หนึ่งในเกมที่ทั้งแฟนแฮร์รี่ พอตเตอร์ และแฟนเกมรอคอยกันมาอย่างยาวนาน มันจะคุ้มค่าการรอคอยหรือไม่ ขอเชิญพบกับ รีวิว Hogwarts Legacy
Story
เรา คือนักเรียนชั้นปีที่ 5 ที่ย้ายเข้ามาเรียนยังโรงเรียนฮอกวอตส์แบบกลางคัน เราที่ว่า ก็คือเราที่เป็นตัวละครแบบ Custom สร้างขึ้นมาเองได้ โดยร่วมเดินทางมากับศาสตราจารย์ฟิก ที่ดูเหมือนจะมีการทำงานด้วยกันมาก่อน ในขณะเดินทางไปฮอกวอตส์นั้น เราจะได้เห็นเหตุการณ์กบฎก็อบลินที่นำโดยแรนร็อค ที่ตอนนี้ทางกระทรวงเวทมนตร์กำลังพิจารณาว่ามันอาจจะเป็นภัยคุกคามครั้งสำคัญ โดยคนที่แจ้งข่าวนี้มาก่อน คือมิเรียม โดยมิเรียมเป็นภรรยาของศาสตราจารย์ฟิก และตายไปก่อนหน้านี้ มิเรียมได้ส่งกุญแจปริศนามาทิ้งไว้ให้ แต่กลายเป็นตัวเราเองนี่แหละที่มองเห็นสัญลักษณ์บางอย่างจากกุญแจดอกนี้ แต่ขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่ มังกรปริศนาก็ได้บุกจู่โจมพวกเขากลางอากาศ ทำให้เราและศาสตราจารย์ฟิกต้องหนีเอาตัวรอด
แท้จริงแล้วกุญแจดอกนั้นคือกุญแจเข้าสู่ล็อกเก็ตของพ่อมดโบราณที่มีพลังแบบเดียวกันกับที่ตัวละครของเรามีในตอนนี้ แรนร็อคตามมาถึงธนาคาร และพยายามจะชิงล็อกเก็ตนั้นไป แต่เราและศาสตราจารย์ฟิกก็หนีรอดออกไปได้ และข้อมู,สำคัญกับความลับทั้งหมดนำพาเราเข้าสู่รั้วโรงเรียนฮอกวอตส์ นอกจากจะต้องตามหาความจริงของพลังโบราณร่วมกับศาสตราจารย์ฟิกแล้ว เรายังต้องใช้ชีวิตของนักเรียนปีห้า ในการฝึกวิชาคาถาต่าง ๆ พบปะเพื่อนฝูงใหม่ ๆ ด้วย
ต้องบอกว่านี่คือเนื้อเรื่องพื้นฐานของตัวเกม Hogwarts Legacy ต่อจากนี้จะเป็นพิธีเลือกบ้าน ซึ่งเราจะเลือกบ้านไหน ก็อาจจะมีการดำเนินเรื่องราวที่ต่างกันไปในแต่ละตัวละคร อย่างตัวผมเองที่ไปอยู่บ้านเรเวนคลอก็จะมีเรื่องราวที่ไปสนิทกับเด็กบ้านสลิธิรีน และเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย แน่นอนว่าเราอยากให้ผู้เล่นไปสัมผัสกันด้วยตัวเอง เพราะเนื้อเรื่องแต่ละบ้าน อาจจะเหมือน หรือไม่เหมือนกันตรงส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่สำหรับเกมนี้ถือว่าเป็นการสร้างเรื่องราวช่วง 100 ปี ก่อนหน้าเวอร์ชั่นนิยายได้ดีมาก
แม้จะเป็นตัวละครหน้าใหม่ทั้งหมด แต่กลิ่นอายความเป็น Harry Potter นั้น จัดเต็มจริง ๆ เราจะเห็นตัวละครนามสกุลคุ้น ๆ มากมาย และนี่ถือว่าเป็นการแต่งเพิ่มได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่เอาเป็นว่าส่วนของเนื้อเรื่อง เราจะไม่พูดเยอะ เพราะเชื่อว่าแฟน ๆ หลายคนอยากจะสัมผัสเหตุการณ์และเซอร์ไพรส์ต่าง ๆ กันด้วยตัวเองมากกว่า แต่สำหรับผมที่ไม่ใช่แฟนแฮร์รี่แบบฮาร์ดคอร์ ยังถือว่าการดำเนินเรื่องราวของตัวเกมในภาคนี้ ค่อนข้างน่าสนใจ แต่มันก็จะมีบางจังหวะที่การเล่าเรื่องเป็นการเล่าเนื้อเรื่องล้วน ๆ ต้องตั้งใจอ่าน หรือชมคัทซีนกันให้ดี
