Azur Lane คือเกมมือถือของค่าย Manjuu จากประเทศจีนที่สร้างความโด่งดังไปทั่วทวีปเอเชียและสหรัฐฯ ด้วยการนำเสนอสาวน้อยเรือรบสุดน่ารัก และระบบเกมเพลย์ที่ Free-2-Play ก็สามารถสนุกสนานกับเกมนี้ได้
แน่นอนว่าเกม Azur Lane ได้ประสบความสำเร็จทั้งด้านยอดผู้เล่นกับรายได้ ทางทีมงาน Manjuu จึงจับมือกับ Idea Factory, Compile Heart เพื่อพัฒนาเกม Azur Lane ในรูปแบบเกมแอ็กชัน พร้อมเปลี่ยนโฉมจากเกม 2D กลายเป็น 3D ซึ่งนั่นคือ Azur Lane Crosswave แต่เกมดังกล่าวจะมีคุณภาพดีเทียบเท่ากับเกมเวอร์ชันมือถือได้หรือไม่นั้น บทความรีวิวนี้จะมาพิสูจน์กัน
Story
เนื้อเรื่องของ Azur Lane Crosswave จะเป็นเนื้อเรื่องใหม่ ที่เน้นการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของเรือน้องใหม่อย่าง Shimakaze และ Suruga ได้ใช้ชีวิตประจำการในกองทัพ Sakura Empire โดยพวกเธอกับกองทัพมีเป้าหมายเดียวกันคือการกำจัดกองทัพทะเลลึกอย่าง Sirens แล้วกอบกู้ความสงบสุขบนท้องทะเลมหาสมุทรอีกครั้ง
ก็ต้องบอกเลยว่าเนื้อเรื่องของเกม ‘ผิดคาดจากเดิมไปมาก’ ตอนแรกคิดว่าเนื้อเรื่อง Azur Lane Crosswave จะเป็นการเล่าขยายเนื้อหา Lore ให้ผู้เล่นทั้งแฟนฮาร์ดคอกับผู้เล่นหน้าใหม่ให้เข้าใจจักรวาล Azur Lane มากขึ้น แต่ทว่าสิ่งที่ได้รับกลับมาเป็นประสบการณ์เนื้อเรื่อง Slice of Life (ชีวิตประจำวัน) ที่มีเนื้อหาตลกตบมุก มีความน่ารักใส ๆ ตามสไตล์เกมวิชวลโนเวลและอนิเมะที่มักฉายช่วงเวลาสามทุ่มของญี่ปุ่น
แม้เนื้อเรื่องบางช่วง (ส่วนใหญ่เป็นระหว่างการรบ) จะมีบรรยากาศโทนซีเรียสอยู่บ้าง แต่ระหว่างการดำเนินเนื้อเรื่องก็มีการโยนมุกตลกอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน ถ้าหากผู้เล่นคนไหนที่ชื่นชอบเกมที่มีเนื้อเรื่องเบาสมอง ไม่ซีเรียส มีความบริสุทธิ์ Wholesome ก็จะพบว่าเป็นเกมที่ช่วยมอบความสนุกสนานเพลิดเพลินใช้ได้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเนื้อเรื่องเกมที่ดำเนินแบบค่อนข้างไร้แก่นสารกับไม่ได้มีความน่าสนใจขนาดนั้น แน่นอนว่าสตอรี Azur Lane Crosswave จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนอยากที่ชอบเสพเนื้อเรื่องเข้มข้นจริงจัง หรืออยากเสพ Lore โดยเฉพาะ
Presentation
ถ้าหากผู้เล่นเป็นแฟนเกม Azur Lane ตั้งแต่เวอร์ชันมือถือ คุณก็อาจจะชื่นชอบเกมนี้ด้วยคอนเทนต์ที่ทำขึ้นมาเพื่อเอาใจแฟน ๆ โดยเฉพาะ ซึ่งอย่างแรกเลย คือเสียงพากย์ตัวละครทั้งหมดมาแบบ Full-Voice ทั้งเนื้อหาหลักกับเนื้อหา Episode Mode โดยฝ่ายนักพากย์ญี่ปุ่นสามารถทำหน้าที่ให้เสียงตัวละครได้ดีเยี่ยม แม้ในความคิดเห็นส่วนตัวจะรู้สึกว่ามีบางตัวละครที่มีลักษณะเสียงไม่ตรงกับบุคลิกหรือลักษณะนิสัยบ้าง แต่โดยรวมแล้วก็ยังเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
