หายหน้าไปนานแสนนาน กลับมาให้แฟน ๆ ชื่นใจกันอีกครั้ง มันจะสมกับการรอคอยแค่ไหน หาคำตอบกันในรีวิวนี้
ตัวเกมที่ใช้ในการรีวิวเป็นการเล่นก่อนออกวางจำหน่าย: ฟีเจอร์ Online ไม่สามารถใช้งานได้ รวมไปถึงตัวเกมอาจมีการปรับเปลี่ยนจากเวอร์ชั่นที่ถูกขายจริง
Story – ทรัพยากรสุดล้ำที่ผู้คนแย่งชิง.. อีกแล้ว
ณ ดาว ‘รูบิคอน’ ดาวที่เป็นต้นกำเนิดของ ‘คอรรัล’ แร่ธาตุพิเศษที่สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงได้อย่างดี ทำให้มนุษย์ชาติเดินทางมาตั้งอาณานิคมขยับขยายเป็นดาวบ้านใหม่ของมนุษย์ด้วยพลังของเชื้อเพลิงที่เป็นดั่งพลังงานนิรันดร์
แต่แล้วทุกอย่างก็ล่มสลายไปกับเหตุการณ์ ‘Fires of Ibis’ พายุสุริยะสาดแสงเผาผลาญทุกอย่างบนดาว รูบิคอน จนแทบหมดสิ้น หลายคนเชื่อกันว่า คอรรัล ถูกทำลายไปแล้วในเหตุการณ์นี้ แต่แล้วก็มีการค้นพบสัญญาณการมีอยู่ของ คอรรัล ทำให้ทั้งกองกำลังของบริษัทเอกชนและหน่วยงานสากลต่างส่งกองกำลังหุ่นรบเข้ามาเปิดศึกยึดครองพื้นที่กันอย่างดุเดือด และชาวดาว รูบิคอน ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ Fire of Ibis ก็พยายามปกป้องบ้านเกิดของตัวเอง ผู้เล่นจะรับบทเป็นทหารรับจ้างผู้เป็นมนุษย์ดัดแปลงรุ่นที่ 4 ถูกส่งมาที่ดาว รูบิคอน โดยที่นายสั่งการของเราก็มีเป้าหมายคือทรัพยากรล้ำค่าบนดาวดวงนี้
การเล่าเรื่องของ Armored Core อาจจะทำให้ท่านผู้อ่านบางคนรู้สึกแหม่ง ๆ เพราะทั้งเกมนี้คุณจะไม่เห็นตัวละครที่เป็น “คน” แม้แต่ซีนเดียว สิ่งที่เห็นเป็นตัวเป็นตนจะมีแต่หุ่นรบและเครื่องจักร มีมนุษย์จริง ๆ อยู่ในเนื้อเรื่องแต่คุณจะได้รู้จักพวกเขาผ่านเสียงและโลโก้ประจำตัวเท่านั้น รวมทั้งตัวคุณเองด้วยที่ไม่มีแม้แต่เสียงหรือหน้าตา เป็นแค่ตัวละครใบ้สุดเทพคนนึงเท่านั้นเอง ซึ่งถ้าใครเคยเล่นเกม Ace Combat มาก่อน มันจะเป็นบรรยากาศที่ใกล้เคียงกันมาก แค่เปลี่ยนจาก เครื่องบินรบ มาเป็น หุ่นรบ
และเรื่องราวในเกมนี้ก็ไม่ได้เป็นแค่เหตุผลให้ผู้เล่นได้ออกตีรันฟันแทงกับฝ่ายอื่น ในฐานะทหารรับจ้าง คุณจะเป็นมุมมองของสงครามที่ไม่เข้าข้างฝ่ายใด ใครจะจ่ายเงินให้ตีกับฝ่ายไหนก็ได้ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ดาว รูบิคอน จะเริ่มเผยความจริงบางอย่าง ทำให้ความน่าติดตามเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และในบางจังหวะเราจะสามารถเลือกได้ว่าจะรับงานของฝ่ายใด ที่นับเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องราว เพราะหากเลือกทางสายหนึ่ง งานและเส้นเรื่องของอีกทางก็จะถูกยกเลิกไปในทันที ถือว่าไม่เลวเลยสำหรับเนื้อเรื่องของเกมที่มาเพื่อให้ผู้เล่นบู๊ยับกันอย่างเดียว
