาอีกจำนวนมาก พร้อม Keyword ใหม่อย่าง Spellshield ที่จะป้องกัน Spell หรือ Skill ใด ๆ ก็ได้ 1 ครั้ง ซึ่งตรงนี้จะต่างกับ Barrier ที่ป้องกันในส่วนของการโจมตีหรือผลที่ทำให้ความเสียหายเท่านั้น

Lulu (Ionia)

Champion สาย Support อีกคนที่เข้ามาพร้อมกับ Taric ในแพทช์นี้ Lulu เป็นตัวละครสาย Support ขนานแท้ตั้งแต่ตอนที่อยู่ใน LoL ด้วยค่าร่าย 3 และเงื่อนไขการ Level up ที่ง่ายแสนง่ายด้วยการ Support เพื่อนเพียง 3 ครั้ง (โดยที่เธอไม่จำเป็นต้องอยู่ในสนาม) ทำให้ Lulu เหมาะที่จะเล่นในทุกช่วงของเกม โดยเฉพาะหลังจาก Level up แล้ว ที่จะสามารถสร้าง Help, Pix! ได้ทุกเทิร์น

ความน่ากลัวของเธอก็คงจะไม่พ้นการที่ทำให้ Unit ในสนามกลายเป็นกระรอกตัวใหญ่ค่าพลัง 4|4 หรือ 5|5 ได้ด้วยการ Support ของเธอ  แน่นอนว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือค่าพลังเท่านั้น ในส่วนของความสามารถต่าง ๆ ก็ยังอยู่ครบ และด้วยการใช้ Help, Pix! ทำให้เราสามารถเลือกได้ว่าจะโจมตีแบบ Aggressive ด้วยการเสก Vulnerable ใส่เป้าหมาย หรือจะโจมตีแบบ Play safe ด้วยการมอบ Barrier ให้ตัวเองก็ได้เช่นกัน

ด้วยความที่มีค่าร่ายเพียง 3 และเหล่ากระรอกของเธอก็เป็นยูนิตขนาดเล็กที่มีค่าร่ายต่ำ ทำให้หากต้องการเล่นโดยใช้เธอเป็นตัวหลักก็คงต้องจัด Deck ที่มีค่าร่ายต่ำและเน้นการโปรยยูนิตจำนวนมากลงสนามในคราวเดียว และแน่นอนว่าค่าพลังของการ์ดก็จะน้อยตามค่าร่ายไปด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการ์ดช่วยในการรอดตายออกมาได้ทั้งตอนที่อยู่ในสนามและตอนโจมตี

การเล่นเด็คค่าร่ายน้อยยังจำเป็นต้องคำนึงเรื่อง Draw power ด้วยเพราะการ์ดจะหมดมือได้ไวมาก Lulu จึงเหมาะสำหรับใช้คอมโบกับ Champion ขนาดเล็กที่เล่นในช่วงต้นถึงกลางเกมเป็นหลัก อย่างเช่น Zed, Lucian, Elise หรือเพื่อนร่วมเผ่าตัวเล็กอย่าง Teemo และ Fiz ก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้ความสามารถของเธอที่ระบุว่า “up to X|X” นั่นหมายความว่าเฉพาะค่าพลังที่ต่ำว่า X เท่านั้นที่จะถูกเปลี่ยน (4 และ 5 หลัง Level up) ดังนั้นการเล่นกับ Braum ก็ดูน่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน

Trundle (Freljord)

พูดถึงมนุษย์และโยเดิลกันไปแล้ว ทีนี้ก็เป็นคราวของราชาแห่งโทรลน้ำแข็ง Trundle กันบ้าง ครั้งนี้เขากลายเป็น Champion กลางเกมค่าร่าย 5 ที่ถือได้ว่ามีความสามารถเกินตัว ทั้ง Regeneration และ Overwhelm หลังจาก Level up แล้ว ทำให้เขาเป็นยูนิตที่จะฆ่าได้ยากมากตัวหนึ่งแน่นอน โดยเขาสามารถ Level up ได้เร็วสุดในเทิร์นที่ 6 ซึ่งก็ถือว่าไวอยู่พอสมควร และจะได้ Mana คืนมากสุด 8 หน่วยในตอนที่ Level up ทำให้การบุกเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง

รูปแบบการเล่นของ Trundle จึงเป็นลักษณะของการเล่นไปในช่วงเลทเกมเป็นส่วนใหญ่ โดยอาศัยความได้เปรียบด้านพลังเอาชนะศัตรู เพราะอย่างที่เห็นว่าการ์ดในฝั่ง Freljord มีหลายใบที่ทำความเสียหายให้แก่สองฝ่าย จึงทดแทนด้วยการ Heal และการเสริมค่าพลังลงไปแทน ซึ่งการที่มี Regeneration และการ์ดอย่าง Ice pillar ก็ทำให้ยืนจนถึงเลทเกมนั้นทำได้ง่ายขึ้นมาก

