กลับมาอีกครั้งกับมือสังหารสาว Aveline ในฉบับอัพเกรด งานนี้ตัวเกมที่ถูก Port มาจากเครื่องเกมมือถือ PS Vita จะคุ้มค่าคุ้มราคาหรือไม่และมีข้อดีข้อเด่นยังไง Jokeboy พาไปชมกันแบบจัดเต็ม ขอต้อนรับสู่ บัญญัติมือสังหาร สงครามอิสรภาพ ฉบับ HD
ตัวเกม Assassin’s Creed Liberation นั้นออกวางจำหน่ายครั้งแรกบนเครื่องเกมมือถือ Playstation VITA ในช่วงปลายปี 2012 แน่นอนว่าด้วยการที่ตัวเกมลงให้กับเครื่อง Vita แบบเฉพาะ ทำให้แฟนๆหลายคนพลาดโอกาสในการจะได้สัมผัสกับตัวเกมในภาคดังกล่าวไป เวลาล่วงเลยมากว่า 1 ปี มาวันนี้ Ubisoft ตัดสินใจเข็นตัวเกมออกมาวางจำหน่ายอีกครั้งบนเครื่องหลัก พร้อมกับอัพเกรดตัวเกมใส่ภาพเสียงและปรับปรุงตัวเกมแทบทุกจุด แต่ตัวเกมจริงๆแล้วเป็นยังไง มีอะไรน่าสนใจแค่ไหน วันนี้เราจะมาผ่าให้ชมกัน
Story
เรื่องราวในภาค Liberation นั้นหยิบเอาช่วงเวลาในปี 1765 ช่วงท้ายของสงครามเจ็ดปีมาเป็นพื้นหลัง โดยผลของสงครามนั้นทำให้เมือง New Orleans จะต้องถูกเปลี่ยนมือจากการปกครองของฝรั่งเศสไปเป็นสเปนแทน และเป็นในเมือง New Orleans นี้เองที่ตัวเอกของเกม Aveline de Grandpré จะพาผู้เล่นไปออกปฎิบัติการล่าล้างเหล่า Templar กัน
ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้นภาค Liberation ถือว่ายังคงสอบผ่านเช่่นเดิมตามมาตรฐานเกมตระกูล Assassin’s Creed ด้วยการผูกโยงเนื้อหาประวัติศาสตร์ในโลกแห่งความจริงเข้ากับเนื้อเรื่องภายในเกม คุณจะได้เห็นเมือง New Orleans ในช่วงเวลาที่น่าสนใจ ช่วงเวลาที่ทาสถูกซื้อขายเป็นสินค้าชิ้นหนึ่ง และเช่นเดียวกันตัวเอกอย่าง Aveline นั้นเป็นตัวเอกที่มีเอกลักษณ์ แตกต่างจากรุ่นพี่คนอื่นๆอย่างชัดเจน
แต่จุดอ่อนที่เคยมีมาก่อนในเกมตระกูล Assassin’s Creed ภาคอื่นๆ ก็ยังคงมีอยู่ในภาคนี้ไม่เปลี่ยนแปลง นั่นก็คือความต่อเนื่องลื่นไหลของเนื้อเรื่องหลัก ที่ผมคิดว่า Ubisoft ยังต้องทำการบ้านในจุดนี้ เพราะมีหลายครั้งที่เนื้อเรื่องในเกมให้ความรู้สึกของการ ยืดยาวในจุดที่ไม่น่าสนใจ แต่กลับถูกตัดสั้นห้วนในส่วนที่มีปมบางอย่างให้ติดตาม โดยเฉพาะในภาค Liberation ซึ่งจุดนี้น่าจะเป็นเพราะตัวเกมต้นฉบับมาจากเครื่อง Vita ทำให้ฉากในเกมหลายฉากสั้นกว่าตัวเกมในภาคหลักที่พวกเราคุ้นเคย
Gameplay
