BY Nuttawut Apiratwarakul
21 Nov 18 6:44 pm

Performance : Fallout 76

60 Views

เป็นอีกเกมที่เรียกได้ว่าไม่ต้องมีเครื่องแรงก็เล่นได้สำหรับ Fallout 76 ภาคใหม่ล่าสุดของซีรีส์ Fallout ที่งวดนี้เปลี่ยนแนวมาเป็นเกม Online Multiplayer ลองไปดูกันว่าศักยภาพของตัวเกมภาคนี้จะเป็นยังไงกันบ้าง

Fallout 76 เป็นเกมที่ใช้เอนจิ้นที่ค่อนข้างจะมีอายุ โดยตัวเกมใช้เอนจิ้น Creation Engine ตัวปรับปรุงเพิ่มจากที่ทีมงาน Bethesda เคยใช้ในเกม Fallout 4 ผลที่ตามมาก็คือตัวเกมกินสเปกค่อนข้างน้อยต่อให้คุณมีคอมเก่าอายุอยู่ในช่วง 5 ปีนี้คุณก็สามารถเล่นเกมนี้ได้โดยไม่มีปัญหา แต่ข้อเสียที่ตามมาก็คือตัว Option ในเกมมีให้เลือกปรับแต่งได้น้อยมาก

โดยรวมแล้วหากเครื่องของคุณสามารถเล่นเกม Fallout 4 ได้ ตัวเกม Fallout 76 คุณก็จะสามารถเล่นได้เหมือนเดิมไม่มีปัญหาอะไร เราลองไปดูกันก่อนว่า Option ของเกมมีอะไรให้ปรับและ PC ทั้ง 3 เครื่องใน Office เราปรับแต่งตัวเกมกันได้ถึงระดับไหน

ตัวเลือกด้านกราฟฟิกของเกม

Preset: ตัวเลือกกราฟฟิกหลัก มีให้ปรับกันในระดับ Low / Medium / High และ Ultra ช่วงความต่างของกราฟฟิกที่ชัดเจนที่สุดคือการปรับจาก Medium ไป High ซึ่งเห็นผลของภาพแบบชัดเจน ส่วนการปรับภาพจาก High ไประดับ Ultra นั้นกินเครื่องมากขึ้นมาเพียงแค่ราว ๆ 5%

Resolution: ความละเอียดหลักของภาพ

Texture quality: คุณภาพพื้นผิว จากการทดสอบในการ์ดจอระดับ 1050 Ti ขึ้นไปการปรับแต่งส่วนนี้แทบไม่ส่งผลกระทบต่อ FPS

Water quality: ความสวยงามของน้ำ เป็นอีกจุดที่เราไม่เห็นผลกระทบต่อการใช้งานเครื่องแม้จะปรับเป็น Low หรือ High

Lighting quality: คุณภาพแสง เป็นตัวเลือกสำคัญที่ส่งผลต่อ FPS แบบชัดเจน การตั้งค่าที่ Low ช่วยเพิ่ม FPS ขึ้นมาอีกราว 10% หากเครื่องของคุณเล่นตัวเกมไม่ได้ลื่นไหลนี่เป็นอีกหนึ่ง Option ที่เราแนะนำให้คุณปรับลด

Shadow quality: คุณภาพเงา ในเกมอื่น Option นี้อาจส่งผลต่อ FPS แต่ใน Fallout 76 การลดคุณภาพเงาดูจะไม่ค่อยช่วยเพิ่มความลื่นได้มากสักเท่าไหร่ จากการทดสอบลองปรับจาก Ultra ลงมายัง Low เราได้ FPS เพิ่มมาแค่ 5% เท่านั้น

Shadow distance: ระยะแสดงผลของเงา เป็นตัวเลือกที่กินเครื่องอย่างชัดเจนถัดลงมาจากตัว Lighting Quality ลองลดค่าตัวเลือกนี้หากคุณต้องการ FPS เพิ่มขึ้น

Actor Fade, Item Fade, Object Fade, Grass Fade: มีให้ปรับตั้งแต่ 0 ถึง 100 ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือกไหนก็ดูจะไม่ส่งผลต่อ FPS ในเครื่องที่เราทดสอบ หาก CPU เครื่องที่คุณใช้เล่นเป็นรุ่นเก่าตัวเลือกนี้ก็อาจเห็นผลลองปรับลดลงมาครับ

อธิบายกันก่อนว่าตัวเกม Fallout 76 ทำการล็อค Frame Rate ไว้ที่ 60 เฟรมเพราะเอนจิ้น Creation ดันผูกการเคลื่อนไหวของตัวละครและระบบฟิสิกส์ของตัวเกมไว้กับค่า FPS และก็เป็นเหมือนเดิมครับเราตั้งเป้าหมายของตัวเกมไว้ที่ 60 FPS ในเครื่อง 3 ระดับ

** Update ล่าสุดวันที่ 21 พฤศจิกายน Patch 1.14  ทาง Bethesda ได้ทำการอัพเดทตัวเกมใหม่ให้รองรับ FPS ที่เกิน 60 ไปแล้วเรียบร้อย โดยผู้เล่นต้องเข้าไปแก้ไข Config ในไฟล์ของเกมกันเอง การปลดล็อค FPS ทำได้โดยเข้าไปแก้ไฟล์ชื่อ Fallout76prefs.ini ตรงบรรทัด PresentInterval=0 **

Low Setting 60 FPS

สเปคเครื่องที่ใช้

  • CPU: i5-8400 2.80 GHz
  • Graphic Card: Nvidia GTX 1050 Ti 4GB
  • Memory: 16 GB

Graphic Setting

  • Fullscreen Resolution: 1920 x 1080p
  • Preset: Low

ที่ Preset ระดับ Ultra เครื่องน้องเล็กประจำ Office เราสามารถทำ FPS เฉลี่ยอยู่ที่ช่วง 50 FPS และมีเพิ่มลดแบบระดับ 10 FPS ตลอดทั้งเกม และก็อย่างที่เราบอกไปข้างต้นว่าการปรับลดระดับ Preset ลงมาเป็น High ก็ไม่ได้เพิ่มหรือลด FPS แบบชัดเจนมากเท่าไหร่

เมื่อลด Preset ลงมาเป็น Medium เราสามารถทำ FPS ได้อยู่ที่ช่วง 60 แต่ก็มีหลายจังหวะที่ FPS ของเกมลดลงแบบเห็นได้ชัด  และแม้เราจะลดตัว Preset ลงไปถึงขั้น Low แต่รวม ๆ แล้วตัวเกมก็ยังไม่สามารถรักษา FPS ไว้ที่ 60 FPS ได้ตลอดเวลา แต่ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหากคุณต้องการเล่น Fallout 76 บนเครื่องระดับนี้และต้องการความลื่นไหลแบบที่สุด

โดยส่วนตัวแล้วผมแนะนำให้เล่นที่ภาพระดับ Ultra และปรับลดในส่วนของ Lighting quality และ Shadow Distance ลงมาแทนเพื่อให้ได้ภาพที่สวยโดยมี FPS ที่เกิน 40 ตลอดทั้งเกมครับ

High Setting 60 FPS

สเปคเครื่องที่ใช้

  • CPU: i5-6600K 3.50 GHz
  • Graphic Card: Nvidia GTX 1060 6GB
  • Memory: 16 GB

Graphic Setting

  • Fullscreen Resolution: 1920 x 1080p
  • Preset: Ultra

ที่ Preset Ultra ในการ์ดจอระดับ GTX 1060 ตัวเกมทำ FPS แตะอยู่ที่ 60 FPS ได้เกือบตลอดทั้งเกม มีบ้างที่ FPS ตกหล่นลงมาในฉากเมืองหรือฉากยิงต่อสู้กับแบบหนักหน่วง ส่วนที่ Preset ระดับ Medium ตัวเกมเรียกได้ว่ารักษา FPS ได้ เกิน 60 ในทุกฉากทุกสถานการณ์

สำหรับใครที่อยากเล่นเกมนี้แบบลื่น ๆ การ์ดจอ GTX 1060 ถือเป็นการ์ดจอตัวคุ้มค่าที่จะสามารถเล่นเกมนี้แบบปรับสุดได้บนภาพความละเอียด Full HD ครับผม

Ultra Setting 60 FPS

สเปคเครื่องที่ใช้

  • CPU: i7-8700 3.20 GHz
  • Graphic Card: Gigabyte RTX 2080
  • Memory: 16 GB

Graphic Setting

  • Fullscreen resolution: 2560 x 1440p
  • Preset: Ultra

ในเครื่องระดับนี้สำหรับเกม Fallout 76 ที่ความละเอียด 4K ตัวเกมทำ FPS โดยรวมอยู่ที่ช่วง 45-50 FPS มีบางจังหวะที่ตัวเกมสามารถขึ้นไปแตะที่ช่วง 60 ถึง 70 FPS  แต่ที่ความละเอียด 2560 x 1440p นี่ถือเป็นความละเอียดที่ตัวเกมสามารถรักษา FPS ได้ถึง 80 และเล่นได้อย่างลื่นไหลตลอดทั้งเกม ส่วนที่ความละเอียดแบบ Full HD 1920 x 1080p ตัวเกมสามารถพุ่งไปถึงระดับ 100 FPS ได้สบา่ย ๆ

จัดได้ว่าเครื่องระดับนี้และการ์ดจอ RTX 2080 ตัวเกมถือว่าไม่สามารถเล่นที่ได้ระดับ 4K ปรับ Ultra และรักษา FPS ได้ที่ 60 แต่ที่ความละเอียดแบบ 2K PC ชุดนี้ของเราก็สามารถเล่น Fallout 76 ที่ระดับ Ultra ได้ลื่น ๆครับ

สรุป

ก็ถือเป็นเกมที่ไม่ได้กินสเปกมากมายอะไรด้วยอายุของ Creation Engine ที่ถูกผลักดันมาแบบยาวนาน เรียกได้ว่าหากคุณมีเครื่อง PC ไม่เก่ามากก็จะสามารถเล่น Fallout 76 ได้อย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นที่ภาพระดับไหนก็ขึ้นอยู่กับการ์ดจอเป็นส่วนสำคัญ

การที่ตัวเกมล็อค FPS เอาไว้ที่ 60 ก็อาจจะขัดใจใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะชาว PC ที่มีเครื่องแรงและสามารถดัน FPS ได้เกิน 60 (ล่าสุดตัวเกมได้รับการแก้ไขให้ปลดล็อค FPS ได้เกิน 60 แล้ว)

ในด้านของตัวเลือก Fallout 76 นั้นเรียกได้ว่ามีตัวเลือกให้ปรับแต่งได้น้อย และตัวเลือกต่าง ๆ ก็ไม่ค่อยส่งผลต่อความลื่นของเกมสักเท่าไหร่ ซึ่งจุดนี้เกมเมอร์บน PC สายปรับแต่งก็คงจะหงุดหงิดใจกันบ้าง แต่ตัวเกมก็รองรับการปรับแต่งเพิ่มเติมโดยการเข้าไปแก้ไขไฟล์ในเครื่องแทนครับ

SHARE

Nuttawut Apiratwarakul

โน้ต - Co-Founder / Editor-in-chief

Back to top