28 กันยายน 2023 เป็นวันครบรอบ 3 ปีของเกมอนิเมะ Open-World เล่นฟรีอย่าง Genshin Impact แล้วในปัจจุบัน เกมดังกล่าวยังสนุกสนานเหมือนเวอร์ชันแรกหรือไม่ มารู้กันที่บทความรีวิวเกม Genshin Impact ได้เลย
เนื้อเรื่อง
เนื้อเรื่อง Genshin Impact ได้เล่าผ่านมุมมองของตัวละครพี่น้องนักผจญภัยที่มีชื่อว่า “Aether” หรือ “Lumine” ได้ถูกพรากจากกันโดยฝีมือของเทพเจ้านิรนาม “Unknown God” แล้วต่อมา คุณก็ได้หลงอยู่ในดินแดนแห่งหนึ่งที่เรียกว่า Teyvat แล้วบังเอิญเจอกับสิ่งมีชีวิตปริศนาที่เรียกว่า “Paimon” ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิท แล้วออกเดินทางทั่วทวีป เพื่อค้นหาพี่น้องที่หายตัวไปอย่างปริศนา
การดำเนินเนื้อเรื่อง Genshin Impact จะเป็นแบบเส้นตรงที่ระหว่างการผจญภัย ผู้เล่นต้องเจอกับอุปสรรคต่าง ๆ แล้วเข้าไปผัวพันกับปัญหาของแต่ละประเทศที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งระหว่างการเดินทางก็ได้พบปะกับพันธมิตรมากมาย และรวมถึงได้เจอเทพแต่ละองค์ที่พอช่วยให้คำตอบได้ว่าพี่น้องของคุณได้หายตัวไปที่ไหน
แม้ปมปริศนาต่าง ๆ ทำออกมาได้น่าสนใจจนชวนให้อยากติดตามเนื้อเรื่องต่อไป การแสดงของนักพากย์เองก็ทำได้ยอดเยี่ยม และล่าสุด การเคลื่อนไหวลำตัว กับการแสดงอารมณ์ทางใบหน้าของตัวละครในฉากคัตซีนดูมีชีวิตชีวามากขึ้น แต่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา Genshin Impact ก็ยังประสบปัญหาเดิม ๆ ในด้านการเล่าเรื่องด้วยบทสนทนายืดเยื้อมากเกินไป จนทำให้เนื้อเรื่องขาดความน่าสนใจในบางช่วง
แล้วด้วยธรรมชาติของเกม Live Service ที่เน้นการอัปเดตในระยะยาว คุณภาพเนื้อเรื่องของ Genshin Impact จึงมีความแกว่งให้เห็นอยู่บ้าง ยกตัวอย่างแบบชัดเจนที่สุด คือเนื้อเรื่องของ Inazuma ที่ส่วนตัวคิดว่ามีการเร่งเนื้อหาเร็วเกินไป จนกระจายบทตัวละครไม่ลงตัว และจบง่ายเกินไป โดยปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขในเนื้อเรื่อง Sumeru ซึ่งก็คาดหวังคุณภาพเนื้อเรื่องของเกมนี้จะถูกรักษาไว้ต่อไปในเนื้อเรื่อง Fontaine และเนื้อเรื่องเมืองถัดไป
นำเสนอ
โลกของเกม Genshin Impact ตั้งอยู่ในดินแดน Teyvat ที่แต่ละประเทศจะปกครองโดยเหล่าเทพ Archon ซึ่งทุกประเทศมีการออกแบบ และภูมิภาคที่ไม่เหมือนกัน เช่น Mondstadt เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยหญ้า และมีสภาพอากาศลมแรงเกือบตลอดเวลา, Liyue ประเทศเน้นการค้าขาย ที่มีหุบเขาให้ปีนเยอะแยะมากมาย, Inazuma ประเทศหมู่เกาะที่แยกตัวอย่างโดดเดี่ยว, Sumeru ประเทศยักษ์ใหญ่ที่มีทั้งป่าไม้ดิบชื้นกับทะเลทราย และล่าสุด Fontaine เมืองที่โอบล้อมไปด้วยแม่น้ำ ทะเลสาบ กับมีเทคโนโลยีล้ำหน้ากว่าประเทศอื่น
