Article Review : Total War Saga: Thrones of Britannia

หลังจากที่ออกตัวอย่างมายั่วให้บรรดาเหล่าแฟน ๆ มานาน

ในที่สุด Total War Saga: Thrones of Britannia ก็ได้วางจำหน่ายให้เล่นเสียที โดยภาคนี้เป็นเกมใหม่ล่าสุดจากค่าย Creative Assembly เจ้าของซี่รี่ส์ที่อยู่คู่กับวงการเกมมาอย่างยาวนานเกือบ 20 ปี  เกมนี้จะทำได้ออกมาสมกับที่รอคอยหรือไม่ติดตามได้ในรีวิวนี้

Story

Total War Saga: Thrones of Britannia กล่าวถึงเกาะ Britannia ในศตวรรษที่ 9 ในตอนนั้นวิธีคิดแบบรัฐชาติยังไม่เกิด ดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยชนเผ่าต่าง ๆ มากมายที่กำลังแยกชิงกัน นอกจากนี้ยังมีชาว Viking จากดินแดนสแกนดิเนเวียได้รุกรานและตั้งถิ่นฐานบนเกาะอังกฤษ ผู้เล่นจะต้องเลือกหนึ่งในเผ่านี้ เพื่อต่อสู้แย่งชิงเกาะแห่งนี้ เนื้อเรื่องของเกมนั้นมีเพียงเป็นการสร้างจุดประสงค์ของเราในการแย่งชิงดินแดนเท่านั้น โดยหากเราชื่นชอบการอ่านประวัติศาสตร์อยู่แล้วก็อาจจะรู้สึกว่าสนุก แต่หากคุณไม่ชอบประวัติศาสตร์ก็อาจจะรู้สึกเฉย ๆ กับเนื้อเรื่อง ดังนั้นข้ามส่วนนี้ไป

Gameplay

ซีรี่ส์ Total war นั้นมีลักษณะการเล่นที่ไม่เหมือนกับเกมไหน ๆ โดยเป็นการผสมกันระหว่าง Turn based strategy (TBS) กับ Real time strategy (RTS) ซึ่งในส่วนของการบริหารเมืองนั้นจะเป็นในรูปแบบ (TBS) สลับกันระหว่างผู้เล่นและ AI เมื่อเกิดการรบนั้นเกมจะเปลี่ยนรูปแบบเป็นเกมแนว RTS ที่ให้ผู้เล่นได้นั่งบัญชาการกองทัพด้วยตัวเองผู้เล่นเอง  ในภาคนี้เกมได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมในระบบของส่วนต่าง ๆ ให้ดีขึ้น เช่น การเกณฑ์ทหารแบบใหม่ ที่เราสามารถเกณฑ์ทหารได้จากเมืองไหนก็ได้ในอาณาจักรโดยที่เราไม่ต้องไปเกณฑ์จากเมืองที่มียูนิตพิเศษอีกแล้ว ระบบการจัดการตระกูลและที่ดินมีรายละเอียดมากขึ้น ระบบเทคโนโลยีที่คราวนี้เราต้องสร้าง Unit หรืออัพเกรดสิ่งก่อสร้างก่อนถึงจะสามารถวิจัยได้ ซึ่งโดยรวมนั้นภาคนี้ทำให้เกมเล่นง่ายขึ้นสำหรับมือใหม่ แต่สำหรับแฟน ๆ เก่า ๆ นั้นอาจจะรู้สึกผิดหวังที่เกมเพลย์หลาย ๆ อย่างถูกตัดออกไปเช่น เช่น ระบบการอพยพผู้คนในเมือง, Unit พิเศษอย่าง Scout, Assassin หรือ ผู้นำตามศาสนาต่าง ๆ ถูกตัดออกไป ทำให้ความหลากหลายของภาคนี้ถูกตัดออกไป

Presentation

เกมได้นำเสนอเกาะ Britannia ออกมาได้อย่างดีไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมหรือในสมรถูมิ โดยผู้เล่นจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างกันในดินแดนต่าง ๆ เช่น แม่น้ำ ภูเขา ที่หากเราได้ทำการรบในบริเวณนั้นในสมรภูมิรบของเราก็จะมีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ Unit ต่าง ๆ ทางทีมงานได้ศึกษามาอย่างดี รายละเอียดต่าง ๆ นั้นทำออกมาได้อย่างถูกต้องกับยุคสมัย ภาคนี้ได้เพิ่มส่วนของการวางแผนมากขึ้นโดยได้เพิ่มระบบเสบียงขึ้นมา จากเดิมที่ผู้เล่นเกณฑ์ทหารนั้นจะใช้เพียงเงินอย่างเดียว ภาคนี้นอกจากจะใช้เงินแล้วต้องใช้เสบียงอีกด้วย แถมยังไม่ได้มาทันที แต่จะใช้เวลา 2-3 เทิร์นในการที่กองทัพจะพร้อมรบ ทำให้ผู้เล่นจะต้องวางแผนการเล่นให้ดีมากขึ้น ในส่วนของการต่อสู้แบบ RTS นั้นทำได้ดีทั้งทางบกและทางเรือ ซึ่ง Unit ต่าง ๆ มีการแพ้ทางกันอย่างชัดเจนดังนั้นคุณในฐานะแม่ทัพจงใช้ประโยชน์จาก Unit ต่าง ๆ ให้ดี แม้ว่าภาพรวมของการต่อสู้จะทำได้ แต่ว่าในการต่อสู้นั้นภาคนี้ได้เอาระบบเลือดออกไป ดังนั้นต่อให้คนนับหมื่นมาสู้กันเลือดก็ไม่ได้ไหลลงสมรภูมิแม้แต่หยดเดียว ทำให้จุดเด่นเรื่องของการความสมจริงหายไปอย่างน่าเสียดาย

Conclude

โดยภาพรวมของ Total War Saga: Thrones of Britannia นั้นทำออกมาได้ดีไม่ว่าจะเป็นในด้านต่าง ๆ ทั้งกราฟิก ระบบการเล่น เหมาะกับผู้เล่นมือใหม่ที่ต้องการจะลองเล่นเกมในซีรี่ส์นี้ แต่สำหรับสาวก Total War ที่เล่นมาหลายภาคแล้ว อาจจะผิดหวังกับภาคนี้ เพราะเกมไม่ได้นำเสนออะไรใหม่ ๆ มากนัก แน่นอนว่าคงเป็นสไตล์ของพวกเขาที่เกมจะเล่นได้สมบูรณ์เมื่อผ่านไป 4-5 DLC และที่สำคัญระบบเลือดที่ทางผู้พํัฒนาไม่ได้ใส่ไว้ในเกมซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าทางผู้พัฒนาจะต้องขายเป็น DLC แยกเหมือนกับภาค ROME II และ ATTILA หากคุณไม่ใช่สาวก Total War แต่มีความสนใจในประวัติศาสตร์เกาะ Britannia ละก็เกมนี้ถือว่าน่าเล่นทีเดียวในช่วงนี้ แต่หากคุณเป็นสาวก Total War ภาคนี้ก็ข้าม ๆ ไปก็ได้

หากเพื่อน ๆ สนใจสามารถหาซื้อเกมนี้ได้ ที่นี่