BY nes
30 Jan 19 11:37 am

Review : Ace Combat 7 Skies Unknown

191 Views

กลับมาอีกครั้งสำหรับซีรีส์มหากาฬมะรุมมะตุ้ม “Ace Combat 7: Skies Unknown” หลังจากห่างหายไปนานหลายปีสำหรับ Combat Flight Simulator ที่ล่าสุด “Ace Combat Infinity” ได้ปิดบริการไปเมื่อต้นปี 2018 ที่ผ่านมา

Strangereal กลับมาลุกเป็นไฟอีกครั้ง

เนื้อเรื่องของ Ace Combat ในภาคนี้จะเป็นสงครามระหว่าง Kingdom of Erusea และ Osean Federation โดยสาเหตุมาจาก Osean Federation ได้ทำการสร้าง International Space Elevator หรือในนาม Lighthouse หน้าที่หลักของมันคือการส่งพลังงานแสงอาทิตย์ที่เก็บรวบรวมได้ในชั้นบรรยากาศและแจกจ่ายไปยังประเทศต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูทวีป Usea หลังจากหายนะ Ulysses 1994XF04 ( ง่าย ๆ คืออุกกาบาตตกนั่นแหละ ) และ Continental War โดยทาง Erusea ได้ตั้งข้อสงสัยว่าทาง Osea ต้องการจะควบคุมกลุ่มประเทศทั้งหมดในทวีป Usea จึงตัดสินใจเข้ายึด International Space Elevator และ Arsenal Bird อีก 2 ลำ

โดยเราจะได้เล่นเป็น Trigger ที่ถูกยัดมาใน Mage Squadron เพื่อที่ให้ฟูงบินครบคน แต่จุดเปลี่ยนของตัวเอกก็มาอยู่ที่ภารกิจช่วยเหลืออดีตประธานาธิบดี Harling ซึ่งเราได้ยิงมิสไซล์ไปโดนเฮลิคอปเตอร์ของอดีตประธานาธิบดีตก เราจึงถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมแล้วถูกส่งไปที่ 444th Air Base ซึ่งมันคือคุกที่เป็นเหมือนฐานทัพอากาศไว้ล่อเป้าฝ่าย Erusea มันอาจจะแปลกที่ทำไมเอาก๊วนนักโทษคดีต่าง ๆ มาขับเครื่องบินสู้ข้าศึก แต่พอเล่นไปเล่นมาแล้วภารกิจแต่ละอย่างนี่คือฆ่าตัวตายชัด ๆ ซึ่งถ้าตายไปก็ไม่มีใครสนใจเพราะเราคือนักโทษที่เอามาทำประโยชน์ดีกว่าถูกประหารทิ้ง

เนื้อเรื่องของ Ace Combat เอาจริง ๆ มันก็เดิม ๆ นั่นละ เราเป็นนักบินโนเนมแล้วจู่ ๆ ก็ยิงเครื่องบินฆ่าศึกตกลำแล้วลำเล่า มันก็ไม่ต่างอะไรจากภาคก่อน ๆ เท่าไหร่นัก จึงส่งผลให้ภารกิจต่าง ๆ แทบจะไม่ต่างอะไรกับภาคเก่า ๆ เลยและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่คอยโผล่มาระหว่างภารกิจมันก็ออกแนวซ้ำซากไปหน่อย เดี๋ยวต้องไปกันตรงนู้นทีต้องไล่ฆ่าตรงนี้ที สำหรับผู้เล่นที่ไม่เคยเล่นมาก่อนน่าจะชอบแต่สำหรับผู้เล่นที่เล่นมาหลาย ๆ ภาคแล้วอาจจะมีอาการ Flash back กันเล็ก ๆ น้อย ๆ

