เมาส์คุณภาพจาก Razer ในซีรีส์ที่ทุกคนชื่นชอบอย่าง Viper กลับมาในรุ่น V2 Pro รุ่นที่เขาบอกกันว่า เบา สบาย ที่สุดในสายเกมเมอร์
และในวันนี้ GamingDose ได้รับเกียรติจาก บมจ.ซินเน็คฯ ประเทศไทย ตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ Razer อย่างเป็นทางการ ให้ความอนุเคราะห์ส่ง Razer Viper V2 Pro มาให้เรารีวิว ฉะนั้นเราเลยจะมาเจาะกันว่าเมาส์ตัวนี้ดีอย่างไร คุณภาพจะสมกับราคาหรือไม่ ในรีวิวตัวนี้
ดีไซน์เรียบหรู คู่น้ำหนักเบา
ในด้านดีไซน์ Razer Viper V2 Pro มีทั้งหมดสองสี คือสีขาว กับสีดำ โดยในการรีวิวครั้งนี้ เราได้ตัวสีดำมารีวิว รอบ ๆ เมาส์เป็นสีดำด้าน มีผิวสัมผัสที่ดี มีความมินิมอลแตกต่างจากเมาส์ Razer ตัวก่อน ๆ ถ้าคนเคยใช้จะรู้ดี
โดยเฉพาะในเรื่องของไฟ ซึ่งปกติแล้วคนเล่นเกมอย่างเราจะต้องการไฟ RGB มาประดับตกแต่ง แต่ในยุคนี้ ยุคที่เทรนด์มินิมอลกำลังมา สายเรียบหรูไม่มีลูกเล่น เน้นดีไซน์ ก็มาแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ Razer Viper V2 Pro ออกแบบโดยคำนึงถึงเทรนด์เป็นหลัก จึงต้องมีการตัดฟีเจอร์อย่างไฟ RGB ออกไป
ในส่วนของน้ำหนัก ตัวนี้บอกเลยว่าเป็นไฮไลท์ เพราะก่อนจะได้มารีวิว เรารู้อยู่แล้วว่า Viper V2 Pro มีกิตติศัพท์ด้านน้ำหนักที่เบามาก วันนี้ได้มาลองเองก็พบว่ามันเบาจริง ๆ ถ้าเอาไปชั่งจะหนักเพียง 58 กรัมเท่านั้น หนักแค่ครึ่งขีด!
เรื่องสายบอกเลยว่าไม่ต้องกังวล เพราะ Razer Viper V2 Pro เป็นเมาส์แบบ Wireless ที่เสริมเทคโนโลยี Hyperspeed เข้ามา ทำให้ใช้งานได้รวดเร็วแบบไม่มีดีเลย์ ไม่ต่างจากการเสียบสายเลยซักนิด! แต่ถ้าอยากเสียบสายก็เสียบได้ เพราะเขาให้สาย USB-C มาด้วย
โดยรวมแล้วต้องบอกว่า Razer Viper V2 Pro ออกแบบมาได้เจ๋งทีเดียว สามารถเอาไปวางกับแนวห้องได้หลายแบบ ถ้าแต่งห้องแนวแสกนดิเนเวีย หรือโทนขาว ก็จะเหมาะกับสีขาว แต่ถ้าใครเป็นเกมเมอร์ ชอบห้องทะมึน ๆ ดำ ๆ เท่ ๆ ก็จัดสีดำไปเลย
ฟีเจอร์จัดเต็ม สำหรับสายบู๊
มาถึงเรื่องคุณสมบัติของเมาส์กันบ้าง อย่างที่ทราบกันดี เมาส์ตัวนี้ตีตัวเองว่าเป็น “เมาส์เกมมิ่ง” ทำให้มีคุณสมบัติมากมายใส่มาเพื่อความได้เปรียบ และความสบายในการเล่นมากที่สุด
เริ่มจากเซ็นเซอร์ที่จัดของดีมาให้เลย เพราะมันคือเซ็นเซอร์คุณภาพสูง Focus Pro 30K Optical Sensor ที่ดีที่สุดในตลาด ด้วยค่า IPS ถึง 750 และความเร็วเมาส์สูงสุดถึง 30,000 DPI นี่คือเมาส์คุณภาพอีกตัวที่มีสเปกโหดเอาเรื่อง นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการใช้งานได้ในหลาย ๆ สภาพพื้นผิว รวมถึง “ผิวกระจก” ที่ปกติเมาส์ทั่วไปจะใช้งานได้ยาก จนถึงไม่ได้เลย
และที่เท่ไปกว่านั้น เขายังมีฟีเจอร์ Asymmetric Cut-off มาให้ด้วย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราขยับเมาส์ขณะยกเมาส์ได้ ช่วยเสริมสร้างการเล่นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ในกรณีที่คุณอยากจะหันเร็ว ๆ แต่การขยับเมาส์บนแผ่นรองอาจไม่ทัน ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณเอียงเมาส์แล้วขยับทันทีเพื่อความรวดเร็ว ช่วยให้แก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที
เรื่องความทนทานในเมาส์ตัวนี้ก็ถือว่าเป็นที่สุดเช่นกัน กับการใช้ Optical Mouse Switches Gen-3 ที่กดได้มากถึง 90 ล้านครั้ง ทำให้ผู้ใช้มั่นใจว่า จะไม่มีปัญหาอย่างการกดเบิ้ลเกิดขึ้นง่าย ๆ อย่างแน่นอน
ปลดลิมิตคุณภาพแบบเน้น ๆ
เรื่องอายุการใช้งาน Razer Viper V2 Pro มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 80 ชั่วโมง ข้อดีคือสายชาร์จของรุ่นนี้เป็นแบบ Type-C ไม่กี่รุ่นในตลาด อีกทั้งยังสามารถชาร์จไปด้วยเล่นไปด้วยได้แบบไม่มีสะดุด
หลายคนกังวลในเรื่องฟีเจอร์ที่ถูกตัดไป แต่เราอยากจะบอกว่า รุ่นนี้ Razer เขาโฟกัสที่ประสบการณ์การใช้งานอันยอดเยี่ยมที่สุด ทำให้ไม่สามารถใส่ฟีเจอร์อำนวยความสะดวก หรือสวยงาม อย่างเช่นแท่นชาร์จ หรือไฟ RGB เข้ามาได้ ซึ่งตรงนี้ก็จะถูกแทนที่ด้วยน้ำหนักที่เบา รวมถึงประสิทธิภาพในด้านการใช้งานที่ดีโดยไม่มีอะไรมาฉุดรั้ง
Razer Viper V2 Pro วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายซินเน็คฯ ทั่วประเทศ รับประกัน 2 ปีด้วยสัญลักษณ์ Trust by Synnex