และใครที่อยากเสพเนื้อหา และเนื้อเรื่องของเกมนี้ บอกเลยว่าอาจจะต้องเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษกันสักหน่อย เพราะบทสนทนาของเกมนี้ค่อนข้างยาวเหยียด เข้าคัทซีนทีนึงก็ 3-5 นาทีขึ้นไป โดยเฉพาะช่วงแรกนี่ กว่าจะได้ขยับเดิน ลองเล่นกันจริง ๆ ก็ใช้เวลาพอสมควร แถมในเกมยังมีพวกไฟล์เอกสาร Lore และเนื้อหาเสริมต่าง ๆ ให้ได้ตามเก็บตามอ่านกันอีกมากมายไม่หวาดไม่ไหว ใครสายเสพเนื้อหา และอยากเข้าถึงเรื่องราวในโลกฮอกวอตส์นี่ บอกเลยว่าเต็มอิ่มกันแน่นอน แต่ก็ต้องขยันอ่านกันซะหน่อย ไม่งั้นอาจจะงงเอาได้ง่าย ๆ
Presentation
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าในยุคที่เราหวาดระแวงกับเกมเพลย์ไม่ตรงปกนั้น Hogwarts Legacy เหมือนมาเพื่อลบคำสบประมาททั้งหลายทิ้งไปได้ทั้งหมด เอาเป็นว่าอะไรก็ตามที่เราได้เห็นจากตัวอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Cinematic หรือ Gameplay ในเกมจริงก็เป็นแบบนั้นอยู่อย่างครบถ้วน และมันยังทำได้ดีกว่าที่ในตัวอย่างเคยปล่อยออกมาให้เราดูซะอีก
นับตั้งแต่ที่ผมได้เข้าสู่โรงเรียนฮอกวอตส์ หลังจากช่วงเริ่มต้นเกม ผมสัมผัสได้เลยว่าทีมงานเกมนี้ เขารักเรื่องราว รักจักรวาลใน Harry Potter กันจริง ๆ โรงเรียนฮอกวอตส์ในเกมนี้มันยิ่งใหญ่ เต็มไปด้วยรายละเอียด ตั้งแต่ห้องพักประจำบ้าน ห้องเรียนต่าง ๆ ห้องอเนกประสงค์ทั่วไป หรือห้องต้องประสงค์ รวมไปถึงพื้นที่รอบนอกโรงเรียนที่เป็นสวน และลานเล่นควิดดิช ที่ถึงแม้ว่าจะไม่มีควิดดิชให้เล่น แต่มันก็ยังออกแบบมาใส่เอาไว้ คือขนาดผมไม่ใช่แฟนเดนตายแฮร์รี่ เห็นแล้วยังทึ่ง และประทับใจมาก ๆ ไม่อยากจะคิดว่าถ้าแฟนแฮร์รี่จริง ๆ มาเล่นจะรู้สึกยังไง เอาง่าย ๆ เราให้ทีมงานเกมมิงโดสคนนึงที่เป็น Potterhead มานั่งเล่น เขาเห็นอะไรก็ว้าวไปหมด ร้านนั้น ร้านนี้ สิ่งนั้น สิ่งนี้
และโรงเรียนฮอกวอตส์มันก็ไม่ได้ทำมาแบบเล็ก ๆ เดินแปป ๆ ก็ครบทุกโซน แต่มันมาแบบจัดหนัก จัดเต็ม เอาแค่เดินสำรวจไปทั่วโรงเรียน คุณอาจจะกินเวลาเป็นชั่วโมงได้เลย ซอกเล็ก ซอกน้อย พื้นที่ยิบย่อย เขาใส่มาครบมาก ๆ คือไม่ต้องมีอะไรมาแทนคำพูดทีมงานได้เลย แค่วิ่งดูฉากโรงเรียนก็เห็นแล้วว่าเขาตั้งใจทำกันจริง ๆ
