BY Zreast
11 Oct 24 7:35 pm

15 ข้อควรรู้ก่อนเริ่มเล่น Metaphor: ReFantazio

778 Views

“Metaphor: ReFantazio” เป็นอีกหนึ่งเกม JRPG แห่งปี 2024 ที่หลายคนตั้งตารอจะได้สัมผัส เพราะนี่คือผลงาน IP ใหม่จาก Atlus และ Studio Zero ผู้ฝากผลงานอย่าง Persona และ Shin Megami Tensei ให้เข้าไปอยู่ในหัวใจเกมเมอร์ทั่วโลกมาแล้ว

ซึ่ง Metaphor: ReFantazio เกมนี้ ถือเป็นการเดินทางครั้งใหม่ในธีมที่ต่างออกไป และระบบการเล่นที่ต่อยอดจากของเดิมขึ้นในหลายด้าน ดังนั้นใครอยากเตรียมความพร้อม เรียกน้ำย่อยกันสักหน่อยก่อนเล่นจริง ก็ขอเชิญมาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กันกับเราได้เลย

Metaphor: ReFantazio บนหน้าร้านค้า Steam : https://bit.ly/4dALesk


โลกภายในเกม

Metaphor: ReFantazio ว่าด้วยเรื่องราวในโลกอันห่างไกล ณ สหราชอาณาจักร Euchronia, ซึ่งเวทมนตร์เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง และมีผู้อาศัยเป็นเผ่าพันธุ์ทรงสติปัญญาทั้ง 8 โดยแม้ว่าในสายตามนุษย์อย่างเรา จะมองว่านี่คือโลกแฟนตาซี แต่ในมุมกลับกัน คำว่า “แฟนตาซี” ก็เป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับมุมมอง และคนในโลกนี้ก็มองว่าโลกที่มีเพียงเผ่าพันธุ์เดียว ซึ่งทุกคนเท่าเทียม ยอมรับซึ่งกันและกัน มีอาคารกระจกที่สูงเสียดฟ้า และถนนในยามค่ำคืนที่ปลอดภัยไร้เงามืด สิ่งเหล่านี้ก็คือ “แฟนตาซี” จากในมุมพวกเขา

ทั้งนี้ตัวเกมจะเล่าที่ฝั่งของ Euchronia ซึ่งสถานการณ์ด้านการเมืองกำลังระส่ำระสายอย่างหนัก และ “ตัวเอก” ของเรา, ชายหนุ่มเผ่า Elda อันเป็นชนกลุ่มน้อยที่สังคมเหยียดหยาม, ก็กำลังเดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองหลวง ด้วยภารกิจสำคัญบางอย่าง อันจะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวมหากาพย์ทั้งหมด ภายใน Metaphor: ReFantazio เกมนี้

เกมเพลย์ในภาพรวม

Metaphor: ReFantazio จะแบ่งเกมเพลย์หลัก ๆ ออกเป็น 2 พาร์ทใหญ่ คือพาร์ทของการลุยดันเจี้ยน ต่อสู้ปราบเหล่าศัตรูในฉากสู้แบบ Turn-based (ตามที่แฟน ๆ คุ้นเคยกันจากเกมก่อนหน้านี้) และอีกพาร์ทหนึ่ง คือการ “เข้าสังคม” ผูกสัมพันธ์ ช่วยเหลือผู้คน บริหารจัดการเวลา สั่งสมบารมีและความไว้เนื้อเชื่อใจ อันถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่มีผลอย่างมาก ทั้งในด้านการปลดล็อกฟีเจอร์ใหม่ และกับตัวเนื้อเรื่องเองด้วย

Follower vs Party Member

ใน Metaphor: ReFantazio, เหล่าตัวละครที่ตัวเอกจะได้รู้จัก อาจไม่ได้เก่งกาจในเรื่องต่อสู้เสมอไป ดังนั้นตัวเกมจะมีสิ่งที่เรียกว่า​ “ระบบผู้ติดตาม” (Follower) เป็นเหมือนตัวละครที่จะคอยซัพพอร์ตพลังให้ตัวเอกอยู่เบื้องหลัง โดยการได้ทำความรู้จักกับผู้ติดตามใหม่ ๆ ก็จะเป็นการปลดล็อก Archetype (คลาสในเกมนี้) และเมื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับเหล่าผู้ติดตามไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้ตัว Archetype ของคนนั้น แข็งแกร่งตามไปด้วยเช่นกัน

