สำหรับแฟนเกมภาษาหรือแนว RPG ยุคก่อน เกมที่หลายคนยกให้เป็นหนึ่งในดวงใจก็คงหนีไม่พ้น Final Fantasy, Dragon Quest, Chrono Trigger และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าค่ายที่รังสรรค์ผลงานเหล่านี้ก็คงหนีไม่พ้น Square Soft หรือ Enix ที่เป็นผู้นำแห่งยุคนั้น และในวันนี้ GamingDose จะขอพาทุกคนกลับไปในยุครุ่งเรืองของ Square Soft และ PlayStation กับเกมที่มีชื่อว่า Parasite Eve ครับ
อย่างที่หลายคนทราบกันดี ช่วงปี 1998 ถือเป็นปีอันรุ่งโรจน์ของวงการเกมไม่ว่าจะระบบไหน และเป็นยุครุ่งเรืองที่สุดของ Square Soft ที่สะสมมาจากซีรีส์ Final Fantasy และเกมอื่น ๆ มาอย่างยาวนานเช่นกัน ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่แฟรนไชส์เกมเพียงแค่สองสามเกม ยังขยันสร้างซีรีส์ใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ และ Parasite Eve ก็คือหนึ่งในเกมเหล่านั้นเช่นกัน
Parasite Eve มีต้นกำเนิดมาจากนิยายแนววิทยาศาสตร์สยองขวัญระดับ Best Seller ของญี่ปุ่น เขียนโดย Hideaki Sena โดยเป็นเรื่องราวของสิ่งที่เรียกว่า Mitochondria ที่เปรียบเสมือนอวัยวะของเซลล์ในร่างกายมนุษย์ที่เกิดการวิวัฒนาการขึ้น จนสามารถใช้พลังบางอย่างที่มนุษย์ปกติไม่สามารถทำได้ ด้วยความลึกลับและสนุกในสไตล์นิยายวิทยาศาสตร์ ทำให้ทาง Square Soft คิดนำเอาพลอตของนิยายเรื่องนี้มาสร้างเป็นเกม เปลี่ยนสถานที่และตัวละครต่าง ๆ ที่เป็นชาวญี่ปุ่นให้เป็นชาวตะวันตกเพื่อความเป็นสากลและเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น
ส่วนเรื่องราวในเวอร์ชั่นเกม(แบบโคตรย่อ)นั้น เราจะได้รับบทเป็น Aya Brea ตำรวจสาวมือใหม่ประจำสถานีตำรวจ NYPD ของนิวยอร์ก มีนัดบอดกับชายหนุ่มคนหนึ่งให้มาชมการแสดงโอเปร่าในวันคริสต์มาส ทุกอย่างดูเหมือนปกติดี แต่หลังจากนักแสดงนำหญิงขึ้นเวทีและเริ่มร้องเพลง จู่ ๆ ทุกคนในที่แห่งนั้นก็ลุกเป็นไฟยกเว้น Aya คนเดียว ด้วยสัญชาตญาณความเป็นตำรวจของ Aya ทำให้เธอรุดหน้าเข้าไปจัดกุมนักแสดงหญิงบนเวที และพลังจาก Mitochondria ของเธอก็ตื่นขึ้นด้วยเช่นกัน เรื่องราวการต่อสู้และปริศนาของพลังจาก Mitochondria ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
จุดเด่นที่เราเห็นได้ชัดเจนในเกมนี้ก็คือการผนวกเอาระบบการเล่นแบบ RPG สไตล์ Turn Base มารวมกับระบบ Real Time เข้าด้วยกัน ผู้เล่นจะต้องเคลื่อนที่เพื่อหลบการโจมตีของศัตรูจนกว่าหลอด AP จะขึ้นมาจนเต็ม และจะโจมตีได้เฉพาะในรัศมีที่เป็นโดมขึ้นมาเท่านั้น และนอกจากการยิงโจมตีแบบปกติแล้ว Aya ยังสามารถใช้พลัง Mitochondria ในการโจมตีศัตรูได้ เหมือนกับการใช้เวทย์มนต์ในเกม RPG อื่น ๆ อย่างเช่นเวทย์รักษา หรือโจมตีด้วยการใช้กระสุนไฟเป็นต้น ซึ่งถือเป็นการเพิ่มความแหวกแนวให้กับเกม JRPG ที่ก่อนหน้านี้จะเป็นสไตล์ Turn Base เพียว ๆ เท่านั้น