นี่ยังไม่รวมถึง Dragonspine, Chasm และพื้นที่ย่อยอื่น ๆ อีกมากมายที่เปิดให้ผู้เล่นได้สำรวจเอง นอกจากนี้ แต่ละพื้นที่ก็มีประวัติความเป็นมา มีหนังสือเล่าเหตุการณ์ในอดีต กับ Landmark ที่น่าสนใจมากมาย ทำให้ World Building ของเกมนี้เป็นจุดที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับเกม Genshin Impact ที่ผู้เล่นสายอ่านหนังสือ หรือสายอ่าน Lore ต้องหลงรัก
อีกจุดเด่นอย่างหนึ่งสำหรับเกม Genshin Impact ก็คือการดีไซน์ตัวละคร โดยในตอนนี้ Genshin Impact มีตัวละครให้เล่นทั้งหมด 72 คน ซึ่งทุกคนล้วนมีลักษณะนิสัย การแต่งกาย ข้อบกพร่อง การใช้ชีวิต และความคิดเห็นต่อประเทศ กับตัวละครอื่น ๆ ที่แตกต่างกัน โดยเกมเมอร์สามารถเรียนรู้ตัวละครได้มากกว่านี้ จากการทำเควสต์เนื้อเรื่อง ทำเควสต์ Hangout และอัปเลเวล Friendship
ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนล้วนมีตัวละครในดวงใจแตกต่างกัน สำหรับความคิดเห็นส่วนตัว ตัวละครที่ชื่นชอบที่สุดสำหรับผมก็คือ Eula โดยเหตุผลที่ชอบตัวละครนั้นก็เพราะลักษณะนิสัยใจจริงเป็นคนอ่อนโยน ยืนข้างในความถูกต้อง การดีไซน์โดดเด่น และท่าแอนิเมชันพลิ้วไหวงดงามเหมือนกำลังเต้นรำ (ซึ่งเป็นเรื่องสมเหตุสมผล เพราะงานอดิเรกของ Eula คือการเต้นรำ)
เมื่อพูดถึงเรื่องคอนเทนต์ อย่างที่เกมเมอร์หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า Genshin Impact เป็นเกม Live Service ที่เน้นสนับสนุนในระยะยาว ในทุกเวอร์ชันจึงมีกิจกรรมขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ให้เล่น เพื่อแลกเป็นของรางวัลต่าง ๆ เช่น Primogem, เงิน, ทรัพยากร และบางอีเวนต์อาจแจกตัวละคร 4 ดาวด้วย
โดยกิจกรรมใน Genshin Impact ก็มีเกมเพลย์ที่หลากหลาย ซึ่งออกแบบมาให้ทั้งคนเล่นเกมสาย Casual สบาย ๆ ไปจนถึงเกมเมอร์สายจริงที่ชื่นชอบความท้าทาย และที่สำคัญที่สุด แต่ละอีเวนต์จะมีบรรยากาศที่ไม่ซ้ำกัน รวมถึงกิจกรรมจะมีเนื้อเรื่องเป็นของตัวเอง ทำให้เราไม่แทบรู้สึกจำเจกับการทำอีเวนต์
ข้อเสียหลักของกิจกรรมใน Genshin Impact คือไม่มีการรีรันอีเวนต์ เพื่อให้ผู้เล่นหน้าใหม่ได้ลิ้มลองกิจกรรมเก่า และเกือบทุกกิจกรรมจะมีการจำกัด ที่ผู้เล่นต้องเล่นให้จบก่อนที่อีเวนต์จะหายไป ซึ่งก็หมายความว่าถ้าหากอีเวนต์เหลือวันสุดท้าย แต่ยังผู้เล่นยังไม่เริ่มทำ ก็เท่ากับว่าเกมเมอร์ต้องสปีดรันเล่นให้จบภายในวันเดียว