Episode Mode หรือเนื้อหา Sub-Stories ที่มีมากกว่า 50 ตอน โดยทุกตอนจะเป็นการเล่าประวัติพื้นหลังตัวละครนั้นโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้เล่นหน้าใหม่และแฟนเกมฮาร์ดคอร์สามารถเข้าใจตัวละครมากขึ้นหรือนับรู้มุมมมองใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน รวมถึงโมเดล 3D ก็สามารถออกแบบถอดจากเกมเวอร์ชันมือถือได้ยอดเยี่ยมและมีรายละเอียดเยอะยิ่งกว่าเดิม ก็ต้องบอกเลยว่าผู้เขียนมักใช้เวลากับ Photo Mode เพื่อดูใบหน้าตัวละครกับท่าโพสต์เป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม การเล่าเรื่องในส่วนของวิชวลโนเวล เนื่องจากตัวละครไม่มีแอนิเมชันเคลื่อนไหวแบบ Live 2D ก็ทำให้การนำเสนอขาดสีสันพอสมควร แต่ก็เข้าใจว่าทำไมทีมงานตัดสินใจไม่ทำ Live 2D เพราะว่าตัวละครในเกมมีจำนวนเยอะมาก ถ้าหากทำ Live 2D หมดทุกตัวก็คงไม่คุ้มค่ากับการลงทุนซะเท่าไหร่นัก
ส่วนข้อเสียที่ร้ายแรงสำหรับการนำเสนอเกม คือการยังแบ่งความสมดุลระหว่างการเล่าเรื่องและการเล่นไม่พอดี ในขณะที่เนื้อเรื่องใช้เวลาเล่านานประมาณ 5-10 นาที (ขึ้นอยู่กับความต่อเนื่องของอีเวนท์) แต่เกมเพลย์ใช้เวลาเพียง 1-2 นาทีก็จบแล้ว นอกจากนี้ ตัวเกมมีแพทเทิร์นชัดเจนว่าหลังจากต่อสู้รบเสร็จแล้ว ก็จะมีฉากคุยประมาณอีก 5-10 นาที (หรือแอบฟัง) จากนั้นก็รบ > คุย > รบ > คุย … ต่อไปเรื่อย ๆ จนรู้สึกว่าเกมนี้ใช้เวลาคุยมากกว่าการเล่นเกมซะอีก
การนำเสนอเนื้อเรื่องเยอะไม่ใช่สิ่งที่แย่ ถ้าหากตัวเกมระบุตั้งแต่แรกว่าเป็นเกมแนววิชวลโนเวลเป็นหลัก แต่สำหรับเกม Azur Lane Crosswave ได้โฆษณาว่าเป็นเกมแอ็กชันที่มาพร้อมกับการเล่าเรื่องสไตล์วิชวลโนเวล เพราะฉะนั้นผู้เขียนจึงคาดหวังว่าการแบ่งช่วงระหว่างเกมเพลย์กับเนื้อเรื่องจะต้องมีความลงตัวกว่านี้
Gameplay
Azur Lane Crosswave เป็นเกมแนวยิงแอ็กชันอารีนา ในมุมมองบุคคลที่สาม ซึ่งแต่ละภารกิจผู้เล่นต้องทำ Objective ต่าง ๆ ในอีเวนต์ประเภทออกรบ (Battle Event) เช่นการทำลายเรือ ทำลายศัตรู เอาตัวรอดให้ได้นานที่สุด หรือเอาชนะเรือของฝ่ายตรงข้ามให้สำเร็จเพื่อปลดอีเวนท์ต่อไป โดยเกมเมอร์สามารถเลือกใช้อาวุธโจมตีข้าศึกได้สี่แบบ คือจู่โจมแบบธรรมดา, ใช้อาวุธพิเศษ (เฉพาะคลาส) และสกิลพิเศษสองชนิดที่มาพร้อมกับเรือนั้น และนี่คือระบบเกมเพลย์ทั้งหมดของเกม Azur Lane Crosswave
