หากพูดถึงวิดีโอเกมที่เป็นแนวการก่ออาชญากรรม แน่นอนว่าเรามีเกมแบบนี้อยู่ไม่น้อย แต่เกมที่โด่งดังมากที่สุดเกมหนึ่ง ในแง่ของการเป็นเกม Co-op ที่แฟนเกมหลายคน หันมาสนใจเกม Co-op กันเยอะมากขึ้นไม่แพ้สมัย Left 4 Dead ก็น่าจะเป็นเกมที่เราจะได้รับบทเป็นสุดยอดทีมปล้นสะท้านโลกที่คนเล่นทุกวันนี้ก็ยังไม่แผ่วลงไปมากนัก เรากำลังพูดถึง PAYDAY 2 อีกหนึ่งเกมแนว Co-op แนวโจรกรรมอาชญากรรมที่มีอายุมานานถึง 8 ปี แต่คนเล่นยังคงเหนียวแน่น และตั้งหน้าตั้งรอคอยการมาของภาค 3 วันนี้เราตะพาทุกย้อนไปดูความสำเร็จและที่มาที่ไปของ PAYDAY 2 กัน ว่ามันยอดเยี่ยมแค่ไหน
สานต่อการปล้นให้ยอดเยี่ยมกว่าภาคแรก
แค่เห็นชื่อมีตัวเลข 2 หลายคนก็น่าจะทราบกันดีแล้วว่ามันไม่ใช่ภาคแรก PAYDAY 2 คือต่อของเกม PAYDAY: The Heist โดยภาคนี้ยกระดับขึ้นทั้งการทำงานของตัวเกม การอัปเดตอย่างเป็นประจำ รวมไปถึงภาพรวมของเกมที่ดูดีขึ้นอย่างมาก เพราะทาง Overkill ได้ขยายสตูดิโอ ทำให้มีพนักงานมาร่วมงานมากขึ้น และได้งบประมาณในการพัฒนาเกมที่เยอะขึ้นด้วย แน่นอนว่าคอนเทนต์อัปเดตทั้งแบบฟรีและเสียเงิน (DLC) ก็มีเยอะกว่าภาคแรกแบบสุด ๆ
ตัวเกมนั้นได้ 505 Games มาเป็นผู้จัดจำหน่ายในช่วงแรก และเคยได้ Valve เข้ามาช่วยอีกแรงด้วย ตัวเกมเปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 13 สิงหาคม 2013 บนเครื่อง PC, PlayStation 3 และ XBOX 360 แต่ด้วยความมาแรงและประสบความสำเร็จเกินคาดของมัน เกมนี้จึงทยอยเปิดตัวบนแพลตฟอร์มอื่นตามมาอีกหลายทาง เช่น Crimewave Edition ที่เป็นการเปิดตัวบน XBOX One และ PlayStation 4 ที่เปิดตัวในปี 2015 มีเวอร์ชั่นบน SteamOS และ Linux ตามมาในปี 2016 ต่อด้วยเวอร์ชั่น Nintendo Switch ในปี 2018 แต่เวอร์ชั่นที่ไปไม่รอดจริง ๆ คือ Nintendo Switch เพราะปัญหาด้านประสิทธิภาพของตัวเกม และตัวเครื่อง (ในตอนนั้น) ทำให้เกมมีปัญหา และส่งมอบคอนเทนต์ไม่ได้ตามเป้าที่กำหนดไว้
แต่จากการพอร์ทลงหลายเครื่องขนาดนี้ เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า PAYDAY 2 นั้น ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล ที่ถึงแม้ว่าทางบริษัทผู้พัฒนาจะเจอวิบากกรรมของตัวเองอยู่บ้าง แต่ค่ายเกมนี้ก็ไม่เคยปล่อยให้ตัวเกมจางหายไปตามกาลเวลา และยังคอยดูแลอยู่เสมอ
รูปแบบเกมเพลย์ที่จุดกระแสให้เกม Co-op เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น
ยุคก่อนหน้าของ PAYDAY 2 นั้น Left 4 Dead ทั้งสองภาคได้สร้างชื่อและสร้างมาตรฐานใหม่ของการเป็นเกมแนว Co-op แต่ศัตรูของผู้เล่นในตอนนั้นคือเหล่าซอมบี้ ซึ่งต่างจาก PAYDAY 2 ที่เกมการเล่น จะเป็นการโจรกรรมและการปล้นอย่างเต็มรูปแบบ ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะออกปล้นร่วมกันกับ A.I. หรือกับเพื่อนที่เป็นคนเล่นด้วยกันจริง ๆ โดยภารกิจในเกมนั้น จะเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการทำผิดกฎหมายทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการปล้นธนาคาร ร้านเพชร การขนส่งหรือค้ายาเสพติด หรือแม้แต่การขโมยหัวรบนิวเคลียร์
