This War of Mine เกมนอกกระแสขนาดเล็กที่ใครหลายคนยังสงสัยและคาใจว่าเกมเป็นอย่างไร สนุกรึเปล่า ถ้าซื้อมาจะคุ้มมั้ย ถ้าคุณได้อ่านบทความดีแล้วอาจจะทำให้การตัดสินใจต่างๆง่ายมากยิ่งขึ้นครับ
“ในสงคราม ไม่ใช่ทุกคนที่พร้อมจะหลั่งเลือด”
คำกล่าวข้างต้นดัดแปลงมาจากคำโปรยของเกมที่เขียนไว้ว่า “ในสงคราม ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นทหาร” ซึ่งบอกเล่าได้ถึงเนื้อหาภายในเกมได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันเกมเมอร์หลายคนที่ติดตามข่าวต่างประเทศมักจะได้เห็นถึงภาพการต่อสู้ระหว่างประชาชนกับผู้บังคับใช้กฏหมายและกลุ่มกองกำลังต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็น วิกฤตการณ์ไครเมีย , ความขัดแย้งอิสราเอล-กาซาหรือสงครามกลางเมืองที่ซีเรีย ซึ่งภาพที่เราจะได้เห็นกันบ่อยครั้งนั้นมักจะเป็นเรื่องราวของการปะทะ การต่อสู้ การสูญเสียระหว่างกลุ่มกองกำลังติดอาวุธกับเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฏหมาย แต่ทว่าในความเป็นจริงนั้นยังมีอีกแง่มุมหนึ่งของชีวิตที่ติดค้างอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งแต่มิได้ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของความรุนแรงที่เกิดขึ้น
“This War of Mine นำเสนออีกหนึ่งแง่มุมของความขัดแย้ง”
This War of Mine นำเสนออีกหนึ่งแง่มุมของความขัดแย้งที่ไม่เคยมีใครหยิบมานำเสนอในรูปแบบของเกมมาก่อนนั่นคือมุมของประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่ความขัดแย้ง ผู้ซึ่งต้องการอยากจะแค่มีชีวิตรอดเหมือนแบบที่มนุษย์ทุกคนสมควรจะได้รับ พวกเขาแค่อยากกินอิ่มนอนหลับ พวกเขาอยากหัวเราะเริงร่าเหมือนกับเรา พวกเขาไม่อยากทำร้ายใครโดยไม่จำเป็น และพวกเขาไม่มีใครอยากจากโลกนี้ไปก่อนเวลาอันควร
ตัวเกมนำเสนอในรูปแบบของภาพแบบสองมิติเสมือนจริง โดยผู้เล่นจะเข้าทำการควบคุมกลุ่มผู้รอดชีวิตที่รวมกลุ่มกันเพื่อทำทุกสิ่งที่จะทำให้พวกเขาต้องรอดชีวิต โดยผมอยากให้คุณจินตนาการถึงวันที่เมืองไทยเดินหน้าสู่ความขัดแย้งและการปะทะไม่ว่าจะเป็นแยกคอกวัวหรือชุมชนนางเลิ้ง ในช่วงกลางวันที่ความขัดแย้งยังคงดำเนินไปตามวิถีทางของมัน ผู้เล่นจะต้องทำการอาศัยอยู่ในบ้านโดยใช้เวลาทั้งหมดไปกับการต่อเติมที่อยู่อาศัยให้มันเป็นสถานที่ที่น่าอยู่และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น คุณจะทำอย่างไรหากถึงวันที่อากาศหนาวเย็นลงมากจนติดลบ คุณจะติดตามข่าวสารภายนอกอย่างไรในวันที่โทรทัศน์หยุดแพร่ภาพ คุณจะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไรในวันที่ร้านรวงต่างๆปิดตัวลง นั่นคือคำตอบที่คุณจะต้องค้นหาในช่วงกลางวัน ในบางครั้งคุณอาจพบเจอพ่อค้าหน้าเลือดที่พร้อมจะโผล่มาทักทายด้วยการขอเพชรนิลจินดาข้าวของราคาแพงเพื่อหยิบยื่นเนื้อหมูและเศษผักสำหรับประทังชีพให้คุณ หรือแม้กระทั่งผู้คนที่หลงมาขอความช่วยเหลือกับคุณที่ฟังดูแล้วไม่ใช่เรื่องยากเย็นนักแต่ลองคิดดูว่าถ้าสเบียงของคุณหมดลงล่ะจะทำอย่างไร ?