แม้ระบบเกมเพลย์จะเล่นง่ายไม่ซับซ้อน แต่เนื่องจากระบบการต่อสู้ที่เรียบเกินไปจนไม่มีแม้กระทั่งระบบอัปเกรดปลดล็อกสกิลพิเศษ และไม่มีอาวุธที่เปลี่ยนสไตล์การเล่น ทำให้การต่อสู้ขาดความตื่นเต้นและความระทึก รวมถึงระบบ AI ศัตรูก็ขาดความท้าทาย เพราะการโจมตีพิเศษของข้าศึกสามารถหลบได้ง่าย เพียงแค่อย่าเอาตัวเองวิ่งเข้าไปหากระสุน ศัตรู หรือเดินตามข้าศึกก็พอ รวมถึงเราก็ค่อนข้างอึดพอสมควรอีกด้วย จึงมีหลายครั้งที่เล่นแล้วไม่รู้สึกว่าต้องรักษาพลังชีวิต หรือยอมถอยห่างเพื่อตั้งตัวใหม่อีกครั้ง
ด้านการออกแบบสนามรบกับภารกิจก็ถือว่าขาดความคิดสร้างสรรค์เป็นอย่างมาก เพราะตลอดการเล่นเกม ผู้เล่นจะพบกับสนามรบรูปแบบเดียวคือทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล ที่ไม่มีจริง ๆ อะไรเลยนอกจาก ‘น้ำทะเล’ (แต่ดันมีกำแพงล่องหนที่บีบสมรภูมิรบเหลือเล็กนิดเดียวซะอย่างงั้น) รวมถึงมิชชันก็วนอยู่กับการทำลายข้าศึกซะส่วนใหญ่ แม้บางภารกิจอาจพบกับบอสไฟต์ แต่การปราบบอสก็ง่ายมากเช่นกัน เพียงแค่โจมตีไปเรื่อย ๆ ก็สามารถเอาชนะได้อย่างรวดเร็ว
ระบบเกมเพลย์ของ Azur Lane Crosswave จึงถือเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับเกมนี้ ด้วยองค์ประกอบเกมที่เหมือนเอาโครงสร้างจากเกมมือถือต้นฉบับมาใช้ในเกมนี้ โดยแทบไม่มีการดัดแปลงระบบเพิ่มเติม ทำให้การเล่นเกมดังกล่าวจึงไม่มีเทคนิคการเอาชนะวิธีอื่น นอกเหนือจากการกดปุ่มรัว ๆ (Button Mashing) ไม่ว่าเป็นการปะทะกับข้าศึกจำนวนมากหรือบอสไฟต์ก็ตาม รวมถึงภารกิจใน Story กับโหมด Extreme Battle ก็ขาดความหลากหลายอีกด้วย
หลังระยะเวลาเล่นต่อเนื่องผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ก็เกิดความรู้สึกซ้ำซากจำเจอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับประสบการณ์ความน่าตื่นเต้นหรือเมามันจากเกมแอ็กชันตัวนี้ รวมถึงความสมดุลระหว่างการเล่าเรื่องกับเกมเพลย์ยังแบ่งได้ไม่ลงตัวเหมือนที่กล่าวไว้ข้างต้น ก็ทำให้อดรู้สึกไม่ได้ว่าจริง ๆ ว่าเรากำลังเกมวิชวลโนเวลโดยมีเกมแอ็กชันเป็นเพียงมินิเกม
Performance / Graphic
Azur Lane Crosswave เป็นเกมพัฒนาโดยสามทีมงานญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์สร้างเกม Hyperdimension Neptunia มาก่อนอย่าง Idea Factory, Compile Heart และ Felistella ซึ่งเกมตระกูลดังกล่าวล้วนเคยวางจำหน่ายลงในร้านค้า Steam ไปแล้ว เพราะฉะนั้นผู้เล่นจึงให้ความไว้วางใจว่าเกมดังกล่าวจะต้องมีการพอร์ตที่ดี
