BY KKMTC
31 May 18 3:51 pm

MAFIA สอนบทเรียนชีวิตให้กับเกมเมอร์อะไรบ้าง

91 Views
เกมมาเฟียที่ได้อะไรมากกว่า การเป็น Mafioso

ไม่มีใครไม่รู้จักเกม MAFIA เกมที่ใคร ๆ ก็ต่างกับหลงรักในเรื่องของบรรยากาศของโลกธุรกิจใต้ดินในยุค Vintage หลังจากจากภาพยนตร์ Godfather และ Goodfellas ได้เป็นการสร้างมิติแห่งวงการสื่อบรรเทิงประเภทหนังดราม่า-อาชญากรรมในช่วงนั้น

หลังจากปี 2016 ในเดือนตุลาคม เกม MAFIA III ได้สร้างความผิดหวังให้แก่แฟน ๆ ทุกคน รวมถึงผู้เขียนด้วย ผมก็เลยประชดโดยการเล่นเกม MAFIA: The City of Lost Heaven หรือภาคแรกจนจบเกม ปรากฏว่าเป็นเกมที่ดีมาก ๆ ในปี 2002 ระบบเกมเพลย์อาจจะไม่สู้ GTA III และ GTA Vice City แต่ถ้าเรื่องเนื้อเรื่อง การเล่าเรื่องและบทเขียน ก็คือระดับ Masterpiece 10/10 เป็นที่หายากมาก ๆ สำหรับเกมเนื้อหาดราม่า-อาชญากรรม ที่ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางความสนุกของระบบเกมเพลย์เป็นหลักซะมากกว่า

 

สำหรับคนที่ไม่รู้ว่า MAFIA คือเกมอะไร ? มันคือประเภทแอคชั่น-ชู้ตติ้ง เปิดโลกกว้างโดย Illusion Softworks (ภายหลังโดนซื้อกิจการ 2K Games จนกลายมาเป็น 2K Czech สุดท้ายก็ปิดตัวลงในปี 2016 และรวมทีมกับ Hanger 13 ทีมงานผู้รับผิดชอบในภาค 3)

สิ่งที่โดดเด่นในเกมนี้ก็คือการเซตติ้งย้อนยุคไปช่วงปี 1920 ยุคที่อเมริกามีนโยบายในการห้ามดื่มสุราในประเทศสหรัฐฯ อาชญากรรมจึงพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก แต่สิ่งตราตรึงใจที่สุดก็คือการเล่าเรื่องของคนสู้ชีวิตในฐานะมาเฟียคนหนึ่ง ด้วยดราม่าที่กระแทกใจผู้เล่นได้อยู่หมัด รวมถึงให้ข้อคิดแก่เหล่าผู้เล่นทั้งผ่านตัวละครหลักและการเล่าเรื่อง จึงเป็นอีกหนึ่งที่แฟน ๆ ชื่นชอบสำหรับคนที่ต้องการเนื้อหาเยอะ รวมถึงผู้เล่นที่ชื่นชอบการเสพย์บรรยากาศ Vintage

 

ทุกคนไม่ปฎิเสธว่าเกม MAFIA ได้แสดงและสอนให้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่างแก่ผู้เล่น แต่ได้อะไรมาบ้างล่ะ ? นี่คือบทความ MAFIA สอนบทเรียนชีวิตให้กับเกมเมอร์อะไรบ้าง ? 

*บทความนี้จะมีการสปอยล์เนื้อหาเกม MAFIA ทุกภาคในบางส่วน หากไม่ต้องการเสียอรรถรสในการเล่นควรหลีกเลี่ยงการอ่านต่อจากนี้ไป

ทุกอย่างมีเหตุผล มีจุดเริ่มต้นของมันเอง

ไม่มีใครอยากทำงานด้านสายอาชญากรรมเสี่ยงคุกเสี่ยงตาราง ต้องทำร้ายผู้อื่นอยู่แล้ว แต่ชีวิตคนเราอาจจะไม่มีทางเลือกอื่น ๆ อีกแล้ว ไม่ว่าจะทำงานเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม

ตัวละครเอกในภาคแรกอย่าง Tommy Angelo ที่ทำอาชีพเป็นเพียงแค่คนขับแท๊กซี่ธรรมดาฐานะจนคนหนึ่งเท่านั้น จนกระทั่งได้เข้าพัวพันกับการไล่ล่าระหว่างมาเฟียทั้ง 2 ฝ่าย แล้วได้พบกับ Paulie และ Sam หนึ่งในสมาชิกแก๊งตระกูล Salieri หลังจากหลุดพ้นการไล่ล่า Sam ให้ค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวนมากพร้อมกับข้อเสนอในการเข้าร่วมสมาชิกของแก๊ง ตอนแรก Tommy ปฎิเสธในการรับเชิญ แล้วด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยของตัวเองและครอบครัว จึงต้องเข้ามาอยู่ในสมาชิกแก๊งมาเฟียอย่างช่วยไม่ได้

