รีวิว BenQ MOBIUZ EX3210U จอมอนิเตอร์ 4K 144Hz โหดสุด จบจริง ทั้งพีซีและคอนโซล

ในยุคของการเล่นเกม 4K แบบนี้ สิ่งที่สำคัญไม่ต่างจากคอมพิวเตอร์แรง ๆ หรือคอนโซลเน็กซ์เจน คงหนีไม่พ้น “มอนิเตอร์” หรือจอแสดงผลภาพ ที่ถือเป็นด่านสุดท้าย ในการส่งความฟินของกราฟิกอันสวยงามมาที่คุณ แน่นอนว่าเป็นด่านสุดท้ายแบบนี้ เราก็ต้องเลือกดี ๆ กันเสียหน่อย

และสำหรับใครที่กำลังเลือกจอ 4K ดี ๆ อยู่ วันนี้เรามีจอตัวนึงมาแนะนำ กับ BenQ MOBIUZ EX3210U จอมอนิเตอร์จากซีรีส์ระดับเทพเรือธงของ BenQ อย่าง MOBIUZ มาในรูปลักษณ์แบบเรียบง่ายแต่รุนแรง มาดูกันว่าจอมอนิเตอร์ตัวนี้จะเด็ดขนาดไหน ในรีวิว BenQ MOBIUZ EX3210U

ดีไซน์ ภายนอก อุปกรณ์

มาดูเรื่องรูปร่าง รูปทรงกันก่อน BenQ MOBIUZ EX3210U เป็นจอมอนิเตอร์ขนาด 32 นิ้ว จอตรง เป็นพาแนลแบบ IPS ยอดฮิต แสดงผลความละเอียด 4K UHD (3840×2160) ขนาด 16:9 ถือเป็นสไตล์แบบเบสิกไม่มีพลิกแพลงใด ๆ รอบ ๆ ตัวเครื่องด้านหลังเป็นสีขาวล้วน ขอบ ๆ ด้านหน้ามีสีดำ กลมกลืนไปกับจอ LED แผงด้านล่างแสดงโลโก้ BenQ เป็นเอกลักษณ์ให้รู้ว่านี่แหละ จอมอนิเตอร์เกมมิ่งระดับโลก

พอร์ตด้านหลังให้มาค่อนข้างครบ มี HDMI 2.1 สองพอร์ต, DisplayPort หนึ่งพอร์ต, USB-A สี่พอร์ต และให้แจ็ค 3.5 มาด้วยหนึ่งช่อง ตรงนี้ถ้าใครใช้คอนโซลอย่าง Xbox Series X หรือ PlayStation 5 เวลาต่อเข้าช่อง HDMI จะได้เพียง 120fps เท่านั้น ส่วนถ้าใครใช้ PC แนะนำให้เสียบ DisplayPort จะได้ดันเต็มถึง 144fps ตามประสิทธิภาพของจอ

นอกจากพอร์ตทั้งหมดแล้ว การจะใช้งาน USB-A และแจ็ค 3.5 จำเป็นจะต้องเสียบสาย Data เข้าไปด้วย เพื่อเชื่อมต่อจอกับพีซีหรือคอนโซล ตรงนี้จะเกี่ยวข้องกับไมค์ในตัวของจอด้วย ถ้าคุณต้องการใช้ไมค์บิวท์อิน แนะนำให้เชื่อมต่อไว้

สำหรับขาตั้งของ BenQ มาในรูปแบบเพรียวบาง แต่ไม่โยกเยก สมดุลดีทีเดียว ดีไซน์ออกมาได้โฉบเฉี่ยวสไตล์เกมเมอร์ สามารถเลื่อนหน้าจอขึ้นลง หันองศาได้อย่างง่ายดาย ข้อสังเกตของขาตั้งตัวนี้คือ มันไม่สามารถหมุนจอให้เป็นแนวตั้งได้ ทำให้อาจจะมีปัญหาสักนิดสำหรับคนที่ต้องการจะใช้จอแนวตั้งในบางครั้ง แต่ปกติแล้วเกมเมอร์หรือคนที่ใช้งานแบบธรรมดา ๆ ใช้ดูภาพยนตร์ ดูวิดีโอ อาจไม่ได้มีความจำเป็นมากนักในการทำจอตั้งสักเท่าไหร่

