BY Zreast
16 Oct 24 12:07 pm

วิธีผ่านด่าน Metaphor: ReFantazio – ดันเจี้ยน Kriegante Castle

603 Views

Metaphor: ReFantazio คืออีกหนึ่งเกมที่หลายคนเฝ้ารอในปีนี้ และพร้อมที่จะอุทิศเวลาได้นับสิบนับร้อยชั่วโมง ไปกับเรื่องราวอันเข้มข้น และยังคงไม่ทิ้งชื่อชั้นของ Atlus รวมถึง Studio Zero ไปแต่อย่างใด

และเพื่อให้ทุกคนคืบหน้าไปได้ไว ไม่ติดขัดกับจุดไหนนานเกินไป เราจึงขอแนะนำวิธีผ่านด่าน (Walkthrough) สำหรับเกมนี้ โดยบทความนี้จะเน้นไปที่ภารกิจหลักในช่วงแรกของเกม ซึ่งมีฉากหลังเป็นดันเจี้ยน “Kriegante Castle”

⚠️สปอยล์ไม่เยอะ – บทความไกด์ Metaphor: ReFantazio ของ GamingDose จะพยายามหลีกเลี่ยงการเผยชื่อบอส รวมถึงฉากสำคัญของเนื้อเรื่อง

Metaphor: ReFantazio บนหน้าร้านค้า Steam : https://bit.ly/4dALesk


 

โดยในช่วงหนึ่งของเนื้อเรื่อง หลังจากที่กลุ่มตัวเอกบุกเข้าไปในรังของหนอนทราย และสืบเสาะจนพบความจริงที่อยู่เบื้องหลังแล้ว ทั้งหมดก็จะรวมตัว มุ่งหน้าเข้าสู่ดันเจี้ยนหลัก ซึ่งเป็นพื้นที่ใต้ดินของปราสาท Kriegante (ในเมือง Martira) เพื่อลุยกับภารกิจหลัก “Catch the true kidnapper”

ทีมแนะนำสำหรับผ่านด่าน

ภายในเกมมีระบบที่เรียกว่า “Traveller’s Voice” ทำให้เราตรวจสอบข้อมูลได้ ว่าผู้เล่นคนอื่น ๆ ใช้ Party แบบใดและมีเลเวลเท่าไร ในตอนที่ผ่านด่านนั้น ๆ

สำหรับผู้เล่นที่อยากจะจัดทีมลุยดันเจี้ยนต่าง ๆ ด้วยตัวเอง การซื้อข้อมูลจาก NPC “Informant” ในโรงแรมแต่ละแห่งจะช่วยระบุจุดอ่อนของเหล่ามอนสเตอร์ภายในดันเจี้ยนได้

โดยแนวทางที่เราแนะนำ มีดังนี้

  • ตัวเอก : Healer / Cleric หากต้องการความชัวร์ หรือ Mage เพื่อความอุ่นใจในเรื่อง MP
    (หากตัวเอกเป็น Mage แล้วโจมตีศัตรูจนติด Stun / จัดการศัตรูได้เลย จะได้รับการฟื้นฟู MP ด้วยนิดหน่อย)
  • อีก 2 ตัวละครที่เหลือ : Archetype เดิมที่ติดมากับตัวละคร หรืออะไรก็ได้ แต่ควรมี Knight ติดมาด้วย 1 คน

Rotting Waterway

  • ก่อนเริ่มภารกิจนี้ (Catch the true kidnapper) ผู้เล่นจะได้มาเยือนดันเจี้ยนนี้ก่อนแล้วครู่หนึ่ง ซึ่งจะเป็นการปลดล็อค Archetype ใหม่ “Thief” ให้กับ Heismay ด้วย
  • ในห้องแรก “Rotting Waterway” ทางเดินจะไม่ได้ซับซ้อน เน้นวิ่งเก็บไอเท็มทุกจุดที่ขวางหน้า ส่วนมอนสเตอร์, ให้เลือกโจมตีเฉพาะตัวที่เรายังไม่เคยสู้มาก่อน หรือตัวที่มีเลเวลต่ำกว่าเรามาก ๆ (กดใช้ Fae Sight แล้วขึ้นไฮไลต์เป็นสีขาวหรือฟ้า)
  • ในดันเจี้ยนนี้ ศัตรูจะเริ่มจู่โจมเราดุดันขึ้น จึงควรเพ่งสมาธิให้มากขึ้นกับการกลิ้งหลบศัตรู
  • อย่าลืมกดคันโยกเพื่อเปิดสะพานเป็นทางลัด (สัญลักษณ์ “!” ใน Minimap)