ถึงแม้ Genshin Impact มีกิจกรรมใหม่ ๆ ให้ทำตลอดทุกเวอร์ชัน แต่น่าเสียดายที่คอนเทนต์ “End Game” กลับยังไม่หลากหลายเท่าที่ควร โดยตอนนี้ คอนเทนต์ถาวรที่มีให้ทำมีเพียงแค่โหมด Spiral Abyss และ “เกมกลเจ็ดอัจฉริยะ” ซึ่งเป็นโหมด Trading Card Game ที่อัปเดตเข้าเกมมาตั้งแต่เวอร์ชัน 3.3 ซึ่งเท่ากับว่าถ้าทำคอนเทนต์ดังกล่าวเสร็จทั้งหมดก่อนรีเซตเซิร์ฟเวอร์ และปลดล็อกหีบทั้งหมดแล้ว เท่ากับว่าตัวเกมจะไม่มีคอนเทนต์ให้ทำในช่วง End Game อีกต่อไป นอกเหนือจากการฟาร์มอาร์ติแฟกต์, สมุด EXP, ทรัพยากรสำหรับเลื่อนขั้น และเงิน Mora เท่านั้น ซึ่งก็คาดหวังว่าในอนาคตจะมีคอนเทนต์ End Game ใหม่ในอนาคตคล้ายกับ Honkai: Star Rail ที่มีโหมด Simulated Universe
เกมเพลย์
Genshin Impact เป็นเกมที่มีระบบการต่อสู้เข้าถึงง่าย โดยการโจมตีของเกมนี้จะมี 3 แบบด้วยกัน เช่น การโจมตีธรรมดา การโจมตีโดยใช้สกิล และการโจมตีแบบใช้ท่าไม้ตาย โดยทุกตัวละครจะมีความสามารถ, ประเภทอาวุธที่ใช้, สกิล Passive, สกิลธาตุ, ค่าสถานะ และบทบาทหน้าที่แตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับ Kit เช่น DPS สายทำดาเมจ, Sub-DPS สายสนับสนุนดาเมจ, Support สายสนับสนุนทั่วไปกับบัฟสถานะ และสาย Utility ที่เน้นความสะดวกสบายระหว่างการเล่นกับการต่อสู้
แม้ระบบจะเรียบง่ายมากจนแทบไม่มีอะไร แต่ก็ต้องขอบคุณระบบปฏิกิริยาธาตุที่ช่วยให้ระบบการต่อสู้ของเกมนี้มีความลึก และมีความน่าสนใจ ซึ่งระบบปฏิกิริยาธาตุ ก็คือการโจมตีโดยผสมระหว่างสองธาตุเข้าด้วยกัน จนเกิดผลลัพธ์เป็นเอฟเฟกต์ที่ทำดาเมจสร้างความเสียหายกว่าการโจมตีแบบปกติ หรือเกิดเอฟเฟกต์ดีบัฟที่ทำให้ศัตรูอ่อนแอลง
ซึ่งการโจมตีโดยใช้ปฏิกิริยาธาตุจะสามารถทำได้ ด้วยการสลับเปลี่ยนตัวละครระหว่างการต่อสู้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว การต่อสู้ใน Genshin Impact จึงค่อนข้างมีความรวดเร็ว ต้องมีการจัดทีมอย่างเหมาะสม และจดจำว่าควรสลับเปลี่ยนตัวละครในช่วงเวลาไหน ทำให้แม้ระบบการต่อสู้ในเกมนี้จะเข้าถึงง่าย แต่ก็ต้องใช้เวลาฝึกฝน เพื่อให้เข้าใจระบบทั้งหมด และเล่นจนคล่องแคล่วว่องไวอย่างแท้จริง
และที่สำคัญที่สุด การทำดาเมจไม่ได้มาจากการโจมตีโดยใช้ปฏิกิริยาธาตุเพียงอย่างเดียว แต่จะมาจากค่าสถานะ และ Kit ของตัวละครด้วย ด้วยสังคมเกม Genshin Impact ที่มีขนาดใหญ่ ทำให้เกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์มีการตั้งทฤษฎี Theorycrafting เป็นไกด์บอกวิธี Build ตัวละคร และจับคู่กับสมาชิกที่ทำให้ตัวละครสามารถงัดประสิทธิภาพออกมาอย่างสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ทุกตัวละครในเกมนี้มี Constellation หรือกลุ่มดาวที่สามารถปลดล็อกได้สูงสุดถึง 6 ระดับ ซึ่งหากปลดล็อกแล้วจะเป็นการเพิ่มสกิล Passive ที่ทำให้ตัวละครแข็งแกร่งมากขึ้น หรือเพิ่ม Quality-of-Life จากตัวที่เล่นยากกลายเป็นตัวที่เล่นง่ายได้ โดยกลุ่มดาวจะปลดล็อกจากการได้ตัวละครซ้ำผ่านช่องทางการกด Gacha, การทำกิจกรรม หรือซื้อจากร้านค้า Paimon (ร้านขาย Microtransaction ในเกม)
