กำเนิดมนุษย์เยือกแข็งกับตัวเสริมสุดเยือกเย็น
ชื่อของ Mr. Freeze หรือ Dr. Victor Fries มีให้เห็นผ่านหูผ่านตาตั้งแต่ Arkham Asylum (2009) และปรากฏเต็มตัวใน Arkham City (2011) ในฐานะบอสของฉาก ก่อนที่จะกลับมาให้เห็นอีกครั้งในช่วงปฐมกาลของซีรีย์ในฐานะเจ้าของ DLC ที่เป็นตัวสื่อความหมายของชื่อ Cold, Cold Heart และในฐานะบอสใหญ่ของตัว DLC ที่เป็นตัวต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด
เหตุการณ์ใน Cold, Cold Heart เกิดขึ้นหลังจาก Arkham Origins ภาคหลักของเกมได้ไม่นาน โดยกล่าวถึงการบุกรุกมาชิงตัว Ferris Boyle ในงานประกาศรางวัล โดยมีฉากใหม่ๆอย่างคฤหาสน์ Wayne ให้ผู้เล่นได้ยลโฉมเล็กน้อยในต้นเกม ก่อนที่จะทำการโยกย้ายไปอยู่ในเขตเฉพาะของในเมืองที่มีภารกิจหลักและย่อยเล็กน้อยให้ทำ
Mr. Freeze ตัวร้ายหลักของ DLC
ระบบของเกมถูกกั้นให้แยกออกจากตัวภาคหลักโดยสิ้นเชิง ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องอัพเกรดในภาคหลักให้เต็มที่มาก่อนเพราะทุกอย่างที่จำเป็นในการเล่นถูกปลดล็อคไว้อย่างเสร็จสรรพ เว้นเสียแต่อุปกรณ์บางอย่างที่ใช้เฉพาะใน DLC ตัวนี้จะถูกปลดล็อคให้ได้ใช้งานเมื่อถึงเวลาอันสมควรตามเนื้อเรื่องเหมือนอย่าง Arkham ทีผ่านมาที่นำไปทำภารกิจย่อยอย่างช่วยคนที่ถูกแช่แข็งได้ ส่วนภารกิจย่อยที่เหลือก็เป็นเพียงภารกิจที่เน้นไปทางใช้เวลาในการตามหาและสะสาง โดยตัวร้ายรองที่มาอยู่ใน DLC ตัวนี้คือ Anarky ที่ถูกนำเสนอผ่านภารกิจในแต่ละจุดและสัญลักษณ์ “A” ที่ผู้เล่นต้องตามหาตลอดเกม
ทุกอย่างที่เป็น Arkham โดยเฉพาะ Arkham Origins ถูกใส่เข้ามาอย่างสรุปและรวบรัดในตลอดระยะเวลา 3-4 ชั่วโมงของ DLC ที่ยังคงความสนุกและเพลิดเพลินในฉากต่อสู้ หรือฉากลอบเร้น โดยมีอุปกรณ์ใหม่ๆเข้ามาเพิ่มอย่าง Heat Batarang สำหรับละลายน้ำแข็งงอกย้อยและ Thermal Gauntlets ที่แตกต่างกันเพียงแสง สี เสียง เมื่อเทียบกับ Electric Gloves ของเดิม จึงดูเหมือนการเปลี่ยนจากไฟฟ้าไปเป็นไฟให้ความหมายเป็นขั้วตรงข้ามของน้ำแข็งที่มีอยู่ทั้งเกมเสียมากกว่า ในขณะที่เหล่าศัตรูก็มี ลูกสมุนที่ได้อาวุธของ Freeze มาใช้ในการแช่แข็งผู้เล่นเป็นการสร้างความท้าทายแก่ฉากต่อสู้
Thermal Suit ที่มีมาเฉพาะใน DLC นี้
สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดที่ทำให้ Cold, Cold Heart ไม่ออกไปแตะขอบฟ้า โดยไม่ต้องให้โชคชะตามาเข้าใจคือช่วงท้ายเกมที่แผ่วปลายและจืดชืดกลืนไปกับบรรยากาศเย็นยะเยือกชนิดที่ Thermal Suit ชุดใหม่ก็ไม่อาจละลายได้ การต่อสู้กับ Mr.Freeze ที่ค่อนไปทางน่าเบื่อยิ่งกว่า Arkham City แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังทำได้ดีกว่า Robin DLC ของภาค Arkham City ที่ถูกออกแบบมาได้สั้นกว่าและแบนราบมีแต่เนื้อเรื่องสั้นๆ
แม้จะไม่มีอะไรใหม่หรือน่าสนใจอย่างที่คาดไว้ในช่วงก่อนออก แต่การจะพิจารณาไว้เล่นคั่นเวลารอ Arkham Knight ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว อย่างน้อยก็ไว้ใช้ในการมโนสภาพอากาศที่แตกต่างกันอย่างลิบลับในโลกของ Gotham และกรุงเทพที่กำลังลุกเป็นไอ(ร้อน)ในช่วงนี้