ทุกอย่างมีเหตุผลเป็นร้อยแปดในการเข้าสู่โลกอาชญากรรม ไม่ว่าจะ ความโลภอยากรวยทางลัด ปัญหาชีวิต โอกาส และอื่น ๆ ที่หลายคนอาจจะไม่เข้าใจนอกจากคนที่ประสบปัญหาชีวิตเอง

ไม่มีใครสามารถไว้ใจได้ ทุกคนพร้อมที่จะแทงข้างหลังอยู่เสมอ

สังคมการทำงานในบริษัทออฟฟิศ หลายคนสวมหน้ากากเข้าหากัน บางคนพร้อมที่จะเหยียบให้จมดินเมื่อมีโอกาส เลียขาเจ้านายเพื่อให้ตัวเองได้ดีจนลืมนึกถึงจริยธรรม

ไม่ต่างจากในโลกของแก๊งอาชญากรรมที่ความจงรักภักดีต่อแก๊งเป็นสิ่งที่มาก่อนความรู้สึกส่วนตัวหรือมิตรภาพ ไม่ว่า MAFIA ในภาคไหน ที่ต้อนต้นจะมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน จนสุดท้ายจากมิตรก็กลายเป็นศัตรูเพราะโดนผลประโยชน์อำนาจเงินตราหรือตำแน่งที่สูงกว่าเป่าหู โดยใช้คำว่า “ความจงรักภักดี” เป็นเครื่องบังหน้าเท่านั้น ความจงรักภักดีต่อแก๊งที่แท้จริงเป็นสิ่งที่หายากมาก แม้ตัวเอกแต่ตัวเอกที่พิเศษกว่าผู้อื่นอย่าง Vito Scarletta และ Tommy Angelo ยังไม่สามารถกระทำได้เลย

เพื่อนสนิทที่เติบโตมาด้วยกันเปรียบเสมือนของขวัญ รักษามันไว้ให้ดี

อ่านแล้วมันขัดที่หัวข้อที่ผ่านมาใช่ไหมล่ะ ? แต่มันไม่ใช่สำหรับตัวเอกในภาคที่ 2 อย่าง Vito Scarletta กับเพื่อนสนิทที่โตมาด้วยกัน Joe Barbaro

ทั้งคู่ต่างมีฐานะยากจนมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แก้ปัญหา หัวเราะ และทะเลาะถกเถียงมาด้วยกัน สะสมจนกลายมาเป็นมิตรภาพที่แท้จริงเปรียบเสมือนพี่น้องที่แม้แต่พลังอำนาจไม่สามารถที่จะทำลายกำแพงมิตรภาพพวกเขาได้ที่แม้จะต้องแลกมาด้วยเลือดหรือชีวิตก็ตาม เพื่อนที่พร้อมจะช่วยเหลือเพราะใจ ไม่มีผลประโยชน์โดยรวมมาแทรกเป็นที่หายากในโลกความจริงที่โหดร้าย จงรักษามันไว้ให้นานที่สุด ไม่สิ ต้องรักษาไว้ตลอดชีวิตเลย

ชีวิตไม่ได้โปรยด้วยดอกกุหลาบ มีรุ่งก็ต้องมีร่วง

คนรวยมีชีวิตที่สบายมีเงินตราให้ใช้ไม่หยุดหย่อนก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะมีชีวิตสบายไปตลอดทาง โรยไปด้วยถนนทองคำ

ทุกโอกาสจะมีเหตุการณ์ Sh*t Happened ไม่ทันในตั้งตัว ยกตัวอย่างใน MAFIA II ช่วงที่ Vito มีฐานะกินดีอยู่ดีมีบ้านใหม่ จนกระทั่งในช่วงท้ายของ Chepter 11 – The Friend of Our บ้านของ Vito ได้โดนวางเพลิงโดยกลุ่มแก๊งอาชญกรรมเล็ก ๆ ที่กร่างไปทั่วเมือง จนสูญเสียไปหมดทุกอย่างตั้งแต่บ้าน รถยนตร์ เสื้อผ้า และเฟอร์นิเจอร์ แล้วในสุด Vito ก็ต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ทั้งหมด

คิดว่าเรื่องนี้อาจจะห่างไกลตัวเองอยู่มาก แต่ทุกอย่างมันสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ และมันอาจจะเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดทางก็เป็นไปได้ ทั้งอุบัติเหตุ สภาพเศรษฐกิจและสังคม  วันดีคืนดีอาจจะโดนฉกกระเป๋าจากพวกโจรวิ่งราว หรืออยู่ดี ๆ โดนรถชนอย่างรุนแรงจนร่างกายพิการ รวมถึงอาจจะภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถยับยั้งได้จนสูญเสียทรัพย์สินทุกอย่าง เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุด ก็คือการเตรียมพร้อม ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ถ้ามีปัญหาบางอย่างที่เรื้อรัง ก็ควรรีบขจัดปัญหาให้รวดเร็วที่สุด