แม้การปลดล็อกกลุ่มดาวจะทำให้ตัวละครบางตัวเก่ง และเล่นสะดวกขึ้นจริง (โดยเฉพาะตัวละคร 4 ดาว) แต่ในความคิดส่วนตัว เรามองว่ากลุ่มดาวเป็นเพียงแค่ “ของเสริม” ที่จะมีหรือไม่มีก็ได้ เพราะตัวละคร 5 ดาวส่วนใหญ่ในเกมนี้มีความเก่งกาจอยู่แล้ว จนไม่จำเป็นต้องปลดล็อกกลุ่มดาวก็เล่นได้
นอกจากระบบการต่อสู้จะสนุกสนานเข้าใจง่ายแล้ว การผจญภัยของเกมนี้ก็ชวนให้ผู้เล่นอยากสำรวจพื้นที่ในทุกซอกทุกมุม เพราะระหว่างการผจญภัย ผู้เล่นจะเจอหีบสมบัติ เสาเทเลพอร์ต ความท้าทาย และ Puzzle มากมาย ซึ่งของรางวัลใหญ่สุดจากการเปิดหีบ สำเร็จความท้าทาย และแก้ Puzzle ถูกต้อง ก็คือ Primogem หน่วยเงินพิเศษที่สำหรับใช้ในการกดตู้ Gacha
เนื่องจาก Primogem มีมูลค่าสูง และระหว่างทางต้องเจอกับ Puzzle กับความท้าทายมากมายให้ทำระหว่างเดินทางตลอดเวลา จึงทำให้ผจญภัยในเกมนี้มีความเพลิดเพลินในระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ แต่ละพื้นจะที่มีอุปกรณ์ช่วยสำหรับการเดินทางสะดวก ซึ่งช่วยให้การเดินจากจุด A ไปจุด B รวดเร็วขึ้น และได้ใช้ลูกเล่นต่าง ๆ ที่ทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่อจนเกินไป
อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องกล่าวถึงสำหรับเกม Genshin Impact ก็คือ Quality-of-Life ซึ่งตอนแรก เกมดังกล่าวถูกวิจารณ์จากหลายคน และผมเองก็เห็นด้วยว่าเกมมี QoL เข้าขั้นแย่ ฟีเจอร์หลายอย่างที่เกมอื่นมีแต่เกมนี้กลับไม่มี ด้วยข้อจุกจิกต่าง ๆ ก็ส่งผลทำให้ความสนุกสนานในการเล่นเกมลดลงได้เช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากเกมอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 4.0 ก็พบว่า QoL ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด เช่น ผู้เล่นสามารถดูแผนที่แบบหลายชั้นได้แล้ว, เพิ่มช่องเก็บอาร์ติแฟกต์ได้สูงสุดเป็น 1,800 ช่อง แล้วในอนาคตข้างหน้า ผู้เล่นจะสามารถรับรางวัลจากการทำภารกิจประจำวันครบ 4 ภารกิจผ่านหน้าเมนูได้แล้ว โดยไม่ต้องวาร์ปไปหา NPC ชื่อว่า “Katheryne” ทุกครั้งให้เสียเวลา
แม้ QoL ยังคงมีการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง แต่สังเกตว่าการอัปเดต QoL แบบยกใหญ่จะเกิดขึ้นใน Patch เพิ่มประเทศใหม่ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าระยะเวลารออัปเดต QoL ในเกม Genshin Impact นั้น จัดว่าช้าพอสมควร แต่เนื่องจากล่าสุด ทีมงานได้เผยแผนการอัปเดต QoL ในอนาคตที่ถี่มากขึ้น จึงไม่แน่ว่าทีมงานได้เริ่มให้ความสำคัญกับ QoL แล้วในจุดนี้