แต่ด้วยความที่เกมแนวนี้จะต้องอาศัยการ Grinding เก็บแต้ม ปั๊มเงิน ซื้ออะไหล่แต่งหุ่นให้เยอะ ก็ดูเหมือนว่าผู้สร้างเกมจะทำเนื้อหาให้รองรับกับเกมการเล่นแบบนี้ไปด้วย เพราะเรื่องราวในบางมิชชั่นมันจะเดินหน้าไปอย่างเชื่องช้าเหลือใจ อย่างเช่นคุณจะต้องลุยไป 2 มิชชั่นเต็ม ๆ โดยที่เนื้อหาเป็นการ’ซื้อใจ’ตัวละครหนึ่งเท่านั้น ที่จะช่วยตัวเอกเดินทางไปยังจุดหมาย ซึ่งในแง่ของความเป็นเกมเราก็จะได้เล่นมันอย่างเต็มอิ่ม แต่ในด้านการเล่าเรื่องมันก็ยืดกันแบบสุด ๆ รวมทั้งแนวทางของเรื่องราวก็ไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ (ทรัพยากรสุดล้ำที่ผู้คนแย่งชิง.. อีกแล้ว) ทำให้บรรยากาศของเรื่องจะค่อนไปทางธรรมดาซะมากกว่า
Presentation – ถึงมันจะไม่ใช่ภาพ-เสียงระดับเกมยุคใหม่จริง ๆ แต่มันก็ยังเท่สมกับเป็นเกมหุ่นรบแถมยังเล่นได้ดีอีกด้วย
Ace Combat ผสม เกม Souls คือความรู้สึกที่คุณจะได้จากการเล่นเกมนี้ มันจะเป็นเกมที่ดำเนินไปตามมิชชั่นและสะสมเงินที่เป็นรางวัลในมิชชั่นนั้น ๆ เพื่อการซื้อชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ใหม่ในการปรับแต่งหุ่น Armored core ของคุณ ทุกภารกิจที่คุณผ่านไปแล้วสามารถเล่นซ้ำได้ ซึ่งเกมก็แนะนำให้ทำอย่างนั้นเพื่อให้ผู้เล่นเข้าไปเก็บ Rank ของแต่ละด่านให้ดีกว่าเดิม (การผ่านครั้งแรกจะไม่มีการนับ Rank แต่อย่างใด) และยิ่งเล่นไปไกล ฟีเจอร์ใหม่ ลูกเล่นใหม่ ก็จะยิ่งปลดล็อคออกมาให้เราได้ลองเล่น นับว่าเป็นประสบการณ์ที่คล้ายกันมาก ๆ กับเกม Ace Combat
แต่ถ้าหากว่าคุณคือผู้เล่นที่ไม่ค่อยสันทัดกับความท้าทาย นี่ก็อาจจะเป็นเกมที่ไม่ค่อยเหมาะ เพราะกลิ่นอายของความเป็น FromSoftware จะคอยโผล่มาให้เราเจอตลอด อาจจะไม่ใช่ระดับที่ว่าทุก ๆ การปะทะบอสแบบ Elden Ring แต่คุณจะได้เจอแน่ ๆ กับบอสและอุปสรรคที่แบบว่า หลบไม่พ้น ตาย ดูจังหวะไม่ดี ตาย จำ Moveset มันไม่ได้ ตาย.. ที่แฟน ๆ เกม Souls น่าจะคุ้นเคยกันดี
ก็ถือเป็นส่วนผสมที่น่าจะถูกใจหลายคน หากคุณชอบเกมสไตล์ เครื่องบิน, หุ่นรบ เก็บแต้มเพื่ออัพเกรดแต่งหุ่นให้เข้ามือ และชอบการก้าวข้ามอุปสรรคแบบที่เคยสัมผัสจาก Dark Souls ถ้าคุณชอบทั้งสองแนวนี้ คุณก็ไม่จำเป็นจะต้องอ่านรีวิวนี้ต่ออีกแล้ว คุณซื้อมันมาเล่นได้โดยไม่ผิดหวังแน่นอน.. แต่ถ้าคุณชอบแนว Ace Combat และไม่ได้เป็นแฟนเกม Souls หรือชอบแนว Souls มาก แต่ไม่ได้ชอบเกมแนวยิงหุ่น, ขับเครื่องจักร, ปั๊มเงินปลดของ ก็ลองอ่านกันต่อไปเรื่อย ๆ ดูสิว่าจะถูกใจหรือเปล่า