ราชาแห่งโทรลผู้นี้ยังมาพร้อมกับ Keyword “Behold” ที่จะทำงานเมื่อมีการ์ดตรงตามเงื่อนไขในมือหรือในสนาม ในเรื่องการคอมโบ จะเห็นได้ว่าเขาค่อนข้างเหมาะสำหรับเล่นกับยูนิตตายยากอย่างเช่น Sejuani และยูนิต Overwhlem ค่าพลังสูงทั้งหลาย หรือจะเล่นกับ Garen ก็เป็นไปได้เช่นกัน เพราะการ์ดไม้ตายอย่าง Ice quake นั่นทำความเสียหายกับยูนิตทั้งสองฝ่าย ทำให้ “ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด” ตามแบบของการ์ดในดินแดน Freljord อันหนาวเหน็บนั่นเอง

Nocturne (Shadow Isles)

ฝันร้ายอันเป็นนิรันดร์ Nocturne มาพร้อมกับ Keyword Fearsome ตามคาด (ยูนิต At ต่ำว่า 3 ไม่สามารถใช้รับการโจมตีได้) และยังพ่วงมาด้วย Nightfall ความสามารถที่จะทำงานเมื่อไม่ได้ร่ายการ์ดนั้นเป็นใบแรกของเทิร์น เมื่อ Level up เขายังสามารถแจก Fearsome ให้กับเพื่อร่วมทีมได้ทุกคน (ซึ่งจะต่างกับ Cithria the Bold ตรงที่เธอจะไม่ได้รับความสามารถนี้ด้วย) ความน่ากลัวอีกอย่างของร่างนี้คือทุกครั้งที่เราร่ายยูนิตลงสนาม จะทำการลด At ของฝ่ายตรงข้ามลง 1 หน่วยในเทิร์นนั้น ทำให้คู่ต่อสู้ส่งยูนิตมารับการโจมตีได้ยากขึ้นอย่างมาก หรือจะใช้เพื่อกดดันพวกเขาในเทิร์นตัวเองก็ได้เช่นกัน

สำหรับ Nightfall  ก็ถือเป็น Keyword ใหม่ที่น่าสนใจเช่นกัน ซึ่งตรงนี้จะทำให้การเล่นต้องมีการคิดคำนวณมากขึ้น แต่อีกนัยหนึ่งมันก็ช่วยทำให้ผู้เล่นได้ไตร่ตรองดีขึ้นก่อนร่าย เพราะการบังคับร่ายเป็นในที่สองขึ้นไปนั่นก็หมายความว่าคู่ต่อสู้จำเป็นต้องร่ายการ์ดไปแล้วอย่างน้อย 1 ครั้งหรือไม่ก็ต้องยอมผ่านเทิร์นโดยไม่ร่ายการ์ดใด ๆ ถือเป็นการตัดโอกาสในการแก้เกมของอีกฝ่ายไปได้ 1 ขั้นเพราะการร่ายการ์ดนั้นหมายถึงมานาที่ต้องจ่าย รวมถึงโอกาสเหมาะ ๆ ที่จะทำการสวนกลับการ์ดของเราก็หมดไปแล้วในการร่ายที่ผ่านไป

ด้วยลักษณะความสามารถเช่นนี้ของ Nocturne รวมกับการ์ด Nightfall ทำให้เด็คสาย Fearsome ช่วงต้นเกมนั้นมีความเป็นไปได้มากขึ้น เช่น Spider Deck ของ Elise ที่เน้นการใช้ยูนิตจำนวนมากโจมตีพร้อมกันจนคู่ต่อสู้ไม่อาจป้องกันได้ทั้งหมด

Leona (Targon)

รุ่งอรุณแห่ง Runeterra, Leona เป็น Champion กลางเกมสาย Support ตามต้นฉบับของเธอใน LoL และยังมีความสามารถในการ CC อย่างต่อเนื่องเหมือนกันอีกด้วย ในร่างแรก เมื่อร่ายเป็นใบแรกของเทิร์น จะเป็นการเปิดใช้ Keyword ใหม่อย่าง Daybreak และทำการ Stun ยูนิตที่แกร่งที่สุดของฝ่ายตรงข้ามทันที โดยเธอจะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 1 เทิร์นในการ Level up เพื่อให้ได้ความสามารถเดียวกันแต่ทำได้ต่อเนื่องทุกตา