และอีกอย่างที่หลายคนน่าจะชอบกันมากก็คือระบบอาวุธและชุดเกราะที่ถึงจะใช้การอิงสถิติแบบเดียวกับเกม JRPG อื่น ๆ แต่ก็อ้างอิงมาจากอาวุธที่มีอยู่จริง ๆ เช่นปืน M92F, M1911, M16A1 และยังมีการอัพเกรดปืนด้วยไอเท็มต่าง ๆ ที่เก็บมาจากในฉากหรือศัตรูได้ด้วย
อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องชมอย่างมากคือการออกแบบศัตรูในเกม ไม่ว่าจะเป็นศัตรูระดับธรรมดาที่กลายร่างไปเพราะเซลล์ Mitochondria ไม่ว่าจะเป็นหนูธรรมดาหรือสัตว์อื่น ๆ ล้วนได้รับการออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยมและน่ากลัว และร่างแปลงของ EVE ศัตรูหลักของเกมก็ทั้งสวยงามและน่ากลัวในเวลาเดียวกันด้วย แถมหลาย ๆ ตัวยังมีฉากคัตซีนปรากฎตัวที่น่าสนใจและน่ากลัวมากเท่าที่เทคโนโลยีสมัยนั้นจะสามารถไปถึงได้อักด้วย
และถึงแม้เนื้อเรื่องจะมีความแตกต่างจากฉบับนิยาย แต่การตีความใหม่ของทีมงาน Square Soft ในยุคนั้นก็ถือว่าน่าติดตามไม่แพ้กัน ซึ่งในฉบับนิยายนั้นจะค่อย ๆ เพิ่มความน่ากลัวและความระทึกของเนื้อเรื่องมากขึ้นเรื่อย ๆ ในสไตล์ที่ลึกลับซับซ้อน ส่วนในฉบับเกมนั้นจะดูเข้าใจได้ง่ายกว่า แต่ก็นำรายละเอียดบางอย่างจากในนิยายมาปรับเปลี่ยนได้ลงตัวสมกับเป็นฉบับเกม นอกจากนั้นเมื่อเล่นจนจบเกมแล้ว ตัวเกมยังมีโหมดพิเศษลุยตึก Chrysler Building 100 ชั้นที่มีไอเท็มพิเศษและบอสระดับสูงให้ท้าทายฝีมือกันอย่างเต็มที่อีกด้วย
Parasite Eve จัดว่าเป็นเกม RPG สยองขวัญที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถขายได้สูงเกิน 1 ล้านชุดทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และรับคำวิจารณ์ในแง่บวกจากสื่อต่าง ๆ มากมาย แม้อาจจะเทียบกับยอดเกมในยุคนั้นอย่าง Final Fantasy หรือ Dragon Quest ที่กลายเป็นตำนานไปแล้วไม่ได้ก็ตาม แต่ก็ทำให้ทาง Square พิจารณาการสร้างภาคต่อของเกมออกมาในภายหลัง
แต่ในภาคสองนั้นค่อนข้างน่าผิดหวังและทำยอดขายไปได้ไม่ดีนัก โดยขายไปได้เพียง 220,000 ชุดเท่านั้นในญี่ปุ่น ก่อนที่จะผ่านหลักหนึ่งล้านชุดไปได้ในอีกห้าปีต่อมา แต่แม้จะขายได้น้อยกว่าเดิม แต่เกมภาคต่อก็กลายเป็นที่จดจำจากฉากอาบน้ำของ Aya ที่ติดตาและเซ็กซี่เหลือเกินแบบไม่ได้ตั้งใจ ส่วนภาคถัดมาอย่าง 3rd Birthday ก็ลงให้เฉพาะกับเครื่อง PSP และทำยอดขายไปได้ไม่ถึงเป้าอีกเช่นกัน
ส่วนปัจจุบันนี้เราก็ยังไม่เห็นข่าวคราวใหม่ ๆ ของเกมซีรีส์นี้ออกมา นอกจากการเข้าจดทะเบียนชื่อในฝั่งยุโรปเท่านั้น และไม่มีรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับเกมออกมาอีกเลย แต่ Parasite Eve ก็ถือเป็นหนึ่งในเกมที่แฟนรุ่นเก่าหลายคนอยากให้นำกลับมาทำใหม่มากที่สุดซีรีส์หนึ่ง ก็ต้องมาดูกันว่าในอนาคตนั้นซีรีส์นี้จะกลับมาผงาดได้อีกครั้งหรือไม่ในอนาคตครับ
