ภาคแรกไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่ภาคนี้ ฮิตระเบิดระเบ้อ เล่นกันทั่วบ้านทั่วเมือง อะไรทำให้เกมนี้โดนใจผู้เล่นขนาดนั้น ขอเชิญพบกับบทความรีวิว Helldivers 2
Story
Helldivers 2 คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลายร้อยปีนับจากภาคแรก Super Earth คว้าชัยชนะในการต่อสู้เหนือทุกเผ่าพันธุ์ ยุคแห่งสันติภาพได้เริ่มต้นขึ้น และเมื่อไฟสงครามมอดดับ กองกำลังทหารก็ไร้ซึ่งความจำเป็น เหล่า Helldivers ทยอยถูกไล่ออกและปลดประจำการ และด้วยเทคโนโลยีการเดินทางแบบใหม่ที่ทำให้ Super Earth เดินทางได้เร็วกว่าแสง ทำให้ Super Earth สามารถเข้าถึงกาแลกซี่ต่าง ๆ ได้มากมาย และก่อตั้งอาณานิคมขึ้นมา และสารตัวหนึ่งที่มีค่ามาก ๆ ในยุคนี้คือ E-710 ที่สามารถหาได้จาก Terminids หนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่กำลังสูญพันธุ์จากการแพ้สงคราม แต่เหล่า Super Earth อยากได้ E-710 มากขึ้น จึงเริ่มเพาะเลี้ยง Terminids ขึ้นมาใช้งานในระดับอุตสาหกรรม
แต่ความบรรลัยก็บังเกิด เมื่อ Terminids หลุดออกจากการเพาะเลี้ยงและเริ่มแพร่กระจายไปทั่วกาแลกซี่ ไฟสงครามที่มอดดับ กลับมาคุกรุ่นอีกครั้ง กองทัพ Super Earth พยายามดิ้นรนต่อสู้ แต่แน่นอนว่าฝีมือไม่มากพอ พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องระดมพลเหล่า Helldivers ขึ้นมาอีกครั้ง ภารกิจของเหล่า Helldivers คราวนี้ จึงเป็นการต่อสู้ และกอบกู้เอา Super Earth คืนมาและต้องหยุดการแพร่กระจายของพวก Terminids ไปในตัวให้ได้
สิ่งที่สร้างสรรค์มาก ๆ ของการเล่าเรื่องในเกมนี้ก็คือ เนื้อเรื่องของเกมมันกำลังจะไปในทิศทางไหน ผู้เล่นเกมนี้ทั้งหมดจะเป็นคนควบคุมด้วยตัวเอง เมื่อเราไปที่แผงคอนโซลในการหาห้องเล่นเกมหรือ Matchmaking เราจะเห็นดวงดาว Super Earth อยู่ตรงกลาง ขนาบข้างด้วยสองศัตรูหลักในเกมภาคนี้ ก็คือพวก Terminids และเหล่า Automatons จักรกลสุดโหดที่หลายคนน่าจะโดนมันจัดการกันไปไม่น้อย หากเรากดเข้าไปดูข้อมูล เราจะเห็นพื้นที่ดาวเคราะห์ดวงต่าง ๆ ว่าได้รับการปลดปล่อยจากกองกำลังศัตรูไปแล้วเท่าไร นั่นหมายความว่า ผู้เล่นเกมนี้ทุกคนมีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่อ Super Earth และเดินหน้าปลดปล่อยอิสรภาพดวงดาวคืนไปพร้อมกันทุกคน มันดูยิ่งใหญ่มาก เป้าหมายของผู้เล่นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันสุด ๆ ถึงขั้นที่ในชีวิตจริง มีการรายงานสถานการณ์ มี Community คนเล่นบอกว่าสถานการณ์เป็นยังไงบ้าง อันนี้เจ๋งจริง ๆ