เกมเพลย์เดิมที่เสริมแต่งให้สมจริงมากขึ้น

ระบบเกมเพลย์ของ Ace Combat มันก็เหมือน ๆ เดิมทุกภาคอีกนั่นละ แต่ระบบที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในภาคนี้อย่างเช่น Cloud Volume สิ่งนี้จะทำให้ทุกครั้งที่คุณบินผ่านเมฆ หน้าจอ HUD ของคุณจะมีละอองน้ำและวิสัยทัศน์ลดลง แต่ก็จะช่วยคุณในการหลบเรดาห์หรือมิสไซล์ของศัตรู ซึ่งศัตรูก็จะทำแบบนั้นกับเราได้เหมือนกัน อีกอย่างที่ถูกเพิ่มเข้ามาคือสภาพอากาศและแรงลม มีผลกับการบังคับเครื่องบินทำให้เราบังคับได้ลำบากขึ้น ถ้าหากคุณอยู่ในเมฆนานเกินไปจะทำให้เรา Stall ได้ อีกอย่างหนึ่งที่ควรระวังคือ ฟ้าผ่า ถ้าเราไปโดนจะทำให้ HUD ของเราเป็นคลื่นและไม่สามารถมองเห็นศัตรูในเรดาห์ได้

แต่อีกระบบที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ Post-stall maneuver ถ้าใครเคยเล่น H.A.W.X หรือ Ace Combat: Assault Horizon จะจำได้ว่าการทำ Stall maneuver จะง่ายมากแค่กดปุ่มในตรงจังหวะ แต่สำหรับ Ace Combat 7 มันคือครั้งแรกในซีรีส์นี้ที่ผู้เล่นสามารถบังคับได้ ไม่ว่าจะเป็น Cobra หรือ Kulbit ก็อยู่ที่เราซึ่งมันทำให้เกมเพลย์สนุกขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างแน่นอน

ระดับความยากของเกมจะมีทั้งหมด 3 ระดับ คือ Easy, Normal และ Hard ซึ่งในระดับ Easy และ Normal นั้นเราจะมีกระสุนปืนกลไม่จำกัดอีกทั้งยังลดความเสียหายจากศัตรูซึ่งเหมาะกับผู้เล่นใหม่เป็นอย่างมาก ยังมีระดับความยากพิเศษอีกคือระดับ Ace ซึ่งการที่จะปลดล็อกนั้นคุณจะต้องเล่นจบเกมในระดับ Hard เสียก่อนซึ่งในระดับ Hard และ Ace เครื่องบินเราจะบางถึงบางมากและกระสุนจะมีจำนวนจำกัด ยิ่งในระดับ Ace เรียกได้ว่าคิดก่อนยิง ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะได้ใช้ปืนกลสู้กับบอสก็เป็นได้

การปลดล๊อคเครื่องบินและชิ้นส่วนอัพเกรดต้องใช้แต้ม MRP ซึ่งจะได้มาจากการเล่นโหมด Campaign และ Multiplayer โดยในโหมด Campaign เราจะได้แต้ม MRP เยอะขึ้นถ้าเราเลือกระดับความยากสูง ๆ ซึ่งระบบนี้มันก็ทำให้น่าเบื่อตรงที่ต้องมานั่ง Grind ภารกิจเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เพื่อที่จะปลดล๊อคเครื่องบินดี ๆ หรือ ชิ้นส่วนอัพเกรด

โดยรวมแล้วเกมเพลย์ของภาคนี้ก็ยังเหมือนภาคก่อน ๆ แค่เพิ่มระบบสภาพอากาศกับเมฆที่เป็นเมฆจริง ๆ ไม่ใช่แค่ของประกอบฉาก และถึงแม้ Ace Combat ภาคนี้จะมีระบบสภาพอากาศ แต่มันก็แค่บางภารกิจเท่านั้น ไม่ได้โผล่มาแบบสุ่มแบบที่มันควรจะเป็น และภารกิจต่าง ๆ ที่ออกแบบมาแทบจะไม่ต่างอะไรจากภาคก่อน ๆ ทำให้ Ace Combat 7 มันก็คือ Ace Combat นั่นแหละ