ทั้งนี้ Leona เป็นอีกหนึ่ง Champion ที่จะไม่มีความสามารถที่แท้จริงจนกระทั่ง Level up ในช่วงช่วงร่างแรก เธอจึงยังทำอะไรไม่ได้มากนอกจากยืนในสนามเท่านั้นจะกว่าจะเข้าสู่ร่างสอง ดังนั้นการเล่นกับเธอจึงต้องอาศัยการสนับสนุนอยู่พอสมควร และจำเป็นต้องทำการ Daybreak ให้ได้ไวที่สุด หลายฝ่ายจึงเชื่อว่าการเล่นกับการ์ดสาย Nightfall ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ ส่วนการเล่นกับสาย Stun ด้วยกันอย่าง Yasuo อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเท่าไหร่นัก เพราะการ์ดสาย Stun ส่วนใหญ่อยู่ในดินแดน Noxus นั่นเอง

Daybreak เป็นการ์ดที่มีความสามารถโดดเด่น จึงทำให้ถูกจำกัดให้ร่ายได้แค่เฉพาะใบแรกของเทิร์น หรือจนกว่าจะมี Rahvun daylight’s spear ในสนาม (ทำให้ร่าย Daybreak ได้ตลอดเวลา) ดังนั้น Daybreak จึงเป็นดาบสองคมเหมือน Nightfall เพราะการที่ต้องร่ายเป็นใบแรกทำให้อีกฝ่ายสามารถคาดเดาการ์ดที่เราจะร่ายได้ในบางครั้ง อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นก็ไม่จำเป็นต้องร่ายการ์ด Daybreak เป็นในแรกก็ได้ เพียงแต่จะไม่ได้รับโบนัสเท่านั้น

Diana (Targon)

จันทราดวงใหม่ Diana มาในรูปแบบของ Assassin ค่าร่ายต่ำที่พ่วงมาด้วย 2 Keyword อย่าง Quick Attack และ Challenger (เฉพาะเทิร์นแรกที่ร่ายแบบ Nightfall) ทำให้เธอสามารถเลือกจัดการเป้าหมายที่ต้องการได้ในทันทีที่ร่ายมา และด้วยการที่เธอเหมือนขั่วตรงข้ามกับ Leona ความสามารถรวมถึงเงื่อนไข Level up จึงคล้ายคลึงกันมากแต่จะเป็นลักษณะกลับข้าง โดยเราต้อง Active Nightfall 4 ครั้งเพื่อ Level เธอ และความสามารถที่ได้ก็คือความสามารถในร่างแรกแบบใช้ได้ต่อเนื่องนั่นเอง แต่ต่างกับ Leona ตรงที่เธอจะได้ At+2 ทุกครั้งที่ทำเช่นนั้นด้วย

ด้วยความที่มีค่าร่ายเพียง 2 ทำให้เธออาจมีค่าพลังที่ต่ำอยู่พอสมควร แต่ก็ทดแทนมาด้วยโอกาสที่จะร่ายการสนับสนุนต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกับ Pale cascade ที่จะเพิ่มค่าพลัง 2|1 และจั่วการ์ดเพิ่ม 1 ใบการใช้แบบ Nightfall โดยจ่ายค่าร่ายเพียง 2 เท่านั้น ทั้งนี้ Diana จะเก่งมากขึ้นหาก Level up แล้ว ดังนั้นจึงจำเป็นต้อง Level up ให้ได้เร็วที่สุด

การเล่น Diana อาจต้องเล่นคู่กับ Nocturne เนื่องจากใช้การ์ดชุดเดียวกันและมีเงื่อนไขการ Level up ที่คล้ายกัน การในสาย Nightfall มีข้อดีอีกประการคือมีค่าร่ายที่ค่อนข้างต่ำ (เนื่องจากออกแบบมาให้ร่ายเป็นใบที่ 2 ขึ้นไป) และยังสามารถร่ายได้อย่างต่อเนื่อง ต่างกับ Daybreak ที่จะได้เฉพาะใบแรกเท่านั้น หรืออาจเล่นกับสาย Support อย่าง Taric และ Lulu ที่กล่าวไปก่อนหน้าก็ได้เช่นกัน

สิ่งที่น่าสนใจที่มาพร้อมกับ 2 Champion อย่าง Leona และ Diana คือ การ์ดใหม่ที่สามารถ Slience Champion ได้ นั่นคือ Sunbust และ Hush ซึ่งตรงนี้อาจทำให้เกิดการเล่นแบบใหม่ ๆ รวมไปถึงการล่มสลายของบาง Meta ได้เลยทีเดียว เพราะในตอนนี้มีเพียง Follower เท่านั้นที่ถูก Slience ได้ ถือเป็นความสามารถที่ส่งผลร้ายแรกมากเพราะนอกจากจะทำให้การ์ดเสียความสามารถทั้งหมดแล้ว ยังทำให้การ +/- ค่าพลังต่าง ๆ หายไปอีกด้วย