แต่ในด้าน Lore หรือเนื้อหาอื่น ๆ เราสามารถวิ่งไปตามดูได้ในไอเทมที่เราสามารถกด Interact ระหว่างฉาก อาจจะไม่ได้ข้อมูลอะไรเยอะมาก แต่ก็ทำให้เราได้รับรู้เรื่องราวเสริมที่เพิ่มมากขึ้น สำหรับ Helldivers 2 ผมว่านี่อาจจะเป็นมาตรฐานใหม่ของการทำเกม Multiplayer และใส่การเล่าเรื่อง ใส่เนื้อหาลงไปด้วย และที่สำคัญเป็นเนื้อหาที่ไม่ได้ทำให้ผู้เล่นทะเลาะหรือขัดแย้งกันเลย แต่ทุกคนล้วนมีเป้าหมายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ปลดปล่อยอิสรภาพแห่ง Super Earth แค่พูดยังขนลุกฮึกเหิมแล้ว ในแง่ของความแหวก แปลกใหม่ของเนื้อเรื่อง อาจจะไม่มีอะไรใหม่ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความอิน และความล้ำในการนำเสนอ เกมนี้ เอาไปเต็ม ๆ
Presentation
ถ้าจะมีสักเกมที่นำเสนอแบบสุดโต่งแถมยอดเยี่ยมแบบเหนือความคาดหมาย ในปีนี้ก็คงต้องยก Helldivers 2 เป็นหนึ่งในนั้น ด้วยความที่หลากหลายอย่างของเกมนี้ มันล้อหนังชื่ออย่าง Starship Trooper เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในขณะที่หนังมันเอะอะก็คอมมิวนิสต์ ๆ พอเป็นเกมนี้เลยจัดคำว่า Democracy ซะจนหลอนหู เอะอะก็ประชาธิปไตย ๆ ขนาดรีโหลดกระสุน กระโดดหลบการโจมตี เรียกของ ตัวละครมันยังตะโกนประชาธิปไตย ๆ กันรัว ๆ และที่สำคัญที่เราไม่ได้เห็นกันบ่อย ๆ ก็คือเกมนี้แทบจะรวมเหล่าเกมเมอร์ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทุกคนล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือแจกจ่ายประชาธิปไตย ปกป้อง Super Earth ถึงขั้นที่แฟน ๆ ชาว PlayStation บางคน อยากให้เกมนี้ลง Xbox จะได้ครอสแพลตฟอร์มมาช่วยเพิ่มยอดผู้เล่นและช่วยกันสู้ แม้มันจะยังไม่เกิดขึ้นจริง แต่ถ้าปีนี้ เกมนี้ได้เข้าชิงรางวัลสาขา Games for Impact ผมว่าก็สมควร
เอาล่ะ มาเข้าเรื่องในเกมกันบ้าง นอกจากการขายประชาธิปไตยแบบสุดโต่งแล้ว หลาย ๆ อย่างในเกมเขาก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน อย่างแรกคือ Ragdoll Animation ถึงมันจะดูตลก แต่มันก็ดูสมจริงในคราวเดียวกัน เวลาเราโดนโจมตี โดนแรงระเบิด เวลายิงอัดศัตรู ทั้งเราและศัตรูจะได้รับดาเมจแบบถึงเลือดถึงเนื้อ สะใจและรุนแรงมาก ๆ เสียงปืน เสียงกระสุน เสียงระเบิด ป้อมปืน จะปืนกล มอร์ตา หรืออีเกิลสไตร์ค นี่คือเกมที่จัดเต็มเรื่องเสียงมาก เล่นแบบใส่หูฟังดี ๆ หูแทบแตก ระวังกันเอาไว้ด้วย พอมันผสมเข้ากับ Ragdoll Animation มันเลยเจ๋งแบบแพคคู่ไปเลย อันนี้ไม่ใช่แค่เกมเมอร์ทั่วไป หรือเราที่ชมกันนะ เพราะทีมพัฒนาเกมทีมอื่น ๆ เขาเห็นตรงส่วนนี้ เขายังทึ่งเลย ว่ามันทำขนาดนี้ได้ยังไง