สิ่งที่ทำให้หลายคนจดจำเกมนี้ได้ คือรูปแบบการเล่นแบบลอบเร้นได้บรรยากาศควา่มลุ้นระทึกราวกับเราเป็นโจรจริง ๆ ซึ่งเกมการเล่นบางภารกิจนั้นจะให้ความสำคัญกับการลอบเร้นเป็นอย่างมาก ชนิดที่ว่า ถ้าไม่ลอบเร้นก็จะเล่นยากขึ้นอย่างมาก โดยมีรางวัลเป็นค่าประสบการณ์และเงินที่สูงมากเมื่อลอบเร้นสำเร็จ
ในการเริ่มต้นแต่ละภารกิจ เราจะต้องจ่ายเงินซื้อภารกิจ หรือทำสัญญา (Contract) ก่อน หรือไปเข้าร่วมกับสัญญาอื่น (ห้องผู้เล่นคนอื่น) โลกภายในเกมนี้จะเป็นเมืองวอชิงตัน ดี.ซี. โดยเกมจะมาพร้อมความยาก 7 ขั้นคือ Normal, Hard, Very Hard, Overkill, Mayhem, Death Wish และ Death Sentence ที่มีชื่อเดิมว่าโหมด One Down โดยยิ่งความยากสูง ค่าประสบการณ์และเงินรางวัลตอบแทนก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย และนำฟังก์ชั่น One Down ไปเป็นตัวเลือกเปิด-ปิด การใช้งานแทน ซึ่ง One Down นี้ หมายถึง หากผู้เล่นพลลาดท่าโดนยิงจนล้มลงก็จะถูกจับกุมตัวทันที และใครที่ปล้นจนโคตรเซียนแล้ว ยังมีอีกสเกลความยากนั่นคือ Pro Job ที่ให้ผลตอบแทนสูงมาก แต่เงื่อนไขคือ ห้ามพลาด เพราะจะไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกเลย
เมื่อหัวใจสำคัญของเกมบางภารกิจคือการเล่นแบบลอบเร้น สิ่งที่ต้องระวังคืออุปกรณ์ตรวจจับต่าง ๆ เช่นกล้องวงจรปิด การโดนพบเจอโดยยามรักษาความปลอดภัย หรือการฆ่ายามที่มีวิทยุสื่อสารเกิน 4 คนก็เสี่ยงที่จะทำให้ยามโทรหากองกำลังตำรวจ หรือภาษาเกมก็คือ Stealth แตก และต้องรับมือกับกองกำลังตำรวจที่จะบุกมาจู่โจมอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากกองตำรวจเล็ก ๆ ไปจนถึงหน่วย SWAT และ FBI เรียกได้ว่ากลายเป็นเกมยากขนานแท้ เพราะหลัง ๆ มาตำรวจจะขนกองกำลังมาแบบจัดเต็ม ทั้งชุดป้องกันระเบิด ป้องกันกระสุน พลซุ่มยิง และอื่น ๆ อีกมาก
อย่างไรก็ตามความสามารถของผู้เล่นจะปลดล็อคได้ หลังจากการปล้นสำเร็จและได้เงินรางวัล เพื่อนำมาปลดล็อคการ์ดโบนัสต่าง ๆ หน้ากากปล้น สกินอาวุธ โดยหน้ากากจะเป็นของตกแต่งเท่านั้น ไม่มีผลกับการเล่นเกม ซึ่งการปรับแต่ง Perk ก็จะมีหลากหลายแบบ แล้วแต่ผู้เล่นแต่ละคนด้วย ทำให้การเล่นแต่ละรอบ แต่ละความยากมีความหลากหลายด้วย หรือบางภารกิจก็ปรับเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นการเดินหน้ายิง บู๊แหลกแจกกระสุนเต็มรูปแบบเลยก็มีเช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่รวมส่วนของเนื้อเรื่องในเกม ที่เรียกได้ว่าเข้มข้นทุกอณู ตั้งแต่ต้นยันจบ ระหว่างเนื้อเรื่องก็ยังได้ดาราชื่อดังมามีบทบาทในเกมมากมาย ทั้ง Giancarlo Espocito ที่เราเพิ่งจะได้เห็นหน้ากันไปใน Far Cry 6 หรือแม้แต่ Ron Perlman เองก็เคยมีบทบาทในเกมนี้มาแล้ว
วิบากกรรมของ Overkill และ Starbreeze ที่เกือบจะทำให้บริษัทล้มละลาย
