เกมเมอร์หลายคนอาจจะคิดว่า Night Trap เกม Movie Interactive มีชื่อเสียงเพราะเคยถูกวิจารณ์จากรัฐบาลจนกลายเป็นดราม่าระดับโลก แต่รู้หาไม่ว่าเกมดังกล่าวได้สร้างความสะท้านต่อวงการเกม ด้วยการนำเสนอ Full Motion Video และเนื้อเรื่องระดับหนังเกรด B สุดประหลาดจนกลายเป็นหนึ่งในเกม Cult Following ที่มีแฟนติดตามและโด่งดังถึงทุกวันนี้
ความเป็นมาของเกม Night Trap
Night Trap เป็นเกมแนว Movie Interactive พัฒนาโดย James Riley กับ Rob Fulop ซึ่งเกมดังกล่าวสร้างขึ้น เพื่อเป็นเกม Exclusive สำหรับเครื่องเกม Control-Vision หรือโคดเนม NEMO เกมคอนโซลที่ใช้วิดีโอเทป VHS เป็นแผ่นเกม โดยมีแผนวางจำหน่ายในปี 1989
หากอ้างอิงจากบทความ The Making of: Night Trap ในนิตยสาร Retro Gamer เกม Night Trap เริ่มทำภาพยนตร์ครั้งแรกในปี 1987 โดยทีมพัฒนาเกมกล่าวว่าหนังได้ถ่ายทำในเมือง Culver City รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยใช้เวลาถ่ายทำหนังเพียง 16 วัน ส่วนเวลาอีก 6 เดือนใช้เวลากับการพัฒนาเกมทั้งหมด ซึ่งตัวหนังกำกับ James Riley, บทเขียนโดย Terry McDonell อดีตนักเขียน Screenwriter ให้หนัง Miami Vice และมี Don Burgess ผู้อำนวยการด้านการถ่ายภาพ ที่อนาคตได้สร้างชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง Forrest Gump เข้ามาส่วนร่วมในการสร้างเกมดังกล่าว
ตอนแรก Night Trap มีแผนวางจำหน่ายเกมภายในปี 1989 พร้อมกับวันเปิดตัวเครื่อง Control-Vision แต่ทว่าปัญหาวิบากกรรมก็เริ่มต้นเกิดขึ้น เพราะเครื่อง Control-Vision ได้ประกาศยกเลิกการวางจำหน่ายและพัฒนา เพราะต้นทุนการผลิตที่แพงเกินไป ส่งผลทำให้เครื่องเกมมีแนวโน้มขายในตลาดสูงถึง 299 เหรียญฯ หรือราว 20,300 บาทในยุคนั้น ซึ่งแพงกว่า NES ที่ขายเพียง 109 เหรียญฯ
Control-Vision
Night Trap กับ Sewer Shark (ผลงานอีกเกมของทีมพัฒนาเดียวกัน) ทั้งสองเกมเป็นเกม Movie Interactive ที่ใช้งบประมาณสร้างเกมรวมแล้ว 4.5 ล้านเหรียญฯ ซึ่งเป็นเกมราคาแพงที่สุดในยุคนั้น แน่นอนว่าถ้าหากเกมไม่ถูกวางจำหน่าย ก็เท่ากับว่าเงินทั้งหมดที่นำไปใช้สร้างเกมนั้นต้องสูญเปล่า ทางทีมพัฒนาเกมจึงตัดสินใจก่อตั้งบริษัท Digital Pictures เพื่อวางจำหน่าย Night Trap และ Sewer Shark ลงเครื่อง Sega CD พร้อมดัดแปลงจากเดิมเป็นแผ่นเกมเทป VHS ให้กลายเป็นแผ่น CD-ROM
Night Trap วางจำหน่าย หลังดีเลย์มานาน 5 ปี
หลังจากเกมดีเลย์วันวางจำหน่ายนานถึง 5 ปี ในที่สุดเกม Night Trap ก็วางจำหน่ายในปี 1992 ลงใน Sega CD ซึ่งตัวเกมก็มีกระแสตอบรับทั้งคนและคนไม่ชอบ แต่ถึงอย่างนั้น สื่อเกมต่างประเทศหลายแห่งยกย่องว่าเกมดังกล่าวได้สร้างความสะท้านแก่วงการเกมทั่วโลก ด้วยการนำเสนอภาพยนตร์แบบ Full Motion Video ลงในเครื่องเกมคอนโซลที่ไม่มีเกมไหนทำได้ในยุคนั้น
สำหรับคนที่ไม่รู้จัก Full Motion Video คือเทคนิคการนำไฟล์วิดีโอที่ Pre-Record มานำเสนอผ่านโลกวิดีโอเกม โดย FMV ส่วนใหญ่จะมีความละเอียดของภาพไม่ดี หรือสีเพี้ยนโดยขึ้นกับประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มเกมต่าง ๆ และเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถใช้ได้เฉพาะแผ่น LaserDisc และใช้บ่อยในเกมแนว Movie Interactive