กราฟิกของตัวเกม ใครที่ติดตามข่าวสารในเพจ GamingDose จะรู้ว่า เอนจิ้นที่เขาใช้ทำเกมนี้ มันคือเอนจิ้นที่ยุติการสนับสนุนไปแล้วเรียบร้อย มันคือ BitSquid หรือที่ลหายคนอาจจะเรียกว่า Autodesk Stingray มันคือเอนจิ้นที่ไม่มีการอัปเดตมานานกว่า 5 ปีแล้ว แต่ทีมสร้างเกมนี้เขาก็ไปนั่งจัดการ แก้ไขเอนจิ้นให้มันใช้งานได้ดี แถมยังรันได้อย่างราบรื่นเสียด้วย เอาง่าย ๆ คอมพิวเตอร์มือกราฟิกของ GamingDose เราคนนึง ใช้ HDD ทั่วไป ใช้การ์ดจอ GTX 1660 ยังสามารถเล่นได้แบบแตะ 60 เฟรม ถ้าเป็นเกมอื่นในปี 2024 นี้มันน่าจะยากแล้ว แต่เกมนี้ทำได้ อันนี้ไว้เจาะลึกกันในส่วนของ Performance อีกที แต่เรายืนยันว่า ภาพสวย ๆ ของเกมนี้ ไม่ได้ใช้สเปคคอมสูงอย่างที่คิด
และที่ทุกคนตราตรึงแน่นอน เพลงประกอบ อื้อหือ ไม่รู้จะ Build อะไรเราขนาดนั้น คือถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพลงเดิม ดนตรีเดิมตลอด แต่ฟีลลิ่งมันได้ จะอัดใส่หูเราอีกสักกี่รอบมันก็ยังรู้สึกตื่นเต้น ฮึกเหิมอยู่เสมอ ทั้งจังหวะสู้รบ จังหวะหนีเอาตัวรอด ดนตรีและเพลงเกมนี้มันปลุกใจเรากันแบบเต็มที่
การดีไซน์ของเกมนั้นเป็นอะไรที่เชื้อเชิญให้ผู้เล่นต้องเล่นกันเป็นทีม ไม่ว่าจะเป็นการเก็บไอเทม Material ต่าง ๆ ขอแค่มี 1 คนเก็บ ที่เหลือในทีมก็จะได้ด้วยกันหมด ตัดปัญหาแย่งกันเก็บไอเทม และเวลาตายเนี่ย แม้ไอเทมทั้งหมดจะดรอปลง แต่พวก Material ขอแค่มีคนอื่นไปเก็บ เราก็ได้คืนแล้ว มันแก้ปัญหาเรื่องแย่งเก็บของกันได้หมดจดมาก แต่พวกอาวุธ กล่องกระสุน ปืนพิเศษพวกนี้ ถ้าคนอื่นเก็บไปแล้ว เราก็อาจจะซึมนิดนึง แต่ไม่มีปัญหาอะไรขนาดนั้น
และแม้จะไม่ใช่เกมแบบ Live Services แต่คอนเทนต์ของมันก็หนักไปในด้านออนไลน์ซะเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นแบบ Co-op ระบบเนื้อเรื่องที่ทั้งเซิร์ฟเวอร์ช่วยกันขับเคลื่อน และที่เด็ดเลยคือพวกระบบ Battle Pass และระบบขายของในเกมนี้ก็ทำออกมาได้ดีจนหลายคนชื่นชม สำหรับ Battle Pass ทั้งของฟรีและของแพง จะใช้วิธีการเก็บเลเวลเหมือนกันคือจบภารกิจแล้วรับ Warband Point มาปลดล็อค ทุกคนสามารถเล่นและปลดล็อคของเหมือน ๆ กันหมดได้ แถมที่สำคัญยังมาพร้อมกับแต้มเติมเงินที่เยอะมาก ๆ เอาไว้ซื้อชุด Cosmetic สวยงามไว้แต่งหล่อแต่งเท่ไปอวดชาวบ้านได้อีก กลายเป็นว่าระบบเกมนี้มันลงตัวมาก ไม่ต้องฝืนอะไรมากมาย ก็กลายเป็นระบบออนไลน์ที่สมบูรณ์แบบได้ในตัวมันเอง
ในแง่ชั่วโมงความยาวคอนเทนต์ของมัน คุณจะเล่นได้เรื่อย ๆ จนกว่าคุณจะเบื่อ หรือปลดล็อค Stratagems ทั้งหลายครบ ซึ่งมันก็เยอะมาก แถมดูแล้วมันยังมีอัปเดตอีกเพียบตามมาแน่ ๆ เหมือนตอนภาคแรก และเชื่อว่าฐานแฟนเกมนี้น่าจะยังสนับสนุนประชาธิปไตยกันไปอีกนาน จะเล่นตอนนี้ หรือรอลดแล้วค่อยกด ยังไงก็น่าจะคุ้มแน่นอน
Gameplay