ภาพสวยสมกับเป็นเกมยุคนี้

Ace Combat 7: Skies Unknown ถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้ Unreal Engine 4 ทำให้ภาพและเอฟเฟคต่าง ๆ สวยงามสมควรกับที่เป็นเกมยุคนี้ โดยเฉพาะรายละเอียดฉากเช่น ตึก ต้นไม้ น้ำ และ เมฆ ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ถึงแม้ต้นไม้มันเหมือนจะเป็น 3D แต่มันก็เหมือนแค่เอา Texture ไปแปะก็เถอะ เพราะมันชนได้ไม่มีผลกับเครื่องบินของเรา ส่วนตึกก็เหมือนเดิม แค่เอา Texture ไปแปะตึกเฉย ๆ แต่ละตึกก็เหมือน Asset วาง ๆ ไป เอาปืนกลยิงใส่หรือมิสไซล์ยิงก็แค่ระเบิดใส่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น แต่ความอลังการมันอยู่ที่ท้องฟ้า (แน่ละสิ Ace Combat มันเกมเครื่องบินไม่ใช่ทหารราบ) ทั้ง ๆ ที่ปกติท้องฟ้ามันก็ท้องฟ้าปกติที่ไล่สีฟ้าไปฟ้าเข้มน้ำเงิน แต่ด้วย Cloud Volume ที่เพิ่มมาในภาคนี้ ทำให้ท้องฟ้าในเกมสวยสมจริงที่สุด โดยเมฆแต่ละก้อนจะมีความหนาแน่นไม่เหมือนกัน ทั้งขนาดและรูปร่าง นับได้ว่าใช้ขุมพลังจาก Unreal Engine ได้คุ้มค่าจริง ๆ ทำให้เรามองข้าม Texture ตึกหรือต้นไม้ไปเลย ด้านโมเดล 3D ของเครื่องบินในภาคนี้ ก็ทำออกมาได้ดีเหมือนเคยเพราะเขาใช้ข้อมูลจากเครื่องบินจริงและทำการปั้นโมเดลที่มีการขยับได้ทุกจุดที่เครื่องบินแต่ละลำเป็น แต่สำหรับ Cut-Scene เนื้อเรื่องมันจะดูแข็ง ๆ สีหน้าอารมณ์แปลก ๆ ทำให้รู้สึกเราไม่อินกับเนื้อเรื่องเท่าไหร่นัก

Ace Combat 7

นี่ยังไม่รวม สุนัข.JPEG นะ ไม่รู้อะไรดลใจให้พี่แกใส่เข้าไปในเกมจริง ๆ

ดนตรีประกอบขั้นเทพ

กลับมาอีกครั้งสำหรับ Keiki Kobayashi บอกตามตรงเลยว่าถ้าซีรีส์นี้ไม่ได้คน ๆ นี้มาแต่งเพลงให้มีหวังว่าน่าจะเป็นเกม Arcade ขับเครื่องบินธรรมดา ๆ เกมหนึ่งแน่นอน ดนตรีประกอบภาคนี้ทำออกมาได้สมกับเป็น Ace Combat เปิดฟังเล่นยังมีอาการขนลุกกันบ้างละ ส่วนระบบเสียงเอฟเฟคต่าง ๆ ในเกมก็ยังรักษามาตรฐานของเกมซีรีย์นี้ได้เป็นอย่างดี แต่จุดที่เป็นข้อเสียคือ เสียงพากษ์ตัวละครแต่ละตัวที่มันดูแข็ง ๆ ไปหน่อย ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ให้เรารู้สึกคล้อยตามเท่าที่ควร

การกลับมาของ Ace Combat ในครั้งนี้ถือว่าเป็นก้าวสำคัญสำหรับซีรีย์นี้ต่อไปในอนาคต ถึงแม้เนื้อเรื่องและภารกิจจะเหมือนเดิมมากไปหน่อย แต่ด้วยเกมเพลย์ที่สนุกขึ้น สมจริงมากขึ้นแต่ยังอยู่ในรูปแบบของเกม Arcade อีกทั้งภาพกราฟฟิกที่สวยงามตระการตาที่สมกับเป็นเกมในยุคนี้ รวมกับเพลงประกอบที่เข้าถึงอารมณ์ของผู้เล่นระหว่างการเล่น ทำให้ Ace Combat 7: Skies Unknown เป็นเกมขับเครื่องบินที่สมบูรณ์แบบที่สุด ณ ตอนนี้

Kittitat Charuvastra

เนส - Video Editor

Back to top