ผู้ร้ายไม่เคยมีจุดที่จบดี เป็นตราบาปไปตลอดชีวิต

ไม่ว่าคุณจะหลุดออกอาชีพวงการอาชญากรรมเป็นคนธรรมดาทำอาชีพทั่วไปแล้ว แต่ทว่าอย่าลืมว่าคุณมีอดีตเป็น “อาชญากร”

เวลาผ่านไป 20 ปี จากการวางมืออาชีพมาเฟีย ซักวันหนึ่งคุณอาจจะโดนเรียกเคาะประตูหน้าบ้าน แล้วมีตำรวจเป็นจำนวนพร้อมโชว์ตราตำรวจพร้อมกับจับกุมคุณข้อหาฆาตกรรมผู้อื่นให้ถึงแก่ความตาย โดยมีโทษจากศาลให้จำคุกเป็นเวลา 10 ปี, 15 ปี หรือ 20 ปี หรืออาจจะโดนสั่งเก็บ เพียงเพราะ “สันนิษฐานว่าเป็นคนทรยศ” โดยกลุ่มแก๊งมาเฟียของคุณเองในภายหลัง

ตอนจบในภาค 1 ที่ Tommy Angelo โดนหมายชีวิตจากแก๊งมาเฟียของตนเอง ข้อหาละเมิดคำสั่ง กฏของแก๊ง และรู้มากจนเกินไป จนต้องขายวิญญาณให้กับ CIA โดยการให้ข้อมูลแก๊งของตนเองเพื่อแลกกับความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว จนในที่สุดแก๊งมาเฟียก็ล่มจมจากเคยยิ่งใหญ่กลายเป็นแก๊งมาเฟียเล็ก ๆ ในที่สุด แล้วเขาก็ตัดสินใจจำคุกเป็นเวลา 8 ปี โดยไม่ขาดการจากโลกภายนอกไม่เว้นแม้แต่ลูกสาวและภรรยาของเขาเอง

แม้เวลาจะผ่านไปถึง 11 ปี หลังจากการทรยศ Tommy ได้เปลี่ยนชื่อใหม่ภายในการคุ้มครองพยานโดย CIA และทำอาชีพเป็นนักขับแท๊กซี่เหมือนที่เคยเป็น แต่สุดท้ายก็ชะตาขาด โดนมือปืน 2 คนที่จ้างโดยแก๊งของตนเองเคยสังกัดสั่งเก็บในตอนท้ายของเนื้อเรื่องและเสียชีวิตหน้าบ้านในที่สุด ในข้อ “เป็นผู้ทรยศ” เปรียบเสมือนตราบาปที่เขาก่อไว้ในอดีต

สิ่งที่ดี่สุดในการดำเนินชีวิตก็คือ “ความสมดุล”

ส่วนนี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด “ความโลภ” หรืออะไรที่มันมากเกินไปอาจจะเป็นการทำลายชีวิตไม่ว่าช้าหรือเร็ว

ไม่ว่าจะ Tommy และ Paulie ได้ละเมิดกฏในการปล้นธนาคารจนสุดท้ายก็จบลงโดยการฆ่ากันเอง หรือไม่ว่าจะ Vito, Joe และ Henry ที่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องยาเสพติด จนเกิดการสูญเสีย ทรยศหักหลัง เกิดสงครามระหว่างแก๊ง และหนี้สินเป็นจำนวนมาก แม้แต่ Linclon Clay ที่ล้างแค้นจนสำเร็จลุล่วง จนลืมจุดประสงค์ดั้งเดิมที่ว่าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ และค้นหาตนเองในฐานะคนปกติธรรมดา

เพราะฉะนั้นการสร้างฐานที่พอดีให้แก่ชีวิต ไม่เลยเถิดล้ำเส้นจนเกินไป ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอาชญากรเป็นการเพลย์เซฟที่สุดแล้ว

สุดท้ายก่อนที่จะจบบทความ ผมจะทิ้ง Quote หลังจากการเสียชีวิตของ Tommy Angelo ตัวละครเอกในภาคแรก ได้เล่าเรื่องทิ้งข้อความสั่งเสียความในใจไว้ว่า

คุณรู้อะไรไหม ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือการสร้างความสมดุลให้กับทุกสิ่ง ใช่แล้ว “ความสมดุล” ไม่มีคำไหนที่เหมาะสมเท่ากับคำนี้อีกแล้ว เพราะว่าคนที่ต้องการมากเกินไปก็เสี่ยงย่อมที่จะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง และแน่นอน ถ้าคนที่ไม่อยากจะต้องการอะไร ย่อมที่จะไม่ได้อะไรเลย”

Tommy Angelo 1951

 

 

 

 

 

SHARE

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top