ในเรื่องอุปกรณ์ นอกจากขาตั้งและจอ ตัวนี้ยังมาพร้อมกับรีโมทคอนโทรล ซึ่งปกติเราจะไม่ค่อยเห็นในจอมอนิเตอร์ แต่จะไปเห็นในทีวีเสียมากกว่า โดยรีโมทคอนโทรลตัวนี้ สามารถใช้แทนแผง Panel ของจอได้เลย มีปุ่มเปิดปิด เพิ่มเสียงลดเสียง ปรับโหมด ปรับแสง เปลี่ยนเอาท์พุต ครบเหมือนทีวีอย่างที่เราต้องการ บอกตรง ๆ อันนี้เราชอบมาก เพราะเราไม่จำเป็นต้องไปนั่งคลำหาปุ่มเพื่อปรับไปมา บางทีควบคุมได้ไม่แม่น ต้องมานั่งแก้ไข แต่เมื่อมีรีโมท งานนี้ก็ง่ายเลย หยิบมากด ๆ ปรับ ๆ เอา

และสำหรับใครที่เล่นคอนโซลแล้วใช้มอนิเตอร์ตัวนี้เป็นหลัก ก็จะยิ่งได้เปรียบเข้าไปอีก เพราะปกติการเล่นคอนโซลส่วนมาก จะเล่นบนโซฟาแล้วตั้งจอห่างจากสายตาระดับหนึ่ง การจะปรับจอด้วยมือคงไม่ใช่เรื่องง่าย ฉะนั้นรีโมทตัวนี้คือคีย์หลัก ที่จะมาช่วยให้การเล่นเกมไกล ๆ สะดวกสบายขึ้นนั่นเอง

สเปกของจอภาพ และฟีเจอร์

ในเรื่องสเปกของหน้าจอ ต้องบอกก่อนเลยว่าจัดเต็ม เพราะความละเอียด 4K UHD แบบนี้ ยังจะให้รีเฟรชเรท 144hz มาอีก เรียกได้ว่าเหนือชั้นมาก ซึ่งตรงนี้จะมีประโยชน์ในเรื่องของการเล่นคอนโซลแบบเนกซ์เจนด้วย เนื่องจากมาตรฐานปัจจุบันของตอนนี้ บางเกมสามารถเล่น 4K 120fps ได้แล้ว อย่างเช่น Apex Legends, Fortnite เมื่อบวกกับ Response Time ที่ต่ำมาก เพียง 1ms เท่านั้น ทำให้มอนิเตอร์ตัวนี้ เหมาะกับการเล่นเกมอย่างแท้จริง

BenQ MOBIUZ EX3210U เป็นจอแบบ Quantum dot ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เราไม่ค่อยเห็นในมอนิเตอร์เท่าไหร่นัก โดยเทคโนโลยีตัวนี้จะช่วยในการเพิ่มเฉดสีให้กว้างกว่าเดิมมาก สีเดิมที่เราไม่เคยเห็นจะได้เห็นกันในจอนี้ เช่นพวกน้ำทะเล ที่จะมีสีเขียว ๆ แซม มีความสมจริงมากขึ้นจากสีที่กว้างถึง 99% Adobe RGB และ 98% DCI-P3 เทียบเท่า 150% sRGB ซึ่งถือว่าสูงมาก