และเมื่อเราอาศัยอยู่ในโรงเรียนฮอกวอตส์เป็นหลัก สิ่งที่เราจะต้องเจอแน่ ๆ ก็คือเหล่าคณาจารย์และนักเรียนร่วมชั้น หลายคนคงคิดว่ามันจะต้องมีหน้าตาซ้ำ ๆ กันบ้าง แต่เปล่าเลย คือโอเค มันอาจจะมีบางตัวที่รู้สกว่าโครงหน้ามันคลับคล้ายคลับคลา ประมาณว่า เอ๊ะ เคยเจอกันหรือเปล่า แต่ส่วนมาก นักเรียนแต่ละคน แต่ละบ้าน มันเหมือนกับเขาออกแบบมาให้มันหลากหลายมากที่สุด ผมเจอเหล่านักเรยีนทั้งหญิงและชายที่หน้าตาต่างกัน ชื่อก็ไม่เหมือนกันเยอะมาก ตลอดเวลาการเล่น นี่ก็เป็นอีกจุดนึงที่น่าประทับใจ มันทำให้โลกในฮอกวอตส์มีชีวิตชีวามากขึ้นไปอีก
โรงเรียนฮอกวอตส์จะทำหน้าที่เหมือนเป็นศูนย์กลางของผู้เล่นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นภารกิจหลัก ภารกิจรอง การเข้าเรียนเพื่อปรับปรุงและฝึกฝนวิชา การคราฟท์ของ หรือระบบช่วยเหลือต่าง ๆ ศูนย์กลางจะเป็นฮอกวอตส์แห่งนี้ และด้วยความใหญ่โตของมัน ก็ถือว่าสมกับชื่อเกม Hogwarts Legacy
แต่ความฟินของเราก็ยังไม่หมดลงเท่านั้น เพราะเมื่อเกมเพลย์เริ่มพาเราออกนอกโรงเรียน ไปเจอชุมชน ไปเจอฮอกส์มี้ด และอื่น ๆ มันยิ่งน่าประทับใจเข้าไปอีก โลกภายในเกมนี้มันสวยงามมาก ๆ ไปตรงไหนก็อยากจะแวะถ่ายรูป แวะกินลมชมวิวไปเรื่อย ๆ เวลาเดินทางในเกมนี้ ถ้ายังไม่ได้ไม้กวาด ผมแทบจะไม่อยาก Fast Travel เลย อยากเดินดื่มด่ำกับโลกที่เขาออกแบบมา คือมันนานมากแล้ว ที่ผมไม่ได้เห็นเกม Open World ที่โลกในเกมมันชวนหลงใหลขนาดนี้ ยิ่งพอได้ไม้กวาดกับนี่ อื้อหือ ฟินมาก มันมอบอิสระให้ผ้เล่น จะบินสูง บินต่ำ บินไกลแค่ไหนก็ได้หมด คือหลังจากได้ไม้กวาด ผมนี่อยากจะทิ้งทุกอย่างไปบินสำรวจโลกเล่นจริง ๆ ถ้าไม่ติดว่าต้องมาทำรีวิวตัวนี้ ผมคงเอาเวลาไปบินชมแมป เปิดแมปไปก่อนแล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างภายในเกมถูกออกแบบมาอย่างตั้งใจจริง ไม่เว้นแม้กระทั่ง UX UI ที่แม้มันจะไปเหมือนบางเกม แต่มันก็มีความสวยงามและความเป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของโลกเวทมนตร์ และจัดวางมาได้ค่อนข้างสวยงาม ไม่ได้รู้สึกว่าใช้งานยากอะไร เล่นไปแปปเดียวก็จำเมนู หรือการควบคุมได้ทั้งหมดแล้ว
ในด้านของแผนที่นั้น สำหรับเกม Open World ด้วยกันแล้ว มันอาจจะไมไ่ด้ใหญ่อลังการอะไร แต่เราก็รู้กันดีว่า ความใหญ่ถ้ามาพร้อมกับความกลวงก็อาจจะไม่ค่อยมีความหมาย ดังนั้นในเกมนี้จึงบาลานซ์กันระหว่างความใหญ่ และรายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ เช่นหมู่บ้านย่อย ๆ ก็จะมีร้านขายของ มีคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในละแวกนั้น และที่ยังต้องชมได้อีกก็คือ รายละเอียดและดีเทลต่าง ๆ ในตัวอาคาร บ้านเรือนของผู้คนในโลกนี้ ผมพยายามเข้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเข้าได้ และก็พบว่า บ้านเรือนหรืออาคารแต่ละหลังนั้น แทบจะไม่มีการจัดวางแบบซ้ำกันเลย เฟอร์นิเจอร์ การจัดวางตำแหน่ง ของที่ใช้ภายใน ชั้นหนังสือ เครื่องประดับ คือแบบ โอ้โห ไม่รู้เขาสร้างมันขึ้นมากี่แบบ