ถึงอย่างนั้น Genshin Impact ยังมีห้องว่างมากมายที่สามารถปรับปรุง QoL ให้ดีขึ้น ส่วนตัวยังคาดหวังว่าในอนาคต เกมจะมีปุ่มสำหรับกด Skip ไว้สำหรับข้ามบทสนทนาในเควสต์ประจำวัน, มีระบบรับแต้ม Battle Pass เองโดยอัตโนมัติ และที่สำคัญที่สุด ลดความทรมานจากการฟาร์มอาร์ติแฟกต์
จากประสบการณ์การเล่นเกม Genshin Impact มา 3 ปี คิดว่าการฟาร์มอาร์ติแฟกต์คือสิ่งที่แย่ที่สุดของเกมนี้ ซึ่งอาร์ติแฟกต์ คือเครื่องประดับที่ผู้เล่นสามารถสวมใส่ได้ เพื่อให้ค่าสถานะของตัวละครสูงขึ้น โดยอาร์ติแฟกต์สามารถฟาร์มได้จากการตะลุยดันเจี้ยน Domain พร้อมต้องสูญเสีย Resin (ค่า Energy ของเกม) เป็นจำนวน 20 อัน
เพราะรางวัลอาร์ติแฟกต์จากการเคลียร์ Domain จะเป็นการสุ่มค่าสถานะหลัก และค่าสถานะรองทั้งหมด ทำให้ผู้เล่นต้องใช้เวลานาน และใช้ Energy อย่างมหาศาลในการสุ่มหาอาร์ติแฟกต์ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถูกใจ
แม้ Genshin Impact มีระบบแลกอาร์ติแฟกต์ 3 อัน เพื่อสุ่มเอาอาร์ติแฟกต์ใหม่ 1 อัน แต่สุดท้ายแล้ว ก็จะเป็นการสุ่มค่าสถานะหลัก และค่าสถานะรองอยู่ดี เนื่องจากการหาอาร์ติแฟกต์เทพ ๆ มาใช้งานนั้นมันได้มายากมาก ทำให้การฟาร์มอาร์ติแฟกต์คือช่วงเวลาลูปนรกอย่างแท้จริง จนผมขอภาวนาว่าอยากให้ทีมงานได้ใจดีกับการดรอปอาร์ติแฟกต์มากกว่านี้
สุดท้ายก็ต้องพูดถึงระบบ Gacha กันสักหน่อย โดยอัตราการออกตัวละครระดับ 5 ดาวสำหรับเกมนี้จะอยู่ที่ 0.06% และอัตราการออกอาวุธระดับ 5 ดาวอยู่ที่ 0.07% ซึ่งจัดว่าเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมากหากเทียบกับมาตรฐานเกม Gacha หลายเกม
อย่างไรก็ตาม แม้อัตราการดรอปตัวละคร และอาวุธระดับ 5 ดาวจะน้อยมาก แต่อีกด้านหนึ่ง ระบบ Gacha เกมนี้ก็มีความใจดีอยู่บ้างตรงที่จะออกการันตี 5 ดาวในโรลที่ 90 สำหรับตู้ตัวละคร และโรลที่ 80 สำหรับตู้อาวุธ รวมถึงตั้งแต่โรลที่ 64 เป็นต้นไป เปอร์เซ็นต์ในการดรอปความแรร์ระดับ 5 ดาวจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นในทุกโรล
ถึงอย่างนั้น ผู้เล่นยังต้องลุ้น 50-50% อีกทีว่าจะออกตัวละคร 5 ดาวตรงตามตู้หรือไม่ ถ้าหากได้ตัวละครไม่ตรงตามตู้ ว่ากันตามเทคนิคแล้ว ก็เท่ากับว่าครั้งถัดไป ถ้าผู้เล่นได้ตัวละคร 5 ดาวจากการกดตู้ Gacha แบบ Limited ก็จะเป็นการการันตีว่ามีโอกาสดรอปได้ตัวละครตรงตามตู้อย่างแน่นอน
