สร้างความประทับใจให้ได้ตลอดจริง ๆ สำหรับเมาส์ซีรีส์ DeathAdder ตัวโหดของ Razer
แม้ว่าจะดำเนินมาถึง 2 ซีรีส์แล้ว แต่ความโหดบอกเลยว่าพัฒนาขึ้นทุกรุ่น และรุ่นนี้ Razer DeathAdder V3 ก็ได้รับการเสริมพลังมาจากรุ่นที่แล้วอย่างสมศักดิ์ศรี
Spec พื้นฐาน Razer DeathAdder V3
- น้ำหนัก 63 กรัม
- สายเคเบิล Speedflex
- เซนเซอร์แบบ Optical ตัวใหม่ล่าสุด
- ไม่มีไฟ RGB
รูปลักษณ์ของ DeathAdder V3 ปรับปรุงเล็กน้อยจากรุ่นที่สอง อย่างแรกคือการเอาไฟ RGB ออกไป ทำให้ตัวเมาส์มีความรู้สึกมินิมัลขึ้น แต่ในส่วนของรูปทรงยังคงออกแบบมาให้ถนัดมือเหมือนรุ่นก่อนหน้า แต่โดยรวมคือดูทันสมัยไม่เกมมิ่งเท่ากับรุ่นที่สอง
เรื่อง Scroll Wheel ที่เคยทำได้ดีในรุ่นสอง มารุ่นนี้ก็ยังมีประสิทธิภาพดีเหมือนเดิม ความแม่นยำ แรงต้าน ทั้งหมดอยู่ในระดับสูง อีกทั้งยังมีความลื่นไหลเวลาใช้งาน แม้จะไม่ได้มีฟังก์ชันอะไรมากมาย แต่พื้นฐานคือว่าแน่นมากจริง ๆ
สายเคเบิลยังใช้เป็น Speedflex ตัวสายมีคุณสมบัติยืดยุ่น และมีแรงเสียดทานกับพื้นผิวต่ำมาก ทำให้เวลาเราลากเมาส์ไปมา ต่อให้เป็นพื้นผิวแย่ ๆ แต่ก็ยังลื่นไหลไม่มีสะดุด ถ้าใครใช้โต๊ะที่ขรุขระหน่อยจะรู้เลยว่า สาย Speedflex ช่วยได้จริง
และนี่เป็นรุ่นที่สามที่ยังใช้ Switch ของเมาส์แบบ Optical ซึ่งเป็นการใช้เซนเซอร์อินฟาเรด แทน Mechanical แบบที่เมาส์ทั่วไปชอบใช้ ผลก็คือเมาส์ทนขึ้นกว่าเดิม แม่นยำกว่าเดิม โดยในรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 3 แล้ว ทำให้มาตรฐานสูงขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ
การปรับ Sensitivity ถ้าใครเคยใช้ V2 จะรู้ว่ามันสามารถปรับจากด้านบนของเมาส์ได้เลย แต่จำเป็นต้องมีปุ่มเพิ่มมาด้านบนถึงสองปุ่ม ดูแล้วอาจจะรู้สึกหงุดหงิดสายตาได้ถ้าเป็นคนชอบอะไรสมมาตร ในรุ่นสามเขาก็เลยเอาปุ่มปรับไปอยู่ด้านล่างเสียเลย โดยจะเป็นปุ่มเดียวโดด ๆ พร้อมไฟแสดงสถานะโหมด เมื่อกดปรับ ไฟก็จะเปลี่ยนสถานะทันที แม้ว่าจะดูลำบากนิดหน่อยเวลาจะปรับ แต่ในแง่ความสวยงามก็ถือว่ายอมแลกได้
สิ่งที่สำคัญที่สุด และยังเป็นสิ่งที่ Razer เน้นย้ำอยู่เสมอสำหรับรุ่นนี้ ก็ยังเป็นเรื่องของเซ็นเซอร์ ในรุ่นที่แล้วเขาใช้ Razer Focus+ Optical Sensor ที่รองรับค่า DPI สูงสุดถึง 20,000 หน่วย ซึ่งมันก็สูงมากแล้วเพราะคนปกติเขาไม่น่าใช้งานกันขนาดนี้ แต่ใน DeathAdder V3 เขาเบิ้ลความโหดขึ้นไปอีก กับ Focus Pro 30K Optical Sensor ที่มี DPI สูงกว่าเดิมครึ่งนึง คือ 30,000 หน่วย
อย่างที่เราเคยย้ำไปใน รีวิว DeathAdder V2 ว่าค่า DPI สูง ๆ มันไม่มีผลกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อรวมกับฟีเจอร์อื่น ๆ ที่เสริมเข้ามา มันประกอบให้ DeathAdder V3 กลายเป็นเมาส์ที่ลื่นไหล ให้ความรู้สึกดีทุกครั้งที่ใช้งาน
ถ้า DeathAdder V2 เคยทำให้คุณประทับใจแล้ว Razer DeathAdder V3 คือความประทับใจขั้นกว่า มันชนะทั้งในด้านดีไซน์ และฟังก์ชันการใช้งาน ถ้าคุณต้องการความแม่นยำ ต้องการความลื่นไหล นี่คือตัวจบของคุณ