เมื่อถึงช่วงเวลากลางคืนนั่นคือความท้าทายที่ผู้เล่นจะต้องตัดสินใจเลือกหนึ่งในผู้รอดชีวิตที่คุณมีเพื่อออกไปค้นหาสถานที่ต่างๆโดยทิ้งผู้อื่นไว้เฝ้าบ้าน การเลือกตัวแทนกลุ่มเป็นเรื่องสำคัญเพราะนั่นหมายความว่าคุณอาจจะต้องทิ้งคนป่วยทั้งสามไว้เฝ้าบ้านเพื่อปกป้องทรัพย์สินจากอันตรายที่คุณไม่อาจล่วงรู้ คุณอาจต้องทิ้งอาวุธป้องกันตัวไว้ให้พวกเขาโดยที่คุณออกมาด้วยมือเปล่า คุณต้องไปยังสถานที่ที่ไม่รู้ว่าจะคุ้มกับค่ำคืนนั้นมั้ย จะต้องเจออันตรายอะไรบ้างรึเปล่าและในตอนเช้าคุณจะรอดกลับมาหรือไม่
“ความท้าทายของเกมคือการรอดชีวิต”
ความท้าทายของเกมนี้คือการรอดชีวิตครับ ฟังจากเนื้อหาข้างต้นแล้วอาจรู้สึกว่าการรอดชีวิตนั้นไม่ใช่เรื่องยากเย็นเท่าไหร่นัก แต่อย่างที่ได้บอกไปว่านี่คือภาวะสงครามที่คุณจะมีทรัพยากรที่จำกัดและการจัดสรรให้ทุกคนรอดชีวิตได้นั้นคือเรื่องที่ยากมาก ขนาดของกลุ่มผู้รอดชีวิตที่คุณมีอาจไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุดเพราะการที่คุณมีคนเจ็บมากถึง 4 คนอาจเป็นเรื่องที่น่าท้อแท้มากกว่าการมีคนแข็งแรงและทรัพยากรมากเพียง 2 คน ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้เล่นจะสามารถรักษาคุณภาพชีวิตต่างๆไว้ได้
ตัวเกมบีบให้ผู้เล่นต้องเจอกับสภาพความแร้นแค้นในรูปแบบต่างๆเช่น เพื่อนร่วมกลุ่มนอนพะงาบใกล้จะตาย ไม่มีอาหารประทังชีพ ไม่มีอาวุธเพื่อป้องกันตัวและปัญหาอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งเมื่อทรัพยากรในพื้นที่มีอยู่จำกัด ผู้เล่นจะถูกบีบให้เบียดเบียนผู้รอดชีวิตกลุ่มอื่นโดยไม่มีทางเลือก (ในกรณีที่เลือกจะ”อยู่” นะครับ เพราะจริงๆแล้วการ “ตาย” ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเช่นกัน) คุณอาจจะต้องปล้นเสบียงอาหารของสองตายายที่อาศัยอยู่ในโบสถ์ร้าง คุณอาจจะต้องทุบกระโหลกลูกชายที่นอนเฝ้าไข้พ่อที่ลุกไปไหนไม่ได้เพื่อกอบโกยทุกอย่างที่พวกเขามี ซึ่งตัวเกมจะเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกหดหู่ของผู้เล่นและเส้นกั้นทางศีลธรรมที่ให้ผู้เล่นได้ฉุกคิดว่าหากนี่เป็นเรื่องจริงสิ่งที่กำลังทำอยู่คือเรื่องมีเหมาะสมหรือไม่ในสถานการณ์แบบนั้น เพราะตัวละครในเกมจะนำเสนอมุมมองของทั้งสองฝั่งที่ต่างกันสุดขั้วไม่ว่าจะเป็นฝั่งที่มองความเป็นจริงและการอยู่รอดเป็นหลัก และฝั่งที่ยึดมั่นในหลักการและมนุษยธรรม ถึงแม้ว่าสิ่งต่างๆนั้นจะไม่มีผลกับตัวเกมมากเท่าไหร่นักแต่นั่นก็คือสิ่งที่ผู้เล่นจะได้สัมผัสตลอดแทบทั้งเกมครับ
ทำไมคุณถึงควรซื้อเกมนี้ ?
หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบในเรื่องราวสงครามความขัดแย้งและเข้าถึงการมีส่วนร่วมกับสื่อบันเทิงในแง่ของการเป็นส่วนหนึ่งกับตัวละคร
หากคุณโหยหาสื่อเกมที่นำเสนอมุมมองด้านศีลธรรมจริยธรรมและประสบการณ์ใหม่ๆในการเล่นเกม
หากคุณเบื่อเกมที่นำเสนอการเอาตัวรอดในรูปแบบของโลกหลังหายนะและสิ่งมีชีวิตกลายพันธ์
ทำไมคุณถึงไม่ควรซื้อเกมนี้ ?
หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการเล่นเกมที่มีการดำเนินเรื่องราวและเกมการเล่นที่ชัดเจนมากไปกว่าการคลิกแล้วรอดูผลของตัวละคร
หากคุณเป็นคนที่ไม่ได้ติดตามและสนใจในเรื่องราวความขัดแย้งในที่ต่างๆทั่วมุมโลก
หากคุณคาดหวังว่ามันจะออกมาเป็นเกมแนวเดินตะลุยด้านข้างอย่าง Deadlight
ภาพยนตร์ที่คุณควรดูก่อนจะเล่น This War of Mine
- Grave of the Fireflies
- The Flowers of War