และถ้าใครคิดว่ามันสดไป จอตัวนี้ยังมีโหมด sRGB ที่สดเฉดลงมาให้เหลือ 100% sRGB เท่านั้น ทำให้สบายตามากยิ่งขึ้น และเพื่อความแม่นยำในการทำภาพสำหรับเปิดบนจอทั่วไปที่ไม่ใช่จอนี้

อย่างที่เราอธิบายไปในตอนต้น BenQ MOBIUZ EX3210U ใช้พาแนล IPS ทำให้มีข้อดีในด้านการมองภาพในมุมกว้าง การให้สีที่สดใส ถูกต้อง รองรับการแสดงผลแบบ HDRi (intelligence) ทำให้ปรับแสงหน้าจอได้อัตโนมัติ เพื่อคุณภาพการแสดงผล และสบายตามากยิ่งขึ้น

ในเรื่องของ HDR ฟังก์ชันระดับสูงที่ใครหลายคนอยากได้จอสมบูรณ์ ๆ มาใช้งาน สำหรับมอนิเตอร์ตัวนี้ให้มาเป็น HDR10 ทำความสว่างได้ค่อนข้างใช้ได้ คือ 300nits ในเวอร์ชัน SDR และ 600nits ในเวอร์ชัน HDR ทำให้ผ่านมาตรฐาน HDR400 อย่างสบาย ๆ โดยในการเล่นเกมส่วนมากที่เป็น HDR มอนิเตอร์ตัวนี้เก็บคอนเทนต์ได้ครบถ้วน ให้ขอบเขตสีที่ดี และรู้สึกว่าไม่ได้ฝืนอะไรเลย

ในโหมด SDR มอนิเตอร์ตัวนี้ก็ทำได้ดี โดยเฉพาะในเรื่องของความสว่างสดใส ตามสไตล์ของพาแนล IPS เมื่อรวมกับความสว่าง 300nits ทำให้แสดงผลออกมาได้อย่างดีทีเดียว แต่จะมีเรื่องติดนิด ๆ ถ้าคุณเคยเปิด HDR บนจอนี้มาก่อน เพราะขอบเขตสีมันกว้างกว่ากันมาก อาจทำให้คุณคิดว่า SDR ของจอตัวนี้มันจืดไปหน่อยหากเทียบกับสิ่งที่มันเคยทำได้ อีกทั้งมอนิเตอร์ตัวนี้ก็ยังหนีไม่พ้นจุดอ่อนของพาแนล IPS นั่นก็คือ คอนทราสต์ที่ต่ำ เพียง 1,000:1 เท่านั้น ทำให้การเล่นเกมบางเกม อย่างเช่น Shadow of the Tome Raider หรือ Dying Light 2 มืดจนไม่สามารถแยกรายละเอียดใด ๆ ได้ แต่ในส่วนนี้เขาก็มีเทคโนโลยี HDRi มาช่วยปรับคอนทราสต์ให้ ก็ถือว่าดีใช้ได้ทีเดียว

ด้านฟีเจอร์ของ BenQ MOBIUZ EX3210U เรียกได้ว่าให้ของจำเป็นมาแบบครบ ๆ เริ่มจาก G-Sync Compatible และ FreeSync ครบทั้งสองค่ายในด้าน VRR โดยเฉพาะในเรื่องของ FreeSync ที่เป็น FreeSync ™ Premium Pro ตัวสูงสุดที่เหมาะกับเทคโนโลยี HDR ทำให้การเล่นเกมไหลลื่นไม่มีภาพฉีก ไม่มีอาการ Ghosting แม้จะเล่นเกมที่มีความเร็วสูง ๆ อย่าง Valorant หรือ CS:GO ก็ตาม เมื่อรวมกับ Response Time 1ms MPRT ทำให้จอนี้ครบมากสำหรับการเล่นเกมทุกประเภท