Helldivers 2 ถือว่าเป็นเกมที่หลายคนชื่นชอบ รอคอย หรือต้องการเลยก็ว่าได้ จะไปมีใครอยากเล่นอะไรยาก ๆ ตลอดเวลา และแม้ว่า Helldivers 2 จะเป็นเกมยาก แต่มันก็ไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น ตัวเกมมีความยากที่แตกต่างกันมากถึง 9 ระดับให้เราได้เลือกเล่นกัน ถึงแม้จะมีไอเทมอัปเกรดบางอย่างที่ต้องเล่นความยากระดับสูงเท่านั้น แต่การไปสุ่มหาห้องความยากต่ำเล่น ก็ถือเป็นการช่วยผู้เล่นคนอื่น ๆ หรือแม้กระทั่งช่วยดาวเคราะห์รอบ ๆ Super Earth ดังนั้น อยากเล่นยากหรือง่าย ก็เลือกเลยตามสะดวก
เกมเพลย์ของ Helldivers 2 นั้นจะเน้นไปที่ Objective ที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน ขอแค่อ่านก็จะรู้เลยว่าต้องไปที่ไหน และทำอะไรบ้าง และเมื่อทำภารกิจหลักเสร็จ เราก็จะต้องไปยังจุดเรียกยาน เพื่อหลบหนีออกจากพื้นที่ภารกิจ เป็นอันเสร็จสิ้น แต่ทำแบบนี้มันก็จะไม่ค่อยสนุกสินะ พวกแมลง พวกจักรกลมันยังไม่ทันได้ลิ้มรสประชาธิปไตยกันเลยนี่.. นอกจากการทำภารกิจหลัก สิ่งสำคัญเลยคือการออกสำรวจพื้นที่ภารกิจนั้น ๆ โดยมีหลายพื้นที่ให้เราไปสำรวจ และได้ของรางวัลตอบแทนให้สมกับที่เสี่ยงอันตรายไปสำรวจกันมา ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่รังแมลง ที่ต้องใช้ระเบิดปิดปากรัง หรือยิงทำลายไข่แมลง ถ้าเป็นพวกจักรกลก็อาจจะเป็นการช่วยเหลือเหล่าวิศวกรออกจากพื้นที่ หรือบางจุดก็จะเป็นไอเทมให้เราเก็บตรง ๆ ไปเลย ส่วนใหญ่แล้วไอเทมที่ได้จากอะไรพวกนี้จะเป็น Materials ที่ใช้ในการปลดล็อคอาวุธหรือ Supply ใหม่ ๆ และใช้อัปเกรดโมดูลของยานที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการต่อสู้ของเราทางอ้อม
ถ้าให้อธิบายง่าย ๆ มันคือเกมที่เล่นแบบจบเป็นรอบ ๆ ไป ผลตอบแทนจะมากหรือจะน้อย ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราทำภารกิจเสริมมากน้อยแค่ไหน และมันจะสรุปรวมให้หลังจากที่เราหลบหนีออกมาจากดาวดวงนั้นได้ หรือก็คือการจบภารกิจนั่นเอง ดังนั้นพวกที่จะเข้าไปฟาร์มด้วยการเก็บของ กดออกเลย เสียใจด้วยนะครับ มันไม่นับ ซึ่งการออกแบบระบบแบบนี้ มันเลยทำให้สมาชิกทุกคน จำเป็นจะต้องร่วมมือกันเพื่อเอาตัวรอด เพื่อคว้าของรางวัลกลับไปให้มากที่สุด และต้องหลบหนีออกมาให้ได้ด้วย ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะยังมีพวกเกรียนอยู่บ้าง แต่ถ้าเทียบกับเกมอื่น ๆ แล้ว เกมนี้ก็น้อยพอสมควร
เราสามารถเลือกดาวแต่ละดวงที่จะแลนด์ดิ้งไปทำภารกิจได้ แต่ละดาวจะมีสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศที่ต่างกัน บางดาวก็ดูน่าเดินเล่น สวยงามมาก แต่บางดาวนี่ร้อนระอุไม่พอ แสบตาโคตร ๆ โชคดีที่เราเลือกดาวที่จะเล่นได้ ไม่งั้นคงทรมานสายตาน่าดู แต่สุดท้ายทุก ๆ การกระทำ ทุก ๆ การเอาชนะในพื้นที่ เท่ากับว่าเรากำลังปกป้อง Super Earth อยู่ดี