เกมการเล่นนั้นก็ยังคงความเป็น Assassin’s Creed ไว้อย่างครบถ้วน การเคลื่อนที่ต่างๆของ Aveline นั้นลื่นไหล การ Free Run วิ่งไต่ไปตามจุดต่างๆอันเป็นเอกลักษณ์ของเกมตระกูลนี้ยังมีอยู่ครบถ้วน ในส่วนของระบบการต่อสู้นั้นตัวเกมจะคล้ายกับภาค 3 มากกว่าภาค Black Flag ซึ่งทั้งสองภาคก็มีข้อดีข้อด้อยต่างกันไป แต่ก็มีจุดที่แตกต่างออกไปจากภาคก่อนๆอยู่เช่นกัน โดย Aveline มีความสามารถที่เรียกว่า Chain Kill ซึ่งทำให้ผู้เล่นสามารถหยุดเวลาและเลือกเป้าหมายที่ต้องการจัดการได้ โดยผู้เล่นสามารถเติม Chain Kill ได้จากการลอบสังหารศัตรู ทำให้เราไม่สามารถใช้ Chain Kill ได้ติดๆกันระหว่างการต่อสู้ ส่วนอาวุธอุปกรณ์นั้น ที่น่าสนใจก็คือแส้ของ Aveline ซึ่งมาทำหน้าที่แทน Rope Dart ของภาคอื่นๆ
จุดเด่นที่เห็นชัดในส่วนของ Gameplay ของภาค Liberation ก็คือการที่ Aveline สามารถแปลงกาย แบ่งออกได้เป็น 3 ร่าง หรือ 3 Persona ได้แก่ร่างของ Lady ร่าง Assassin และร่างของ Slave โดยชุดทั้งสามนั้นมีความสามารถและจุดดีจุดเด่นแตกต่างกันไป ใน
ร่างของ Lady นั้น Aveline จะมีอาวุธติดตัวและเลือดน้อยที่สุดและไม่สามารถวิ่ง Free Run ได้เลย แลกมากับความสามารถในการ Charm หรือ “ล่อลวง” Guard ให้เดินตามเธอมาได้และสามารถติดสินบนหัวหน้ายามประจำประตูต่างๆ ยิ่งกว่านั้นในร่าง Lady นี้ ศัตรูภายในเกมจะไม่ค่อยสนใจเธอเท่าไหร่
ในชุดมือสังหารหรือ Assassin เป็นชุดพื้นฐานซึ่งมีอาวุธครบถ้วนทุกอย่าง แลกมากับการที่ในชุดนี้ Aveline จะมีหลอดค่าหัวอยู่ 1 หลอดตลอดเวลา ส่งผลให้เหล่ายามในที่ต่างๆจะ สงสัยและเดินมาตรวจสอบทันทีที่เห็นเธอ
และชุดสุดท้าย ชุดทาสหรือชุด Slave ในชุดนี้ Aveline จะมีอาวุธติดตัวบางชิ้น สามารถวิ่ง Free Run ปืนป่ายได้ปกติ สามารถเข้าถึงพื้นที่ยืนปะปนกับฝูงคนงานเพื่อซ่อนตัวได้ ทหารยามจะไม่สนใจ ข้อด้อยของชุดนี้คือยามในเกมจะสงสัยเธออย่างรวดเร็วหากเธอทำอะไรผิดปกติ และหลอดค่าหัวของร่างนี้นั้นเพิ่มขึ้นเร็วที่สุด
การใช้ Persona ทั้งสามถือได้ว่าเป็นจุดเด่นของเกมภาค Liberation เลยทีเดียว โดยในบางภารกิจผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ชุดใดในการเข้าถึงเป้าหมาย ยิ่งกว่านั้นตัวเกมยังใส่ภารกิจเฉพาะของแต่ล่ะชุดมาให้อีกด้วย (และในภาค HD ได้เพิ่มภารกิจให้แต่ล่ะ Persona เข้าไปอีก) ของสะสมหรือ Collectible ในเกมภาคนี้บางอันก็จำเป็นต้องใช้ชุดที่แตกต่างกันในการตามหา
ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นแต่ก็น่าเสียดายที่ตัวเกมไม่ได้เปิดกว้างถึงขั้นให้เราสามารถเลือกทำภารกิจทุกๆภารกิจได้ตาม Persona ที่ต้องการ
สำหรับเกมการเล่นหลักภาค Liberation ก็ยังคงความเป็น Assassin’s Creed ไว้เช่มเดิม ภายในเกมมีพื้นที่ให้คุณได้สำรวจ มีภารกิจรองให้ไล่ล่า และมีของเก็บสะสมมากมายหลายอันให้ตามหา การซื้อและอัพเกรดอาวุธ การซื้อชุดใหม่ๆ ทุกอย่างที่มีในตัวเกมภาคหลักก็ยังคงมีอยู่ในภาค Liberation เช่นกัน ที่หายไปก็น่าจะเป็นการ ล่าสัตว์ และการ Craft ของ รวมถึงการล่องเรือ ที่ถูกตัดออกไป
ตัวเกมในภาค HD ได้ดัดแปลงหลายอย่างตัวต้นฉบับของ Vita การแก้ปริศนาและ Gameplay ที่ต้องใช้ Touchpad ถูกตัดทิ้ง Multiplayer เล็กๆที่เคยมีถูกตัดหายไป และมีบางภารกิจที่สั้นลงกว่าเดิม
สรุปได้ว่าในส่วนของ Gameplay นั้นตัวเกมในภาค Liberation ยังคงความเป็น Assassin’s Creed ไว้อย่างครบถ้วน แต่ก็ไม่สามารถเทียบชั้นกับภาคหลักสุดยอดเยี่ยมอย่างภาค Black Flag ได้อย่างแน่นอน เหตุผลส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะข้อจำกัดของตัวเกมที่เป็นการ Port มาจากเครื่องมือถือนั่นเอง
Graphic & Sound
ภาพในเกมนั้นสวยขึ้นและมีสีสันสดใสมากขึ้นกว่าตัวเกมบนเครื่อง Vita อย่างเห็นได้ชัด รายละเอียดของตัวละคร พื้นผิวต่างๆ รวมไปถึงระยะการมองเห็นทั้งหมดถูกปรับปรุงได้สมกับชื่อ HD และทำให้รู้สึกได้เลยว่า Ubisoft ไม่ได้ Port ภาคนี้จากเครื่องเกมมาอย่างลวกๆแน่นอน เสียงดนตรีและเสียงพากย์นั้นใสและชัดเจนขึ้นมาก
แต่ก็ด้วยเหตุผลเดิมว่าตัวเกมเป็นการ Port มาจากภาคเก่า ดังนั้นภาพในเกมก็ไม่สามารถสวยสู้กับภาคหลักอย่างภาค 3 หรือ ภาค Black Flag ได้อย่้างแน่นอน โดยเฉพาะ Effect ต่างๆอย่างแสงเงา เปลวเพลิง ผิวน้ำ หรือฉากการระเบิด อีกทั้งตัวเกมยังมีปัญหาในเรื่องของการที่วัตถุหรือฉากอยู่ดีๆก็โผล่ขึ้นมาในฉาก และปัญหาในเรื่องของ Framerate ในบางฉากและในหน้าจอเมนู