แต่ผมเล่นเกมนี้ไปกว่า 30 ชั่วโมง เข้าบ้านไหนผมแคปเก็บไว้หมด คือมันแทบไม่เจอรูปแบบบ้านที่ซ้ำกันเลย คือถ้าสำรวจหมดทั้งเกม ผมว่ามันอาจจะมีบ้างแหละ แต่มันน้อยมาก ๆ เป็นอีกหนึ่งความยอดเยี่ยมของเกมนี้เลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่ามันจะตลกไปหน่อยที่บางบ้านเนี่ย มันมีคนนั่งอยู่เลยนะ เหมือนเราไปบุกเข้าบ้านคนอื่น แต่เราก็ยังหยิบของกินบ้านเขามากิน เปิดหีบสมบัติเอาของเขามาเลย หรือหยิบเงินเขาออกมาเลยโดยที่เจ้าของบ้านไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น อาจจะตลกไปหน่อย แต่ถ้านับเรื่องการนำเสนอ การออกแบบพื้นที่ภายใน บอกเลยว่า สุดยอด
และเกมนี้ยังระบบสภาพอากาศและกลางวัน กลางคืนอีก โดยเจ้าระบบกลางวันกลางคืน มันจะส่งผลกับภารกิจบางอย่าง เช่นสัตว์อสูรบางตัวจะโผล่มาในเวลากลางคืนเท่านั้น หรือไอเทมคอลเลคทิเบิลบางชิ้นที่จะเก็บได้จากเวลากลางคืนเท่านั้นด้วย คือจะผมพูดให้อีกกี่รอบก็ได้ ว่าทีมงานเกมนี้เขาตั้งใจสร้างโลกของเกมนี้ขึ้นมาจริง ๆ เลย
และหากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ทีมงานเขาบอกว่า ภารกิจย่อยมันจะมีมากกว่า 100 ภารกิจ จากที่ผมลองเล่นมา แม้จะไม่ได้นับ แต่ผมก็คิดว่ามันน่าจะถึงจริง ๆ ในเมืองย่อย ๆ เมืองนึง นอกจาก Collectible ต่าง ๆ ให้เก็บแล้ว ยังมีภารกิจย่อยมาอีก 2-3 ภารกิจ ที่เราจะทำก็ได้ ปล่อยทิ้งไว้ก็ได้ แต่ถ้าทำเราจะได้รางวัล ได้ค่าประสบการณ์ ไอเทมสวมใส่และอื่น ๆ ซึ่งมันเยอะมาก ๆ ลงจอดหมู่บ้านไหน ก็ต้องมีขึ้นมาให้เราทำเสมอ
ซึ่งพวกภารกิจย่อยนี้ ก็มีตั้งแต่การถล่มรังมอนสเตอร์ ไปตามหาของที่หายไปกลับมา แต่เราได้ลองไปไม่เยอะเท่าไรนัก เพราะไม่งั้นเกรงว่ารีวิวตัวนี้จะออกไม่ทันเวลาแน่ ๆ ถา้มัวแต่ไปไล่ทำภารกิจรอง แต่เอาเป็นว่าที่เขาบอกว่าเยอะ มันก็คือเยอะจริง ๆ และมันจำเป็นอย่างมากในการเก็บเลเวล เพราะเกมนี้ การจะดำเนินเนื้อเรื่องต่อได้ จะมี Level เป็นตัวกำหนด หากเราทำภารกิจเนื้อเรื่องต่อไม่ได้ เพราะเลเวลไม่ถึง ทางออกก็คือพวกภารกิจรองยิบย่อยทั้งหลายนี่แหละ ซึ่งมันให้ค่าประสบการณ์ที่น่าพอใจ ไม่ต้องทำกันตาแหกเพื่ออัปเลเวล ทำแค่ 3-4 ภารกิจ ใช้เวลาไม่นานก็ได้ 1 เลเวลแล้ว
และแน่นอน มันเยอะขนาดนี้ ถ้าคิดจะเล่นให้หมด เก็บสะสมทุกอย่าง ผมเชื่อว่าชั่วโมงการเล่นก็คงเกิน 60-70 ชั่วโมงขึ้นไปแน่ ๆ ดีไม่ดี ก็อาจจะทะลุ 100 ชั่วโมงไปเลย และเราจะเข้าสู่ลูปนั้นเอง เพราะไม่ว่าเราจะแวะไปไหน ไปทำอะไร เราก็จะมีเรื่องนอกลู่นอกทางให้ได้ทำกันโดยอัตโนมัติ แน่นอนว่าการหยุดเล่นกับน้องแมวที่มีอยู่ทั่วดินแดนฮอกวอตส์เองก็ด้วย
พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็คงไม่ต้องสงสัยอะไรแล้ว ในแง่ของความเป็นเกม Open World RPG ที่มีฉากหลังเป็นเรื่องราวของ Harry Potter ผมไม่รู้จะไปหักคะแนนตรงส่วนไหนดี โลกของเกมนี้มันดีไปซะหมดจริง ๆ ถ้าคุณเป็นแฟน Harry ยังไงก็เต็มอิ่มและน่าประทับใจแน่นอน
Gameplay
ฉากเกมจะสวย เซ็ตติ้งโลกจะดีแค่ไหน มันก็คงจะทำให้เราสนุกได้ยาก ถ้าเกมเพลย์ของมันไม่ดี แล้ว Hogwarts Legacy เป็นยังไงล่ะ มันก็ยัง.. สุดยอด
ผมเชื่อว่าแฟน ๆ Harry Potter คงจะตั้งคำถามในใจว่าทำไมซีรีส์นี้ ไม่มีเกมสนุก ๆ ฟอร์มใหญ่ ๆ ออกมาให้ได้เล่นบ้าง เกมนี้ทำได้แล้ว หัวใจหลักของเกมนี้เลยคือ Action RPG ที่เราจะสามารถควบคุมตัวละคร เข้าต่อสู้ ร่ายคาถา คอมโบกันได้อย่างอิสระ พวกคาถาต่าง ๆ ที่แฟน ๆ เห็นแล้วจะต้องร้องอ๋อ และจำกันได้ จะปรากฎตัวในเกมนี้เกือบทั้งหมด ย้ำว่าเกือบนะ
สำหรับคาถาในเกมนี้จะแบ่งออกเป็น 7 รูปแบบ แต่ในช่วงเวลาต่อสู้ เราจะได้ใช้จริงประมาณ 5 รูปแบบ อีก 2 รูปแบบ จะเป็นคาถาสำหรับจัดแต่งสิ่งของในบ้าน หรือเอาไว้เล่นกับพวกสัตว์มหัศจรรย์ และสกิลแต่ละรูปแบบจะจำแนกด้วยสีพื้นหลัง เช่นสีเหลือง เป็นสกิลสำหรับควบคุมศัตรู สีแดงทำดาเมจ และสีม่วงเป็นการจู่โจม หรือควบคุมด้วยพลังเป็นต้น คาถาสีฟ้า คือคาถาอรรถประโยชน์ เช่นลูมอส ที่ใช้เปล่งแสงสว่าง หรือเรปาโรที่ใช้ซ่อมแซมสิ่งของ และเวทต้องสาปอย่างพวกอวารา เคดาฟรา หรืออิมเพริโอเอง จะได้มาก็ต่อเมื่อเราทำภารกิจไปเรื่อย ๆ
การปลดล็อคคาถาต่าง ๆ ไม่จำเป็นจะต้องเข้าเรียน แต่ตัวเกมจะกำหนดภารกิจย่อย ๆ มาให้ เมื่อเราทำภารกิจย่อยเหล่านั้นเสร็จแล้ว ระบบจะให้เรากลับไปยังชั้นเรียน เพื่อเรียนรู้คาถาเหล่านี้จากศาสตราจารย์แต่ละคน และจะใช้รูปแบบนี้กับทุกคาถาไปจนครบ บางคาถาจะปลดล็อคได้ก็ต่อเมื่อเราเล่นเนื้อเรื่องไปถึง ดังนั้นช่วงแรกของเกมการเล่น ผมแนะนำให้ผู้เล่นทุกคน อย่าเพิ่งออกนอกลู่นอกทางมาก แต่ไปเน้นเนื้อเรื่องก่อน เพื่อปลดล็อคคอนเทนต์และคาถาต่าง ๆ ให้หมด
ต่อจากคาถาจะเป็นเรื่องของ Talent ระบบ Talent นี้จะปลดล็อคมาตามเนื้อเรื่อง และแบ่งออกเป็น 5 ส่วน การอัปเกรด Talent แต่ละสาย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับตัวละคร และคาถานั้น ๆ เช่นโจมตีแรงขึ้น
รัวขึ้น หรือถ้าเป็นสายศาสตร์มืดก็จะยิ่งทำให้เราโจมตีได้รุนแรงมากขึ้นอีกต่างหาก คือส่วนของ Talent จะไปเสริมความสามารถให้คาถา เราจะได้แต้ม Talent มาจากการทำภารกิจ ต่อสู้กับมอนสเตอร์และอื่น ๆ เมื่อเลเวลอัป ก็จะได้ 1 แต้ม Talent ส่วน Talent ระดับสูงก็จะปลดล็อคไปตามเลเวลตัวละครของเรา