ประเด็นหลัก ๆ ของเกมนี้จะมีแต่เรื่องของการใช้หุ่น AC (Armored core) โดยที่คุณอยากจะให้มันควบคุม, โจมตีแบบใดก็อยู่ที่การปรับแต่ง และการเล่นมิชชั่นหรือฉากซ้อมรบก็จะให้รางวัลกับเราเป็นชิ้นส่วนแบบใหม่ หรือแต้มในการอัพเกรดความสามารถ คุณสามารถปรับแต่ง AC ตั้งแต่หัวจรดเท้าและทุกชิ้นส่วนจะมีคุณสมบัติกับค่าสถิติในแบบของตัวเอง ซึ่งขอบอกให้ชัดเจนเลยว่า Armored Core 6 ‘ไม่ใช่เกม RPG’ ชิ้นส่วนแต่ละอย่างจะไม่ได้มีคุณสมบัติเป็นเลเวลที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เพียงแต่เป็นชิ้นส่วนในสไตล์ที่ต่างออกไป อย่างเช่น แขนหนักจะเพิ่มพลังชีวิตสูงขึ้น เพิ่มแรงในการแบกอาวุธมากขึ้น แต่ก็ลดความคล่องตัวลงไป ซึ่งแขนเบาก็จะให้ผลในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณถูกใจชิ้นส่วนอันไหนคุณก็สามารถใช้มันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้เจออุปสรรคบางอย่างที่เราใช้มันไม่ได้ผล และการจะมีตัวเลือกให้เราหยิบใส่ได้เยอะ ๆ นั่นก็วนกลับมาที่การทำมิชชั่นให้ได้ Rank สูง, เข้าโหมดฝึกประลองยุทธ์ VR เอาชนะคู่ต่อสู้ใหม่ ๆ เพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายจากหน้าร้านค้าตามใจคุณเอง
หุ่นรบ และ กลิ่นอาย Dark Souls ถ้าคุณชอบทั้งสองสิ่งนี้ ซื้อมาเล่นได้โดยไม่ผิดหวังแน่นอน
คอนเท้นต์โดยรวมของ Armored Core 6 จะเป็นแนวทางที่เหมาะแก่เหล่านักเก็บ นักล่า Achievements นอกจากโหมดเนื้อเรื่องระดับ 15+ ชั่วโมง ถ้าคุณอยากจะเก็บทุกมิชชั่นให้ได้ระดับ Rank S นั่นก็จะยิ่งเพิ่มเวลาการเล่นให้คุณแบบไม่อาจนับได้เลย แถมยังมีโหมด Arena ที่ให้คุณประลองยุทธ์กับ AC ตัวอื่น ที่จะใช้อาวุธและการเคลื่อนไหวคล้ายกับผู้เล่น เป็นทั้งการปลดแต้ม OST Chips ที่ใช้ในการปลดล็อคความสามารถใหม่ ๆ และเป็นการ Warm up ก่อนจะไปเจอกับผู้เล่นจริง ๆ ใน ‘NEST’ โหมด PVP ที่ผู้เล่นสามารถเข้ามาประลองยุทธิ์ แต่ด้วยความที่รีวิวนี้เป็นการเล่นในช่วงก่อนวางขาย ทำให้เราไม่สามารถใช้ฟังค์ชั่น Online ดังนั้นท่านผู้อ่านจะต้องลองสัมผัสประสบการณ์ PVP ด้วยตัวเองในตอนที่เกมออก แต่ถ้าคุณไม่ใช่ผู้เล่นสาย Completionist แค่โหมดเนื้อเรื่องที่ทั้งดุเดือดท้าทาย ก็นับเป็นความคุ้มค่าสำหรับเกมนี้แล้ว
ถ้าจะมีอะไรที่พอจะเป็นข้อเสียในด้านการนำเสนอ ก็คือ ภาพ และ เสียง ที่อาจจะยังไม่สุดอย่างที่เราคาดหวัง ไม่ใช่ว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มันจะไม่ถึงใจ แต่ถ้ามันสวยงามและดุดันกว่านี้ มันจะเป็นสุดยอดเกมหุ่นยนต์ที่เรารอคอยจริง ๆ ณ เวลานี้ คุณจะเห็นการตกแต่งฉากที่ใช้แสงเงาธรรมดา รวมทั้งเสียงของอาวุธและหุ่นยนต์ก็ค่อนข้างจะเบากว่าที่คาดเอาไว้ (หุ่นเหล็กทั้งดุ้น ตกลงจากฟ้าร่วม 800 เมตร เสียงดัง “กึง..”)