เนื่องจากตู้ Gacha อาวุธ มักมีอาวุธ Limited จำนวน 2 อันมาพร้อมกันในตู้เดียว จึงทำให้เปอร์เซ็นต์ในการดรอปอาวุธ 5 ดาวที่เล็งเป็นพิเศษไว้นั้น จะมีโอกาสออกยากกว่าตัวละคร 5 ดาว แล้วถ้าหากถามผมว่าการกดตู้ Gacha อาวุธนั้นมันคุ้มค่าหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่ามันก็แล้วแต่ว่าอาวุธดีมากน้อยแค่ไหน ถ้าหากอาวุธดีเยี่ยม ใช้ได้กับหลายตัวละคร เราก็อาจพิจารณากด Gacha ตู้อาวุธ แต่หากอาวุธไม่ดี หรือเพิ่มความเก่งกาจให้ตัวละครเพียงเล็กน้อย แน่นอนว่าเราก็จะข้ามการกดตู้อาวุธโดยไม่ลังเลเช่นกัน
กราฟิกและประสิทธิภาพ
เนื่องจาก Genshin Impact เป็นเกม Open-World ที่มีการอัปเดตเพิ่มพื้นที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ผู้เล่นหลายคนอาจจะรู้สึกกังวลว่าเกมดังกล่าวจะกินสเปค PC, เครื่องเกมคอนโซล และมือถือหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ขอให้มั่นใจได้เลยว่าเกมดังกล่าวไม่ค่อยกินสเปก PC และเครื่องเกมคอนโซลสักเท่าไหร่นัก
ในทุกการอัปเดต Genshin Impact เวอร์ชัน PC และ PlayStation 5 แทบไม่เจอกับปัญหาเรื่องประสิทธิภาพ หรือ Glitch ต่าง ๆ ที่ทำให้สูญเสียอรรถรสในการเล่น จากการเล่นผ่าน PC โดยใช้ CPU Intel Core i5-9600K และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2070 Super พร้อมกับตั้งค่ากราฟิกสูงสุดทุกอย่าง ด้วยภาพความละเอียดคมชัดระดับ 1080p มาตลอด 3 ปี พบว่าตัวเกมยังรักษาเฟรมเรตไว้ได้ที่ 60FPS แม้ยังมีโอกาสเจออาการเฟรมสะดุดที่น้อยถึงน้อยมากที่สุด แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาร้ายแรงมากจนถึงขั้นประสบการณ์ในการเล่นเกมได้ถูกทำลาย ฉะนั้น PC สเปคระดับกลางก็ยังสามารถเล่นเกมนี้ได้อย่างสบาย ๆ
ส่วนเกมเวอร์ชัน PlayStation 5 รันด้วยภาพความละเอียดคมชัดระดับ 4K (Native) รองรับ HDR พร้อมตั้งเป้าหมายว่าเกมต้องรันนิ่งที่ 60 FPS ด้วยเหตุผลดังกล่าว ภาพกราฟิก เอฟเฟกต์แสง และ Texture ในเกมเวอร์ชันนี้จึงคมชัดกว่าเวอร์ชัน PC แบบเล็กน้อย และสีของเกมมีความสดใสเป็นอาหารตา นอกจากนี้ ตัวเกมใช้เวลาโหลดที่สั้นมาก ๆ ทำให้การเล่นเกมมีความรู้สึกที่ต่อเนื่อง
ข้อเสียเล็ก ๆ สำหรับด้านประสิทธิภาพของเกมเวอร์ชัน PlayStation 5 คือเฟรมเรตจะมีอาการตกร่วงเล็กน้อย เมื่อมีเอฟเฟกต์บนหน้าจอเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัญหานี้มักจะเห็นได้บ่อยระหว่างการเล่นโหมดความท้าทาย Spiral Abyss ระดับยาก แม้เฟรมเรตจะไม่ได้ร่วงแบบหนักหนาสาหัสจนถึงขั้นเล่นไม่ได้ แต่อาการดังกล่าวก็เกิดขึ้นให้เห็นช่วง ๆ ซึ่งอาจสร้างขัดใจให้กับผู้เล่นบางคนได้เช่นกัน