เมื่อเป็นเกม Action RPG ก็ต้องมีเรื่องของอุปกรณ์สวมใส่ด้วย ตัวละครของเราในเกมนี้ จะติดตั้งอุปกรณืได้ 6 ชิ้นคือถุงมือ แว่นตา หมวก ผ้าพันคอ เสื้อคลุม และเสื้อนอก และเกมจะมีค่าสเตตัสเพียง 3 ค่าเท่านั้น ไม่ยุ่งยากเลย ก็คือพลังชีวิต พลังโจมตี และพลังป้องกัน อุปกรณ์แต่ละชิ้นจะแบ่งเกรดด้วยสีพื้นหลังแบบเดียวกับเกม RPG ทั่วไป และอุปกรณ์แต่ละอย่าง สามารถเสริมพลังได้ และใส่ออปชั่นเสริมได้ โดยฟีเจอร์อัปเกรดและออปชั่นเสริมนี้ สามารถทำได้ที่ห้องต้องประสงค์ของเราเอง อุปกรณ์สามารถหาได้จากการทำภารกิจ เปิดหีบตามแผนที่ หรือออกสำรวจโลกต่าง ๆ
ซึ่งชิ้นไหนเราไม่ใช้แล้ว สามารถเอาไปขายทิ้งได้เลยด้วย และการแต่งตัวของเราก็จะส่งผลออกมาหใ้เห็นผ่านรูปลักษณ์ตัวละคร ซึ่งมันสามารถปรับแต่งให้เป็นรูปแบบสกินต่าง ๆ ได้ด้วย สมมติว่าเรารู้สึกว่าชุดนี้มันบวกสเตตัสดีนะ แต่มันไม่เท่เลย เราก็เลือกใส่สกินให้มันซะ โดยสกินรูปแบบต่าง ๆ ก็สามารถหาได้จากการผจญภัย ออกสำรวจรอบโลก แต่บางอัน อย่างสกิน Dark Arts ก็จะได้มาตั้งแต่การพรีออร์เดอร์ตัวเกมในแบบดีลักซ์ ส่วนหมวก ก็เลือกเปิด-ปิด หรือแสดงว่าใส่ฮูดหรือไม่ใส่ก็ได้ และพลังโจมตีกับพลังป้องกันในเกมนี้ จะมาจากชุดเท่านั้น ไม้กายสิทธิ์ของเรา จะเปลี่ยนได้เพียงรูปร่าง และไม่สามารถอัปเกรดได้ ซึ่งสกินของไม้กายสิทธิ์ต่าง ๆ ก็เหมือนกัน สามารถหาได้จากการผจญภัยในเกม
ระบบการต่อสู้ในเกมนี้ ใครที่เคยเล่นเกม Action RPG มาก่อน จะเข้าใจได้ไม่ยาก แต่ลีลาการต่อสู้ในเกมนี้จะเป็นการวาดลวดลายร่ายคาถาแบบพ่อมดแม่มดเลย เราจะอา้งอิงการควบคุมบน PC โดยการคลิกซ้ายจะเป็นการโจมตีปกติ และปุ่ม Shortcut 1-4 เราสามารถลากสกิลไปวางไว้ได้ เพื่อกดใช้ ฟีลการเล่นเหมือนเล่นเกม MMORPG และเราสามารถคอมโบคาถา เพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพในการโจมตีสูงสุดได้ เช่นใช้เลวิโอโซ่ในการจับศัตรูให้ลอยขึ้น แล้วผลักทิ้งด้วยดีพัลโซ่ หรือทำให้อาวุธศัตรูกระเด็นหลุดมือด้วยการใช้เอกซ์เพลลิอาร์มัส แล้วกระหน่ำโจมตีต่อเนื่อง
และหากรอบข้างมีวัตถุหรือสิ่งของต่าง ๆ เราสามารถใช้มันปาเข้าไปใส่เพื่อทำดาเมจเพิ่มได้ และหากเก็บเกจคอมโบจนเต็มก็สามารถใช้เวทไม้ตายที่มีความเสียหายสูงอย่างแอนเชี่ยนเมจิกได้ ส่วนการป้องกันก็จะมีหลายแบบ เพราะบางท่าสามารถป้องกันและสวนกลับได้เหมือน Parry แต่บางท่าก็ต้องหลบหลีกเท่านั้นด้วย ซึ่งการต่อสู้ของเกมนี้ถือว่าท้าทายเอาเรื่องอยู่ และบอกเลยว่า ถ้าคุณต่อสู้จนเชี่ยวชาญ สามารถทำคอมโบเท่ ๆ จัดการศัตรูในแบบจอมเวทย์จริง ๆ ได้แบบได้อารมณ์สุด ๆ กล่าวง่าย ๆ เกมนี้มันคือการหยิบเอาสไตล์การต่อสู้แบบโลกเวทมนตร์มาใส่ไว้เป็นเกม RPG เลย ใครดูหนังมาแล้วอยากบู๊ได้แบบในหนัง หรือในนิยายตามจินตนาการ บอกเลย เกมนี้คุณจะได้ทำกันจนเต็มอิ่มแน่นอน