ลำโพง และไมโครโฟน

เรื่องเสียงเป็นเรื่องที่เราไม่คิดว่าจะได้พูดถึงในจอมอนิเตอร์ แต่ก็ต้องพูดกันหน่อย เพราะ BenQ MOBIUZ EX3210U เขาให้มาทั้งลำโพงและไมค์ สำหรับลำโพงเป็นลำโพงแบบ treVolo ระบบเสียง Built-in 2.1 Channel คุณภาพดี รวมกับระบบเทคโนโลยีเสียง DPS ที่เพิ่มความลึกให้กับเสียง ทำให้เวลาเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง แทบจะไม่ต้องต่อลำโพง หูฟังแยกเลย

แต่ถ้าคุณจริงจังเกมมิ่งมาก ลำโพงตัวนี้ของ BenQ MOBIUZ EX3210U อาจจะไม่ได้เฉพาะเจาะจงขนาดนั้น แม้จะมีเทคโนโลยีช่วย การบอกตำแหน่งต่าง ๆ ของเสียงยังทำได้ไม่ชัดเจน ฉะนั้นอาจพิจารณาเป็นการซื้อหูฟังดี ๆ ซักตัวมาใช้งานกับพอร์ตแจ็ค 3.5 บนมอนิเตอร์ตัวนี้ก็ได้ แต่ถ้าใครชอบเล่นเกมชิลล์ ๆ ไม่ชอบใส่หูฟังนาน ๆ เน้นภาพสวย ลำโพงเสียงดีเยี่ยม ตัวนี้ตอบโจทย์เหล่าเกมเมอร์แน่นอน

นอกจากลำโพง BenQ MOBIUZ EX3210U มีไมค์มาให้ด้วย โดยเป็นไมค์ Build-in ที่อยู่ด้านในตัวมอนิเตอร์เลย มาพร้อมระบบ AI Noise-cancelling ตัดเสียงรบกวนโดยใช้ AI โดยจะมีสองโหมดให้เลือก คือ Private Mode ที่ช่วยกรองเสียงรอบข้างออก และ Omnidirectional Mode ที่จะช่วยปรับเสียงรอบ ๆ ให้มีมิติมากขึ้น ตรงนี้ก็แล้วแต่ว่าใครจะถนัดสายไหน สำหรับเราลองแล้วคือโอเค เพราะ AI ตัดเสียงรบกวนได้ดี อีกทั้งเรายังไม่จำเป็นต้องหาไมค์มาต่อเพิ่มให้เสียเวลา ถ้าคุณไม่ได้ใช้งานไมค์ในด้านโปรดักชันอยู่แล้ว แค่ต้องการไมค์ไว้คุยกับเพื่อนเวลาเล่นเกม บอกเลยว่าตอบโจทย์

สรุป

BenQ MOBIUZ EX3210U ถือเป็นมอนิเตอร์ที่เราคิดว่าเป็น “ตัวจบ” ได้เลยทีเดียว เพราะมันมีฟังก์ชันทุกอย่างที่คอนโซลเนกซ์เจนอย่าง Xbox Series X และ PlayStation 5 ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น 4K 120FPS หรือ HDR ในความสว่าง 600nits เรียกได้ว่าแทบไม่มีเกมไหนในคอนโซลที่ใช้ฟีเจอร์มากไปกว่านี้เลย

ในด้านการเล่นเกม PC มอนิเตอร์ตัวนี้ใช้คำว่า “เกินพอ” ได้สบาย ๆ เนื่องจากรีเฟรชเรทที่สูงถึง 144hz เมื่อรวมกับความละเอียดระดับ 4K และลำโพง treVolo ในตัว ทำให้น้อยคนมากที่จะใช้ประสิทธิภาพของมอนิเตอร์ตัวนี้ได้เต็มแม็กซ์จริง ๆ

ฉะนั้นถ้าคุณกำลังหามอนิเตอร์ซักตัวที่ “จบ” ได้ทั้งคอนโซล และพีซีในจอเดียวกัน นี่คือคำตอบสำหรับคุณ BenQ MOBIUZ EX3210U

ข้อดี