แต่ก็เข้าใจเหตุผลที่ผู้สร้างเลือกทำแบบนี้ เพราะมันเป็นการเน้นไปที่เกมการเล่นมากกว่าสไตล์ เอาแค่ฝูงห่ากระสุนเทกระจาดใส่จอ ก็ทำให้ผู้เล่นมองอะไรไม่ค่อยจะเห็นอยู่แล้ว ถ้าฉากยังมีความ Contrast ของแสงเงาอีก ศัตรูที่ยืนอยู่ตีนเขาก็คงไม่ต่างกับ Solid Snake เช่นเดียวกันกับเสียง ถ้าจะให้ทุกอย่างกระหึ่มเยี่ยงภาพยนตร์ Transformer เราก็คงไม่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบหุ่น AC และอันตรายรอบตัว
Gameplay – คุณจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความเป็นเกม FromSoftware
ถ้าคุณเป็นคนที่ผ่านเกม FromSoftware มาบ้าง คุณจะสัมผัสได้ถึงอะไรหลายอย่างที่มีในเกมก่อน ๆ อย่างหลอดพลัง EN (Energy) ของเกมนี้ มันก็คือ Stamina ในเกม Souls นั่นเอง เราต้องใช้มันการพุ่งตัวหรือหลบหลีก ถ้าเราใช้มากไปพลัง EN ฟื้นไม่ทันก็ทำให้เรากลายเป็นเป้านิ่ง หลอด ACS (Armored Core Stability) ที่อยู่เหนือหลอด EN นั่นก็คือหลอดความแข็งแกร่งเหมือนใน Sekiro ที่จะขึ้นเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่ถูกโจมตี ถ้าเต็มหลอดเราก็จะติดสถานะ stun ชั่วคราวแถมโดนแดมเมจหนักกว่าปกติ ซึ่งก็เหมือนกับ Sekiro ที่เราทำให้มันเกิดขึ้นกับศัตรูได้เช่นกัน แม้ว่าเกมการเล่นมันจะไม่เหมือนเกม Souls เลย แต่คุณจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความเป็นเกม FromSoftware ตลอดเวลา
แม้ว่าหน้าจอของเกมนี้จะดูรกรุงรังไปหมด แต่ขอบอกเลยว่าการควบคุมในเกมนี้จะมีความเบสิคอย่างมาก การโจมตีของคุณจะสามารถทำได้ 4 อย่างหลัก ๆ ก็คือ อาวุธในมือซ้าย-ขวาและอาวุธบนไหล่ซ้าย-ขวา อาวุธเกือบทุกชนิดจะมีโหมดการยิง 2 แบบ นั่นคือยิงปกติและการชาร์จยิง บังคับด้วยการกดธรรมดาหรือกดค้างแล้วปล่อย ระบบ Hud คือการบอกว่าอาวุธใน Slot ไหนบ้างที่พร้อมและยังไม่พร้อม การล๊อคเป้ายิง หลอดพลังชีวิตและหลอด ACS ของศัตรูเป็นอย่างไรบ้าง คือถึง UI จะรกจอไปหมดแต่มันก็รกด้วยความจำเป็นเพราะคุณจะได้ใช้งานทุกอย่าง
แต่ก็ตามสไตล์ของเกมที่แบบ ‘Easy to learn, hard to master.’ ถึงระบบมันจะเข้าใจง่าย แต่การจะเล่นให้เก่ง เล่นให้แม่น มันเป็นอะไรที่ต้องใช้เวลาพอสมควร นี่ไม่ใช่เกมที่คุณจะเข้ามากด ๆ ยิง ๆ แล้วผ่านไปเฉย ๆ นี่คือเกมที่คุณต้องอาศัยจังหวะ เคลื่อนไหวให้พอเหมาะและโจมตีโดยหวังผลสูงที่สุด อาวุธทุกชนิดจะมี Character ที่เป็นจุดแข็งจุดอ่อน บางอย่างยิงแล้วจะต้องเผื่อเวลาใส่กระสุน บางอย่างต้องอย่ายิงจนร้อนไม่อย่างนั้นก็จะเสียเวลา Cooldown หรืออาวุธบางอย่างรุนแรงมากแต่ก็มีกระสุนน้อยเหลือใจ และไม่ใช่ทุกมิชชั่นที่จะมีโอกาสให้เราเติมเสบียง