  • อย่าลืมสำรวจภายในดันเจี้ยนให้ทั่ว พื้นที่ส่วนแรกมีไอเท็มตัวช่วยที่มีประโยชน์อยู่
  • เตรียม Archetype ของคุณให้พร้อมก่อนสำรวจหีบสมบัติภายในดันเจี้ยนนี้ด้วย เพราะอาจต้องเจอการต่อสู้ที่ไม่คาดคิดได้
  • จากนั้นเราก็จะหมดธุระกับห้องนี้แล้ว สามารถขึ้นบันไดไปที่ชั้นบน และเข้าไปแวะพักที่ Magla Hollow ได้เลย
  • ทางไปต่อจะอยู่ใกล้ ๆ กับ Magla Hollow จุดนี้

Old Waterway

  • เมื่อเข้ามาห้องนี้ จะมีความระทึกยิ่งขึ้นเพราะ “สัตว์ประหลาดร่างยักษ์” จะคอยสอดส่องอยู่เสมอ ให้เราได้เล่นเกมลอบเร้นกันเบา ๆ
  • วิธีรับมือที่มีประสิทธิภาพ คือไม่ต้องพยายามเพ่งดูที่ตัวมัน แต่ดูที่ Minimap แทน
  • โดยลูกศรสีชมพูจะเป็นตำแหน่งของสัตว์ประหลาดตัวนี้ หากลูกศรหันไปทางใด แปลว่ามันกำลังมองไปทางนั้นอยู่ ให้วิ่งหลบโดยใช้ Minimap นี้ช่วยจับทิศเป็นหลักได้เลย
  • หากพลาดโดนมันจับได้, เกมจะพาเราเข้าสู่ฉากต่อสู้ ซึ่งไม่ควรเสียเวลาและทรัพยากรกับมัน ดังนั้นเราจะใช้วิธีหนีออกมาแทน
  • เราจะได้วิ่งหนีหลบไล่ซ่อนไม่หากับมอนสเตอร์ตัวนี้อยู่สักพักหนึ่ง จนกว่าจะถึงทางออกของห้อง และเปลี่ยนผ่านเข้าสู่โซนถัดไป

Old Reservoir

  • ที่ห้องนี้ ผู้เล่นจะต้องเปิด Flood Gate ให้ครบทั้ง 6 จุดก่อนเพื่อระบายน้ำออกและเปิดทางไปต่อ
  • 2 จุดแรกจะอยู่ข้างซ้าย-ขวา ของเราในตอนที่เข้าห้องมาเลย ซึ่งเมื่อสับคันโยกแล้ว ก็จะเป็นการเปิดสะพานให้เดินข้ามไปได้ด้วย
  • ที่ฝั่งซ้ายของโซนนี้ จะมี Flood Gate อีก 2 จุด ให้สังเกตตำแหน่งจากเครื่องหมาย “!” ใน Minimap
  • ต้องอ้อมขึ้นบันไดไปชั้นบนก่อน แล้วลงมาชั้นล่างอีกรอบ ถึงจะเจอคันโยกทั้ง 2
  • ที่ฝั่งขวาของโซนนี้ จะมี Flood Gate 1 จุดที่ชั้นล่าง และ 1 จุดที่ชั้นบน
  • พยายามวิ่งไปสับสวิตช์ให้ว่องไว มอนสเตอร์แถวนี้จะค่อนข้างแกร่งกว่าจุดอื่น อาจจะต้องคอยตั้งสติเตรียมกลิ้งหลบไว้ด้วย (หรือจะสู้ตรง ๆ เลยก็ได้ แล้วแต่โอกาส)
  • เมื่อสับสวิตช์ครบ 6 จุด น้ำก็จะระบายออกหมด ให้กลับมาที่จุดเริ่มต้นของห้องนี้ และปีนบันไดลงไปชั้นล่าง

  • ที่บริเวณชั้นล่าง ไม่ต้องสนใจมอนสเตอร์มากนักเช่นเคย เน้นเก็บไอเท็มบนพื้นให้ครบ แล้วรีบปีนขึ้นบันไดฝั่งตรงข้าม
  • Magla Hollow จะอยู่ฝั่งขวามือของเรา สามารถเข้าใช้งานได้ตามสะดวก
  • ที่ห้องถัดไป จะมีคริสตัลสีแดง 2 จุด ให้เน้นโจมตีที่คริสตัลเท่านั้นจนกว่าจะแตก
  • คอยระวังมอนสเตอร์รอบ ๆ , พยายามกลิ้งหลบและโจมตีคริสตัลต่อไป
  • เมื่อคริสตัลแตกแล้ว มอนสเตอร์ที่อยู่รอบ ๆ จะหายไปเอง
  • มุ่งหน้าสู่ห้องถัดไป ที่ฝั่งขวามือของ Minimap โดยช่วงนี้จะมีตัดเข้าคัตซีนก่อนด้วย