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เมื่อคนเราจะไม่ยอมหยุดอยู่ที่การประสบความสำเร็จแล้วอยู่เฉย ๆ เพื่อหากินกับความสำเร็จที่ตัวเองสร้างขึ้น ในช่วงปี 2017 ทาง Overkill ได้พยายามสร้างผลงานใหม่ขึ้นมา โดยได้ลิขสิทธิ์การสร้างเกมจากซีรีส์ซอมบี้ชื่อดังอย่าง The Walking Dead มาทำเป็นเกมแนว Co-op เหมือนเดิม และมอบหมายให้ทาง Starbreeze Studios สตูดิเกมคู่บุญรับหน้าที่ในการพัฒนา ตามปกติแล้ว Starbreeze นั้นทำหน้าที่จัดจำหน่ายและพัฒนาคอนเทนต์เสริม หรือ DLC ให้กับ PAYDAY 2 อยู่แล้ว หลายคนคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา แต่ความหายนะได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเกมวางจำหน่าย
ทั้งคอนเทนต์เกมอันน้อยนิด และปัญหาต่าง ๆ นา ๆ ที่เกิดขึ้น มันหนักถึงขั้นที่ว่ามันกลายเป็นหนึ่งในเกมที่ล้มเหลวที่สุดประจำปี 2018 พร้อมกันนั้นยังมีข่าวว่า ทางทีมผู้พัฒนาเกมนี้ก็รู้อยู่แก่ใจแล้วว่าเกมมันห่วย เพราะตัวสตูดิโอ Starbreeze นั้น มีปัญหาหนักมากทั้งมีผู้ร้ายหลงมาทำงานในบริษัท และปัญหาจาก CEO คนเก่าที่เรียกได้ว่า โยนขี้และความผิดบาปให้พนักงานทั้งหมด จนกลายเป็นดราม่าใหญ่โตอยู่ครั้งหนึ่งในช่วงปี 2018 แถมทาง Skybound ผู้จัดจำหน่ายเกมยังออกมาสะบั้นสัมพันธ์กับทางสตูดิโอในที่สุด
และเพราะความล้มเหลวนี้ ทำให้ทาง Starbreeze เป็นหนี้ก้อนโต จนทาง CEO คนใหม่ต้องจัดการยื่นขอปรับโครงสร้างทางการเงิน เพื่อชำระหนี้สินทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากความล้มเหลวในเกมนี้ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงแต่อย่างใด เพราะทาง Overkill และ Starbreeze ได้ร่วมฟันฝ่าวิบากกรรมนี้มาได้แล้ว เพราะพวกเขาชดใช้หนี้ได้เกือบทั้งหมด และเหลือเชื่อมาก ที่รายได้ที่นำไปชดใช้หนี้นั้น PAYDAY 2 นี่แหละ ที่เป็นผู้ช่วยให้รอดตัวจริง และทำให้สตูดิโอกลับมาตั้งหลักใหม่ได้อีกครั้ง และเตรียมเข็นภาค 3 ตามออกมา
แก๊งปล้นเตรียมกลับมาแบบยิ่งใหญ่ในปี 2023
รุ่งโรจน์ถึงขีดสุดในช่วง PAYDAY 2 ตกต่ำถึงลึกสุดใน Overkill’s The Walking Dead และตอนนี้พวกเขากำลังจะกลับมาอีกครั้งกับ PAYDAY 3 ซึ่งประกาศสร้างออกมาได้หลายปีแล้ว และยังอยู่ในช่วงพัฒนากันอย่างหนัก โดยในภาค 3 นี้ ตัวเกมเผยว่ามีฉากหลังอยู่ในนิวยอร์ก และจะมีอุปกรณ์ Gadget รุ่นใหม่ สมัยใหม่มาให้เลือกใช้มากมาย และตัวละครแก๊งเดิมจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง โดยตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอะไรมากไปกว่านี้
แต่ทั้งหมดนี้เผยให้เห็นได้ว่า Overkill และ Starbreeze นั้น เป็นอีกสุดยอดค่ายเกมที่ฝ่าลมฝนและมรสุมต่าง ๆ มาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เพราะในตอนที่ล้มเหลวจนเป็นหนี้มหาศาล ไม่มีใครคาดคิดว่า PAYDAY 2 จะกอบกู้วิกฤตนี้จนรอดพ้น และในตัวเกมภาค 3 นี้ พวกเขาได้ Publisher รายใหม่อย่าง Koch Media และจำนวนเงินลงทุนกว่า 50 ล้านยูโร รวมไปถึงคอนเทนต์อัปเดตหลังเกมวางจำหน่ายอีก 1 ปีครึ่ง เรียกได้ว่า หากทุกอย่างออกมาตามที่คาดคิด ตำนานแก๊งโจรในดลกวิดีโอเกมในภาค 3 นี้จะยิ่งใหญ่สมการรอคอย และอาจทำให้ Overkill และ Starbreeze กลับมาเฉิดฉายอย่างยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง