หลังกระแสหนังดังจากจักรวาล Predator เรื่องล่าสุดอย่าง Prey กำลังถูกพูดถึงเต็มไปหมดหลายคนที่ได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้กันไปแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเกิดคำถามกันขึ้นมาว่า มันมีเกม Predator ดี ๆ ให้เราได้เล่นกันรึเปล่า ?
อันที่จริงแล้วถ้านับแต่อดีตจนถึงวันนี้ เราเคยมีเกม Predator หลายเกมถูกพัฒนาออกมาให้เราสัมผัสกันแล้ว ซึ่งที่หลายคนรู้จักกันก็คงจะเป็นตระกูล Alien VS Predator และ Predator: Hunting Grounds อย่างไรก็ตามในเกมเหล่านี้ ระบบการเล่นมักจะไม่ใช่การสวมบทเป็น Predator ออกล่าตามที่เราอย่างให้เป็น
ดังนั้นวันนี้เราจะขอย้อนเวลาพากลับไปดู Predator: Concrete Jungle ผลงานการพัฒนาของทีม Eurocom กับเกม Predator ในรูปแบบ ฉากขนาดใหญ่ดุจดั่ง Open World ที่มาก่อนกาล มาพร้อมกับระบบการเล่นที่หลายคนเฝ้าฝัน แต่ก็อัดแน่นด้วยข้อด้อยส่งให้มันเป็นเพชรในตมที่แฟน Predator ที่ได้เคยสัมผัสล้วนเฝ้าฝันอยากให้มันถูกนำกลับมาพัฒนาใหม่และสานต่อ
Predator: Concrete Jungle เป็นผลงานของทีมงาน Eurocom ทีมพัฒนาเกมจากประเทศอังกฤษที่มีผลงานเกมออกมามากมายในช่วงปี 1990 – 2010 โดยผลงานส่วนใหญ่ของค่ายก็คือการ Port เกมจากเครื่อง Arcade มาลง Console และการพัฒนาเกมที่อิงจากลิขสิทธิภาพยนตร์
ตัวเกม Predator: Concrete Jungle วางจำหน่ายในปี 2005 บนเครื่อง PlayStation 2 และ Xbox และเชื่อว่าเกมเมอร์ชาวไทยหลายคนก็น่าจะเคยสัมผัสเกม ๆ นี้กันมาก่อน
จุดเด่นแรกของเกมก็คือ “เนื้อเรื่อง” เนื้อหาของเกมก็ถือว่ามีความเข้มข้นอย่างมาก เรารับบทเป็น Predator ฉายา “ไอ้หน้าบาก” หรือ Scarface ผู้พลาดท่าถูกมนุษย์โจมตีจนได้รับบาดแผล แถมยังฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ เลยถูกเอาไปปล่อยทิ้งไว้บนดาวมดยักษ์ให้ต่อสู้เอาตัวรอดโดยมีแค่หอกอย่างเดียวอยู่หนึ่งร้อยปี พอรอดมาได้ก็เลยได้โอกาสในการกลับมายังโลกเพื่อล้มล้างความผิดพลาดในอดีต
ฝั่งมนุษย์ก็มีเรื่องราวความแค้นพัวพันกับครอบครัวมาเฟีย Bruno Borgia ที่ถูก Scarface สังหาร และอาศัยเทคโนโลยี Predator ที่ Scarface ทิ้งไว้ ตั้งตัวก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ครอบครองเมือง Neonopolis ในด้านของเนื้อหานั้น Predator: Concrete Jungle ถือว่ามีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ เพียงพอจะเอาไปเป็นแก่นเรื่องของภาพยนตร์ Predator ได้เลยทีเดียว
ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะผู้แต่งเนื้อเรื่องของเกมนี้ก็คือ Grant Morrison นักเขียนการ์ตูน Comics ชื่อดังที่มีผลงานขึ้นหิ้งหลายชิ้นอย่าง Animal Man และ Arkham Asylum: A Serious House on Serious Earth นั่นเอง
ด้านระบบการเล่นนั้น ตัวเกมหลักก็จะเป็นการไล่ล่าของ Scarface ในเมืองมนุษย์บนโลกยุคอนาคต ใช้อาวุธล้ำ ๆ มากมายออกต่อสู้ สังหารเป้าหมาย และก็เป็นที่น่าเสียดายเพราะนอกจากเนื้อเรื่องกับไอเดียหลักแล้วตัวเกมส่วนอื่นก็เต็มไปด้วยข้อเสียมากมาย
ตัวเกมนั้นอัดแน่นด้วยระบบหลายอย่าง ฉาก Action การเล่นแบบ Platform มุมกล้องทั้งแบบบุคคลที่หนึ่งและแบบบุคคลที่สาม ท่าสังหารสุดโหด ระบบลอบเร้น
แต่สุดท้ายแล้วระบบทุกอย่างของเกมนั้นพัฒนาไปไม่ได้จุดที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์และเต็มไปด้วยปัญหาชวนหงุดหงิดทั้งในแง่การบังคับหรือปัญหาในภาคส่วนอื่น และแน่นอนว่าข้อเสียใหญ่สุดของเกมนี้ก็คือเรื่องการบังคับ อนิเมชั่นตัว Predator นั้นไม่ลื่นไหลและควบคุมได้ยาก
อย่างไรก็ตาม การสวมบทเป็น Predator กระโดดไต่ตึก ล่องหน ย่องไปกระชากกระดูกสันหลังจากเหยื่อก็ถือเป็นความสนุกที่หาไม่ได้จากเกม Predator เกมอื่น ยิ่งไปกว่านั้นตัวเกมก็อัดแน่นด้วยอาวุธมากมายให้ผู้เล่นได้เลือกใช้ พร้อมฉากสังหารอันสุดแสนรุนแรงจนต้องโดนใจแฟน Predator
พอมองย้อนกลับไปตอนนี้ Predator: Concrete Jungle ก็เหมือนอาหารที่มีเครื่องปรุงชั้นดี มีสูตรผสมทุกอย่างที่ลงตัวแต่มันขาดเพียงอย่างเดียวก็คือพ่อครัวฝีมือดีพอที่จะปรุงมันออกมาให้เป็นอาหารที่อร่อยถูกใจคนกิน
Predator: Concrete Jungle มีทุกอย่างที่แฟน Predator รักและต้องการ และหากจะมีซีรีส์เกม Predator เกมไหนสักเกมถูกนำมาปัดฝุ่นพัฒนาใหม่ให้ยิ่งใหญ่ Concrete Jungle ก็ถือเป็นตัวเลือกแรกที่สมควรได้รับการพิจารณา
Predator + Open World + Cyberpunk เป็นส่วนผสมที่ไม่ควรถูกทิ้งให้เลือนหายไปตามกาลเวลาเป็นเพชรที่รอคอยให้มีใครสักคนหยิบกลับมาขัดใหม่ให้เงางามสมศักดิ์ศรีนั่นเอง
ต้นฉบับเผยแพร่ครั้งแรกผ่านเพจ Facebook ทางการของ GamingDose : https://www.facebook.com/GamingDose/posts/pfbid0ws43ib2gfyStTVHavKzoRHBfuVeFAdggAsF9Q1Xs5GRXnLUXSjyy5bhtwtNntPRNl