Underground Passage

  • ห้อง Magla Hollow จะอยู่ใกล้ ๆ และถ้ามุ่งหน้าต่อไปที่ประตูใหญ่ ก็จะตัดเข้าสู่ฉากคัตซีน
  • ผู้เล่นจะถูกย้ายพื้นที่มายังบริเวณห้องขัง ซึ่งจะสามารถเลือกสับสวิตช์ได้ 3 จุด เพื่อช่วยเหลือเพื่อนของเราออกมา
  • ทั้งนี้ถ้าสับสวิตช์ มอนสเตอร์ที่อยู่ห้องข้าง ๆ ก็จะหลุดออกมาด้วย จึงควรไล่ลำดับจากตัวที่ง่ายสุด ไปหาตัวที่ยากสุด
  • ใช้ Fae Sight ตรวจสอบความแกร่งของมอนสเตอร์และเลือกปล่อยเพื่อนออกมาตามลำดับที่เราคิดว่าสามารถจัดการกับศัตรูได้ก่อน
  • ทุกครั้งที่มอนสเตอร์หลุดออกมา เราต้องกำจัดให้หมดก่อน จึงจะสับสวิตช์ต่อไปได้
  • เมื่อช่วยเพื่อนคนสุดท้าย ปาร์ตี้จะกลับมาครบ 4 เหมือนเดิม และพร้อมสำหรับการสู้กับมอนสเตอร์ที่แกร่งสุดตรงนั้นพอดี
  • เมื่อเคลียร์มอนสเตอร์ครบ อย่าลืมไล่เก็บไอเท็มและหีบสมบัติบริเวณรอบ ๆ
  • หลังจากนี้จะเป็นเส้นตรงแล้ว ให้มุ่งหน้าต่อไปตามเนื้อเรื่อง ที่จุด Objective สีแดงชี้อยู่ได้เลย
  • สุดท้ายปลายทาง เราจะได้เจอกับประตูที่มีออร่าสีดำแผ่ออกมา แปลว่าถึงจุดที่ต้องเผชิญหน้ากับบอสแล้ว

สู้กับบอสประจำดันเจี้ยน

  • บอสตัวนี้ไม่มีกลไกซับซ้อนเหมือนตัวที่เราเคยเจอใน Regalith Grand Cathedral โดยหลัก ๆ แล้วให้ระวังที่ท่า Debuff ต่าง ๆ ที่บอสจะใช้ออกมา
  • เมื่อบอสใช้ท่ากระทืบพื้น จะเป็นการ Debuff ลดค่าป้องกันทั้งทีมของเรา ให้เน้นใช้สกิลฮีล HP ขึ้นมารอไว้ให้เต็ม ไม่ต้องเสียเวลาแก้ไข Debuff มากนัก
  • หากบอสใช้ท่า Stare จะทำให้คนที่โดนติดสถาน​ะ Dazed, สามารถเลือก 1 คนที่มีประโยชน์น้อยสุดในเทิร์นนั้น กดใช้ไอเท็ม Sulphurous Salt (ซื้อได้จาก General Store ในเมือง) เพื่อช่วยแก้ไขสถานะได้
  • ท่า Focused Aim (ตั้งท่าสตาร์ทเท้ารอพุ่งชน) สามารถให้คนที่เป็น Knight กดสกิลดึงความสนใจไว้ก่อนได้
  • เมื่อสู้ไปสักพัก เกมจะปลดล็อคให้เราโจมตีใส่ดวงตาบอสทั้งสองข้างได้
  • หากมีสกิลที่โจมตีเป็นหมู่, ไม่ว่าจะสกิลจาก Archetype หรือ Synthesis Skill สามารถกระหน่ำยิงใส่ได้เลย จะมีประสิทธิภาพดีกว่าการค่อย ๆ โจมตีใส่ตาทีละข้าง
  • พอเราทำลายตาบอสครบทั้ง 2 ข้างแล้ว จะช่วยให้สู้ง่ายขึ้นประมาณหนึ่ง ระหว่างนี้ให้เน้นทำความเสียหายให้เยอะที่สุด
  • อย่างไรก็ตาม บอสจะถูกฮีล HP ขึ้นมาประมาณหนึ่งด้วยเมื่อใกล้ตาย (เกิดขึ้นรอบเดียว) รวมถึงดวงตาทั้งสองข้างก็สามารถกลับมาใหม่ได้
  • ทั้งนี้ก็ไม่มีผลให้ยากขึ้นนัก นอกจากเราต้องสู้นานขึ้นอีกหน่อย
  • หาก HP บอสใกล้หมดแล้วจริง ๆ (หลังได้รับฮีลไปแล้วรอบหนึ่ง) ก็ไม่จำเป็นต้องเล็งไปที่ตาแล้ว เน้นตีที่ตัวบอสเพื่อปิดจบไฟต์นี้ได้เลย

 

ก็จะเป็นอันว่าจบภารกิจหลัก และความวุ่นวายภายในเมือง Martira อย่างไรก็ดี เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของเหล่าตัวเอกนั้นยังคงไม่ลุล่วง ซึ่งหลังจากนี้เนื้อเรื่องก็จะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ภารกิจหลักลำดับถัดไป

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม และสั่งซื้อ Metaphor: ReFantazio ได้ที่ : https://bit.ly/4dALesk

Satthathan Chanchartree

ฟ่าง - Content Writer

Back to top