การเล่นแบบพุ่งใส่ spam ปุ่มยิงอุตลุดอาจจะพอช่วยให้เราเล่นผ่านได้ในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นไม่นานเกมจะเริ่มเอาจริง คุณอาจจะได้เจอศัตรูบางชนิดที่ปืนของคุณทำอะไรมันแทบไม่ได้ คุณจะเจอการโจมตีที่แบบว่านัดเดียวเอาไปครึ่งหลอด คุณจะเจอกับภารกิจที่ต้องการจำนวน EN สูงเพื่อบินขึ้นไปทำ Damage ดังนั้นถ้าคุณยิงรัว ๆ พุ่งตัวรัว ๆ เอะอะก็พุ่งเข้าไปใช้ดาบฟันหวังเอาง่าย.. เกมนี้จะสอนให้คุณรู้ว่า นี่ก็ยังคงเป็นเกมจาก FromSoftware ที่พร้อมจะลงทัณฑ์ผู้เล่นที่ไม่คิดหน้าคิดหลัง
ทั้งสนุก ตื่นตาตื่นใจ พร้อมกับความเท่เต็มคันรถ
การกะจังหวะ วางแผนในการใช้ท่าหรืออาวุธให้เหมาะ คือทางเลือกที่ดีกว่าเสมอ ต่อให้คุณไม่ใช่แฟนเกม Armored Core หรือไม่เคยเล่นเกมขับหุ่นมาก่อนเลย เกมนี้ก็จะมีโหมดสอนการเล่นที่เข้าใจง่ายแถมเชื้อเชิญให้เราเข้าไปเล่นด้วยการให้รางวัลเป็นชิ้นส่วนหุ่นขั้นพื้นฐานแบบฟรี ๆ และถ้าคุณไม่สามารถเล่นผ่านได้จริง ๆ ปัญหามันอาจจะไม่ใช่การกลิ้งหลบให้พ้นแบบ Elden Ring แต่มันคือ Build หุ่นของคุณต่างหาก อาวุธและอุปกรณ์แต่ละอย่างจะมีการแพ้ทางกันอย่างจริงจัง บรรดาปืนเลเซอร์ทั้งหลายจะไม่สามารถยิงใส่เกราะหนาได้แบบตรง ๆ ทางแก้ก็คือใช้อาวุธประเภทระเบิดรุนแรงหรือใช้อาวุธประเภท Melee อย่างดาบเลเซอร์พุ่งเข้าไปปะทะกันตรง ๆ ที่จะทำให้หลอด ACS ของศัตรูเพิ่มขึ้นอย่างหนัก หรือศัตรูที่รวดเร็วบินฉวัดเฉวียนไม่อยู่กับที่จะสามารถหลบอาวุธประเภท Lock-on อย่างมิซไซล์ได้อย่างง่ายดาย แต่ด้วยความไวของมันก็แลกด้วยความเปราะบาง ดังนั้นถ้าคุณใช้อาวุธที่ยิงแม่น ๆ ถึงตัวทันที ก็จะทำให้ความเร็วของมันไร้ผล และเกมนี้จะใช้ระบบการเล็งยิงแบบอัตโนมัติ แค่หันจอไปทางศัตรูเดี๋ยวหุ่นเราก็ยิงโดนเอง แต่ความแม่นยำในจะขึ้นอยู่กับชิพที่ใช้ในการเล็งยิง แต่ละชิพก็จะเน้นความแม่นยำต่างกันไป ทั้งระยะใกล้ กลาง และไกล