ในด้านของระบบการต่อสู้ เกมนี้เราจะมีอาวุธให้ใช้ 3 อย่าง อาวุธหลัก อาวุธรองและอาวุธหนัก การรีโหลดกระสุนปืนในเกมนี้ จะเป็นการรีโหลดแบบทิ้งทั้งแม็ก ใครไม่ชินมาเล่นครั้งแรกนี่น่าจะกระสุนหมดกันเร็วมาก เราสามารถเติมกระสุน ยาฟื้นพลัง และระเบิดได้จากการเรียก Resupply และ และจากสกิลหรือ Stratagem ที่อัปเกรดปลดล็อคมาด้วย พอสายการอัปเกรดมันหลากหลาย บวกกับเกมมันรองรับการเล่นมากถึง 4 คน ทำให้เราสนุกกับการแต่ง Loadout มาก ๆ การจะปลดล็อคอะไรพวกนี้ก็ต้องเล่นซ้ำ ๆ เพื่อหาแต้ม Material มาอัปเกรดทั้ง Stratagem และ Ship Module และยิ่งจะอัปเกรดขั้นสูงเท่าไร มันก็จะต้องให้เราไปเล่นในระดับความยากที่สูงมากขึ้นเท่านั้น เป็นการบีบทางอ้อมว่าจะเล่นอยู่แต่ระดับความยากเดิม ๆ ไม่ได้ ไม่งั้นคุณจะไม่สามารถอัปเกรดความสามารถสูง ๆ ได้เลย
ความสนุกในการเล่นเกมนี้ คือการที่มัน Freestyle Friendly Fire นี่ล่ะ ทุกการกระทำ ทุกแอ็คชั่นของเรา มันสามารถพลั้งพลาดไปสังหารเพื่อนร่วมทีมตัวเองได้ทั้งหมด กระสุนปืนเอย อุปกรณ์เสริมเอย ระเบิดเอย คือทุกอย่างทุกการกระทำของเรา ถ้าไม่ระวังให้ดี มันพร้อมที่จะฆ่าเราและเพื่อนร่วมทีมได้เสมอ แต่แทนที่มันจะกลายเป็นเกมยาก มันกลับกลายเป็นเกมที่สร้างเสียงหัวเราะกันเป็นหมู่คณะ และแฟนเกมที่เล่นเกมนี้ก็จะรู้กันดีว่ามันผิดพลาดกันเป็นเรื่องปกติ ยกเว้นแต่เจตนายิงนั่นอีกเรื่องนึง ทำให้เกมนี้ จะเล่นคนเดียว เล่นเป็นกลุ่ม หรือกดสุ่มไปเจอคนอื่น ๆ มันก็สนุกได้ทั้งนั้น มันคือผลพวงจากการดีไซน์เกมเพลย์ที่ดีมาแต่แรก หรือต้องบอกว่าดีมาตั้งแต่ภาคแรกเลยก็ว่าได้
เพียงแต่ในความยากระดับที่สูงขึ้น อาจจะต้องใช้ความจริงจัง ใช้การอัปเกรด Module Ship และ Stratagem ที่มากขึ้นมาช่วย ไม่งั้นการเล่นจะลำบากโดยไม่จำเป็น ใครยังรู้สึกว่าเล่นไม่ไหว สกิลยังโหดไม่พอ ก็ไปวนฟาร์มในด่านที่ไหวก่อนก็ได้เหมือนกัน แถมช่วงหลังมานี่ พวกผู้เล่นเก่ง ๆ ก็เริ่มจะเป็นงานกันแล้ว พาเดินยิง ลุยยิงกันอย่างมัน แต่มันก็ยังยากอยู่ดี เพราะเกมนี้ มันไม่ใช่เกมที่ One Man Show ได้ แต่ก็ทำให้เกมสนุกมากขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว
และผู้พัฒนาเขายืนยันแล้วว่า นี่คือเกม PvE ล้วน ๆ ถ้าอยากได้โหมด PvP ให้ไปเล่นเกมอื่น ผมว่านี่แหละดีแล้ว คือบางทีเราก็อยากได้เกมที่มันช่วยกันเล่นแบบจริง ๆ จัง ๆ ไม่ต้องไปฟาดกับผู้เล่นอื่น มันให้ฟีล Left 4 Dead อยู่เหมือนกัน เปลี่ยนจากยิงซอมบี้มาเป็นยิงแมลง ยิงหุ่นยนต์ และถ้าโรดแมปการอัปเดตของพวกเขายังคงไปได้สวยเรื่อย ๆ เกมนี้น่าจะฮิตไปอีกนานหลายปีเลยทีเดียว