สุดท้ายก็มาพูดถึงเกมเวอร์ชันมือถือ ซึ่งอาจจะบอกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับการเล่นเกม Genshin Impact น้อยที่สุด เพราะจากการทดลองเล่นเกมใน iPad Air 5 ซึ่งใช้ชิปประสิทธิภาพเกือบเรือธงอย่าง M1 พบว่าเกมดังกล่าวสามารถรันเฟรมเรต 60 FPS ได้นิ่ง ๆ จากการตั้งค่ากราฟิกระดับต่ำ และอาการเฟรมเรตตกจะเริ่มให้แสดงให้เห็นเมื่อปรับภาพกราฟิกเป็นระดับกลางจนถึงระดับสูง
นอกจากนี้ เมื่อเล่นเกมโดยตั้งค่ากราฟิกระดับกลาง-สูง 60 FPS หลังจากใช้เวลาเล่นผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ก็ค้นพบว่าเครื่อง iPad Air 5 มีอุณหภูมิค่อนข้างร้อน แม้ยังไม่ถึงขั้น Overheat แต่แน่นอนว่าหากเล่นเกม Genshin Impact ใน iPad เป็นเวลานาน ก็อาจมีความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้เช่นกัน ฉะนั้นถ้าหากต้องเล่นเกม Genshin Impact ผ่านมือถือหรือแท็บเล็ตโดยรักษาอุณหภูมิให้คงที่ไว้ เราแนะนำให้ปรับกราฟิกระดับต่ำ และตั้งค่าเฟรมเรตให้รันสูงสุดที่ 30 FPS
ซึ่งถ้าหากถามว่าแพลตฟอร์มไหนเหมาะสำหรับการเล่นเกม Genshin Impact มากที่สุด เราก็คงต้องตอบว่าเวอร์ชัน PC กับ PlayStation 5 เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แม้ไม่ปฏิเสธว่าการนำเกม Open-World มาลงในอุปกรณ์มือถือได้นั้น เป็นสิ่งที่ทำให้เกมเมอร์หลายคนต้องรู้สึกประทับใจ และ Genshin Impact ได้กลายเป็นเกมมาตรฐานสำหรับใช้ในการ Benchmark ประสิทธิภาพของอุปกรณ์มือถือและแท็บเล็ต แต่สุดท้าย เนื่องจากประสิทธิภาพของเกมยังสู้เวอร์ชัน PC กับเครื่องเกมคอนโซลไม่ได้ เราจึงแนะนำให้ใช้มือถือเป็นเครื่องสำรองสำหรับเล่นเกม Genshin Impact จะเหมาะสมกว่า
แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Genshin Impact เป็นเกมที่มีขนาดใหญ่มาก จึงมีข้อเสียตามมาอีกข้อหนึ่งคือเป็นเกมที่กินเนื้อที่ Storage เยอะ โดยล่าสุด เกมดังกล่าวกินเนื้อที่ไปแล้วเกือบถึง 100 GB (ในมือถือกินเนื้อที่ราว 20-30 GB) ฉะนั้นก่อนติดตั้งเกม ควรตรวจสอบว่าเนื้อที่ใน PC, เครื่องเกมคอนโซล และอุปกรณ์มือถือมีเพียงพอสำหรับเกมนี้หรือไม่
สรุป
ผ่านไป 3 ปี Genshin Impact ยังคงเป็นเกมอนิเมะ Open-World ที่รักษามาตรฐานได้ดี ด้วยการขยันอัปเดตคอนเทนต์ใหม่ในทุกเดือน มีกิจกรรมใหม่ ๆ ให้ทำตลอด และเพิ่มตัวละคร กับพื้นที่ใหม่ที่ผ่านการคราฟต์มาอย่างดี แม้ปัญหาจุกจิกบางอย่างยังไม่ได้รับการแก้ไข และ Quality-of-Life สามารถปรับปรุงให้ดีกว่านี้ได้ แต่โดยรวมแล้ว ประสบการณ์การเล่นเกมที่ได้จาก Genshin Impact ยังเต็มไปด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลิน ด้วยการผจญภัยในโลกอันกว้างใหญ่ และระบบการต่อสู้ที่เข้าถึงง่ายแต่มีความลึก