และในส่วนของ Party, จะมีตัวละครเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น ที่ผู้เล่นสามารถบังคับและใช้ลุยเป็น Party ได้ ซึ่งตัวละครเหล่านี้ก็จะสามารถอัปเกรดได้หลายส่วน ทั้งในด้านของเลเวล, การเลือก Archetype, การติดตั้งสกิล รวมไปถึงอุปกรณ์สวมใส่ โดยตัวละครภายใน Party ก็ถูกนับเป็นหนึ่งใน Follower ของเราด้วยเช่นกัน

กิจกรรมที่สำคัญสุด คือการเพิ่มระดับ Rank ของเหล่าผู้ติดตาม

เพราะภายในเกมใช้ระบบเวลาที่จำกัด ดังนั้นเราจำเป็นต้องระดับการจัดการสำคัญก่อนหลัง และ Rank ความสัมพันธ์ของเรากับเพื่อนและเหล่าผู้ติดตามจัดเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยในเรื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ  Rank เหล่านี้ยังมีบางอันช่วยให้เราประหยัดเวลา เช่นระดับความสัมพันธ์กับ Maliar ทำให้เราสามารถทำอาหารได้โดยไม่ต้องเสียสล็อตเวลาอันสำคัญไป

ค่า Royal Virtue มีความสำคัญเท่ากันทั้งหมด 

โดยส่วนใหญ่แล้ว, ค่าสถานะ Royal Virtue จะใช้เพื่อปลดล็อกระดับหรือ Rank ความสัมพันธ์กับเหล่าผู้ติดตาม ดังนั้นค่าความสามารถดังกล่าวจีงถือว่ามีความสำคัญและเราควรจะค่อย ๆ พัฒนา Status ทุก ๆ อันไปพร้อมกัน ซึ่งกิจกรรมที่เพิ่มค่า Status ได้ดีอย่างมากในช่วงแรกคือการอ่านหนังสือบน Gauntlet Runner โดยหนังสือหนึ่งเล่มจะอ่านได้ 3 ครั้ง เมื่ออ่านจบเราจะได้แต้มโบนัสสำหรับเพิ่ม Status มา ดังนั้นช่วงแรกก็ควรเน้นอ่านหนังสือให้หมดทีละเล่ม

การตอบคำถามในบทสนทนากับเพื่อน ไม่มีผลในการเพิ่ม Rank ความสัมพันธ์

ใครที่เคยเล่น Persona มาก่อนอาจจะเคยหงุดหงิดใจกับการตอบคำถามไม่โดนใจเพื่อนและได้แต้มความสัมพันธ์มาน้อย Metaphor: ReFantazio แก้ปัญหาดังกล่าวให้เราเพิ่มค่าความสัมพันธ์ของเพื่อนไปตามลำดับโดยไม่ต้องตอบคำถามให้ถูกใจ การตอบได้โดนใจมีผลประโยชน์แค่การได้แต้ม MAG เพิ่มเท่านั้นซึ่งไม่ได้มีผลเท่าไหร่ในเกมการเล่นจริงเพราะเราสามารถหา MAG ได้ง่าย ๆ จากวิธีอื่น ดังนั้นเราสามารถตอบคำถามบทสนทนาระหว่างเพื่อนได้ตามใจ

แต่การเลือกตอบระหว่างกิจกรรมเพิ่มค่า Status มีผลกระทบ ในบางกิจกรรมที่เราต้องทำเพื่อเพิ่มค่า Status นั้น การตอบคำถามได้ถูกต้องจะทำให้เราได้แต้มดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ทำอาหาร หรือการโต้วาทีกลางเมือง ถ้าคุณอยากใช้เวลาให้คุ้มค่ามากที่สุดก็อย่าลืม Save ก่อนเข้าไปเลือกตัวเลือกในกิจกรรมแต่ละครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าตอบถูกต้องเราผลประโยชน์แบบเต็มที่

รับภารกิจทั้งหมดเพื่อวางแผนการเดินทางให้คุ้มค่า

เพราะตัวเกมมีเวลาจำกัดและเส้นทางการเดินทางโดยส่วนใหญ่ตามเนื้อเรื่องของเราก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ดังนั้นเราจึงควรรับภารกิจย่อยทั้งหมดที่พบเจอระหว่างการสำรวจ นอกจากเราจะได้รับผลประโยชน์ต่าง ๆ แบบเต็มที่ บางครั้งถ้าไม่รับภารกิจมาไว้เราอาจจะจำเป็นต้องเดินทางย้อนกลับไปในเส้นทางเดิมทำให้เสียเวลาอันมีค่าไปโดยเปล่าประโยชน์