ถ้าจะให้พูดถึงข้อเสียก็น่าจะเป็นเรื่องของการที่เราต้องเล่นกับคนอื่นตลอดเวลา การกดเล่นคนเดียวมันทำได้ แต่มันเสียเวลา และไม่คุ้มค่ามาก ๆ เอาจริง ๆ ผมคนหนึ่งละ ที่ไม่ค่อยชอบการต้องไปเล่นร่วมกับคนอื่นตลอดเวลา แต่เกมนี้มันทำได้สนุกดี ก็พอจะให้อภัยกันได้ แต่บางคนที่ไม่ชอบการไป Join เล่นกับชาวบ้าน ก็อาจจะติดอยู่กับเกมนี้ได้ไม่นานนัก เอาเป็นว่ามันคือข้อเสียแบบเฉพาะบุคคลละกัน ผมไม่ได้นับมาใส่ไว้ในคะแนนรวม
ถ้าคุณกำลังมองหาเกมยิงมัน ๆ เล่นได้เรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก รักประชาธิปไตย ใส่นัวกันทุกแมทช์ Helldivers 2 เป็นเกมที่มีให้คุณทุกอย่าง ไม่ต้องฝืนเข้าเกมทุกวัน ไม่ต้องไปพยายามแข่งกับใคร ไม่ต้องมานั่งเถียงกันเรื่องเมต้า ที่ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีบ้าง แต่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไรนัก ผมว่านี่คือเกมที่เหมาะกับคุณมาก ถ้าอนาคตเขาไม่ใส่อะไรแปลก ๆ จนโดนด่าล่ะก็นะ
Performance
ขอหยิบยกเอาจากที่เราบอกไว้ในหมวด Presentation ข้างบนเลย เกมนี้ลงให้สองแพลตฟอร์ม คือ PS5 และ PC และเราได้มีโอกาสสัมผัสทั้งสองเครื่อง และมันก็ทำได้น่าประทับใจทั้งสองเครื่องมาก ๆ อย่างแรกต้องยกความดีความชอบให้กับทีมงานที่ Optimized เลยก็ว่าได้ การขุดเอา Bitsquid Engine ที่หมดอายุไปนานมากแล้วมาสานต่อ และแก้ไขด้วยตัวเอง จุดนี้ยังไงก็ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าทีมพัฒนาเกมนี้เขาโหดมาก
อย่างที่บอกไป เครื่องของมือกราฟิกเรา สเปค GTX 1660 ใช้ฮาร์ดดิสก์ ยังเล่นได้ที่ 60 เฟรม จะมีบางช่วงหรือบางดาวที่เอฟเฟกต์มันหนักจริง ๆ ก็จะมีร่วงกันบ้าง ดังนั้นเครื่องใครที่แรงกว่านี้ หรือเล่นบนเครื่องคอนโซล บอกเลยว่าสบายหายห่วงแน่ ๆ ส่วนเรื่องของปัญหาเซิร์ฟเวอร์ เอาจริง ๆ ใครจะซื้อมาเล่นตอนนี้ บอกเลยว่าคุ้มและน่าจะเล่นได้แล้ว เพราะเขาขยายเซิร์ฟเวอร์จนน่าจะรองรับผู้เล่นได้สูงสุดที่ 800,000 คนเข้าไปแล้ว ตอนนี้น่าจะเป็นช่วงที่ราบรื่นไร้ปัญหาที่สุดของเกมแล้ว แต่ไม่ใช่บอกว่าไม่มีเลยนะ มันอาจจะมีบ้าง แต่น้อยมาก ๆ แล้ว
ปัญหาระหว่างการเล่น ทั้งเรื่องของเฟรมเรท อาการแลค หลุด กระตุก ค้าง อะไรพวกนี้ ผมว่ามันเกิดขึ้นน้อยมาก ขนาดยิง Airstike, Napalm ถล่มจอกันรัว ๆ ยังไม่ค่อยจะมีปัญหาใด ๆ ให้เห็นเลย ส่วน Setting ของตัวเกมก็ถือว่าสบายหายห่วง สมมาตรฐานยุค 2024 การปรับตั้งค่ากราฟิก งานภาพ ปุ่มการควบคุม เมาส์ และคีย์บอร์ด คือมาครบทุกแบบ ครอบคลุมทุกสิ่งอย่าง มี Link กับ PSN ID ได้ด้วย แต่ข้อมูลไม่ได้ข้ามตามไปนะ เชื่อมไว้เฉย ๆ
ถ้าไม่นับเรื่องปัญหาเซิร์ฟเวอร์ นี่ก็แทบจะใกล้เคียงความสมบูรณ์แบบไปแล้ว ใครกำลังมองหาเกมยิงเอามันส์ แต่ก็ยังมีความท้าทาย เน้นการทำงานเป็นหมู่คณะ ณ ตอนนี้คงไม่มีเกมไหน เจ๋งไปกว่า Helldivers 2 อีกแล้ว