Aurelion Sol (Targon)

ผู้สร้างดวงดาว Aurelion Sol บินเข้าสู่ LoR อย่างยิ่งใหญ่ด้วยค่าร่ายเต็มพิกัด 10 หน่วยพร้อมค่าพลัง 10|10 ทำให้เขาเป็น Champion ที่ทรงพลังที่สุดในตอนนี้และก็น่าจะไม่มีใครมีพลังไปมากกว่านี้อีกแล้ว

การลงสนามพร้อม Spellshield ยังทำให้ปรับประกันความปลอดภัยในจังหวะที่ลงสนามได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ก็ยังมี 2 Keyword ใหม่ติดตัวมาด้วย นั่นก็คือ Invoke (สุ่มเสกการ์ด Celestial ตามเงื่อนไงเมื่อร่าย) และ Fury (ได้รับค่าพลัง 1|1 เมื่อฆ่ายูนิตได้) จึงถือได้ว่าเขาเป็นสุดยอด Champion แห่ง Runeterra อย่างแท้จริง ซึ่งการสาย Celestial ที่พามาด้วยก็มีความสามารถในระดับทำลายล้างสูงเช่นกัน

จะเห็นได้ว่า Aurelion Sol แทบจะไม่ต้องจับคู่กับ Champion คนอื่น ๆ เลย เพราะลำพังแค่มังกรของเขาและเหล่า Celestial ก็เพียงพอแล้วที่จะเป่าฝ่ายตรงข้ามให้หายไปจาก Runeterra ได้ เช่น The sky decend การ์ดที่มีค่าร่ายสูงที่สุดในตอนนี้ที่ 15 หน่วย โดยจะสร้างความเสียหาย 15 หน่วยแก่ยูนิตฝ่ายตรงข้ามทั้งหมด เรียกได้ว่าแทบจะไม่มียูนิตไหนสามารถทนความเสียหายในระดับนี้ได้นอกจากจะใช้ Barrier เท่านั้น หรือการ์ดอย่าง Supernova ที่จะทำการ Remove การ์ดฝ่ายตรงข้ามแบบถาวร 2 ใบหากเรา Behold การ์ด Celestial ใบอื่นอยู่ เรียกได้ว่าสมกับเป็นพลังของผู้สร้างจักรวาลอย่างแท้จริง

แต่พลังระดับนี้ก็มาด้วยค่าร่ายสุดโหดและเงื่อนไขการ Level up ของ Aurelion Sol เองที่ยากพอกัน (ต้องมียูนิต At 20 ขึ้นไปในสนาม) แต่นั่นมันก็คุ้มค่าแล้วกับผลที่จะได้

ทั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าการสาย Celestial จะสามารถจัดลงไปใน Deck โดยตรงหรือไม่ หรือจะสามารถสร้างได้โดย Keyword Invoke เท่านั้น แต่หากพิจารณาจากความสามารถแล้ว ก็เป็นไปได้ว่าจะต้องสร้างออกมาแบบพิเศษเท่านั้น โดยอาจมาจากการ Invoke หรือการสร้างจากการ์ดอื่น ๆ

สิ่งนี้ทำให้ Celestial เป็นเหมือนพลังที่ยิ่งใหญ่และทรงพลัง แต่อยู่เหนือการควบคุมของเรา แล้วแต่ว่าโชคชะตาจะกำหนดการ์ดใบไหนมาให้เรา เหมือนกับความหมายของคำว่า Invoke ที่แปลว่า “วิงวอน/ร้องขอ” นั่นเอง

นอกจาก 7 Champion ที่มาในคราวนี้แล้ว ยังมีการยืนยันถึง Champion ชุดต่อไปที่จะมาในการอัปเดตหน้าด้วย ได้แก่ Zoe, Viktor, Riven, Tahm Kench, Soraka และ Shyvana

ซึ่งทั้งหมดก็ครบ 6 คนตามกำหนดที่จะออกมาในแพทช์นี้พอดี โดยจะทำการอัปเดตครั้งต่อไปช่วงตุลาคม และอัปเดตครั้งสุดท้ายในสิ้นปีปีนี้ ก่อนที่จะประกาศข้อมูลสำหรับแพทช์ใหญ่ครั้งต่อไปในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 แฟน ๆ LoL และ LoR อย่าพลาดชม 

Pathiphan Tepinta

Back to top