คือนอกจากทักษะที่คุณจะต้องควบคุมหุ่นในการเข้าทำเกม คุณยังต้องปรับแต่ง Loadout ให้เหมาะกับคู่ต่อสู้ ซึ่งเกมก็เข้าใจดีว่ามันคือส่วนสำคัญในการแพ้-ชนะ เพราะคุณไม่ต้องทำก่อนเข้ามิชชั่นอย่างเดียว ทุกครั้งที่คุณตาย คุณสามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ทันทีก่อนที่จะเริ่มใหม่ตรงจุด Checkpoint และเมื่อเล่นผ่านไปได้แล้ว ความสนุกอีกรอบก็คือการเล่นมิชชั่นนั้นให้เทพยิ่งกว่าเดิม ด้วยการเก็บ Rank ระดับสูง โดยเกมจะนับจากความไวในการจบมิชชั่น, ระดับความเสียหายที่เราได้รับ, จำนวนกระสุนที่ใช้ ยิ่งจบเร็ว เจ็บน้อย ยิงไม่เยอะ Rank ก็ยิ่งสูง พร้อมกับเงินรางวัลที่มากกว่าเดิม
และเมื่อไหร่ที่คุณเล่นได้อย่างคล่องมือ เข้าใจระบบการแพ้-ชนะอย่างถี่ถ้วน คุณจะได้สานฝันของการเป็นสุดยอดนักขับหุ่นประจัญบานเยี่ยงพระเอกการ์ตูนหุ่นรบ ที่มันทั้งสนุก ตื่นตาตื่นใจ พร้อมกับความเท่เต็มคันรถ.. แต่อย่างที่บอกไปตอนต้นว่านี่ก็ยังเป็นเกมจาก FromSoftware ในจุดหนึ่งคุณจะได้เจอการต่อสู้กับบอส ที่เห็นก็บอกได้ทันทีว่า นี่แหละ บอสของ FromSoftware แถมเราไม่ได้เจอกันบนพื้นอย่างเดียว คุณอาจจะต้องบินขึ้นกลางอากาศ หลบหลีกสาดกระสุนกันอย่างดุเดือด ซึ่งผู้เขียนเองที่แม้จะเคยเล่นเกม Souls จบมาทุกภาค ยังถูกรับน้องด้วยบอสสุดท้ายของ Chapter 1 จนพี่น้องในออฟฟิศต้องรำคาญกับเสียงสบถทุก 10 วินาที
เท่านั้นยังไม่พอ คุณจะได้เจอมิชชั่นที่มีความยากในตัว อย่างการต้องตีฝ่ากองกำลังป้อมปืนที่พร้อมจะยิงคุณนัดละครึ่งหลอด คอยหลบหลีกเลเซอร์จากฟากฟ้าที่นัดเดียวก็กลับไปเริ่ม Checkpoint กันได้เลย หรือการปะทะกับศัตรูที่ล่องหนหนีและไปโผล่อีกที่เพื่อทำการซุ่มยิง ดังนั้นอย่าแปลกใจถ้าคุณถูกสั่งสอนอย่างไม่ปราณีตั้งแต่ครั้งแรก คุณต้องลองดูความได้เปรียบที่คุณพอจะทำได้ แล้วปรับแต่งหุ่น AC ให้เหมาะกับมิชชั่นนั้น ในบางครั้งที่คุณสร้าง Build มาดีพอ บอสที่คุณเจออาจจะกลายเป็นขนมกรุบปล่อยให้คุณเคี้ยวเล่นเลยก็ได้
แต่ถึงจะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย เกมนี้ก็ยังมีปัญหาความเอ๋อของศัตรูที่บางครั้งศัตรูสุดโหดก็บินเข้าไปติดอยู่ในซอกหลืบปล่อยให้เราอัดระเบิดเข้าไปในที่แคบจนตายอย่างอเนจอนาถ ด้วยฉากการเล่นที่เปิดกว้าง ปล่อยให้ผู้เล่นและ AI โจนทะยานกันตามใจชอบ ทำให้ AI บางทีก็มีอาการพลาดไปไม่เป็น ส่งผลให้การต่อสู้ที่สุดแสนจะท้าทายกลายเป็นฉากสุดฮาเมื่อศัตรูตัวนั้นขับหุ่นตกเขาตายไปเอง