แต่อย่างไรก็ตาม สื่อรีวิวหลายแห่งชื่นชมว่า Night Trap เป็นเกมอาจผลักดันให้เกมแนว Movie Interactive ได้รับความสนใจมากขึ้น ด้วยการนำเสนอวิดีโอแบบ Full Motion คุณภาพสูงอย่างเฟรมเรตลื่นไหลตลอดการเล่นเกม พร้อมความละเอียดคมชัดของภาพยนตร์ที่สูงกว่ามาตรฐานเกมทั่วไป แม้ประสิทธิภาพ Sega CD ทำให้สีของภาพเกมผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่เวลาต่อมา ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขสำหรับเกมแพลตฟอร์ม 3DO และ 32X
ด้านเนื้อเรื่องของ Night Trap ผู้เล่นได้รับบทเป็นทีมเจ้าหน้าที่พิเศษ Special Control Attack ที่ต้องใช้หน้าจอมอนิเตอร์สอดส่องดูแลความปลอดภัยของสาวทั้งห้าคนภายในบ้านของ Martin ซึ่งกำลังถูกรุกรานโดยกลุ่มนินจาแวมไพร์
ด้วยเซตติงและเนื้อเรื่อง ก็จัดว่า ‘แปลกประหลาด’ จนไม่สามารถคาดเดาเนื้อหาได้, บทสนทนาค่อนข้างเชย, การดำเนินเนื้อเรื่องมีการเปลี่ยนแปลงจากการกระทำของผู้เล่น หรือจู่ ๆ ก็มีฉากล่อแหลมหรือคอเมดี้แบบไม่ทันตั้งตัว สื่อเกมหลายแห่งจึงมั่นใจว่าทีมพัฒนาเกมได้จงใจสร้างเนื้อเรื่องให้มีคุณภาพแบบ ‘หนังเกรด B’ ตั้งแต่แรก
แน่นอนว่าคุณภาพเนื้อเรื่องแสนประหลาด ทำให้ Night Trap กลายเป็นเกมที่มี Cult Following ติดตามและโด่งดังจนถึงตอนนี้ แล้วด้วยการนำเสนอแบบ Full Motion Video ได้ช่วยให้ผู้เล่นเป็นส่วนหนึ่งของเกมที่เกมเมอร์เปรียบเสมือนเป็นผู้กำกับหนังอีกด้วย (หากอ้างอิงจากบทรีวิวของ Sega Force)
เกิดประเด็นถกเถียงขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากตัวเกมวางจำหน่ายผ่านไปเกือบหนึ่งปี Night Trap ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จาก Joe Lieberman สมาชิกวุฒิสภา กล่าวหาว่าเป็นเกมที่สนับสนุนความรุนแรงต่อเพศหญิง (ทั้งที่ Lieberman ยอมรับว่าไม่เคยเล่นเกมดังกล่าว) ทำให้เกม Night Life ถูกต่อต้านจากผู้ปกครองอย่างหนัก และถูกเสนอเป็นตัวอย่างเกมที่สมควรให้มีการจัดเรตวิดีโอเกมอย่างเป็นทางการ
แม้ประเด็นถกเถียงของเกม ทำให้ Night Trap มียอดขายพุ่งสูงขึ้นถึง 50,000 ชุดภายในหนึ่งสัปดาห์ แต่ด้วยกระแสต่อต้านที่ถูกกดดันอย่างหนัก ทีมงาน Sega จึงตัดสินใจยกเลิกการวางจำหน่ายเกมชั่วคราว พร้อมวางขายเกมล็อตใหม่เป็นเวอร์ชันเซนเซอร์ และเปลี่ยนหน้าปกเกมเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด
Night Trap กลายหนึ่งในเกมคลาสสิกตลอดกาล
ถึงแม้ Night Trap มีกระแสตอบรับรีวิว มีทั้งคนชอบและไม่ชอบในด้านเกมเพลย์ไม่ค่อยน่าดึงดูด (เพราะตัวเกมเน้นการเล่าเรื่องซะมากกว่า) รวมถึงเกมถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจนกลายเป็นเรื่องราวดราม่าระดับโลก แต่ด้วยประสบการณ์เล่นเกมแบบใหม่ กับใช้เทคโลโนยีนำเสนอ Full Motion Video ที่ล้ำหน้าในยุคนั้น ทำให้ Night Trap ประสบความสำเร็จทางด้านยอดขาย, ก่อให้เกิดกระแสเกมแนว Movie Interactive ในปีต่อมา รวมถึงขึ้นแท่นเป็นเกมคลาสสิกที่เปลี่ยนวงการเกมไปตลอดกาล
Night Trap กลับมาวางจำหน่ายใหม่อีกครั้งในเวอร์ชัน 25th Anniversary Edition ที่มาพร้อมกับการ Remaster กราฟิก, สารคดีการถ่ายทำ และฉากโดนลบ ถ้าหากเกมเมอร์สนใจ ก็สามารถสอดส่องรายละเอียดได้ ที่นี่