ในส่วนของ Bug ต่างๆซึ่งเป็นปัญหาประจำซีรีส์ก็ยังคงมีอยู่ไม่หายไปไหน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่เป็น Bug เล็กๆน้อยๆในเรื่องของ Animation ของตัวละคร ปัญหาอย่างตัวละครเข้าไปติดในซอก และระหว่างเล่นผมพบการ Crash ทำให้ตัวเกมค้างจนต้องพับหน้าจอปิดทิ้งไปอยู่ 2-3 ครั้ง
Conclusion
Assassin’s Creed Liberation HD ถือได้ว่าเป็นอีกภาคที่แฟนๆซีรีส์ควรหาโอกาสลองสัมผัส ถึงแม้ตัวเกมจะเป็นการ Port มาจากเครื่องมือถือทำให้โดยรวมแล้วไม่อาจเทียบชั้นได้กับภาคหลักทั้งหลาย แต่เสน่ห์โดยรวมของเกมตระกูลมือสังหารก็ยังไม่ได้หายไปไหน โดยเฉพาะเรื่องราวของตัวเอกอย่าง Aveline นั้นมีความน่าสนใจอย่างมาก และตัวเกมภาคนี้ก็ยังมีลูกเล่นเฉพาะตัวซึ่งแตกต่างจากภาคอื่นๆเพียงพอให้คุณไม่รู้สึกเบื่อหน่ายหรือจำเจ
Ubisoft ตั้งใจในการนำภาค Liberation มาลงเครื่องหลักอย่างเต็มที่ ด้วยภาพที่สวยงามขึ้นมาก การแก้ไขในระบบต่างๆ และการเพิ่มภารกิจใหม่ๆ (ถึงแม้จะนิดเดียว) เข้ามา หากยังอารมณ์ค้างจากภาค Black Flag หรือเป็นแฟนเดนตายซีรีส์นี้จริงๆ Liberation ถือเป็นตัวเลือกที่ดี ที่คุณจะหามาลิ้มลองในช่วงเวลาที่ Ubisoft ยังไม่มีทีท่าว่าจะประกาศภาคใหม่ออกมาแต่อย่างใด
หากจะมีข้อเสียก็คงเป็นเรื่องของราคา เพราะตัวเกมวางขายเฉพาะในแบบ Digital ในไทย ด้วยราคาขนาด 19.99$ หรือประมาณ 650 บาท ทำให้เราอาจจะอดไม่ได้ที่จะเทียบกับตัวเกมในภาค Black Flag ซึ่งวางขายในไทยในราคาแค่ 799 บาท ขณะที่เมืองนอกขาย Black Flag กันอยู่ที่ 59.99$ ดังนั้นการเปิดใจกับ Liberation ก็คงต้องเทียบตามราคาดังกล่าวดูครับ คิดซะว่ามันเป็นตัวเกมฉบับ 1/3 ของ Black Flag หรือ Assassin’s Creed 3
เอาเป็นว่าฟันธงตรงนี้เลยว่า Liberation HD นั้นสนุก มีเสน่ห์ของตนเอง และน่าสนใจ แต่ด้วยราคาขนาดนี้แฟนที่สนใจอาจจะต้องรอตอนลดราคาหรือหากจะซื้อหามาเล่นจริงๆก็ต้องท่องไว้ในใจว่า ตัวเกมนั้นเป็นการ Port มาจากภาคเครื่องมือถือหาใช่ภาคหลักระดับ AAA แต่อย่างใด
ข้อดี
– คงเสน่ห์ความเป็น Assassin’s Creed ไว้อย่างครบถ้วน
– ภาพสวยงามกว่าบนเครื่อง Vita อย่างชัดเจน
– Aveline เป็นตัวเอกที่น่าสนใจ
ข้อด้อย
– ราคาแพงเอาการเมื่อเทียบกับ Black Flag ซึ่งยอดเยี่ยมกว่าทุกๆด้าน
– มีปัญหาทางด้านเทคนิค
– ตัวเกมถูกจำกัดด้วยการที่เป็นเกมจากเครื่องมือถือมาก่อน ทั้งในเรื่องของภาพ Effect และความยาวของเกมรวมไปถึงขนาดและรายละเอียดของฉากต่างๆ