กับอีกปัญหาที่อาจจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับทุกคน นั่นคือความยากที่แกว่งขึ้นลงจนตั้งตัวไม่ทัน ในมิชชั่นหนึ่งอาจจะเป็นแพทเทิร์นปกติที่เราเจอศัตรูตามทางและไปจบที่บอสระดับทั่วไป พอมิชชั่นถัดมามันเป็นการปะทะกับอุปสรรคและบอสที่พร้อมจะฆ่าผู้เล่นได้ในการโจมตีไม่กี่ครั้ง แต่พอมาเจออีกมิชชั่นมันกลับเป็นแค่การเจอศัตรูกลุ่มเล็กใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ก็ถือเป็นข้อดีที่มีช่วงให้ตัดเลี่ยนกันบ้าง แต่ด้วยความที่มันเป็นเกมแบบมิชชั่นต่อมิชชั่น ไม่ใช่เกมที่ดำเนินไปเรื่อย ๆ เหมือนเกม Souls ทำให้เราปรับอารมณ์ตามไม่ค่อยจะทัน ไม่รู้เลยว่าการเลือกมิชชั่นต่อไปมันจะดุเดือดหรือชิลแค่ไหน สำหรับผู้เล่นที่สามารถปรับตัวกับความท้าทายได้ดีก็อาจจะไม่รู้สึกอะไรมาก แต่กับผู้เล่นหน้าใหม่ผู้ไม่เคยจับเกม Souls มาก่อน บางโมเม้นท์อาจจะทำให้คุณเฟี้ยงจอยได้เลยทีเดียว
Performance – ตัวเกมละเมียดละไม แต่ความลื่นไหลถึงจะสะดุดเล็กน้อยบน PS5 แต่ก็นับว่าน่าพึงพอใจ
ในการรีวิวครั้งนี้เป็นการเล่นบนเวอร์ชั่น PS5 ที่แม้จะเป็นช่วงก่อนเกมออกมันก็ถือเป็นเกมที่สมบูรณ์แบบ ไม่ได้เจอปัญหาบั๊คหรือความผิดพลาดใด ๆ แม้แต่ครั้งเดียว ถึงแม้ว่าภาพกราฟิกอาจจะไม่ถูกใจทุกคน ยิ่งสำหรับผู้ที่ผ่านความอลังการของ Elden Ring มาแล้ว ก็อาจจะเอาไปเปรียบเทียบอย่างช่วยไม่ได้ แต่คุณภาพรายละเอียดและเอฟเฟคทั้งหลายแหล่ก็เรียกได้ว่าอยู่ในระดับสมราคาตัว
ในการตั้งโหมดภาพเน้นเฟรมเรตกับเน้นคุณภาพ เราเห็นความต่างของความละเอียดภาพน้อยมาก แต่ที่เห็นว่าต่างกันจริง ๆ นั่นคือความละเอียดและระยะในการเรนเดอร์ของเอฟเฟคเงา ที่เรียกได้ว่าดูไม่จืดในโหมดเฟรมเรต แต่ก็ขอให้แนะนำให้เล่นเกมนี้ด้วยโหมดเฟรมเรตนี่ล่ะ เพราะในโหมดคุณภาพนั้นแทบจะเป็นเกมที่อยู่ระดับ 30 เฟรมกันตลอดเวลา และด้วยความเป็นเกมที่ต้องการความเร็วในการหันยิง การมองดูรอบตัวแบบนี้ ยิ่งเฟรมสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งดี แต่ถึงจะเป็นโหมดเน้นเฟรมเรตก็ยังอุตส่าห์มีจังหวะเฟรมตกในบางช่วง ซึ่งถ้าใครต้องการประสิทธิภาพที่นิ่งกว่านี้เห็นทีจะต้องเป็นเวอร์ชั่น PC ที่เล่นด้วยฮาร์ทแวร์ขั้นสูง แต่หากใครไม่คิดมาก เวอร์ชั่นของ PS5 ณ เวลานี้ก็นับว่าโอเคแล้ว
สรุป
ด้วยเกมการเล่นที่โลดโผนฉับไว ผสมผสานกับไอเดียจากเกมซีรีส์ Souls นี่คือการกลับมาเพื่อสานฝันประสบการณ์หุ่นรบประจัญบานอย่างสมศักดิ์ศรี