แต่น่าเสียดายที่ต้องบอกว่า Azur Lane Crosswave ยังต้องมีการปรับปรุง Optimized ให้ดีกว่านี้ เพราะนอกจากตัวเกมสามารถปรับแต่งความละเอียดของภาพได้อย่างเดียวและถูกล็อกเฟรมเรตที่ 60FPS แล้ว ระหว่างการเล่นเกมก็พบปัญหาเฟรมเรตกระตุกอย่างเห็นได้ชัดเจน เมื่อมีเอฟเฟกต์บนหน้าจอในปริมาณเยอะระดับหนึ่ง ก็ต้องก่อนว่าผู้เขียนรีวิวเกมดังกล่าวด้วย PC สเปก CPU: Intel Core i5-9600K และการ์ดจอ GeForce RTX 2070 Super ซึ่งมั่นใจว่าเป็น PC ที่มีประสิทธิภาพที่ทรงพลังพอสมควร
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ถ้าหากเกมเมอร์ใช้คีย์บอร์ดในการเล่นเกมเป็นหลัก ผู้เล่นจะพบกับปัญหาปุ่มคำสั่งที่ปรากฏตัวบนหน้าจอ ไม่ยอมเปลี่ยนการตั้งค่าจาก Gamepad ให้กลายเป็นปุ่มสำหรับคีย์บอร์ด ซึ่งสร้างความสับสนกับน่ารำคาญให้เกมเมอร์สาย WASD อย่างมาก
ส่วนคุณภาพกราฟิกของเกมดังกล่าว (พัฒนาด้วย Unreal Engine 4) ก็จัดว่ายังไม่ได้มีความโดดเด่นอะไรมากนัก แต่ถ้าหากยกองค์ประกอบกราฟิกที่ทำได้สวยงามเกินมาตรฐาน ก็คงเป็นส่วนของน้ำทะเลที่มีความใสกริ๊งเป็นธรรมชาติ แต่โดยรวมแล้ว กราฟิกของเกมยังคงจัดว่ามีคุณภาพธรรมดาที่ไม่มีจุดให้ตำหนิมากนัก
สรุปแล้วการ Optimized ของเกม Azur Lane Crosswave ฉบับ PC ยังมีจุดบกพร่องมากมายที่ต้องแก้ไขใน Pacth ต่อไป แม้ประสิทธิภาพการรันเกมจะไม่ได้แย่มากจนถึงขั้นเล่นไม่ได้ก็ตาม
สรุป
Azur Lane Crosswave นับว่าเป็นเกมที่ค่อนข้างสร้างผิดหวังให้เราพอสมควร แม้เนื้อเรื่องจะมีความเพลิดเพลินสไตล์เกมวิชวลโนเวลและมีคอนเทนต์แฟนเซอร์วิสที่แฟนเกมต้องชื่นชอบ แต่ด้วยภารกิจกับโหมดเกมที่ซ้ำซาก ระบบการต่อสู้ที่จืดธรรมดา และมีปัญหาด้านประสิทธิภาพของ PC ณ ตอนนี้ จึงเป็นเกมที่ยากแก่การแนะนำให้ซื้อมาเล่นในราคาเต็ม
ถ้าหากเกมเมอร์เป็นแฟนเกม Azur Lane ‘ระดับฮาร์ดคอ’ หรือชอบเกมวิชวลโนเวลเสพเนื้อเรื่องเป็นหลัก เกมนี้อาจทำมอบความสนุกสนานให้คุณได้ แต่เกมเมอร์คนไหนที่ต้องการเสพเกมเพลย์แอ็กชันดี ๆ เกมหนึ่ง หรืออยากเข้าถึงจักรวาล Azur Lane เราแนะนำให้ตัวเกมรอลดราคา หรือเล่นเกมเวอร์ชันมือถือยังดีกว่า
ข้อดี
- การออกแบบตัวละครเรือ 3D สวย
- คอนเทนต์เอาชนะใจแฟนเกมได้ไม่ยาก
- เนื้อเรื่องเพลิดเพลิน
ข้อเสีย
- เกมเพลย์หลักน่าเบื่อ และซ้ำซากอย่างรวดเร็ว
- โหมดเกมกับภารกิจไม่สร้างสรรค์
- ขาดความเอาใจใส่ด้าน Optimized บน PC
- ความสมดุลระหว่างการเล่าเรื่องและการเล่นแบ่งได้ไม่ลงตัว