สภาพอากาศส่งผลต่อการเล่น

ภายในเกม Metaphor: ReFantazio มีระบบสำคัญหนึ่งอย่างนั่นก็คือสภาพอากาศ ในวันที่อากาศแย่ฝนตกพายุเข้าศัตรูภายในเกมจะแข็งแกร่งขึ้นเป็นพิเศษและที่สำคัญ เราจะไม่ได้ Turn Icon เมื่อโจมตีจุดอ่อนของศัตรู ดังนั้นการต่อสู้ในวันที่อากาศแย่จะถือว่ามีความอันตรายอย่างมาก  อย่างไรก็ตามการต่อสู้กับศัตรูในวันที่อากาศแย่เราจะได้รับแต้มประสบการณ์มากกว่าปกติ ดังนั้นช่วงเวลาดังกล่าวจึงเป็นโอกาสดีในการออกต่อสู้เพื่อเพิ่มเลเวลของตัวละคร

นอกจากนั้นในวันที่อากาศแย่อัตราแลกเปลี่ยน MAG เป็นเงินจะสูงมากเป็นพิเศษ ถ้าคุณต้องการเปลี่ยน MAG เป็นเงินก็ควรจะเก็บไว้แลกในวันที่อากาศแย่จะคุ้มค่ามากที่สุด

เราสามารถตรวจเช็กพยากรณ์อากาศได้ที่ NPC นักพยากรณ์อากาศที่จำประจำอยู่ตามเมืองต่าง ๆ 

เปิดสู้ Auto ได้

สำหรับสายขี้เกียจ ไม่อยากกดสู้เป็นเทิร์น ๆ ในทุกครั้งไป ก็สามารถเปิด Auto ให้ตัวละครสู้เองได้ ซึ่งผู้เล่นสามารถปรับ Tactic นิสัยตัวละครได้ด้วยว่าอยากให้เน้นเปิดเกมรุก, ตั้งรับ, ประหยัดค่า MP หรือตัดสินใจไปตามสถานการณ์เอง

อย่างไรก็ตาม การสู้ Auto นั้นเหมาะสำหรับมอนสเตอร์ที่ไม่มีความซับซ้อน กรณีที่ต้องสู้กับบอส หรือมอนสเตอร์ที่มีกลไกเฉพาะตัว (เช่น โจมตีกายภาพไม่เข้า) ก็อาจทำให้ตัว AI ทำงานไม่ได้ดั่งใจเรา และต้องกลับมาสู้เองตามปกติ

Archetype แต่ละอย่าง มอบประโยชน์ที่ต่างกันในการสู้แบบ Realtime

นอกจากจะกำหนดความสามารถในการต่อสู้แบบ Turn-based ตัวอาชีพหรือ Archetype ต่าง ๆ ในเกมนั้นยังมีโบนัสพิเศษที่มีความสำคัญอย่างมากเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น Mage จะฟื้น MP ให้กับ Party ของเราทุกครั้งที่จัดการสังหารหรือทำให้ศัตรู Stun ในการต่อสู้ Realtime จะเห็นได้ว่าในการลุยดันเจี้ยนที่ทรัพยากรเราอาจจะจำกัด Archetype ต่าง ๆ จะช่วยให้เราบุกลุยผ่านได้ง่ายยิ่งขึ้น

ดังนั้นการไม่ยึดติดกับ Archetype เดิม ๆ ในทุกสถานการณ์ และทดลองใช้ Archetype ใหม่ ๆ บ้าง ก็เป็นอะไรที่ควรทำ เพราะไม่แน่ว่าเราอาจจะได้พบกับสไตล์การเล่นที่ดีกว่ารออยู่ก็ได้ 

อย่ามองข้ามตำแหน่งการยืนของตัวละคร

แม้ตัวเกมจะสอนระบบนี้กับเราในช่วงแรก แต่ระหว่างเล่นเราอาจจะหลงลืมตำแหน่งการยืนแถวหน้าและแถวหลังในระหว่างการต่อสู้ของทีมเราได้ เรารู้กันอยู่แล้วว่าตัวละครที่อยู่แถวหน้าจะทั้งโดนโจมตีและโจมตีได้รุนแรงกว่า เทคนิคสำคัญง่าย ในช่วงแรกคือการวางตัวละคร Knight ไว้แถวหลังและใช้ Skill ดึงดูดการโจมตีจากศัตรูมาที่ตัวเอง เพราะ Knight นั้นโจมตีได้เบาอยู่แล้ว และตำแหน่งการยืนก็ไม่ได้ส่งผลต่อการดึงให้ศัตรูมาโจมตี Knight โดยอัตโนมัติ  