และถึงแม้จะไม่มีควิดดิชให้เราได้เล่นกัน แต่เกมก็ยังมีมินิเกมมาทดแทน โดยเป็นกิจกรรมให้เราได้แข่งขันกับบ้านต่าง ๆ อย่างเช่นการใช้คาถา Accio ในการดึงลูกบอลและควบคุมพลังให้ดี ให้มันมาหยุดตรงช่องที่คะแนนสูง ๆ จบแต่ละรอบ ใครทำคะแนนได้มากกว่าก็ชนะไป หรือมินิเกมการแข่งขันขี่ไม้กวาด ที่แม้ว่าจะเป็นการแข่งขันความเร็วเฉย ๆ แต่ด้วยบรรยากาศของโลกในเกม มันทำให้เราอยากเล่นมินิเกมนี้มาก ๆ เพราะไม่รู้ว่าเส้นทางมันจะพาเราไปเห็น หรือไปชมอะไรบ้าง ใครว่าง ๆ ผมแนะนำเลยว่ามินิเกมขี่ไม้กวาดนี่ไม่ควรพลาดเลย เราอาจจะได้เห็นมุมสวยงามของโลกในเกมโดยไม่ได้ตั้งใจก็ได้
ด้วยสิ่งต่าง ๆ ในเกมที่มีมากมายให้เราได้ทำกัน ผู้เล่นจะอยากหาของใหม่ ๆ มาให้กับตัวละครตัวเองตลอดเวลา หาของต่าง ๆ ทั้งเครื่องแต่งกาย หรืออุปกรณ์เสริมพลังและอื่น ๆ และยิง่เราออกไปผจญภัยในโลกกว้างมากเท่าไร เราก็จะยิ่งเจอระบบอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น อีกอัันนึงที่โดดเด่นและน่ารักมาก ๆ คือการจับเหล่าสัตว์มหัศจรรย์ มาเลี้ยงไว้ใน Vivarium ของเรา เจ้าสัตว์มหัศจรรย์เหล่านี้ ถ้าเราคอยดูแล ให้อาหาร เล่นกับมัน ก็จะสามารถเก็บพวกขนของมัน มาคราฟท์เป็นวัตถุดิบอัปเกรดได้อีก ทั้งภารกิจหลัก ภารกิจรอง การต่อสู้ เล่นกับสัตว์ แค่นี้ก็เพียงพอจะดูดเวลาชีวิตคุณได้อย่างมหาศาลแน่นอนแล้ว
ถ้าจะให้ติ ผมรู้สึกว่ามีเพียงอย่างเดียวคือ Shortcut สำหรับการใช้สกิลนี้มันค่อนข้างน้อยไปหน่อย มีแค่ 4 ช่อง แต่เราสามารถอัปเกรด Skill Set Slot เพิ่มได้จากการอัปเกรด Talent นั่นคือถ้าเราอัปเกรดแล้ว เราจะสามารถสลับไปใช้สกิลอีกชุด ที่เลือกใส่ได้ 4 สกิลเหมือนกัน แต่บางที สกิลเหล่านี้มันทำงานแบบคอมโบ ต่อเนื่องกัน 4 ช่องมันน้อยไป ถ้ามันเพิ่มได้นี่จะดีมาก บางสถานการณ์เราต้องใช้สกิลต่างกันเช่นลงดันเจี้ยนและอื่น ๆ การต้องมานั่งคอยสลับเซ็ตสกิลนี่มันก็น่ารำคาญไม่น้อยอยู่เหมือนกัน
สำหรับเกมเพลย์ทั้งหมดอง Hogwarts Legacy ส่วนตัวแล้วมันอาจจะไม่ได้มีอะไรใหม่มากนัก ถ้าเทียบกับเกมทั่วไป แต่นี่คือการผจญภัยในโลกเวทมนตร์ ที่มีฮอกวอตส์เป็นฉากหลัง และมันทำได้ดีมาก ๆ ที่สำคัญคือไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนแฮร์รี่หรือไม่ คุณก็จะสนุกไปกับระบบของเกมนี้ได้อย่างง่ายดาย ก็ต้องชมว่ายอดเยี่ยมจริง ๆ นั่นล่ะ สมการรอคอย และไม่จกตาเลยแม้แต่น้อย อะไรที่เขาเคยปล่อยมาในตัวอย่าง เกมจริงเป็นอย่างนั้นแทบทั้งหมด เรียกได้ว่าใครกำลังรอคอยเกมแฮร์รี่พอตเตอร์ในแบบ AAA เล่นได้ยาว ๆ วันนั้นมาถึงแล้วกับเกมนี้นี่แหละ
