ทุกคนเคยได้ยินคำว่า Office Syndrome กันมั้ยครับ ปกติแล้วถ้าดูจากชื่อก็น่าจะเกี่ยวเนื่องโรคของการนั่งทำงานเป็นเวลานานซึ่งหลายคนคงเคยได้ยินหรือเคยอ่านผ่านตามาบ้าง แต่จริงๆแล้ว Office Syndrome เกี่ยวข้องกับเกมเมอร์ที่นั่งหน้าจอตีมอนสเตอร์เป็นเวลานานติดๆกัน เพราะมีความเสี่ยงที่จะเป็น Office Syndrome ได้หากนั่งไม่ถูกวิธี และอาจจะเป็นสาเหตุของอาการต่างๆที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่ก็เป็นได้ วันนี้เราจะมาดูกันว่า Office Syndrome คืออะไร แล้วทำยังไงให้ลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้ ไปดูกันเลย
Office Syndrome คืออะไร?
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่าจริงๆแล้ว Office Syndrome คืออะไร Office Syndrome เกิดจากการประกอบของคำ 2 คำ นั่นคือ Office และ Syndrome ซึ่ง Office ในที่นี้หมายถึงการนั่งทำงานแบบคนที่ทำงานในออฟฟิศ ส่วนคำว่า Syndrome แปลว่ากลุ่มอาการที่เกิดขึ้น เมื่อนำมารวมกันแล้วจะได้ความหมายว่าเป็นกลุ่มอาการต่างๆ ที่มักจะเกิดขึ้นกับคนทำงานออฟฟิศนั่นเอง
อาการของ Office Syndrome จะเป็นการปวดกล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำๆ เป็นระยะเวลานานซึ่งเกิดจากการนั่งเล่นเกมบนคอมพิวเตอร์หรือมือถือเป็นเวลานาน อาการที่เราจะเห็นได้ชัดและถือว่าเสี่ยงต่อการเป็น Office Syndrome เช่น ปวดคอ , บ่า , สะบัก , วูบบ่อย , เหงื่อออกผิดปกติ , ตาพร่า , มึนงง , หูอื้อ , มือชา และนิ้วล็อก
Office Syndrome กับการเล่นเกม
ในการเล่นเกมบนคอมพิวเตอร์ เราก็จะต้องนั่งเล่นในท่าทางที่มือซ้ายอยู่บนแป้นพิมพ์ มือขวาอยู่บนเมาส์เพื่อเล่นเกมในแต่ละครั้ง แต่ถ้าใครที่เล่นเกมเป็นเวลานานๆ เช่น นั่งลงแรงก์ข้ามคืนหรือตี Dota 2 หลายแมตช์ติดๆกัน ก็อาจจะมีความเสียงที่จะเป็นโรค Office Syndrome ได้เช่นกัน ก่อนอื่นเรามาดูกันว่าตัวเราเองมีความเสี่ยงที่จะเป็น Office Syndrome ได้มากน้อยแค่ไหน
- คุณนั่งเล่นเกมเป็นเวลาติดต่อกันอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
- ระหว่างเล่นเกมคุณมักจะปวดเมื่อยบริเวณต้นคอ , ไหล่ , หลังหรือเอวอยู่เสมอ
- บางครั้งอาการปวดเมื่อยที่เกิดขึ้น มีมากจนต้องกินยาแก้ปวดหรือนวดเพื่อให้หาย
- คุณรู้สึกตาพร่ามัว , อ่านหน้าจอไม่ชัดในระหว่างเล่นเกมในบางครั้ง
ใน 4 ข้อนี้เป็นเพียงแค่การเช็กความเสี่ยงเบื้องต้นเท่านั้น แต่ถ้าใครที่ตอบกับตัวเองว่า “ใช่” ใน 4 ข้อข้างบนก็มีความเสี่ยงที่จะเป็น Office Syndrome ได้
ปรับพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงในการเป็น Office Syndrome
เนื่องจาก Office Syndrome เป็นอาการที่เกิดจากการนั่งและท่าทางการจับเมาส์หรือคีย์บอร์ดที่ผิด ฉะนั้นเราจะต้องปรับพฤติกรรมต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็น Office Syndrome ด้วย ดังนี้
- ขยับหรือยืดหยุ่นร่างกายเป็นพักๆ : เราควรเปลี่ยนอิริยาบถบ้างเมื่อรู้ตัวว่านั่งเล่นเกมหรือทำงานเป็นเวลานานๆ เช่น การยืดกล้ามเนื้อหรือลุกเดินเล่น เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อมัดนั้นๆ ทุกๆ 1-2 ชั่วโมง
- ปรับการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ : เราจะต้องปรับอุปกรณ์ให้พอดีกับพฤติกรรมของเรา เช่น ปรับเก้าอี้ให้ไม่สูงหรือต่ำเกินไป , ปรับองศาให้พอดีกับโต๊ะที่นั่งโดยไม่รู้สึกว่าต้องยกตัวหรือโน้มตัวจนเกินไป , เท้าต้องถึงพื้นพอดีและการนั่งที่ไม่ยวบหรือแอ่นเกินไป หรือการปรับตรงคอมพิวเตอร์ที่ระยะของเมาส์และคีย์บอร์ดจะต้องพอดีและหน้าจอต้องไม่ใกล้หน้าเราเกินไป
- ออกกำลังกายบ้าง ถ้ามีโอกาส : การออกกำลังกายจะช่วยยืดหยุ่นและเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ เพราะบางครั้งบางคนอาจจะนั่งเก้าอี้แป๊บเดียวก็เมื่อหลังเมื่อยคอ แต่กับอีกคนที่นั่งเก้าอี้ตัวเดียวกัน ระยะเวลาเท่ากัน แต่กลับไม่มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเลย
- ลดน้ำหนัก : น้ำหนักตัวมีส่วนเกี่ยวข้องต่ออาการปวดเข่าและหลัง ยิ่งน้ำหนักตัวมากหรือเกินมาตรฐานก็จะยิ่งส่งผลกับอาการปวดเข่าและหลังที่มากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นถ้ามีโอกาสในการลดน้ำหนักก็ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
และนี่ก็คือข้อมูลของ Office Syndrome ที่เกมเมอร์ควรทำความเข้าใจ พร้อมทั้งปรับตัวเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเป็น Office Syndrome เพราะถ้าวันหนึ่งที่เราเกิดอาการปวดนั่นปวดนี่ขึ้นมา อาจจะทำให้การเล่นเกมของเราไม่สนุกเหมือนวันก่อนก็ได้