อีกจุดที่อย่าลืมก็คือทุกครั้งที่เปลี่ยน Archetype ให้ตัวละครอย่าลืมปรับตำแหน่งการยืนใหม่ที่เมนู Party เพื่อให้แผนการรบเราสมบูรณ์อยู่ตลอด

มังกรในเหมือง Nord Mines ต้นเกม สามารถเอาชนะได้ และให้รางวัลที่ดีมาก

ในช่วงแรกของเกมตอนที่ตัวเกมสอนระบบต่าง ๆ ให้กับเรา ตัวเอกจะต้องเดินทางผ่านพื้นที่เหมืองที่มีชื่อว่า Nord Mines ภายในเหมืองเราจะพบกับมังกรที่นอนหลับอยู่และตัวเกมจะพยายามชี้นำให้เราหลบหลีกหนีไปจากมัน แต่จริง ๆ แล้วเราสามารถเดินไปเผชิญหน้ากับเจ้ามังกรได้เลย รางวัลที่ได้จากการจัดการถือว่าคุ้มค่าและไม่เกินความสามารถทุกคนอย่างแน่นอน

ลุยภารกิจหลักก่อน และใช้เวลาที่เหลือตามที่คุณต้องการ

ภายในเกม Metaphor: ReFantazio ภารกิจหลักตามเนื้อเรื่องมักจะมีเวลา Deadline กำหนดเอาไว้ เราแนะนำให้คุณเตรียมตัวให้พร้อมและทำภารกิจหลักเหล่านี้ให้เร็วที่สุดเพื่อใช้เวลาที่เหลือไปทำกิจกรรมอื่นตามใจคุณ เพราะการผ่านภารกิจหลักมักจะปลดล็อกภารกิจรองและกิจกรรมใหม่ ๆ เพิ่มเติมเข้ามา 

คิดอะไรไม่ออก ให้คุยกับ Gallica

Fairy คู่หูตัวน้อยของเรา สามารถกดพูดคุยด้วยได้เสมอในตอนที่อยู่โซนพื้นที่ปลอดภัย เธอจะช่วยแนะนำเราได้ว่าตอนนี้แต่ละภารกิจมีสถานะเป็นอย่างไร รวมถึงช่วยแนะนำเราได้ด้วย ว่ามีอะไรที่น่าทำ หรือมีใครกำลังรอพูดคุยกับเราอยู่บ้าง ซึ่งจะนำไปสู่การได้รับภารกิจใหม่ ๆ ภายในเกม

ดังนั้นใครที่มีเวลาเหลือจากการทำภารกิจหลัก เนื้อเรื่องยังอยู่ในช่วงพักให้เราได้พัฒนาตัวละคร, การพูดคุยกับ Gallica ก็เป็นอะไรที่น่าทำ เพื่อใช้เวลาทั้งในเกมและโลกจริงให้คุ้มค่ายิ่งขึ้น

ไม่ต้องเครียดกับการบริหารเวลาจนเกินไป

ถึงข้อแนะนำต่าง ๆ ในไกด์นี้จะมุ่งเน้นการบริหารเวลา แต่ Metaphor: ReFantazio ให้เวลาโดยรวมต่าง ๆ มาค่อนข้างเยอะหากเทียบกับผลงานเกมที่ผ่านมาของทีมงาน แม้ช่วงแรกคุณอาจจะรู้สึกเครียดกับการบริหารจัดการเวลาให้ลงตัว แต่สุดท้ายแล้วในตอนช่วงท้ายสุดของเกม คุณก็น่าจะมีเวลาเหลือพอให้ทำภารกิจและสำรวจดันเจี้ยนหลักของเกมได้แทบจะทุกอย่าง


 

ถึงตรงนี้ เราก็ได้ทำความรู้จักกับ Metaphor: ReFantazio มาพอสมควรแล้ว ส่วนเนื้อหาในเกมจะเข้มข้นและกินใจขนาดไหน ถ้าสนใจเริ่มต้นเล่น ก็สามารถตามไปดูรายละเอียดและสั่งซื้อได้เลยที่ : https://bit.ly/4dALesk

Satthathan Chanchartree

ฟ่าง - Content Writer

Back to top