Performance
ในเรื่องของประสิทธิภาพ เราทดสอบกับคอมพิวเตอร์สามเครื่อง สามสเปก ไม่ใช่เพราะต้องการทดสอบนะ แต่ต้องย้ายเครื่องไปมาระหว่างเล่น สเปกต่ำที่สุดที่เราใช้ คือ RTX 2070 Super ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างสเปกขั้นต่ำ กับขั้นแนะนำ ในช่วงแรกเราปรับทุกอย่างอยู่ในระดับกลาง ผลคือมีอาการกระตุกอยู่บ้าง แต่น่าจะเพราะว่า CPU ของผม มันไม่ถึงขั้นที่ระบบต้องการ ถามว่าเล่นได้ไหม ก็เล่นได้ แต่เวลาไปเจอส่วนที่มีรายละเอียดเยอะ ๆ แสงตกเยอะ ๆ ก็จะเริ่มกระตุกนิดนึง ส่วนที่กว้าง ๆ กับระหว่างขี่ไม้กวาดไปมา มันจะกระตุกแค่ครั้งเดียว เหมือนเครื่องมันเรนเดอร์ในเกม หลังจากนั้นก็หายแล้ว และเล่นได้ลื่น ๆ ซึ่งไม่ถึงขนาดเล่นไม่ได้ เพราะพอเราลองปรับนั่นปรับนี่ อัพเดตไดรเวอร์การ์ดจอ ภาพก็กลับมาเป็น 60fps นิ่ง ๆ ได้ เรียกได้ว่าประสิทธิภาพดีกว่าเก่าระดับหนึ่ง
เครื่องที่สองเราลองใช้ RTX 3060Ti ซึ่งน่าจะเป็นการ์ดจอระดับกลาง ๆ ของตอนนี้ ตัวเกมสามารถเปิดกราฟิกระดับ Ultra ได้อย่างไม่ยากเย็นในระดับประมาณ 60fps แต่จำเป็นจะต้องปิด Ray Tracing แม้กระทั่งในฉาก Open World หรือฉากที่มีเอฟเฟกต์เยอะ ๆ เฟรมเรทก็ไม่ได้ตกลงจนเห็นได้ชัด เรียกได้ว่า Optimized มาดีทีเดียว
มาลองใช้กับการ์ดจอรุ่นใหญ่กันบ้าง กับ RTX 4070Ti ตัวนี้ต้องบอกว่าหายห่วง สามารถปรับ Ultra ในระดับ 4K ได้เลย แต่การใช้งาน Ray Tracing อาจทำให้ประสิทธิภาพตกลงไปอยู่บ้างจนไม่ถึง 60fps แต่ถ้าถามว่าเล่นได้ไหม มันก็เล่นได้ แต่ถ้าจะเอาชัวร์ ๆ เลยก็แนะนำให้เปิด DLSS ดีกว่า
โดยรวมในด้าน Performance ไม่ว่าคุณจะใช้การ์ดจอใด ๆ ใกล้ ๆ สามตัวที่เราเทสต์ การันตีว่าเล่นได้ลื่น ๆ แน่นอน แต่อาจจะมีปัญหาถ้าคุณใช้การ์ดจอที่ตัวเกมแนะนำ โดยเฉพาะ 970 ที่เราคิดว่าไม่ไหวแน่ ๆ หรือถ้าไหวก็คงต้องปรับต่ำสุดเพื่อเฟรมเรท 30fps อันนี้ก็ไปชั่งน้ำหนักกันเอาเองว่า คอมพิวเตอร์ของคุณจะเล่นเกมนี้ได้หรือเปล่า
ในส่วนของ Setting ต่าง ๆ ในเกมก็สามารถปรับได้ค่อนข้างเยอะ ใครที่อยากได้สกรีนช็อตสวย ๆ ตัวเกมก็รองรับ Photo Mode ของ Nvidia ด้วย และตัวเกมสามารถตั้งค่าปิด HUD ทั้งหมดได้ บอกเลยว่าทีมงานเรานั่งเซฟภาพสกรีนช็อตกันสนุกมาก ๆ การตั้งค่าอื่น ๆ เช่นปุ่มการควบคุม ทั้งบน PC และบนจอยคอนโทรลเลอร์ ก็ทำมาให้อย่างครบถ้วน
นี่คือผลงานของคนสร้างเกมที่ผมเชื่อว่าเขารักจักรวาล Wizarding World และ Harry Potter มาก ๆ และมันกำลังจะส่งถึงมือแฟน ๆ ที่รักจักรวาลนี้ทั่วทั้งโลกแล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนคลับแฮร์รี่พอตเตอร์หรือโลกเวทมนตร์หรือไม่ นี่คือเกมระดับคุณภาพจริง ๆ